WHAT’S UP
The Bliss Sofa โซฟาชูชีพที่ไม่ได้ออกแบบให้นั่งสบาย แต่ให้ตระหนักถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
‘โซฟา’ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างความรู้สึกที่แสนสบายเวลานั่งหรือนอนเหยียดอย่างเต็มตัว แต่ถ้าให้นึกถึงการอยู่บนโซฟาระหว่างที่ลอยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมก็คงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก แถมโซฟาทั่วไปก็อาจจะจมน้ำไปก่อน ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงให้กับเจ้าของได้ เพราะเหตุนี้ ‘Mother’ บริษัทครีเอทีฟที่มีสาขาทั้งในลอนดอนและนิวยอร์กจึงเปิดตัว ‘The Bliss Sofa’ ชุดโซฟาลอยน้ำได้ที่มาพร้อมกับมาตรวัดระดับน้ำ ไฟฉุกเฉินในที่วางแขน และไม้พายที่เก็บไว้ในพนักพิงไม้ ซึ่งเกิดจากแนวคิดที่อยากเปลี่ยนโซฟาให้เป็นแพชูชีพได้ ดังนั้นโซฟาชุดนี้จึงหุ้มด้วยผ้า Sunbrella กันน้ำสีส้ม มาพร้อมกับสายรัดอเนกประสงค์สีดำแบบเดียวกันกับเสื้อชูชีพที่เราคุ้นตากัน หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ตัวเบาะที่ไม่ได้ยึดติดกับฐานไม้รีไซเคิลจะสามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ลอยน้ำได้ แถมตัวโซฟาชุดนี้ยังมาพร้อมกับเก้าอี้ทรงเหลี่ยมเข้าชุดที่สามารถเปิดออกและใส่สิ่งของต่างๆ อย่างเช่นอุปกรณ์ทำค็อกเทลสำหรับจิบระหว่างรอน้ำลดก็ได้ ‘Paul Malmstrom’ ผู้ก่อตั้ง Mother กล่าวว่า โซฟาชุดนี้เหมาะสำหรับบุคคลที่มีรายได้สูงที่ต้องการนั่งเอนหลังพักผ่อนเมื่อน้ำมา แม้ว่า Bliss จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมถึงคู่มือแนะนำเชิงเสียดสีว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้รู้สึก ‘ผ่อนคลาย’ ในขณะที่ลอยอยู่ในน้ำ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการให้ใครที่ได้ใช้โซฟารู้สึกผ่อนคลายระหว่างใช้งานจริงๆ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเหนือจินตนาการชุดนี้คือผลงานส่วนหนึ่งจากงาน New York Design Week ที่ออกแบบเพื่อเหน็บแนมไปพร้อมๆ กับสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน ทางบริษัท Mother มีแผนที่จะวางขาย The Bliss Sofa และจะนำรายได้บางส่วนไปบริจาคให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติอีกด้วย Source :Dezeen | tinyurl.com/mryztcf3
Read Cafe คาเฟ่ห้องสมุดในประเทศจีนที่ผสมผสานสารพัดเครื่องดื่มเข้ากับชั้นหนังสือ
ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดิจิทัลเข้ามาเขย่าโลก ส่งผลให้พฤติกรรมหรือการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป เพื่อต้องการคง ‘การอ่านหนังสือเล่ม’ ให้อยู่คู่กาลเวลาที่ไหลไปข้างหน้า ‘Read Cafe’ ในประเทศจีน จึงถูกออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ครบวงจรสำหรับการอ่าน การศึกษาหาความรู้ และเติมเต็มสุนทรียะแห่งการดื่ม มองจากภายนอก คาเฟ่สองชั้นแห่งนี้มีทางเข้าเป็นบล็อกสไตล์มินิมอลสีขาวบริสุทธิ์ ประดับด้วยโลโก้สีแดงเด่นคล้ายตราประทับที่อยู่ส่วนท้ายของปกหนังสือ ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะพบกับโลกของหนังสือมากมายที่จัดเรียงอยู่บนชั้นให้ได้หยิบอ่าน บรรยากาศในคาเฟ่แห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของสารพัดเครื่องดื่ม ที่ช่วยให้ผู้มาเยือนรู้สึกมีสมาธิและกระปรี้กระเปร่า ทั้งยังตกแต่งด้วยชั้นวางหนังสือสูงตระหง่านที่ล้อมรอบทั่วร้านในโทนสีเนื้อไม้ แซมด้วยความสุขุมของผนังสีเทา ผสมผสานกับความมั่นคงของเฟอร์นิเจอร์สเตนเลส ที่ช่วยให้การนั่งพักจิบเครื่องดื่มอร่อยๆ หรือละเลียดอ่านหนังสือเป็นได้ด้วยความสงบเรียบง่าย นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้ง Read Cafe ยังตั้งใจให้ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะที่ส่งเสริมให้ผู้คนเข้าสู่โลกมหัศจรรย์ของหนังสือ ซึ่งเป็นความรู้สึกและวัฒนธรรมแบบเก่าที่หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถทดแทนได้ Source :ArchDaily | bit.ly/3IyU0dH
ตกแต่งออฟฟิศให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วย Parthos เสาปูนดูดซับเสียง ทำจากเศษผ้าและพลาสติกรีไซเคิล
Narbutas แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สำหรับสำนักงานได้เปิดตัวเสาปูนดูดซับเสียงชื่อ ‘Parthos’ ลงในคอลเลกชันเฟอร์นิเจอร์ดูดซับเสียง นอกจากความแปลกใหม่ของการใช้งานแล้ว Parthos ยังถูกออกแบบให้เป็นของตกแต่งภายในสำนักงานที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน สำหรับการออกแบบเสาปูนทรงมินิมอลนี้ Narbutas เลือกใช้เศษผ้าและการหุ้มภายนอกด้วยสักหลาด PET ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้การดูดซับเสียงนั้นมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Parthos มีความสูงให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับ และสามารถใช้เป็นที่วางสิ่งของได้ เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งตัวเสาปูนให้เป็นแท่นชาร์จโทรศัพท์ หรือจะใช้เกี่ยวตะขอสำหรับแขวนเสื้อผ้าและกระเป๋าต่างๆ ได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ Parthos ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่หลากหลาย อีกทั้งยังควบคุมปริมาณเสียงในพื้นต่างๆ ได้อย่างดี ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่ารื่นรมย์และมีประสิทธิภาพ
เดบิวต์เป็นนักเขียนที่ Keangun.com เว็บไซต์การอ่านสำหรับคนตาบอด ที่คนตาดีก็เข้าไปอ่านและแชร์นิยายได้
ปัจจุบันมีเว็บไซต์นิยายออนไลน์จำนวนมากเปิดให้บริการ เพื่อให้นักอ่านสามารถอ่านเรื่องราวสนุกๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่เหล่านักอ่านที่ว่านั้นอาจไม่ได้ครอบคลุมถึงนักอ่านที่ตาบอดด้วย Urban Creature จึงอยากขอแนะนำ ‘เว็บไซต์บทความ เรื่องสั้น นิยาย เรื่องราวดีๆ : เขียนกัน.com keangun.com’ แพลตฟอร์มการอ่านที่พัฒนาโดยคนตาบอด มีจุดมุ่งหมายให้คนทุกกลุ่มสามารถใช้งานได้ โดยไม่ได้จำกัดแค่คนตาบอดหรือคนตาดีอย่างเดียว เว็บไซต์ ‘เขียนกัน’ เกิดขึ้นจากการที่แพลตฟอร์มการอ่านนิยายออนไลน์หลายเจ้าปรับโครงสร้างหรือหน้าตาของแพลตฟอร์มให้ทันสมัยขึ้น ทว่าสิ่งที่ตามมาคือ บางเว็บไซต์ที่คนตาบอดเคยใช้โปรแกรม Screen Reader อ่านนิยายได้ เมื่อมีการปรับปรุงใหม่ พวกเขากลับไม่สามารถใช้ตัวช่วยอ่านหน้าจอเพื่อเข้าถึงเนื้อหานิยายหรือใช้งานแพลตฟอร์มเหมือนเดิมได้ หรือถ้าทำได้ก็ค่อนข้างลำบาก ไม่ไหลลื่น รวมไปถึงเว็บไซต์ประจำที่ ‘ต่อ – สุริยันต์ สายชมภู’ ผู้พัฒนาและคนตาบอดอื่นๆ ใช้งานอยู่นั้นก็ไม่เอื้อต่อการอ่านสำหรับคนตาบอดอีกต่อไป ทำให้ต่อเริ่มทำเว็บ ‘เขียนกัน’ ขึ้นมา เพราะแม้ว่าเว็บไซต์อื่นจะเข้าถึงนิยายออนไลน์ไม่ได้ แต่ก็ยังมี ‘เขียนกัน’ ที่คนตาบอดจะสามารถเข้าถึงได้แน่ๆ เพราะเขาเป็นคนลงมือทำเองเกือบทั้งหมด ต่อบอกกับเราว่า ความยากของการทำเว็บไซต์นี้คือการออกแบบการใช้งาน ที่นอกจากต้องทำเว็บไซต์ให้คนตาบอดใช้งานได้ง่ายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสวยงามสำหรับผู้ใช้บริการที่เป็นคนตาดีอีกด้วย และแม้ว่าจะเริ่มต้นพัฒนาเว็บไซต์ด้วยตัวเองก็ตาม แต่หากมีส่วนไหนที่จำเป็นต้องใช้การออกแบบ ก็ต้องว่าจ้างคนทำเว็บจากข้างนอกมาช่วย และมีการทดสอบการใช้งานก่อนจะเปิดให้สมาชิกได้ใช้บริการ ปัจจุบันเว็บไซต์มีสมาชิกรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,400 คน […]
สุ่ม ‘กาชาปองแรกนาขวัญ’ จำนวนจำกัด ครั้งแรกของตลาดอาร์ตทอย วันที่ 28 พ.ค. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
จะเป็นอย่างไร หาก ‘พิธีแรกนาขวัญ’ ถูกเขย่ารวมกันกับ ‘อาร์ตทอย’ จนเกิดออกมาเป็น ‘กาชาปองแรกนาขวัญ’ ที่จะเปิดให้สุ่มกันเนื่องในโอกาสเดือนแห่งการเริ่มต้นการกสิกรรม หลังจากที่มีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญกันไปหมาดๆ ด้วยความพิเศษของกาชาปองที่ได้ 2 ศิลปินอาร์ตทอยมาร่วมออกแบบจนได้ออกมาเป็นกาชาปองแรกนาขวัญทั้งหมด 2 ชุดเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในพิพิธภัณฑ์ ดังนี้ 1) ชุดขบวนแรกนาขวัญ โดย Little Gods Studio ที่มีตั้งแต่พระยาแรกนา พระโคแรกนาขวัญ พระโคสำรอง เจ้าพนักงาน เจ้าพนักงานถือถาด ไปจนถึงเทพีหาบทอง-หาบเงิน2) ชุดพระโคเสี่ยงทาย โดย Playground Studio ที่มีพระโคให้เลือกถึง 2 แบบ กาชาปองแรกนาขวัญนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ครั้งที่ 5 และครั้งที่ 6 โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นอกจากจะมีการหมุนกาชาปองสุดพิเศษ ภายในงานยังมีการเสวนาวิชาการและบรรยายนำชมเรื่อง ‘พืช-พันธุ์-ธัญญาหาร จากโบราณวัตถุในมิวเซียม’ ในช่วงเช้า และการบรรยายและสาธิตเรื่อง ‘ข้าวหนม-ชาข้าว-เหล้าพื้นบ้าน’ ในช่วงบ่าย พร้อมทั้งเปิดตัว ‘ตลาดอาร์ตทอย’ ที่จะจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นพื้นที่แสดงผลงานและความสามารถของศิลปินอาร์ตทอย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเรื่อยมา […]
เปิดต้นตอปัญหาฝุ่นพิษในภาคเหนือกับ ‘Hazibition : นิทรรศการใต้ฝุ่นควัน’ ที่หอศิลปกรุงเทพฯ วันนี้ – 28 พ.ค. 66
ตอนนี้เวลาแหงนมองไปบนฟ้า เชื่อว่าหลายคนคงทำหน้าเหม็นเบื่อกันสุดๆ เพราะฝุ่นควันซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศปกคลุมเมืองอยู่ ทำให้การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือการใช้ชีวิตเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่สะดวกนัก ยิ่งกับโซนภาคเหนือที่มีทั้งไฟป่า เผาหญ้า ทำนา เลี้ยงสัตว์ การจราจร ฯลฯ ปัญหาฝุ่นควันยิ่งมีแต่ทวีความรุนแรงขึ้นจนมองวิวทิวทัศน์ภูเขาแทบไม่เห็น อย่างเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิกฤตที่หลายภาคส่วนล้วนพูดถึงและพยายามหาทางแก้ปัญหา เพราะบริเวณภาคเหนือตอนบนประสบปัญหาฝุ่นพิษข้ามพรมแดนที่พูดได้ว่าร้ายแรงที่สุดในรอบ 20 ปี โดยสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร ยังไม่นับรวมฝุ่นควันจากการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านอีก เช่น ตอนเหนือของ สปป.ลาว รัฐฉานของเมียนมา ที่ส่งผลให้ประชาชนกว่า 2 ล้านคนเผชิญผลกระทบทางสุขภาพและความเป็นอยู่ และอีกหนึ่งตัวการก่อมลพิษทางอากาศคือ อุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตและบริโภคเนื้อสัตว์เป็นจำนวนมาก ทำให้ความต้องการพืชเพื่อมาเป็นอาหารสัตว์มากตามไปด้วย และเมื่อต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ก็เกิดการรุกรานพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ให้ลดน้อยลง เช่น การรุกล้ำพื้นที่ป่าแอมะซอนเพื่อใช้ปลูกถั่วเหลือง หรือพื้นที่ป่าไม้ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงก็ถูกเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพด 10.6 ล้านไร่ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายพันล้านตันถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนและกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่ได้เสียที แม้ปัจจุบันค่าฝุ่น PM 2.5 ในเมืองจะลดน้อยลง หรืออากาศภาคเหนือได้กลับมาสดใสและมองเห็นภูเขาอีกครั้ง แต่เมื่อฤดูหมอกควันมาถึง ปัญหาก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเมื่อความเข้าใจที่มาของการเกิดฝุ่น ระบบทุนผูกขาด หรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนกับป่า เกษตรกร ชาวนา ยังไม่ถูกเชื่อมโยงเข้าหากัน ต้นตอสาเหตุเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในม่านหมอกต่อไป เพื่อทำความเข้าใจปัญหาของฝุ่น PM […]
บอกลาโพสต์อิทติดเต็มกำแพง Overture แป้นพิมพ์ที่มีฟังก์ชันจดบันทึกได้ ทำงานสะดวก ลดการใช้กระดาษฟุ่มเฟือย
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการพัฒนาอุปกรณ์หรือโปรแกรมสำหรับจดบันทึกข้อมูลที่เอื้อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ทุกครั้งที่มีเรื่องด่วนระหว่างประชุมหรือคุยโทรศัพท์ ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่คงเคยชินกับการคว้าเศษกระดาษหรือโพสต์อิทใกล้ตัวเพื่อบันทึกข้อความสำคัญให้ทันท่วงที ทว่าการใช้กระดาษถือเป็นต้นทุนที่สูงสำหรับหลายออฟฟิศ เพราะต้องซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เป็นประจำทุกเดือน หลังจากใช้งานเสร็จ กระดาษเหล่านี้ยังถูกขยำทิ้งหรือกลายเป็นขยะกองโตที่ทำให้โต๊ะทำงานดูรกและสกปรก ที่สำคัญ การใช้กระดาษอย่างสิ้นเปลืองยังเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมทางหนึ่ง เนื่องจากกระดาษส่วนใหญ่ล้วนทำมาจากทรัพยากรไม้ เพราะเหตุนี้ นักออกแบบอย่าง Jeong Woo Kim จึงปิ๊งไอเดียที่จะผสมผสานการจดบันทึกข้อมูลและระบบดิจิทัลเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็น ‘Overture’ แป้นพิมพ์ที่มีฟังก์ชันจดบันทึกข้อมูลในตัว ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานจดข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้กระดาษแม้แต่ใบเดียว Overture คือคีย์บอร์ดที่มีดีไซน์เรียบง่าย มีแป้นพิมพ์ตัวอักษรและแป้นพิมพ์ตัวเลขเหมือนคีย์บอร์ดทั่วๆ ไป แต่เมื่อไหร่ที่ต้องการจดบันทึกข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถเปิดแป้นพิมพ์ตัวเลขขึ้นมา ก็จะพบกับ Notepad สำหรับจดบันทึกทันที โดยข้อความที่จดลงบน Notepad ยังจะถูกบันทึกและแปลงเป็นไฟล์ภาพในคอมพิวเตอร์ให้อัตโนมัติด้วย Overture มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีกากี สีกรมท่า และสีงาช้าง นอกจากจะเป็นแป้นพิมพ์ที่สวยและน่าใช้งานแล้ว ฟังก์ชันของเจ้า Overture ยังถูกพัฒนาอย่างรอบคอบเพื่อแก้ Pain Point ของชาวออฟฟิศ และยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย Source : DesignWanted | t.ly/shDk
MONOLOGO Coffee ร้านกาแฟที่ต่อขยายจากโรงงานเก่า ในเขตพื้นที่คุ้มครองอุตสาหกรรมโรงงานของเมืองปักกิ่ง
หากใครมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปักกิ่งสักครั้ง ‘751D·PARK’ ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจาก 751D·PARK จะเป็นสถานที่ที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นแหล่งรวมความบันเทิงตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงละคร นิทรรศการการออกแบบ บาร์ดนตรี ไปจนถึงร้านหนังสือ 751D·PARK เองก็ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมของเขตอุตสาหกรรมที่เป็นที่ตั้งของอดีตโรงงานทั้งหมด 751 แห่งไว้ด้วยกัน หนึ่งในสถานที่ที่ต้องปักหมุดสุดๆ คือ ‘MONOLOGO Coffee’ ร้านกาแฟที่เบลนด์ตัวเองเข้ากับโรงงานเก่าได้อย่างลงตัวในพื้นที่ขนาด 375 ตารางเมตร จากการสร้างร้านกาแฟใหม่ครอบส่วนหนึ่งของโรงงานเก่า คล้ายเป็นการต่อขยายจากตัวโรงงานเดิมโดยไม่รบกวนหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่เดิมไปมากนัก คาเฟ่แห่งนี้อยู่ภายใต้การออกแบบของสตูดิโอออกแบบพื้นที่ทางสถาปัตยกรรมขนาดเล็กและขนาดกลาง ‘SpaceStation’ ที่ต้องการสร้าง MONOLOGO Coffee ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ทำลายรูปแบบของโรงงานเดิม และยังทำให้ผู้ใช้งานสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างของเก่าและของใหม่ได้ด้วย เพราะเมื่อเดินเข้าไปภายใน เราจะพบกับเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งจิบกาแฟชิลๆ อยู่ร่วมกับเตาเผาเก่าขนาดใหญ่ที่กระจายตัวอยู่ภายใน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าสู่พื้นที่อนุสรณ์ของย่านโรงงานในอดีตที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คนในเวลานั้น นอกจากนี้ SpaceStation ยังออกแบบให้ส่วนหน้าอาคารด้านทิศเหนือและทิศใต้เปิดโล่ง เพราะต้องการให้ MONOLOGO Coffee เป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะของเมืองที่เปิดให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้แวะพักเอนหลังสักครู่ ก่อนจะเดินทางไปดื่มด่ำศิลปวัฒนธรรมกันต่อใน 751D·PARK ตลอดทั้งพื้นที่ Sources : ArchDaily | t.ly/qMhrBeijing Tourism | t.ly/POSoxSpaceStation | t.ly/ev92
‘Design & Politics’ งานดีไซน์เพื่อการเลือกตั้งจากไต้หวัน ที่ช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
การเลือกตั้งที่ไทยจบลงไปแล้วกับชัยชนะของฝั่งประชาธิปไตย แต่หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจแต่เราอาจมองข้ามไปคือ การสร้างสรรค์ดีไซน์หรือฮาวทูต่างๆ ที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจการเลือกตั้งได้อย่างชัดเจนขึ้น เพราะก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจในกติกาหรือรายละเอียดการเลือกตั้ง จนกลายเป็นผลเสียตามมา Urban Creature ขอพามาดูตัวอย่างงานออกแบบการเมืองของประเทศไต้หวัน ที่พยายามใช้งานดีไซน์ทำให้ประชาชนเข้าใจการเลือกตั้งได้ง่ายขึ้น จาก ‘Golden Pin Design Award’ งานรางวัลการออกแบบที่มีชื่อเสียงที่สุดในตลาดการออกแบบแห่งไต้หวัน จีน มาเก๊า และฮ่องกง ที่ต้องการเปิดโอกาสและสนับสนุนงานออกแบบหลากหลายประเภทจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ไต้หวันมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกๆ 4 ปี โดยจัดสลับกันระหว่างสองการเลือกตั้งนี้ในทุกๆ 2 ปี แน่นอนว่าต้องมีการโปรโมตเพื่อหาเสียงเหมือนกับการเลือกตั้งในบ้านเรา และแนวคิดที่ชาวไต้หวันเลือกนำมาใช้คือการออกแบบการหาเสียงที่จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน หนึ่งในงานออกแบบการหาเสียงที่น่าสนใจคือ การเปิดช่องทางให้ประชาชนทั่วไปได้ทำความเข้าใจนโยบายของผู้สมัครเลือกตั้งในด้านต่างๆ เช่น นโยบายในประเทศ นโยบายต่างประเทศ ความมั่นคงของชาติ และระบบเศรษฐกิจ ผ่านการออกแบบฟังก์ชัน ‘ห้องแชตประธานาธิบดี’ โดย ‘Block Studio’ เพื่อเป็นช่องทางให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ เริ่มต้นจากการเลือกผู้สมัครที่สนใจ และระบบจะนำเราเข้าสู่ห้องแชตที่อธิบายนโยบายต่างๆ ในรูปแบบของบทสนทนาที่ใช้กันทั่วไป จากนั้นระบบจะประมวลผลจากการสื่อสารและนโยบายที่ผู้ใช้งานได้เลือกระหว่างสนทนาว่า พรรคไหนคือพรรคที่มีนโยบายตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด ซึ่งวิธีดังกล่าวนอกจากจะทำให้ประชาชนเข้าใจและเลือกนโยบายที่ตอบโจทย์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เลือกผู้สมัครที่มีวิสัยทัศน์ตรงกับตัวเอง โดยไม่ตัดสินจากตัวพรรคที่สังกัดอย่างที่เคยเป็นมา อีกหนึ่งการออกแบบคือ ‘คู่มือการเลือกตั้ง’ ซึ่งเป็นผลงานจาก ‘graphic room’ […]
Bolwoningen ที่อยู่อาศัยทรงกลมในเนเธอร์แลนด์ เรียบง่าย น้ำหนักเบา และราคาย่อมเยา
ว่ากันว่า หากล่องเรือไปตามเส้นทางเลียบคลองในประเทศเนเธอร์แลนด์ บนฝั่งเราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมรูปทรงแปลกตามีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจอยู่จำนวนมาก ทั้งเก่าแบบสไตล์เรเนซองส์จนถึงความใหม่ร่วมสมัย ความหลากหลายของที่อยู่อาศัยของชาวดัตช์ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสถาปัตยกรรมส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน อีกความแปลกใหม่ของที่อยู่อาศัยในเนเธอร์แลนด์ที่เราอยากพาไปชม นั่นคือ คอลเลกชันลูกแก้ว หรือที่อยู่อาศัยที่ชื่อว่า ‘Bolwoningen’ หากมองจากบนฟ้าเราจะเห็นว่ามันเหมือนลูกกอล์ฟหลายลูกวางอยู่บนสนามหญ้าที่ตั้งรวมกันเป็นชุมชนหนึ่งทางใต้ของแม่น้ำเมิซ (Meuse) กว่า 50 ลูก เป็นผลงานของ ‘Dries Kreijkamp’ ที่สร้างขึ้นเพื่อหาแนวทางการมีที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา Bolwoningen นั้นสร้างจากซีเมนต์และไฟเบอร์กลาสเสริมแรง มีฐานทรงกระบอกทำหน้าที่เป็นทางเข้าซึ่งเป็นพื้นที่เก็บของและพื้นที่อเนกประสงค์ เมื่อเข้าไปสู่ตัวเรือนทรงกลมซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 18 ฟุต ด้านบนจะเจอกับห้องครัว มีห้องนั่งเล่นซึ่งสามารถรองรับได้ถึงสองคน มีห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน และห้องนอนอยู่ด้านล่าง ประดับด้วยหน้าต่างทรงกลมที่ช่วยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านและสามารถเปิดออกได้เพื่อถ่ายเทอากาศ ลดความอบอ้าวของพื้นที่ปิด ตามความตั้งใจของผู้ออกแบบนั้น ต้องการให้โครงสร้างน้ำหนักเบาเหล่านี้สามารถโยกย้ายจัดเรียงใหม่ได้ไม่รู้จบ และต้องขนส่งได้ง่าย หากเป็นไปได้ก็อยากทำให้ที่อยู่อาศัยแห่งนี้ลอยอยู่บนน้ำได้อีกด้วย Dries Kreijkamp นักออกแบบสถาปัตยกรรมผู้ออกแบบที่อยู่อาศัย Bolwoningen แสนน่ารักน่าชังนี้ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2557 แต่ผลงานของเขายังคงอยู่บนโลกใบนี้เพื่อเป็นอีกทางเลือกของการสร้างสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย ยั่งยืน และราคาย่อมเยา Source :Architectural Digest | bit.ly/42PCr16
ได้ประดับบ้านแถมสร้างกลิ่นหอม ‘Bloom’ น้ำหอมปรับอากาศในต้นไม้ปลอมที่มีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว
ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาอยากให้บ้านหอมน่าอยู่ด้วยน้ำหอมปรับอากาศแบบเนียนๆ จนแขกที่มาเยี่ยมจับผิดไม่ได้ ขอนำเสนอ ‘Bloom’ น้ำหอมปรับอากาศสุดสดชื่นที่ซ่อนตัวอยู่ในกระถางต้นไม้ปลอมขนาดเล็ก ที่วางตรงไหนของบ้านก็แนบเนียนกลมกลืน Bloom เกิดจากการระดมทุนใหญ่ของ ‘P&G’ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลก ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักออกแบบ และนักประดิษฐ์ ที่ต้องการพลิกโฉมตลาดผลิตภัณฑ์น้ำหอมปรับอากาศให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดีพอๆ กับกลิ่นที่อยู่ภายใน จนสุดท้ายก็ได้ออกมาในรูปลักษณ์ของกระถางต้นไม้ปลอมสุดน่ารักที่มีชนิดพืชอวบน้ำให้เลือกถึง 4 สายพันธุ์ และน้ำหอมปรับอากาศภายในอีก 3 กลิ่น ได้แก่ Fresh Dewdrop, Lavender Fields และ Crisp Greenery โดยกลิ่นเหล่านี้จะถูกปล่อยอัตโนมัติออกมาทันทีเมื่อเซนเซอร์ตรวจพบว่ามีการเคลื่อนไหวภายในบริเวณใกล้เคียง และแสดงแสงสว่างบริเวณฐานตามการตรวจจับการเคลื่อนไหวในเวลากลางคืน นอกจากนี้ Bloom ยังใช้งานได้นานถึง 30 วันผ่านการชาร์จไฟด้วยสาย USB หนึ่งครั้ง และหากแคปซูลน้ำหอมภายในหมดลง เราก็แค่ซื้อน้ำหอมแบบรีฟิลมาเติมเองได้ง่ายๆ ในราคาเพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 168 บาท) ใครสนใจอยากมี Bloom ติดบ้านไว้สร้างบรรยากาศและกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ในราคา 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,350 […]
รู้จักบุคลิกภาพของตัวเองให้มากขึ้นผ่านแบบทดสอบ Find Your Muse เว็บไซต์หาภูตประจำตัวสุดน่ารัก
หากอยากรู้จักบุคลิกภาพของตัวเองให้มากขึ้น นอกจากการทำ MBTI ที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว ก็ยังมีอีกวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เราค้นพบตัวตนที่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ผ่านการทำแบบทดสอบตอบคำถามร่วมกับ ‘Find Your Muse’ เว็บไซต์สุดน่ารักของ Senior Project คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ที่จะพาเราไปสำรวจตัวเองเพื่อเรียนรู้บุคลิกภาพแบบละเอียดอ่อนสูง (Highly Sensitive) และค้นหาภูตประจำตัว ‘คำถามต่อไปนี้ไม่ใช่แบบทดสอบทางจิตวิทยา เป็นเพียงข้อคำถามที่ใช้ในการสังเกตตนเองเท่านั้น’ เมื่อกดเข้าเว็บไซต์ไป เราจะเจอกับข้อความนี้ที่เน้นย้ำถึงความตั้งใจของ ‘Find Your Muse’ และถ้าพร้อมทำแบบทดสอบแล้ว เราก็แค่ใส่อายุ เพศ เชื้อชาติ และทำตามขั้นตอนต่อไป ภายในเว็บไซต์ เราจะได้พบกับคำถามช่วงแรกที่จะมาวัดความรู้สึก และชวนให้คะแนนว่าเรารู้สึกอย่างไรกับประโยคคำถามเหล่านั้น เช่น ‘ในวันที่ยุ่ง คุณรู้สึกอยากจะปลีกตัวไปนอนบนเตียงหรือไปยังสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัว เพื่อบรรเทาจิตใจจากความวุ่นวาย’, ‘คุณชอบที่จะคิดอย่างละเอียดลออ รวมถึงมองเรื่องราวต่างๆ ในหลายๆ มุม’, ‘คุณจะรู้สึกรำคาญใจเวลามีคนพยายามให้คุณทำหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน’ หรือ ‘คุณจะรู้สึกกระวนกระวายใจเวลาที่มีความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นในชีวิต’ เมื่อให้คะแนนความรู้สึกต่อคำถามทั้งหมดแล้ว เว็บไซต์จะพาไปตามหาภูตประจำตัวที่เหมาะกับตัวตนของเราผ่านคำถามต่างๆ ที่คราวนี้เราจะตอบได้หลายคำตอบมากขึ้นตามต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ‘ในวันที่ยุ่งมากคุณมักจะรู้สึกอย่างไร’, ‘ข้อดีของคุณที่คนอื่นมักพูดถึง’, ‘สิ่งที่มักจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเสมอ’ หรือ […]