ยกระดับชีวิต King’s Landing ใน House of the Dragon - Urban Creature

ขอต้อนรับเข้าสู่ King’s Landing เมืองที่โสมมที่สุดในเจ็ดอาณาจักร

หากใครเป็นแฟนซีรีส์ Game of Thrones และ House of the Dragon ก็ต้องรู้จัก ‘มหานคร King’s Landing’ เมืองหลวงซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์เหล็ก ศูนย์กลางการปกครองแห่งทวีป Westeros เป็นอย่างดี 

นอกจากความเจริญรุ่งเรืองที่ได้เห็นใน King’s Landing กันแล้ว เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงด้านลบเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ความแออัดของเมือง หรือแม้แต่ความสกปรก ชนิดที่ว่าหากไม่ใช่คนในพื้นที่ก็คงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่า Lady Olenna Tyrell หัวหน้าตระกูล Tyrell หนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่ของเรื่องต้องเอ่ยปากเมื่อพูดถึง King’s Landing ว่า “คุณสามารถได้กลิ่นเหม็นเน่าในระยะห้าไมล์จากเมืองนี้” เลยทีเดียว

คอลัมน์ Urban Isekai วันนี้ เราจะสวมบทบาทเป็น ‘หัตถ์แห่งพระราชา’ ผู้คอยให้คำปรึกษางานบริหารบ้านเมืองในด้านต่างๆ แก่พระราชา ผู้ซึ่งมีอำนาจเป็นอันดับสองในทั้งเจ็ดอาณาจักร โดยเราจะแก้ปัญหาในเมือง King’s Landing ให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะได้หลุดพ้นจากฉายาเมืองที่ทวยเทพทอดทิ้ง ให้สมกับเป็นเมืองแห่ง Aegon The Conqueror กัน 

เอาล่ะท่านลอร์ด! ขอให้ทวยเทพทั้งเก่าและใหม่จงคุ้มครอง

House of the Dragon

1) เพิ่มระบบดับเพลิง

ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองในยุคกลางคือ สิ่งปลูกสร้างทำจากไม้และตั้งใกล้ชิดกันทำให้เลี่ยงการเกิดไฟไหม้ลุกลามได้ยาก แถมเมือง King’s Landing ของเรายังมีมังกรกันเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน แต่กลับไม่มีระบบดับเพลิงที่ดี ดังนั้น เราเลยอยากช่วยป้องกันความเสียหายด้วยการเพิ่มบ่อน้ำฉุกเฉินไว้ตามจุดต่างๆ ของเมือง เมื่อเกิดไฟไหม้ ชาวบ้านจะได้ช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ จากนั้นจะมีหน่วยดับเพลิงรีบตามมาช่วยป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามอย่างที่เคยเกิดขึ้น

2) ลดความหนาแน่นของเมือง

เราจะขยายพื้นที่ของตัวเมืองให้มีช่องว่างระหว่างกัน ป้องกันการลุกลามของไฟ (ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพราะเหล่ามังกรพ่นไฟ) แถมยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางเท้าให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้ผู้คนเดินเท้าไปไหนมาไหนในเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การมีพื้นที่ว่างจะทำให้พื้นที่เมืองได้รับแสงอาทิตย์มากขึ้น ช่วยลดความอับชื้นและเชื้อโรค เพื่อสุขอนามัยที่ดีขึ้นของทุกคน

3) เติมพื้นที่สีเขียว

พื้นที่สีเขียวในเมืองนี้ แต่เดิมมีเฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่เข้าถึงได้ พอมีพื้นที่โล่งเพิ่มมากขึ้นจากการลดความหนาแน่นในตัวเมือง เราก็เลยเปลี่ยนที่ว่างตรงนั้นให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะ เป็นการเพิ่ม Public Space ในเมืองที่ไม่ว่าจะเป็นใครหรือมาจากชนชั้นไหนก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ 

4) แก้ปัญหาอาชญากรรม

มีคำกล่าวว่า King’s Landing นั้นไม่ต่างจากดงอสรพิษ ทั้งอันตรายจากการเมือง รวมถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทั่วไป เมื่อมีคนจำนวนมากอยู่ด้วยกัน อาชญากรรมจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก แต่แน่นอนว่าป้องกันได้ เพราะเราจะเพิ่มจำนวนหน่วย City Watch ในการดูแลทุกพื้นที่ทั่วเมืองเพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ถูกต้อง อย่างการสืบสวนคดีก็ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะไม่มีการใส่ความเพื่อแจ้งจับหรือลดโทษเกินกว่าเหตุอีกต่อไป

5) งานเทศกาลสำหรับทุกคน

งานเทศกาลสำหรับชนชั้นสูงต้องเปิดกว้างมากกว่าเดิม เพราะความสนุกสนานและความรื่นเริงไม่ควรจำกัดอยู่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราจึงวางแผนจัดงานเทศกาลต่างๆ ที่จะเชิญชวนให้ทุกคนในเมืองมาสนุกด้วยกัน และเพิ่มสีสันให้เมืองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง 

6) สวัสดิการเพื่อ Sex Worker 

ย่านการค้าประเวณีกับเมือง King’s Landing เหมือนเป็นของคู่กัน แต่ไม่ว่าอาชีพบริการทางเพศจะเกิดจากความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยคนกลุ่มนี้ก็จะได้รับการเยียวยาจากเมืองของเรา ไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาลที่จ่ายยาคุมฉุกเฉิน ช่วยเหลือเรื่องการคลอดลูก หรือแม้แต่การทำแท้งที่ถูกวิธีและปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชาสมุนไพรจาก Maester ที่ต้องมีเงินเท่านั้นถึงจะเข้าถึงได้

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.