รณรงค์หยุด Bully ผ่านสติกเกอร์ Line ฝีมือนักเรียนญี่ปุ่นในโยโกฮาม่า

สมาคมผู้ปกครองและครู (PTA) ประจำโรงเรียนชั้นประถมศึกษาในเมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่นผุดไอเดียเด็ด สร้างสรรค์สติกเกอร์ในธีมหยุดการบุลลี่ลงบนแอปพลิเคชันแชตยอดฮิตอย่าง Line  สติกเกอร์นี้มาจากภาพประกอบฝีมือนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษายามาอุจิ (Yamauchi) ในเขตอาโอบะ เมืองโยโกฮาม่า โดยแนบถ้อยคำให้กำลังใจเด็กๆ ไว้ในภาพ ซึ่ง Seijun Sato อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนหวังว่าคนที่ได้ใช้สติกเกอร์เหล่านี้จะได้รับความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ สติกเกอร์ที่ว่ามีทั้งหมด 178 รูปแบบ ประกอบไปด้วยวลีภาษาญี่ปุ่นต่างๆ อาทิ ขอบคุณ, คุณทำได้ดีมาก และ ฉันอยู่ข้างคุณเสมอนะ โดยวางเคียงกับเจ้าการ์ตูนมาสคอตของโรงเรียนที่มีชื่อว่า ‘คีย์ลีฟ (Keyaleaf)’ สติกเกอร์ชุดดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือกับนักวาดภาพประกอบชื่อ ‘โดคุคิโนโกะ (Dokukinoko)’ ซึ่งลูกสาวของนักวาดภาพคนนี้ ก็เข้าเรียนในโรงเรียนประถมฯ เช่นกัน เธอทำสติกเกอร์คีย์ลีฟกับ PTA ในปี 2019 และเปิดตัวโปรเจกต์อื่นๆ เพื่อทำสติกเกอร์จากภาพที่เด็กนักเรียนวาดในปี 2020 ซึ่งทำให้ได้รับภาพวาดทั้งหมดมาจากเด็กๆ จำนวนประมาณ 100 คน เมื่อเดือนมกราคม 2021 โดคุคิโนโกะยังได้รับรางวัลสูงสุด ประเภทภาพวาดประกอบจากเวที ‘yuru-chara’ โดยศิลปินเข้าร่วมประกวดในธีมป้องกันการฆ่าตัวตายเพราะการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งรางวัลนี้จัดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรในโตเกียว  ต่อมาในเดือนมิถุนายน ระหว่างการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน โดคุคิโนโกะได้แนะนำให้มีการทำสติกเกอร์ไลน์เพื่อป้องกันการบุลลี่ขึ้นมา […]

กระแสรักษ์โลกมาแรง แบรนด์ชั้นนำของโลกใช้วัสดุชีวภาพ ผลิตสินค้ามากขึ้นสองเท่าในปี 2021

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วัสดุชีวภาพเคยเป็นสินค้าสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ในปี 2021 วัสดุจากธรรมชาติได้กลายเป็นสินค้ากระแสหลักและถูกใช้ในวงกว้างมากขึ้น หลังจากบรรดาสถาปนิก นักออกแบบ และผู้ผลิตเลือกใช้วัสดุประเภทนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสร้างเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ เรจินา โปลันโก (Regina Polanco) ผู้ก่อตั้ง Pyratex บริษัทผลิตสิ่งทอจากธรรมชาติสัญชาติสเปน เปิดเผยว่า ยอดขายวัสดุชีวภาพของบริษัทในปี 2021 เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2020 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ลูกค้าที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายต้องการใช้วัสดุจากธรรมชาติในการผลิตสินค้าของตัวเองมากขึ้น โดยแบรนด์ที่ใช้ผ้าของ Pyratex ได้แก่ ASICS, Camper, PANGAIA และ Pepe Jeans เป็นต้น ด้านแจด ฟิงก์ (Jad Finck) รองประธานฝ่ายนวัตกรรมและความยั่งยืนแห่ง Allbirds บริษัทผลิตรองเท้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็ยอมรับว่า ความสนใจในการใช้วัสดุชีวภาพเกิดขึ้นมากมายในปี 2021 โดยทาง Allbirds ได้พัฒนาพลาสติกชีวภาพจากอ้อยสำหรับผลิตรองเท้าผ้าใบให้แก่หลายบริษัท เช่น Reebok และ Timberland โดยฟิงก์อธิบายว่า พืชและสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นสาหร่ายและเชื้อรา สามารถกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้ เพราะพวกมันดึงก๊าซชนิดนี้จากอากาศและเก็บไว้ในเซลล์ของตัวเอง มากกว่าที่จะผลิตและปล่อยก๊าซออกไป นอกจากนั้น […]

พบทางเท้าพัง เจอถนนเป็นหลุม ฯลฯ แจ้งผ่านไลน์ @traffyfondue พร้อมส่งปัญหาไปถึงผู้รับผิดชอบโดยตรง

ทางเท้าพัง ถนนเป็นหลุม ไฟข้ามถนนไม่ทำงาน ป้ายบังทางเดิน ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือสารพัดปัญหาเมืองที่คนไทยน่าจะประสบมาแล้วไม่มากก็น้อย และในขณะเดียวกัน Urban Creature เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อยากแจ้งปัญหาให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาปรับปรุงแก้ไข แต่อุปสรรคใหญ่คือเรามักไม่รู้ว่าต้องแจ้งใคร และจะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เพราะอยากให้ประชาชนกับหน่วยงานต่างๆ ร่วมมือทำงานพัฒนาเมืองไปด้วยกันอย่างสะดวก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) จึงคิดค้น Traffy* Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์/ท่านพี่ฟ้องดู) แพลตฟอร์มบริหารจัดการปัญหาเมืองด้วยการใช้ระบบแจ้งและบริหารจัดการด้วย AI Chatbot หลักการใช้งานของ Traffy* Fondue คือการให้หน่วยงานต่างๆ เช่น อบต. เทศบาล อาคารสำนักงาน หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีระบบรับแจ้งปัญหาอยู่แล้ว นำแพลตฟอร์มนี้มาใช้เพิ่มช่องทางใหม่ในการรับแจ้งและจัดการปัญหาที่พบผ่าน LINE Chatbot แบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ และยกระดับการมีส่วนร่วมของพลเมือง (Citizen Engagement) และผู้เกี่ยวข้องได้ทุกพื้นที่และทุกเวลา นอกจากอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้หน่วยงาน ฟากประชาชนเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลเมืองได้ง่ายๆ แค่แจ้งปัญหาเมืองที่พบผ่าน LINE ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เราพบทั่วไปอย่างทางเท้าพัง ป้ายหาเสียงนักการเมืองบังทางเดิน ไฟถนนไม่ส่องสว่าง ไปจนถึงการแจ้งซ่อมในอาคารสำนักงาน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ สาธารณภัย เป็นต้น จากนั้นระบบ AI […]

UNDP ชวนหาสาเหตุความรุนแรง เมื่อความสุดโต่งและปัจจัยเชิงโครงสร้างคือบ่อเกิดของการใช้ความรุนแรง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นภาพความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศไทยและรอบโลก การกลับมาของฝ่ายขวาจัดและแนวคิดนิยมเผด็จการ และที่อีกด้าน ผู้คนออกไปเรียกร้องความเท่าเทียมและความยุติธรรม บางครั้งพวกเขาได้รับการรับฟังและบรรลุเป้าหมายได้ด้วยสันติวิธี แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่เกิดความรุนแรงเพราะรัฐเมินเฉยจนทำให้สถานการณ์ยิ่งปะทุ หรือรัฐลงมือปราบอย่างรุนแรง หลายกลุ่มเลือกลงมือก่อการร้ายเพราะความคับแค้นใจที่เผชิญมาเป็นเวลานานและเชื่อว่าความรุนแรงจะเป็นคำตอบ เสียงของอาวุธปืนและระเบิดอาจทำให้ได้รับความสนใจจากสังคม แต่นั่นคือทางออกจริงหรือ ในสังคมประชาธิปไตยที่มีรากฐานมาจากการเคารพความหลากหลาย ไม่ผิดหากจะมีแนวคิดสุดโต่ง (Extremism) ที่หมายถึงยึดถือในอุดมการณ์/ความเชื่อ/ความศรัทธาในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งนั้นอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีขึ้นได้ เช่น การต่อสู้เรียกร้องสิทธิของชาติพันธุ์หรือสิทธิสตรี แต่ถ้าหากแนวคิดสุดโต่งนั้นกลายเป็นแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรง (Violent Extremism) เมื่อใด กลุ่มบุคคลนั้นจะมองว่าการใช้ความรุนแรงไม่ผิดและยอมทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเมื่อนั้น การสูญเสียก็จะเกิดขึ้น ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะเกิดความสูญเสียขึ้น สาเหตุที่แท้จริงของมันคืออะไร คนเราไม่ได้มีแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงขึ้นมาได้ง่ายๆ ที่ด้านหนึ่ง มันถูกฟูมฟักขึ้นมาจากความขัดแย้งทางศาสนา ชาติพันธุ์ หรือเพศ และความเดือดร้อนต่างๆ ที่มาจากการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมเพราะไม่มีส่วนร่วมทางการเมืองและไม่ถูกมองเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ชนกลุ่มน้อยที่ถูกกีดกันทางกฎหมายในเรื่องสัญชาติและโอกาสทางเศรษฐกิจ หรือบุคคลที่มีศาสนาและวัฒนธรรมแตกต่างจากส่วนกลางทำให้รู้สึกเป็นอื่น ส่วนที่อีกด้าน ความรุนแรงอาจมาจากกลุ่มที่ไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างหลากหลายและไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย (Minority) ในสังคมก็ได้ เช่น กลุ่มหัวรุนแรงขวาจัด (Right-Wing Extremists) ในหลายประเทศ และผู้ที่สมาทานแนวคิดที่ว่าคนขาวเหนือกว่าคนกลุ่มอื่น (White Supremacy) ที่สหรัฐอเมริกา พวกเขาเชื่อว่าคนกลุ่มอื่นจะทำให้สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของพวกเขาสั่นคลอน จึงลงมือใช้ความรุนแรงเพราะต้องการปกป้องสถานภาพและผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ หากอยากตัดไฟความรุนแรงแต่ต้นลม เราจะทำอย่างไรได้บ้าง โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ […]

แม่น้ำต้องลงไปว่ายได้! ปารีสวางแผนทำความสะอาดครั้งใหญ่ รับโอลิมปิก 2024

ปารีสกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังจากประกาศว่าจะทำให้แม่น้ำแซนสะอาดจนสามารถลงไปว่ายได้ในปี 2024 ซึ่งหากทำได้สำเร็จ เมืองหลวงแดนน้ำหอมอาจเป็นต้นแบบสำคัญที่ทำให้เมืองอื่นๆ ทั่วยุโรป ลงมือทำความสะอาดแม่น้ำของตนเองที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย ที่ผ่านมาปารีสได้ประกาศแผนการที่จะจัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2024 ที่แม่น้ำแซน สายน้ำเก่าแก่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่พวกเขาไม่ต้องการให้แม่น้ำเป็นเพียงฉากหลังที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังหวังว่าจะสามารถจัดกิจกรรมบางอย่างในแม่น้ำเหมือนกับที่เคยทำในโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 1900 ที่ผ่านมาการว่ายน้ำในแม่น้ำแซนผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 1923 สาเหตุมาจากคุณภาพน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขคือระบบท่อระบายน้ำในปารีส ที่ไม่สามารถรองรับฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ ซึ่งน้ำเสียสามารถผสมกับน้ำฝนและไหลลงสู่แม่น้ำแซนได้จากท่อระบายน้ำกว่า 40 แห่ง ส่งผลให้มีระดับแบคทีเรียที่สูงมากจนเกิดอาการป่วยได้ ตั้งแต่ท้องร่วง คลื่นไส้ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ ปารีสจะให้เงิน 1,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อถังเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถจุน้ำได้ 12 ล้านแกลลอน ปริมาตรเดียวกับที่เติมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกได้ 18 สระ โดยถังจะถูกสร้างขึ้นภายใต้สวนสาธารณะเชื่อมต่อด้วยอุโมงค์ใต้ดินที่จะรวบรวมน้ำจากท่อระบาย และสูบกลับเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียได้เมื่อปริมาณฝนลดลง นครหลวงฝรั่งเศสยังกำลังทดสอบระบบที่เรียกว่า Alert หรือเซนเซอร์ลอยน้ำอัตโนมัติ เพื่อทำการวัดระดับแบคทีเรียในน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อการวางแผนที่ดียิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามปารีสไม่ได้เป็นผู้โชคร้ายรายเดียวที่ระบบบำบัดน้ำเสียไม่สามารถรองรับฝนตกหนักได้ หลายเมืองใหญ่ของยุโรปที่มีระบบบำบัดน้ำเสียอายุมากกว่าศตวรรษก็กำลังประสบปัญหาเดียวกัน และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำบอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลให้ฝนตกหนักขึ้นบ่อยครั้ง จนสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่าเดิม Source : Freethink l https://shorturl.asia/6AOQX

โฆษณาซานต้าเกย์ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในทัศนคติต่อ LGBTQ+ ของนอร์เวย์

โฆษณาคริสต์มาสได้กลายเป็นประเพณีประจำปีในหลายประเทศ ที่มักจะหยิบยกเรื่องราวของแบรนด์มานำเสนอผ่านมนต์ขลังของซานต้า เรนเดียร์ กล่องของขวัญ หรือถุงเท้า แต่คริสต์มาสที่ผ่านมานี้มีโฆษณาของประเทศนอร์เวย์เรื่องหนึ่งที่ซานต้าจูบกับผู้ชายที่รอเขาอยู่ที่บ้านในวันคริสต์มาสอีฟ ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก When Harry Met Santa เป็นโฆษณาความยาวสี่นาทีจาก Posten บริษัทไปรษณีย์จากนอร์เวย์ เรื่องราวมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งกำลังเขียนจดหมายเพื่อส่งไปยังขั้วโลกเหนือโดยมีข้อความระบุไว้เพียงสั้นๆ ว่า All I Want for Christmas is you หรือทั้งหมดที่ฉันต้องการในวันคริสต์มาสก็คือคุณ ในที่นี้หมายความว่าตัวซานต้าเองนี่แหละ ที่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับเขา “เราต้องการฉลองครบรอบ 50 ปี ของการยกเลิกกฎหมายห้ามมีความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน” Monica Solberg ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Posten กล่าวถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังของโฆษณาที่มีผู้ชมผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าสองล้านครั้ง ซึ่งเธอบอกว่าประหลาดใจเป็นพิเศษกับผลตอบรับที่ดีและมากขนาดนี้ ทว่านอกจากคำชมแล้ว ไอเดียครีเอทีฟชิ้นนี้กำลังถูกวิจารณ์จากชาวนอร์เวย์และประเทศในแถบนอร์ดิก ความเห็นบางส่วนบอกว่านี่คือการล่วงละเมิดทางเพศกับซานตาคลอส หรือจงใจแสดงให้เห็นว่านอกใจภรรยาอย่าง Mrs. Claus ซึ่งในหลายพื้นที่ของโลกแนวความคิดเรื่องความรักในวันคริสต์มาสแบบเกย์ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ผลสำรวจบอกว่าชาวสหราชอาณาจักรไม่ยอมรับการที่ซานตาคลอสถูกนำเสนอหรือตีความให้แสดงความรักต่อเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในประเทศนอร์เวย์ ที่แต่เดิมการรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้ามและเป็นความผิดทางอาญาจนกระทั่งปี 1972 การมองว่าโฆษณาเรื่อง When Harry Met Santa เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจมากกว่าจะวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ซึ่งสะท้อนถึงทัศนคติที่ก้าวหน้าในด้านสิทธิ […]

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิกส์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง หมุดหมายสำคัญเทคโนโลยีสวมใส่

นักวิจัยพัฒนาแผงอิเล็กทรอนิสก์ยืดหยุ่นคล้ายผิวหนัง เป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับเทคโนโลยีสวมใส่ในอนาคต

คริสต์มาสนี้มีแต่รอยยิ้ม เบอร์ลินขายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง ช่วยให้คนผ่อนคลายและยิ้มได้ช่วงเทศกาล

คริสต์มาสคือเทศกาลแสนอบอุ่นที่คนทั่วโลกรอคอย ขณะเดียวกันก็เป็นเทศกาลแสนวุ่นวายในหลายประเทศยุโรป ผู้คนมักวิ่งวุ่นซื้อของขวัญจนนาทีสุดท้าย ทำให้หลายคนรู้สึกเหนื่อยล้าและหัวเสียไปตามๆ กัน  เพราะเหตุนี้ Berliner Verkehrsbetriebe (BVG) บริษัทขนส่งมวลชนในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี จึงปิ๊งไอเดียผลิตบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชง เพราะอยากให้ผู้คนฉลองคริสต์มาสแบบไม่เครียด และช่วยให้บรรยากาศโกลาหลผ่อนคลายลง บัตรรุ่นนี้สามารถกินได้ทั้งใบ เพราะมีส่วนผสมมาจากกระดาษกินได้ และโรยด้วยน้ำมันกัญชง (Hemp Oil) ไม่เกินสามหยด โดยน้ำมันกัญชงมีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และยังช่วยรักษาอาการวิงเวียนและปวดศีรษะได้ด้วย ทาง BVG อธิบาย “วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถเดินทางรอบเบอร์ลินได้ทั้งวันโดยไร้ความกังวล และคุณยังสามารถกลืนความเครียดช่วงคริสต์มาสไปพร้อมๆ กับตั๋วของคุณได้” ทั้งนี้ ทางบริษัทชี้แจงว่า น้ำมันผลิตจากเมล็ดกัญชงที่ปลอดภัยและเป็นมังสวิรัติ 100% สามารถกินได้เช่นเดียวกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันเมล็ดฟักทอง และน้ำมันมะกอก อีกทั้งยังไม่มีสารเสพติด เช่น แคนนาบิไดออล (CBD) และ เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ที่พบได้ใน ‘ต้นกัญชา’ บัตรประเภทนี้จึงไม่อันตรายและถูกกฎหมายแน่นอน (กัญชงและกัญชาคือพืชตระกูลเดียวกัน แต่คนละสายพันธุ์) BVG จำหน่ายบัตรโดยสารกินได้ผสมกัญชงระหว่างวันที่ 13 – 17 ธันวาคม 2021 […]

Lux Magazine นิตยสารเฟมินิสต์ที่เชื่อว่าชีวิตที่ดีเป็นของทุกคน

ถ้าพูดคำว่า ‘สตรีนิยม (Feminism)’ แล้วคุณนึกถึงอะไร? การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ การผลักดันให้เกิดสมรสเท่าเทียมที่กำลังเห็นในไทยตอนนี้ หรือการเพิ่มอัตราส่วนของผู้หญิงในองค์กร และตำแหน่งบริหารสูงๆ?  ประเด็นเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมในแนวทางสตรีนิยมทั้งสิ้น ในโลกนี้มีนิตยสารเกี่ยวกับผู้หญิงจำนวนมากและขายดีมากเสียด้วย แต่ส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาด้านความสวยงามและสุขภาพ น้อยนักที่จะชวนตั้งคำถามกับสิทธิที่ผู้หญิงควรได้รับ  Lux Magazine คือนิตยสารผู้หญิงภาษาอังกฤษราย 3 เดือนที่ไม่ได้อัปเดตว่าลิปสติกสีไหนกำลังมา เทรนด์แฟชั่นแบบไหนกำลังอิน ชวนคนอ่านตั้งคำถามว่า ‘สตรีนิยม’ จะก้าวหน้าและเปิดกว้างมากขึ้นได้หรือเปล่า? และพาไปหาคำตอบผ่านบทความ บทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษจากเรื่องราวของผู้หญิงที่น่าสนใจทั่วทุกมุมโลก  ทั้งการขับเคลื่อนเพื่อเรียกร้องสิทธิในที่อยู่อาศัย การทำแท้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การชุมนุมประท้วง การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานผ่านมุมมองเรื่องเพศ เหล่านี้เป็นสิ่งที่นิตยสารหน้าใหม่ไฟแรงนี้พยายามจะนำเสนอให้เห็นว่าล้วนเกี่ยวข้องกับสตรีนิยมทั้งสิ้น มีบทสนทนาตั้งแต่เรื่องหนักๆ อย่างการถกเถียงทฤษฎีสตรีนิยม ปรัชญาทางการเมือง ไปจนถึงบทสัมภาษณ์ชีวิตประจำวันของผู้หญิงทั่วไป แอ็กทิวิสต์ และคนชายขอบในสังคม เป็นนิตยสารนอกกระแสที่เปิดมุมมองและชวนตั้งคำถามกับชีวิตของผู้หญิงที่มาจากพื้นเพที่แตกต่างและหลากหลาย ชื่อนิตยสารว่า ‘Lux’ มาจากชื่อของโรซ่า ลักเซมเบิร์ก (Rosa Luxemburg) นักปรัชญาและนักปฏิวัติหญิงชาวเยอรมัน ผู้ต่อสู้ให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศคู่กับความเท่าเทียมทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน ในขณะเดียวกันคำว่า ‘Lux’ ก็อาจตีความได้ว่ามาจาก ‘Luxury’ ที่แปลว่าความหรูหรา ดังที่นิตยสารตั้งเป้าหมายไว้ว่า ‘นอกเหนือจากการมีชีวิตไปวันๆ เราปรารถนาให้ชีวิตมีความฟุ่มเฟือย หรูหราที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างถ้วนหน้า’ หากใครสนใจ ตามอ่านทางออนไลน์และสมัครเป็นสมาชิกนิตยสารได้เลยที่ […]

McDonald’s สาขาแรกในโลก ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และใช้พลังงานหมุนเวียน

ปัญหาโลกร้อนทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ตื่นตัวและแสดงความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ออกนโยบายและโครงการเพื่อลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศของโลกให้มากที่สุด ล่าสุดแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของโลกอย่าง McDonald’s ก็ร่วมรักษ์โลกด้วยการเปิดร้านอาหารสาขาแรกในสหราชอาณาจักร ที่ตัวอาคาร ‘ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์’ (Net Zero)  McDonald’s สาขานี้ตั้งอยู่ที่เมืองมาร์เก็ตเดรย์ตัน (Market Drayton) ประเทศอังกฤษ ผู้ออกแบบตัวอาคารคือบริษัทสถาปนิก Scurr Architects และได้บริษัทสถาปนิก AEW Architects มาร่วมออกแบบสถานที่ให้  ที่นี่คือ McDonald’s สาขาแรกในสหราชอาณาจักรที่ออกแบบได้ตรงตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร Net Zero ของ ‘สภาอาคารสีเขียวแห่งสหราชอาณาจักร’ (UKGBC) ที่กำหนดว่า อาคารที่เป็น Net Zero ต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศให้มากที่สุดตลอดอายุการใช้งาน ทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตวัสดุรวมถึงคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากทุกขั้นตอนการก่อสร้าง ตั้งแต่เปิดให้บริการ ไปจนถึงช่วงรื้อถอน  ร้าน McDonald’s สาขานี้ใช้วัสดุจากธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิลในการออกแบบ ผนังร้านหุ้มด้วยฉนวนขนแกะสายพันธุ์อังกฤษ แทนการใช้วัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น ส่วนผนังชั้นนอกสุดก็รีไซเคิลมาจากอุปกรณ์ไอทีและของใช้ในครัวเรือนที่มีสีขาว เช่น เครื่องพิมพ์ จอคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องล้างจาน  ป้ายภายในร้านทำมาจากเมล็ดกาแฟเหลือทิ้ง ซึ่งนี่คือตัวอย่างของ ‘Circular […]

ซัปพอร์ตแบรนด์โลคอลย่านนางเลิ้ง กับโปรเจกต์ถุงของขวัญปีใหม่ Nangloeng in the bag project

อีกไม่กี่วันจะปีใหม่แล้ว ใครที่กำลังมองหาของขวัญให้คนใกล้ตัวแต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เราขอแนะนำ Nangloeng in the Bag โปรเจกต์ถุงของขวัญสุดเก๋จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ย่านนางเลิ้ง ที่นอกจากจะไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเป็นการซัปพอร์ตผู้ประกอบการรายย่อยเข้ากับเทรนด์สังคมยุคนี้ด้วย โปรเจกต์ Nangloeng in the Bag ริเริ่มขึ้นโดย Urban Studies Lab ที่มีไอเดียอยากช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านอาหารและชุมชนในย่านนางเลิ้งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงกระจายรายได้สู่กิจการและชุมชนอื่นๆ ผ่านการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งการพิมพ์ การขนส่ง และบรรจุภัณฑ์จากกิจการต่างๆ ภายในย่านนางเลิ้ง  Urban Studies Lab มองว่าเป้าหมายของโปรเจกต์นี้คือ การโปรโมตเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของนางเลิ้งในมิติที่เป็นพื้นที่แห่งการเปลี่ยนผ่านระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับวัฒนธรรมร่วมสมัยโดยเฉพาะด้านอาหาร สถาปัตยกรรม และศิลปะประยุกต์ ในระยะเริ่มต้น Nangloeng in the Bag ได้ร่วมมือกับภาคีร้านค้าบริเวณพื้นที่บล็อกสามเหลี่ยม ถนนนครสวรรค์ ถนนจักรพรรดิพงษ์ และถนนนหลานหลวง ได้แก่ Dao Tu Fook (DTF), Embassy Coffee, Mamuang Cafe, Na Cafe, Nangloeng […]

1 77 78 79 80 81 120

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.