นึกภาพตอนที่เราตื่นขึ้นมาในฟาร์มของเรา มีแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิสาดส่อง พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆ เริ่มต้นวันด้วยการรดน้ำพืชผักท่ามกลางธรรมชาติ เก็บเกี่ยวผลผลิตเตรียมเอาไปแบ่งปันกับชาวเมือง
กิจกรรมนี้น่าจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเหล่ามนุษย์เมืองในสังคมเมืองที่เร่งรีบ เกม Farming Simulator หรือเกมจำลองการใช้ชีวิตในฟาร์มจึงเป็นเหมือนอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากพักจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย
Farming Simulator หรือที่ชาวไทยเรียกง่ายๆ ว่า เกมปลูกผัก เช่น Stardew Valley เกมขวัญใจชาวปลูกผัก, Coral Island หรือ Harvest Moon เกมปลูกผักในความทรงจำของใครหลายคน ซึ่งนอกจากความสนุกแล้ว การเล่นเกม Farming Simulator ยังช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้อีกด้วย

ชีวิตที่วางแผนได้จากกิจวัตรในฟาร์ม
อย่างที่หลายคนรู้กันว่า การเล่นเกมช่วยลดความเครียดได้ แต่สิ่งที่โดดเด่นของเกมแนว Farming Simulator คือ เราสามารถจัดการวางแผนชีวิตได้ ตั้งแต่กิจวัตรประจำวัน To-do List ไปจนถึงการเลือกมีปฏิสัมพันธ์กับชาวเมืองในเกม
มากไปกว่านั้น ยังต้องรู้จักเรียนรู้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งการวางแผนจัดแจงที่ดีมักจะตามมาด้วยผลลัพธ์ที่เหมือนเป็นรางวัลเล็กๆ ให้เราเสมอ เช่น การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เราปลูกเอง การช่วยเหลือชาวเมืองเล็กๆ น้อยๆ การปลดล็อกสูตรอาหารใหม่ๆ ฟังดูอาจเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไร เพราะไม่ส่งผลใดต่อชีวิตจริง แต่สำหรับคนที่ตั้งใจเล่นเกม ทั้งหมดนี้นับเป็น Small Win ที่คอยชุบชูใจในสังคมที่เราแทบควบคุมอะไรไม่ได้เลย
ความเป็นชุมชนที่เราโหยหา
ในเกมเหล่านี้มักมีเป้าหมายที่เราต้องไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเพื่อช่วยพัฒนาบางสิ่งบางอย่าง ภารกิจทำนองนี้จะทำให้เราเห็นการพัฒนาของตัวละครจากเดิมที่เป็นชาวชุมชนหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมือง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนั้น ยกตัวอย่าง ในเกม Stardew Valley ที่จะให้ตัวละครคอยช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ชุมชน เราจะค่อยๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของชุมชนในทางที่ดีขึ้น จากอาคารที่เคยร้างก็กลายเป็นศูนย์กลางชุมชนใหม่ให้ทุกคนเข้ามาใช้งานได้ หรือในเกม Coral Island ที่เราต้องคอยช่วยเมืองกำจัดขยะทะเลจนชายหาดของเมืองสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาความสัมพันธ์ของเรากับชาวเมืองในเกมผ่านการนำผักที่เราปลูกไปแจกจ่ายตามบ้าน ช่วยชาวเมืองหาของเล็กๆ น้อยๆ บางคนจากที่ไม่ชอบตัวละครเรา ตอนหลังก็กลายมาเป็นเหมือนเพื่อนสนิท หรือการเข้าร่วมเทศกาลประจำปีที่จะเห็นทุกคนในเมืองเข้ามามีส่วนร่วมกัน มาสนุกด้วยกัน
อย่างใน Stardew Valley จะมีเทศกาลที่ให้ทุกคนนำวัตถุดิบมาแชร์แล้วทำซุปกินด้วยกัน ซึ่งค่านิยมเหล่านี้ค่อนข้างขาดหายไปในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะสังคมเมืองที่มีความต่างคนต่างอยู่ ทุกคนโฟกัสแต่เรื่องของตัวเอง การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอาจเป็นอีกสิ่งที่เราโหยหาอยู่ก็ได้

ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเมืองในเกม
Sense of Place เป็นแนวคิดเกี่ยวกับภาพของเมืองที่ส่งผลมาจากความผูกพันต่อสถานที่ อันเกิดจากความรู้สึกและความทรงจำของมนุษย์ ยกตัวอย่าง ภาพของเมืองชนบทที่สโลว์ไลฟ์ เงียบสงบ หรือภาพของความของเร่งรีบวุ่นวายในกรุงเทพฯ
สถานที่ของเมืองจากเกม Farming Simulator ได้ถูกออกแบบมาให้เด่นชัดไม่แพ้เมืองจากโลกจริงเลย หนึ่งในนั้นคือ Pelican Town ในเกม Stardew Valley เมืองชนบทริมทะเล รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ใจกลางเมืองเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นจุดพบปะนัดหมายของผู้คนในเมือง หรือ Mineral Town ในเกม Harvest Moon ที่หลายๆ คนน่าจะจำแผนที่ในเมืองได้ดีเทียบเท่าเวลาไปเดินเล่นแถวบ้านด้วยซ้ำ
ความเป็นสถานที่ของเมืองเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัยให้เราได้พักความกังวล คล้ายกับเวลาเราไปนั่งผ่อนคลายที่สวนในเมือง และด้วยความที่ในเมืองใหญ่มีแต่ความวุ่นวาย จะออกไปไหนก็มีแต่ค่าใช้จ่าย หาสถานที่ที่เรารู้สึกผูกพันได้ยาก การเลือกเข้ามาพักผ่อนในพื้นที่ในเกมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากพักใจ
ใครที่อยากหาวิธีพักใจอย่างง่ายๆ ลองมาเปิดใจเล่นเกม Farming Simulator ดู การได้ปลูกผัก ใช้ชีวิตเนิบๆ ทิ้งความกังวลในชีวิตวันละ 1 – 2 ชั่วโมง อาจจะเป็นน้ำบ่อน้อยให้เราไปลุยชีวิตในโลกแห่งความจริงต่ออีกวันก็ได้นะ

Sources :
Artefact | shorturl.at/mgCQX
Medicinal Media | shorturl.at/SAC5V
Medium | shorturl.at/2u5RL