ด้วยสภาพภูมิอากาศ ความแปรปรวนที่เกิดจากภาวะโลกเดือด และพื้นที่ของแต่ละประเทศ ส่งผลให้หลากหลายเมืองในโลกของเราได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักจนทำให้ประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในบ้านเรือน ขาดการติดต่อ และไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้
นอกจากการพยากรณ์และการป้องกันน้ำท่วมแล้ว Urban Creature อยากชวนทุกคนดูโมเดลแผนการอพยพและเตรียมตัวของประเทศญี่ปุ่นที่จัดเตรียมโดยภาครัฐ เพื่อเรียนรู้แผนการรอดพ้นจากภัยพิบัติไปด้วยกัน

My Timeline
My Timeline คือแผนป้องกันภัยส่วนบุคคล ที่รัฐบาลญี่ปุ่นผลักดันให้ประชาชนทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการอพยพไม่ทัน (Escape Failure) ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ หรืออธิบายง่ายๆ ว่า เป็นแผนที่ทำให้ประชาชนรู้ตัวว่าควร ‘ทำอะไร’ ‘เมื่อไหร่’ ในช่วงที่น้ำท่วม
แผนนี้แบ่งการกระทำตามช่วงเวลาและระดับการเตือนภัย (Alert Levels) ของญี่ปุ่น ดังนี้
1) ระยะเตรียมพร้อม (72 – 24 ชั่วโมงก่อนน้ำมา)
เป็นขั้นตอนการเตรียมตัวเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่นหรือฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยประชาชนจะต้องเช็ก Hazard Map (แผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย) ว่าบ้านเราอยู่ในโซนสีอะไร แล้วเตรียมตัวและเตรียมบ้าน เช่น
– ตรวจสอบกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) และซื้ออาหารแห้งหรือน้ำดื่มเพิ่ม
– ยกของมีค่าและเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นชั้น 2
– เคลื่อนย้ายรถยนต์ไปจอดในที่สูง (ห้างสรรพสินค้าหรืออาคารจอดรถที่ตกลงไว้)
– ตรวจสอบท่อระบายน้ำรอบบ้านไม่ให้มีขยะอุดตัน
2) ระยะเฝ้าระวัง (Alert Level 3 : สีแดง)
เมื่อฝนตกหนักต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำเริ่มสูงขึ้น ทางการประกาศเตือนภัยระดับ 3 ประชาชนต้องอพยพกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กเล็ก หรือผู้ที่เคลื่อนย้ายลำบากทันที
นอกจากนั้น ควรชาร์จแบตเตอรี่มือถือและ Power Bank ให้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เคลื่อนไหวสะดวก
3) ระยะวิกฤต/อพยพ (Alert Level 4 : สีม่วง)
ความเสี่ยงสูงมาก น้ำเริ่มล้นตลิ่ง ทางการประกาศคำสั่งอพยพ ซึ่งทุกคนต้องอพยพทันที
– ปิดสวิตช์ไฟหลัก (Breaker) และปิดวาล์วแก๊ส
– ล็อกประตูบ้าน
– สะพายกระเป๋าฉุกเฉินและเดินทางไปยังศูนย์อพยพตามเส้นทางที่กำหนดไว้
– ห้ามขับรถฝ่าน้ำท่วม ให้เดินเท้าเท่านั้นถ้าเป็นไปได้
4) ระยะฉุกเฉินสูงสุด (Alert Level 5 : สีดำ)
ภัยพิบัติเกิดขึ้นแล้ว เช่น เขื่อนแตกหรือน้ำท่วมเข้าบ้าน หากไปศูนย์อพยพไม่ทันให้ขึ้นไปชั้น 2 หรือชั้น 3 ของบ้าน ถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวให้หนีไปอาคารสูงที่แข็งแรงที่สุดในละแวกใกล้เคียง และหาที่ที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ
แต่ละครอบครัวสามารถวางแผน My Timeline ได้ตามแต่ความพร้อมของสมาชิกและข้อจำกัดของบ้าน เช่น จำนวนเด็กและผู้สูงอายุ ข้าวของจำเป็นและพื้นที่อยู่อาศัย

Evacuation Dril
ญี่ปุ่นมีการซ้อมอพยพหลายรูปแบบ โดยเน้นการกระจายอำนาจให้ชุมชนเป็นผู้ดำเนินการหลัก ซึ่งจะซ้อมบ่อยหรือน้อยครั้งในแต่ละปีขึ้นอยู่กับพื้นที่ แต่จะมีการซ้อมใหญ่ของประเทศอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งตามแนวแม่น้ำ
การซ้อมแบ่งเป็นการซ้อมอพยพหนีจริง ซึ่งชาวบ้านจะเดินเท้าจากบ้านไปยังศูนย์อพยพ (โรงเรียนหรือวัด) เพื่อจับเวลาและสำรวจเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด และการซ้อมแนวดิ่ง (Vertical Evacuation) ในบริเวณที่น้ำมาเร็วหรือหนีไม่ทัน จะเป็นการซ้อมวิ่งขึ้นชั้นดาดฟ้าของอาคารเรียนหรือตึกสูงในละแวกนั้น
รวมถึงยังมีการซ้อมบนโต๊ะ (Tabletop Exercise/Workshop) ที่เรียกว่า DIG (Disaster Imagination Game) ซึ่งชาวบ้านจะกางแผนที่ขนาดใหญ่ แล้วช่วยกันวงจุดเสี่ยง จุดบ้านคนพิการ และวางแผนเส้นทางหนีร่วมกัน

Suibo Act
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศญี่ปุ่นมีความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติหรืออุทกภัยบ่อยครั้ง จึงมี Suibo Act หรือกฎหมายสู้กับน้ำท่วม ที่กำหนดให้หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลมีหน้าที่ในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาความเสียหายเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วม
รวมถึงให้การสนับสนุนและกำหนดบทบาทของ Suibo-dan (水防団) หรือกลุ่มพลเมืองต่อสู้กับน้ำท่วม ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่ก่อตั้งโดยชุมชน มีหน้าที่หลักคือเฝ้าระวัง ตรวจสอบระดับน้ำและสภาพคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่องเมื่อมีคำเตือน และดำเนินการทางเทคนิคเพื่อป้องกันน้ำท่วม
อีกทั้งยังมีการซ้อมของหน่วยอาสาสมัคร (Suibo-dan Drills) ด้วย โดยจะเป็นการซ้อมวางกระสอบทราย เทคนิคพิเศษที่กันน้ำได้จริง การสร้างคันกั้นน้ำชั่วคราว และการกู้ภัยทางน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไปในเหตุน้ำท่วม
นอกจากนั้น ในกรณีชาวต่างชาติ ญี่ปุ่นก็จัดทำคู่มือรับมือภัยพิบัติต่างๆ ตั้งแต่ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในญี่ปุ่น เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม สึนามิ ว่าแต่ละแบบเป็นอย่างไรบ้าง ไปจนถึงบอกวิธีการเตรียมตัว ควรอพยพเมื่อใด ปฏิบัติตัวอย่างไรที่ศูนย์อพยพ และควรแพ็กสิ่งของอะไรลง Emergency Kits พร้อมเบอร์สายด่วน
ซึ่งไอเดียเหล่านี้ควรนำมาปรับใช้กับประเทศไทยที่หลากหลายภูมิภาคต้องประสบกับน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะนอกจากการพยากรณ์ที่แม่นยำ ราชการและท้องถิ่นที่เตรียมการให้เป็นระบบแล้ว การเตรียมประชาชนให้พร้อมทั้งองค์ความรู้ ทรัพยากร และด้านจิตใจ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไทยผ่านน้ำท่วมไปได้อย่างปลอดภัย
Sources :
City of Chiba | bit.ly/4oiVDhQ
Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism | bit.ly/4pzcDkY
MLIT Japan | bit.ly/49Acl8F