“โปรดรับชม รับฟังอย่างมีวิจารณญาณ”
คำแนะนำที่อยากให้ทุกคนตั้งใจอ่านบทความนี้ เพราะเราจะชวนมาฟัง ‘Ghost Story’ เพลงผีๆ ของวงอินดี้หน้าใหม่ ‘Ford Trio’ ที่มี ‘ฝอด’ อยู่เบื้องหลังการแต่งเพลงโดยหยิบไอเดียจาก ‘เดอะโกสเรดิโอ’ มาใส่ดนตรีฟังก์ที่ฟังกี่รอบก็สนุก เพื่อตั้งคำถามกับประเด็น ‘ความเชื่อ’ ในสังคมไทย
เขาไม่ได้เพียงสนใจค้นหาความจริงของเรื่องเหนือธรรมชาติ หากยังต้องการตีแผ่ความจริงที่ควรได้รับการพิสูจน์ อย่างเพลง ‘Fake News’ ที่พูดถึงข่าวปลอมในโซเชียล ไปจนถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือการพูดความจริงในเพลง ‘คุ้มเสีย’ ที่ฝอดคิดว่าแม้จะเป็นผู้เห็นต่างก็ไม่ควรมีใครโดนไล่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
“สวัสดีครับผมดีเจแจ็ค ขอต้อนรับคุณผู้ฟังเข้าสู่รายการเดอะโกสเรดิโอ
เรื่องราวที่คุณจะได้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น…”
เสียงจากรายการดังออกมาแผ่วเบากลางดึก สิ่งที่ได้ยินได้ฟังยากจะเชื่อ แต่เรื่องสยองเหนือจินตนาการก็ทำให้ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ความกลัวติดค้างอยู่ในมโนภาพ พร้อมเรื่องราวลี้ลับ ‘หาคำตอบไม่ได้’ ที่ค้างคาอยู่ในใจ
ขณะที่กำลังลุ้นระทึกไปกับไลฟ์สดเรื่องผี คอมเมนต์หนึ่งเด้งขึ้นมา “เรื่องแต่งปะ?” คำถามขัดจังหวะพาลหมดสนุกกลายเป็นสารตั้งต้นให้ ‘ฝอด’ หยิบไอเดียจาก ‘เดอะโกสเรดิโอ’ มาแต่งเพลงยียวนอย่าง ‘Ghost Story’ พร้อมใส่ดนตรีฟังก์ที่ฟังกี่รอบก็สนุก เขาคือศิลปินวัย 23 ผู้รับหน้าที่ทั้งร้องนำ เล่นกีตาร์ แต่งเพลง และเป็นโปรดิวเซอร์ของวง ‘Ford Trio’ วงอินดี้ไทยหน้าใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวของเพื่อน 3 คน ในสาขาวิชาดนตรีเชิงพาณิชย์ คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
“แล้วเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ใครจะสน เขาขอให้ฟังแล้วสนุกเป็นพอ
เพราะมันจะทำลาย ทำลายอรรถรส
ที่เธอจะได้รับอย่างมากมาย”
แค่อ่านเนื้อเพลงท่อนแรกของ ‘Ghost Story’ เราก็รู้สึกสนใจและเมื่อกดเล่นเพลงเท่านั้นแหละ เราก็สัมผัสได้ว่า “วงนี้มีของ!” ที่มาของเพลงนี้มันเริ่มจากฝอดชอบฟัง เดอะโกสเรดิโอ แล้วครั้งหนึ่ง ‘ดีเจแจ็ค’ พูดขึ้นมาในรายการว่า “เราไม่ได้ฟังเพื่อมาเค้นหาความจริง เพราะเราฟังเรื่องผี” ฝอดรู้สึกประทับใจประโยคนี้ถึงกับอีเมลไปขอเสียงพี่แจ็คมาแต่งเพลง
“เสน่ห์ของดนตรีฟังก์คือเราจะพูดเรื่องอะไรก็ได้ ไม่ได้ต้องเป็นเพลงรักอย่างเดียว และเราเป็นวงอิสระไม่ได้มีค่ายมาคอยบอกว่า ขอเพลงขาย ขอเพลงช้า หรือว่าขอเพลงรัก เราเลยคิดว่าอยากทำอะไรที่วงการดนตรีไทยทำไม่ได้ครับ ซึ่งในปีนี้สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือประเด็นเรื่อง ‘ความจริง’ ผมรู้สึกว่าคนในสังคมให้น้ำหนักความจริงกันแปลกๆ”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-02-1024x675.jpg)
“แล้วเราจะหา ความจริงไปทำไม
ในเมื่อเรารู้ ปิดหูปิดตา มันจะอินมากกว่า
ไม่ต้องไปหา ความจริงเรื่องใด
แค่ฟัง และฟัง เท่านั้น ไม่ต้องคิด มันจะอินมากกว่า”
ท่อนฮุกของเพลงทำเราขยับตามด้วยดนตรีแพรวพราว เราจับจังหวะได้ว่าที่หัวใจเต้นรัวไม่ใช่เพราะกลัวผี แต่เป็นความตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ฝอดตั้งใจนำเสนอดนตรีฟังก์ที่มีความเฉพาะตัวและร่วมสมัย
“รากเหง้าของดนตรีฟังก์มาจากคนดำในอเมริกานะครับ วงฟังก์ประกอบไปด้วย กลอง เบส กีตาร์ และก็มีนักร้อง มากหน่อยก็มีเครื่องเป่า ทำมาเพื่อประกอบการร้องเพลงเต้นรำกันในโบสถ์ พื้นฐานของมันเลยคือความสนุก แต่ฟังก์ของ Ford Trio จะผสมผสานอะไรแปลกๆ เช่น ลีดกีตาร์แปลกๆ หรือไปแจมกับแรปเปอร์ เราไม่ได้กำหนดตายตัวว่าเป็นแนวอะไร แต่เป็นการหาความเป็นไปได้ของเครื่องดนตรี 3 ชิ้น คือ กีตาร์ เบส กลอง ว่าเราจะพามันไปจุดไหนได้บ้างเพื่อสร้างแนวทางดนตรีใหม่ๆ”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-03-1024x675.jpg)
เราถามฝอดว่าชอบฟังเรื่องผีแล้วเชื่อเรื่องผีไหม เขารีบตอบทันควันว่า “เชื่อครับ” เราโยนคำถามต่อทันทีว่า เห็นด้วยไหมกับความเชื่อที่ว่า ‘คนไทยงมงาย’ เขาเอียงคอคิดพลางจับคลึงเส้นเคราตัวเองทีละเส้น
“การเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมันไม่ผิดเลยครับ ถ้าไม่ได้ไปรบกวนคนอื่นมันก็เป็นสิทธิ์ของเรา ในความเห็นผมแง่หนึ่งมันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ในอีกแง่มันก็ทำให้เราประมาทกับการใช้ชีวิตได้เหมือนกัน ถึงจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้แคล้วคลาดปลอดภัย แต่เราข้ามถนนไม่มองทางก็โดนรถชนอยู่ดี ผมรู้สึกว่าทุกอย่างต้องใช้ ‘สติ’ ในการทำอะไรหรือเชื่ออะไรก็ตาม”
เราสงสัยว่าแล้วถ้าคนบางกลุ่มเอาความเชื่อมาหาผลประโยชน์ล่ะ ‘คน’ กับ ‘ผี’ อะไรน่ากลัวกว่ากัน? คราวนี้เขาเปลี่ยนจากจับเครามาจับหนวด
“บางทีความเชื่อมันไม่ได้มาในรูปแบบผีสางเท่านั้นครับ แต่มาในรูปแบบคน การทำให้คนธรรมดาวิเศษวิโสขึ้นมาอย่างพวกร่างทรง หรือการทำให้คนธรรมดาเป็น ‘สมมติเทพ’ เวลาที่เราเชื่อในตัวบุคคลมากๆ หรือเชื่อแบบงมงาย ถ้าบุคคลนั้นเป็นคนไม่ดีก็สามารถชักนำสาวกของเขาไปในทางที่ไม่ดีหรือทำเรื่องไม่ดีได้”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-04-1024x675.jpg)
“เกลียด แต่ก็ต้องมีบ้างบางคราว
ที่เราจะเขียนอะไร เพื่อจะสนองอารมณ์ของใครๆ
ฉันอยาก จะเขียนอะไรให้โดนใจ
ไม่ว่าจะเขียนอะไร ใส่ไข่และเขียนลงไป
ให้เกินจริงเข้าไว้”
หลังจากถกกันถึงเรื่องจริงเรื่องแต่งกันจนกระทั่งเพลงจบ แอปฯ ฟังเพลงก็ขึ้นท่อนอินโทรของเพลงต่อไป เพลงนี้ชื่อว่า ‘Fake News’ ฝอดไม่ได้สนใจค้นหาความจริงแต่เรื่องเหนือธรรมชาติเท่านั้น หากยังต้องการตีแผ่ความจริงที่ควรได้รับการพิสูจน์
“ผมเห็นว่าข่าวส่วนใหญ่ที่เขาแชร์ๆ กันครับ มันเป็นเรื่องที่ใครก็ได้เขียนขึ้นมา แล้วสังคมเราเชื่ออะไรก็ตามที่อยู่ในโซเชียลง่ายมาก ไม่มีใครเอะใจเลยว่ามันเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่ ‘เรื่องที่เขาบอกต่อๆ กันมา’ และถ้ามันเป็นการเขียนเพื่อด่าหรือทำร้ายใครสักคน ส่วนใหญ่จำเลยของเรื่องเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้แก้ข่าวเลยว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม ผมเลยรู้สึกว่าเราควรให้น้ำหนักมันมากหน่อย”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-07-1024x675.jpg)
ฝอดยังมองว่าการใส่สีตีข่าวไม่เพียงสามารถทำลายชีวิตคนคนหนึ่งได้ ในสถานการณ์ปัจจุบันข่าวปลอมมากมายถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือ ‘สร้างความเกลียดชัง’ เพื่อนำไปสู่ความรุนแรง
“วิธีการระดมคนคือการทำให้คุณเกลียดใครสักคนมากๆ มันเป็นแนวคิดชาตินิยมที่ต้องการรวมประเทศเพื่อไปสู้กับอีกประเทศ หรือทำให้คนอีกกลุ่มกลายเป็นศัตรู การที่เราใช้คดีที่ไม่ได้มีใครรู้ความจริงมาโจมตี ทำให้เขาเป็นคนเลวด้วยสิ่งที่เราเชื่อ ทุกคนอาจลืมไปว่ามันยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ถ้าผมจะเกลียดใครสักคน ผมอยากเกลียดในสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเขาทำจริงๆ เพราะฉะนั้นมันต้องทำให้ตรวจสอบได้ก่อน”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-06-1024x675.jpg)
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีให้เสพล้นหลามทั้งในสื่อหลักและโซเชียล เราถามฝอดว่ามีวิธีการอย่างไรที่จะตัดสินว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง?
“ผมจะไม่เชื่ออะไรแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมไม่เชื่อว่าข่าวที่ออกทีวีมันคือเรื่องจริงทั้งหมด ผมมองว่ามันคือข่าวจากสายตานักข่าวคนหนึ่ง ตอนนี้เวลาผมฟังข่าวหรือไปอ่านอะไรมา ผมจะโยนเข้า ‘ตะกร้ารอพิสูจน์’ ไว้ก่อนครับ ถ้ามันถูกพิสูจน์แล้วผมถึงจะโยนเข้า ‘ตะกร้าความจริง’ บางข่าวมันไม่ได้ไปต่อ เช่น ข่าวลุงพลที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ หรือพิสูจน์แล้วสื่อไม่ตีข่าวต่อ ตอนนี้ผมแทบจะไม่โยนอะไรใส่ตะกร้าความจริงเลย รอพิสูจน์กันไป”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-10-1024x675.jpg)
ไม่ใช่ทุกสื่อที่เชื่อถือได้ แล้วเราควรเชื่อสิ่งไหน?
“เราต้องเปิดกว้าง ถ้าเราปิดประตูไม่รับข่าวจากอีกฝั่งเลย เท่ากับว่าเรารับความจริงด้านเดียวก็เหมือนเราอยู่ในกะลา เราจึงต้องรับข่าวจากทั้งสองฝ่ายและมองให้ออกว่าแต่ละสื่ออยู่ฝ่ายไหน คนเขียนข่าวเขาก็เอนเตอร์เทนสาวกของเขา เพราะเขารู้ว่าเขียนข่าวแบบนี้ ใช้ถ้อยคำแบบนี้ คนแชร์เยอะ ผมเองยังต้องรับข่าวของอีกฝั่งเลยแม้จะรู้สึกอารมณ์เสียมาก แต่ต้องรับไว้ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครเบรกเรา”
แบบนี้หน้าที่ของสื่อและคนเสพสื่อคืออะไร?
“สื่อควรจะมีหน้าที่เสนอ ‘ความจริง’ อย่างมีจรรยาบรรณ แล้วสื่อก็ควรจะละอายมากๆ เมื่อนำเสนอเฟกนิวส์ เราควรไว้ใจสื่อได้ สื่อควรเป็นกลาง ส่วนคนเสพสื่อก็ควรมี ‘สติ’ เหมือนเดิมครับ อ่านข่าวจบแล้วอย่าเพิ่งโกรธ อย่าเพิ่งใจร้อน ใจเย็นๆ รอดูก่อนว่ามันเป็นยังไง”
![](https://urbancreature.co/wp-content/uploads/2020/11/UC-GhostStory-09-1024x675.jpg)
“ไม่ให้ฉันพูด ไม่ให้ฉันคิด
ไม่มีราคา ไม่มีที่ยืน
ให้กับคนที่มองต่างออกไป”
แอปฯ ฟังเพลงรันมาถึงเพลงใหม่ของ Ford Trio ที่เราอยากจะแนะนำ ‘คุ้มเสีย’ เพลงช้าพูดถึง ‘ผู้ลี้ภัยทางการเมือง’ ที่ฝอดคิดว่าแม้จะเป็นผู้เห็นต่างก็ไม่ควรมีใครโดนไล่ออกจากประเทศ เราจึงปิดท้ายด้วยประเด็น ‘ศิลปินกับอิสระในการแสดงความคิดเห็น’
“อาชีพศิลปินขึ้นอยู่กับการมีผู้จ้าง ศิลปินที่ออกมาพูดเรื่องการเมืองตอนนี้เราจะเรียกว่าเป็นผู้เสียสละก็ได้ เพราะการที่เขาออกมามันทำให้เขาถูกแคนเซิลงาน ทำให้ผู้ใหญ่ไม่สนับสนุน เขาสูญเสียรายได้แทบจะแน่นอนเลย แต่มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่าศิลปินก็ถือเป็นสื่อเหมือนกันเพราะเป็นบุคคลสาธารณะ ศิลปินควรจะเป็นอิสระ เราน่าจะออกมาพูดเรื่องอะไรก็ได้ ออกมาบอกว่าเราเชื่ออะไรโดยที่ไม่กระทบหน้าที่การงาน แต่ตอนนี้มันกระทบมากๆ คนที่เขาออกมาพูดเรื่องนี้ไม่มีงานเลยทั้งปีก็มี
“ศิลปินควรจะมีอิสระในการพูด โดยไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาท หรือด่าใครเสียๆ หายๆ สิทธิ์ในการพูดของศิลปินคือการถ่ายทอดความคิดของตัวเองและข้อเท็จจริง”