ไม่ยาก ถ้าไม่อยากเป็นคน Toxic - Urban Creature

หนึ่งคำพูดอันทรงพลังเกี่ยวกับสุขภาพจิตที่เราเคยได้ยินคือ “Hurt people, hurt people.” อธิบายคือ คนที่เคยผ่านเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเจ็บปวดมา หากเขากอดความปวดร้าวนั้นไว้แน่นกับตัว ไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องส่งความเจ็บปวดนี้ให้คนอื่นอีก

และประโยคที่ตามมาจากประโยคแรกคือ “Healed people, heal people.” ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเจ็บปวดมาแค่ไหน หากเขาคนนั้นเลือกที่จะเดินเข้าสู่หนทางแห่งการเยียวยาจิตใจ ไม่ช้าก็เร็ว แรงกระเพื่อมของการอยากมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นจะส่งผลต่อคนรอบข้างให้อยากมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นตามได้แน่นอน

แต่ถ้า Hurt People (คนที่เจ็บปวด) ไม่ได้เจ็บปวดจากการที่คนอื่นทำตัวเองเจ็บ แต่เจ็บปวดจากการทำให้คนอื่นเจ็บแล้วรู้สึกแย่มากๆ หลังจากนั้นแทนล่ะ

ความรู้สึกที่เหมือนตัวเองเป็นตัวร้ายนี้จะ Heal (เยียวยา) อย่างไรดี

สุขภาพจิต consoling คนท็อกซิก toxic นิสัยดี ดูแลจิตใจ heal

หาต้นตอที่ทำให้เราเจ็บปวด เพื่อรีบออกจากวงจรการเผลอเป็นคน Toxic

แทบทุกคนที่เคยทำตัวไม่น่ารักใส่ใคร มักเคยมีคนมาทำให้เจ็บก่อน ไม่ว่าคนคนนั้นจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

แต่นี่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่อนุญาตให้เราสมควรส่งต่อความเจ็บนี้กระจายสู่คนอื่นไปเรื่อยได้

มีช่วงหนึ่งที่ผู้เขียนเคยมีเรื่องผิดใจกับแม่ รู้สึกเจ็บใจที่ไม่น่าเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟัง ปนกับความน้อยใจที่คาดหวังไปเองว่าแม่น่าจะเข้าใจฉันมากกว่านี้ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญแม่อยู่เสมอ ซึ่งก็มาจากก้อนความเศร้าที่ต่างคนต่างผิดหวังในกันและกันจากความเชื่อในการใช้ชีวิตบางอย่างที่ไม่ตรงกัน จึงเกิดเป็นถ้อยคำทำร้ายจิตใจกัน

แต่ก็เป็นตัวผู้เขียนเองที่ไม่ยอมสลัดความเจ็บนี้ออกจากใจ เลือกที่จะแบกไว้ เพราะหวังเองอยู่ลึกๆ ว่าแม่ต้องเข้าใจความเจ็บปวดนี้บ้าง ซึ่งวิธีจัดการความเจ็บในใจโดยการปักธงอยากจะลงโทษทางอารมณ์คนที่ทำให้เจ็บนั้น ก็เป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก เพราะทุกครั้งที่เราโฟกัสกับความเจ็บที่เรารู้สึกจากเขา และพยายามจะส่งก้อนความเจ็บนี้กลับไปให้เขา กลายเป็นเราเองนั่นแหละที่เจ็บในใจกว่าเหลือเกิน

สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นคือ เราหงุดหงิดและรำคาญแม่แทบทุกเรื่องที่เขาทำ ทั้งๆ ที่หลายครั้ง สิ่งที่แม่พูดหรือทำก็ไม่ได้มีประเด็นให้ต้องโมโหยิ่งใหญ่ แต่เราจับตัวเองได้ว่าในใจลึกๆ เผลอปักธงไปแล้วว่าจะงอนผู้หญิงคนนี้ เลยทำให้หมอกควันแห่งอารมณ์รำคาญใจมันคลุ้งไปทั่วทุกที่ที่มีเขา จนขนาดเรายังอึดอัดเองเลย

แค่นี้ยังไม่พอ เราต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองว่าเป็นคนชอบเก็บตัวอยู่แต่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะในช่วงนั้น ไม่ว่าจะไปไหน จิตใจก็รำคาญผู้คนรอบตัวไปหมด คนนู้นหัวเราะเสียงดังก็น่ารำคาญ คนนี้ก็นั่งยุกยิกเกินไปน่ารำคาญ ฯลฯ

จนในที่สุดก็จับตัวเองได้ว่า มันเป็นเพราะเราไม่ยอมปล่อยความรำคาญที่ปักธงกับแม่ออกไป สภาพจิตใจก็เลยปรับโหมดความรำคาญนี้กับทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว แล้วเราก็กลายเป็นคนที่ไม่น่ารัก ขนาดเราเองยังรำคาญตัวเองเลย

จากเหตุการณ์นั้นเป็นบทพิสูจน์ว่า สภาวะในจิตใจส่งผลต่อมุมมองที่เรามีรอบตัวจริงๆ เหมือนกับเวลาที่ใครกำลังอินเลิฟ จะมองโลกไปทางไหนก็สวยงาม สีชมพู ยิ้มง่ายไปหมด

เฉกเช่นเดียวกัน จิตใจที่หมกมุ่นอยู่กับความเจ็บที่เคยเกิดขึ้นนานแล้ว ความเจ็บนั้นก็ยังถูกหล่อเลี้ยงในจิตใจไม่ไปไหน ผ่านมุมมองที่ไม่ว่าใครก็ทำฉันเจ็บไปหมดเลย!

สุขภาพจิต consoling คนท็อกซิก toxic นิสัยดี ดูแลจิตใจ heal

ความรู้สึกผิดไม่ใช่สิ่งไร้ค่า จงเก็บมันมาทบทวน

หากรู้ว่าตัวเองเพิ่งไปทำร้ายจิตใจใครมา ลองใช้เวลาสักหน่อยในการอยู่กับมัน เพราะย่อมมีความรู้สึกอับอายอันน่ากระอักกระอ่วนในการรู้ตัวนี้อยู่แล้ว

แน่นอน เราคงไม่อยากสัมผัสถึงมันหรอก แต่ขอให้รับรู้และยอมรับความรู้สึกผิดนี้ให้ชัดพอที่จะไม่โยนไปให้ใคร

มิฉะนั้นมันจะออกมาในลักษณะของการที่เราทำผิดต่อใคร แล้วเรารู้สึกแย่ที่สร้างความเจ็บปวดให้คนนั้น จากนั้นเราไม่อยากสบตากับความรู้สึกผิดภายในตัวเรา เพื่อเป็นการทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นในเวลาเร็วที่สุด เราจึงรีบโยนไปให้คนอื่นเพื่อให้เขารู้สึกว่าตัวเองก็มีความผิดเหมือนกันหรือมากกว่า

ยกตัวอย่าง เราพูดจารุนแรงทิ่มแทงคนที่เรารัก และเห็นเขาหน้าเศร้าด้วยความเจ็บปวดต่อหน้าต่อตา เราจึงรีบย้ำถึงสิ่งที่เขาสะกิดใจยั่วโมโหเรา และขยี้มันว่ามันหนักหนาเหมาะสมกับคำพูดแรงๆ จากเราแล้ว ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้เรารู้สึกสาแก่ใจในระยะเวลาอันสั้น แต่อาจทับถมใจอีกฝ่ายให้เจ็บปวดกว่าเดิม

จงอยู่กับความรู้สึกผิดในใจให้นานพอที่จะจับอีโก้ของเราทัน ไม่ให้เราแสดงอะไรออกมาผ่านความแข็งกร้าว แค่เพราะเราไม่พร้อมจะอยู่กับความเปราะบางในใจ

จงจดจำบทเรียนที่ทำให้เราเสียใจจากความรู้สึกผิดนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่จะทำร้ายใจใครอีกในอนาคต

สุขภาพจิต consoling คนท็อกซิก toxic นิสัยดี ดูแลจิตใจ heal

ความเจ็บปวดคือส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์

การสร้างความเจ็บปวดจนเป็นวงจรเป็นพิษ (Toxic Cycle) จะเกิดขึ้นเมื่อมีใครตั้งใจทำสิ่งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเจ็บซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง

เราหนีความเจ็บปวดไม่ได้ แต่เราเลือกวิธีจัดการและรับมือกับมันได้

ทุกคนมีข้อผิดพลาด และทุกคนสามารถเปลี่ยนมันเป็นพลังที่สร้างสรรค์กว่าเดิม เพื่อสร้างความทรงจำใหม่ที่ดีต่อใจเขาและเรา เพราะหากเอาแต่ย้ำกับตัวเองถึงสิ่งแย่ๆ ที่ทำไป สิ่งนั้นก็จะกัดกินเราเรื่อยๆ และนี่ก็ไม่ใช่การดูแลใจที่ Healthy เหมือนกัน

เพราะมันยากมากที่จะเป็นคนที่น่ารักและสุขภาพจิตดีขึ้นได้ จากการเอาแต่โบยตีตัวเองถึงความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น

อีกสิ่งที่ทำให้เราหลุดออกจากวงจร Toxic และกลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้คือ การสร้างเส้นเรื่องจรรโลงใจที่ใช้พูดกับตัวเอง

เพราะทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีความจริงหลายด้านเสมอ เตือนตัวเองให้คอยเสาะหา ‘ความจริง’ อื่นบ้างที่จะช่วยยกระดับใจของเรา เช่น เราเผลอพูดจาดูถูกลูกน้อง เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่อีกหนึ่งความจริงที่เราควรเชิดชูคือ การที่เราพยายามปรับปรุงตัว ฝึกชื่นชม ให้กำลังใจลูกน้อง เพื่อเป็นแรงใจให้เขาตั้งใจทำงานให้ดีขึ้น

ลองเปลี่ยนจากอารมณ์หงอยที่เอาแต่พูดว่า ‘ไม่น่าเลย’ ให้สดใสขึ้นด้วยการคอยเสาะหาว่า ‘เราจะเปลี่ยนแปลงมันให้ดีอย่างไรได้บ้าง’

เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็นทั้งคนที่น่ารักและไม่น่ารักในเรื่องราวของใครสักคนเสมอ

Guy Winch จิตแพทย์ชื่อดังเคยพูดถึง Emotional Strength หรือความแข็งแกร่งทางอารมณ์ที่เป็นหลักของสุขภาพจิตที่ดีว่า การแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ เพื่อให้ตัวเรามีแรง จะเริ่มสร้างสิ่งดีๆ ที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้อ่อนโยนลงได้ใหม่

และพวกเราทุกคนมีพลังในการทำสิ่งนี้

สุขภาพจิต consoling คนท็อกซิก toxic นิสัยดี ดูแลจิตใจ heal

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.