หากไม่นับดาวอังคาร ดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลกอยู่ในความสนใจของนักวิทยาศาสตร์และเป็นเป้าหมายสำคัญในภารกิจท่องอวกาศมาโดยตลอด ซึ่งเทคโนโลยีใดก็ตามที่จะถูกนำไปใช้ในดวงจันทร์จะต้องได้รับการออกแบบให้ทำงานได้ภายใต้สภาวะที่มีแรงโน้มถ่วงเพียง 16 เปอร์เซ็นต์เทียบกับพื้นผิวโลก
Christopher Baker ผู้บริหารของ NASA บอกว่าแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์คือหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของการทำงานและการใช้ชีวิตในอวกาศ ซึ่งระบบและอุปกรณ์จำนวนมากที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานบนโลก ไม่สามารถใช้งานได้ในสภาวะดังกล่าว
แม้ที่ผ่านมาเราจะสามารถเลียนแบบแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์บนโลกได้ เช่นการบินในลักษณะ Parabolic Flight หรือบินเป็นกราฟพาราโบลา ซึ่งสามารถจำลองสภาวะดังกล่าวได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นต่างกับดวงจันทร์ประดิษฐ์ของจีน ที่สามารถจำลองสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงได้นานเท่าที่ต้องการ
ประเทศจีนจึงสร้างแบบจำลองของดวงจันทร์ โดยใช้สนามแม่เหล็กในการเลียนแบบแรงโน้มถ่วง โดยในแกนกลางของดวงจันทร์เทียมจะเป็นห้องสุญญากาศทรงกระบอกกว้าง 23.6 นิ้ว ในขณะที่ด้านบนของดวงจันทร์ขนาดเล็กจะปกคลุมไปด้วยหินและฝุ่นละอองที่เลียนแบบพื้นผิวของดวงจันทร์ เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทำการปรับความแรงของสนามแม่เหล็กที่กระทำต่อดวงจันทร์ขนาดเล็ก ก็สามารถจำลองแรงโน้มถ่วงที่ใกล้เคียงกับดวงจันทร์ได้
วิวัฒนาการของดวงจันทร์ประดิษฐ์มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับการทดลองเทคโนโลยีที่ทำไปใช้บนดวงจันทร์ นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้สิ่งนี้ในการทดสอบว่าเครื่องพิมพ์สามมิติจะมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือเปล่าสำหรับการสร้างที่อยู่อาศัย หรือประดิษฐ์อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการสำรวจบนดวงจันทร์ ซึ่งจะทำให้แต่ละภารกิจมีความแน่นอนมากขึ้น
มีการคาดว่าดวงจันทร์จำลองจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจเหยียบผิวดวงจันทร์ของประเทศจีนในอนาคต รวมถึงต้อนรับนักวิจัยจากทั่วโลกให้เข้ามาศึกษา แต่ยังไม่มีวี่แววว่า NASA จะเข้าร่วมด้วยแต่อย่างใด