รายงาน IPCC เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ลงนามโดยนักวิทยาศาสตร์ 234 คน และได้รับการรองรับจาก 195 ประเทศ ได้ข้อสรุปว่าโลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาภายในปี 2040 แม้จะมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด แต่อุณหภูมิก็ยังจะสูงขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2050 เป็นอย่างต่ำ
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นหมายถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างน่ากลัวและอันตรายมากขึ้น หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทันที รวดเร็ว ในระดับที่ได้รับความร่วมมือจากทั้งโลก ความพยายามในการทำให้โลกร้อนขึ้นไม่เกิน 1.5 หรือ 2 องศา ก่อนยุคอุตสาหกรรมภายในปี 2100 จะเป็นไปไม่ได้
โลกกำลังร้อนขึ้นและเลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา รายงานฉบับนี้ยังบอกว่าทศวรรษที่ผ่านมามีแนวโน้มว่าโลกจะร้อนที่สุดในรอบ 125,000 ปี นำมาซึ่งระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นถึง 10 เมตร อีกทั้งการเผาไหม้และการตัดไม้ทำลายป่าได้เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้สูงขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในช่วง 2 ล้านปี การเกษตรและเชื้อเพลิงฟอสซิลยังทำให้มีเทนและไนตรัสออกไซด์มีความเข้มข้นสูงที่สุดในรอบ 800,000 ปี
ภาวะโลกร้อนจะไม่มีวันสิ้นสุดจนกว่าการปล่อยมลพิษจะยุติลง รายงานการประเมินนี้คือฉบับที่ 6 และเป็นฉบับแรกนับตั้งแต่ปี 2013 มีเนื้อหาทั้งหมด 3,949 หน้า เผยแพร่ออกมาร่วมกับบทสรุปสำหรับผู้กำหนดนโยบาย จำนวน 42 หน้า ที่นอกเหนือจากการขออนุมัติทางการทูตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ในบทที่ 1 ยังมีการตักเตือนต่อผู้ลงนามความตกลงปารีส ว่าการกระทำของนานาประเทศจนถึงตอนนี้ “ไม่เพียงพอต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 2 องศา”
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติบอกว่าเอกสารดังกล่าวคือ “a code red for humanity” หรือสัญญาณเตือนภัยระดับสีแดงที่รุนแรงและมีนัยสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับมนุษยชาติ เขายังบอกอีกว่าการใช้ถ่านหินและเชื้อเพลิงต้องยุติลงโดยพลันก่อนที่มันจะทำลายโลกของเรา