แอบเล่นมือถือในสภา โดน AI แฉแน่! ซอฟต์แวร์ติดแท็กนักการเมืองเบลเยียม ใครอู้งาน โพสต์คลิปลงโซเชียลทันที

ไม่ว่าจะนายกฯ รองนายกฯ คณะรัฐมนตรี หรือ ส.ส. ในสภา ถ้าคุณแอบเล่นมือถือ หรืออู้งานเมื่อไหร่ จะโดนแท็กถามทันทีว่า “โฟกัสกับงานหน่อย!” พร้อมแนบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอลงทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ให้ประชาชนได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศเบลเยียม The Flemish Scrollers คือซอฟต์แวร์ติดแท็กสัญญาณโทรศัพท์ และจดจำใบหน้านักการเมืองที่กำลังง่วนกับการเล่นมือถือขณะประชุมสภาของรัฐบาลเฟลมิชด้วย AI ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ช่อง Vlaams Parlement หากตรวจพบว่าใครกำลังแอบเล่นมือถือ คลิปวิดีโอจะถูกดึงออกมาโพสต์ในบัญชีทวิตเตอร์ The Flemish Scrollers และอินสตาแกรม @theflemishscrollers โปรเจกต์นี้เป็นผลงานของสปีกเกอร์และนักพัฒนา AI อย่าง Dries Depoorter ที่สร้างซอฟต์แวร์นี้ด้วยภาษาโปรแกรม Python และใช้การเรียนรู้ของเทคโนโลยีเพื่อตรวจจับโทรศัพท์และจดจำใบหน้าเพื่อระบุตัวนักการเมือง โดยซอฟต์แวร์นี้เพิ่งเริ่มทำงานครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 2021 โดยรองนายกรัฐมนตรีอย่าง Bart Somers และ รัฐมนตรีอย่าง Jan Jambon ก็โดนแท็กถามถึงพฤติกรรมแอบเล่นมือถือระหว่างประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ Source : […]

โควิด-19 วิกฤตแต่สุขภาพจิตต้องดี กรมสุขภาพจิตรุกลงพื้นที่แก้ความเครียดให้ระบายความอัดอั้นใน Sati App

ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ปัญหา ทั้งสภาพแวดล้อม ฝุ่นควัน การเมืองที่ดุเดือด และโควิด-19 ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ดีขึ้นเลย เหล่านี้อาจจะทำให้คุณเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไร อยากระบายออกไปให้ใครสักคนฟัง! กรมสุขภาพจิตเล็งเห็นปัญหาตรงนี้จึงร่วมมือกับ HR ของบริษัทต่างๆ รวมทั้งกลุ่มจิตอาสาที่ผ่านการอบรมจากกรมสุขภาพจิตแล้ว ลงพื้นที่เชิงรุกเพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่เกิดภาวะเครียดสะสม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่รู้สึกหมดหวัง กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว หรือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ให้ก้าวข้ามผ่านปัญหาไปได้ หากใครไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวแต่อยากขอคำปรึกษา กรมสุขภาพจิตยังมี ‘Sati App’ แอปพลิเคชันที่มีกลุ่มผู้ฟังอาสาที่ผ่านการอบรม ‘การฟังอย่างเห็นอกเห็นใจ’ พร้อมเป็นพื้นที่ให้คุณระบายความคับคั่งในใจ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดเรื่องใดก็ตาม หากคุณต้องการคนรับฟัง ผู้ฟังอาสาเหล่านี้จะฟังทุกเรื่องของคุณโดยไม่ตัดสิน เพราะเชื่อว่าการเยียวยาจิตใจที่ดีที่สุดคือการใช้ใจรับฟัง เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปฯ สร้างบัญชีโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อจริง ระบบจะนำคุณไปที่หน้า ‘คุย’ และเชื่อมต่อกับผู้ฟังอาสาที่พร้อมจะรับฟังคุณ หรือถ้าใครสนใจเป็นผู้ฟังอาสาก็สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ https://www.satiapp.co/th/  ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้แล้วทั้งใน Google Play และ App Store Sources : FM91 BKK | https://www.fm91bkk.com/fm-91-103704กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข | https://www.facebook.com/THAIDMH/

ชีวิตดีๆ ที่ลงตัวสวนสัตว์สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนให้หมี เฟอร์เร็ต เสือ สิงโต ฯลฯ แม้ยังไม่ติดโควิด-19 แต่กันไว้ก่อน

ได้ฉีดวัคซีนว่ายากแล้ว ได้วัคซีนดีๆ นั้นคงต้องรอปาฏิหาริย์ แต่สำหรับเหล่าสัตว์ในสวนสัตว์โอ๊คแลนด์ สหรัฐอเมริกาแค่อยู่เฉยๆ ก็มีคนมาฉีดวัคซีนให้ถึงที่! เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาสวนสัตว์ซานดิเอโกได้เริ่มฉีดวัคซีนในสัตว์จำพวกลิง (Primates) หลังเชื้อโควิด-19 ระบาดในฝูงกอริลรา สัปดาห์นี้สวนสัตว์โอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอเนียร์ จึงเร่งฉีดวัคซีนให้สัตว์ในสวนสัตว์เพื่อรักษาพันธุ์สัตว์ให้อยู่ต่อไป โดยเริ่มจากเจ้าเสือสองตัว จินเจอร์และมอลลี่ และสัตว์อื่นๆ ตามมาอย่างหมีกริซลี สิงโตภูเขา เฟอร์เร็ต ลิง และหมู  วัคซีนนี้ได้รับบริจาคมาสำหรับทดลองใช้งาน จากบริษัทโซเอทิส ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ บริษัทผลิตและพัฒนายาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ บริษัทนี้ได้บริจาควัคซีนกว่า 11,000 โดสให้กับสวนสัตว์ในสหรัฐฯ รวม 70 แห่ง และบริจาคให้ศูนย์อนุรักษ์ ศูนย์พิทักษ์สัตว์ สถาบันการศึกษา และองค์กรของภาครัฐหลายแห่งใน 27 รัฐอีกด้วย แม้สัตว์เหล่านี้จะยังไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะทางสวนสัตว์มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ระหว่างเจ้าหน้าที่และสัตว์ และให้เจ้าหน้าที่ดูแลสวมชุดป้องกันอย่างดีเมื่อเข้าใกล้สัตว์ที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายเช่น สัตว์จำพวกลิงไม่มีหาง (Apes) และสัตว์ในวงศ์เสือและแมว (Felines) การฉีดวัคซีนครั้งนี้จึงเป็นเพียงการ ‘ป้องกันไว้ก่อน’ ไม่ใช่แค่สัตว์ในสวนสัตว์เท่านั้นที่เสี่ยงติดเชื้อหรือติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัข หรือแมวก็ติดเชื้อโควิด-19 ได้เช่นกัน […]

RIP ร่วมวางดอกไม้จันทน์ให้ตัวละครที่ตายจากมังงะเรื่องโปรด ณ สุสานในนิทรรศการ 2 D Afterlife

‘2 D Afterlife’ นิทรรศการจากศิลปนิพนธ์ของ จิณห์นิภา นิวาศะบุตร ผู้จัดงานไว้อาลัยให้การ์ตูนตัวโปรดที่ตายเป็นงานศิลปะ

จุดจบสายปลาส้ม หลังอาร์เจนตินา ห้ามทำฟาร์มแซลมอนเป็นที่แรกของโลก เพราะห่วงสิ่งแวดล้อม

ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกไว้เลยว่า ‘อาร์เจนตินา’ เป็นประเทศแรกของโลกที่ออกกฎหมายห้ามทำฟาร์มแซลมอนบริเวณช่องแคบบีเกิล โดยรัฐสภาของรัฐเตียร์ราเดลฟวยโก (Tierra del Fuego) หมู่เกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศมีมติในเรื่องนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ การทำฟาร์มแซลมอนเป็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อใช้ในทางพาณิชย์ที่ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศในหลายด้าน เพราะแซลมอนไม่ใช่สัตว์พื้นถิ่นของแหล่งน้ำบริเวณนั้น แค่การนำสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาก็ส่งผลกระทบต่อจำนวนสัตว์พื้นถิ่นอื่นๆ แล้ว ทั้งยังต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงดูเพื่อให้แซลมอนแข็งแรง สารเคมีจากยาแพร่กระจายในน้ำเป็นวงกว้าง รบกวนระบบนิเวศโดยรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่แค่สัตว์และระบบนิเวศได้รับผลกระทบเท่านั้น ผู้อยู่อาศัยที่มีวิถีชีวิตเชื่อมโยงกับระบบนิเวศของ Tierra del Fuego มาอย่างยาวนานก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน การตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลจึงถือเป็นการตระหนักประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้การปฏิเสธการทำฟาร์มแซลมอนบริเวณช่องแคบบีเกิลในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าฟาร์มแซลมอนทุกแห่งในอาร์เจนตินาที่ดำเนินกิจการอยู่จะต้องปิดตัวลง แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่มีความหมายอย่างมากต่อทรัพยากรธรรมชาติของโลก เพราะ Tierra del Fuego เป็นหมู่เกาะที่มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งที่สมควรได้รับการอนุรักษ์ไว้ การออกกฎหมายในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตระหนักถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทั้งยังเป็นต้นแบบให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างชิลี ที่มีปัญหาเรื่องการทำฟาร์มแซลมอนเช่นเดียวกัน Sources : Patagonia works | https://tinyurl.com/2ephr8u6The Fish Site | https://tinyurl.com/72cz4x49

ทางออกวิกฤตเตียงล้นกรุงเทพฯ โครงการ ‘Back Home’ พาคนติดโควิดกลับบ้านเกิด

ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นทุกวันสวนทางกับจำนวนเตียงว่างรองรับผู้ป่วยในกรุงเทพฯ คนที่จะมาช่วยบรรเทาปัญหาในครั้งนี้ก็คงไม่พ้น ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ นักข่าวขวัญใจชาวไทยอีกเหมือนเคย ที่ร่วมมือกับหลายฝ่ายเริ่มโครงการ ‘Back Home’ ประสานหาพาหนะพาผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ไอเดียนี้ริเริ่มจาก ‘ศ. นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า’ อายุรแพทย์ระบบประสาท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม หอพักหญิงที่ 26 จังหวัดขอนแก่น ที่อยากให้ระบบการส่งต่อผู้ป่วยโควิดที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้กลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัดซึ่งยังพอรองรับผู้ป่วยได้ โดยเห็นว่าการให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดเป็นประโยชน์ต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยเอง และเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ด้วย โครงการนี้ได้ความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งรายการ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ เพจ ‘เราต้องรอด’ เพจ ‘หมอแล็บแพนด้า’ และอีกหลายองค์กรที่ช่วยประสานหาเตียงและพาหนะที่ได้มาตรฐานในการขนย้ายผู้ป่วยข้ามจังหวัด  ผู้ป่วยที่เคลื่อนย้ายได้ต้องอยู่เฉพาะในกลุ่มสีเขียวหรือสีเหลืองอ่อนเท่านั้น และต้องได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นจากแพทย์ก่อนเคลื่อนย้าย โดยเริ่มจากติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ของ ‘Back Home’ ก่อนถึงจะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อประเมินอาการ และติดต่อไปยังโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามในจังหวัดปลายทางเพื่อจัดหาเตียง ทั้งนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการนำตัวผู้ป่วยออกจากกรุงเทพฯ ที่เป็นพื้นที่สีแดง และการกักตัว 14 วันเมื่อเข้าถึงพื้นที่ปลายทาง โครงการ ‘Back Home’ จึงต้องประสานกับทางกรุงเทพฯ และภาครัฐต่อไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสูงสุด ผู้ป่วยโควิดที่ต้องการเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนาสามารถติดต่อโครงการนี้ที่  Line : @backhome หรือโทร […]

Alcohol is not a crime พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่ ห้ามร้านเหล้าโฆษณาเหล้า คนดื่มก็ถูกปรับ

กรมควบคุมโรคแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ เพื่อให้การโฆษณาแอลกอฮอล์ถูกเปลี่ยนเป็นเชิงสร้างสรรค์สังคม และสนับสนุนการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการและร้านค้ารายย่อย ไม่ว่าจะผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทใด กำลังเผชิญและถกเถียงกันในตอนนี้คือ หากร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับนี้ ‘ผ่าน’ มติ อาจถึงคราวอวสานเสรีภาพในวงการนักดื่ม เช่น 1. มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด 2. มาตรา 34(4) เจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่สามารถยึดหรืออายัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือผู้ขายที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ  3. มาตรา 43 ฝ่าฝืนถูกโทษจำคุกจาก 1 ปี เป็น 2 ปี หรือโทษปรับ จากสูงสุด 5 แสนบาท เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท เพิ่มโทษปรับรายวันเป็นวันละ 5 หมื่นบาท จากเดิมที่วันละ 1 หมื่นบาท  4. และหาก […]

Pulitzer มอบรางวัลให้สถาปนิกผู้ใช้ Street View เปิดโปงข้อมูลการสร้าง ค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน

Pulitzer Prizes รางวัลเกียรติยศของคนทำงานในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ มอบรางวัลให้ Alison Killing สถาปนิกชาวอังกฤษ ในสาขา International Reporting จากหัวข้อข่าวการเปิดโปงการสร้างค่ายกักขังชาวมุสลิมจำนวนมากที่ประเทศจีน จุดเริ่มต้นของรายงานการเปิดโปงฉบับนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ Alison ได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปการสืบสวนสอบสวนออนไลน์ เธอได้พบกับนักข่าวจาก BuzzFeed ชื่อ Megha Rajagopalan ผู้เคยไปเยี่ยมค่ายกักกันแห่งหนึ่งที่ประเทศจีน แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าไปทำข่าวที่จีนอีกต่อไป จากความสนิทสนมระหว่างเวิร์กช็อปทำให้ทั้งสองตกลงที่จะสืบสวนเรื่องนี้จากระยะไกลต่อไป เธอนำเอาเครื่องมือที่ใช้อย่าง Street View ของเว็บไซต์ Baidu ในลักษณะเหมือน Google Maps มาใช้อ้างอิงเสาะแสวงหาไปยังพื้นที่ต่างๆ บนแผนที่ประเทศจีน สิ่งที่พบคือมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างขนาดใหญ่อาทิโรงเรียน โรงพยาบาล บ้านพักคนชราในรอบสามปี ไม่ว่าจะเป็นการขึงผ้าใบอุตสาหกรรมที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน หรือการล้อมพื้นที่ด้วยลวดหนาม และพบความผิดปกติอื่นๆ เช่นไม่สามารถดูบางจุดบน Street View ได้ เหมือนถูกถอดออกจากภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงการได้สัมภาษณ์อดีตนักโทษที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันถึงชีวิตความเป็นอยู่ภายในค่าย ยิ่งชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงและหลักฐาน ที่รัฐบาลจีนกระทำความรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม และยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามปกปิดข้อมูลบางอย่างของรัฐบาลจีน ที่ไม่อยากให้ประชาชนโลกได้รับรู้

คุณพ่อจิตรกรญี่ปุ่นคืนไฟศิลปินให้ตัวเอง ด้วยการแกะสลักเรื่องราวของลูกสาว เป็นของขวัญวันเกิดเธอทุกๆ ปี

เรื่องราวแสนอบอุ่นเริ่มต้นเมื่อ 12 ปีก่อน Tomoaki Ichikawa จิตรกรชาวญี่ปุ่น ผู้ผิดหวังกับผลงานศิลปะที่ผ่านมาในช่วงชีวิตของเขา แต่อีกหนึ่งบทบาทของการได้เป็น ‘พ่อ’ กลับทำให้เขามีไฟและมีกำลังใจในการสร้างผลงานศิลปะอีกครั้ง เมื่อ Ichikawa หันไปมองลูกสาวในวัยเกือบขวบปี เขาจึงอยากมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเธอชิ้นหนึ่ง จึงเริ่มแกะสลักไม้ให้กลายเป็นรูปร่างของลูกสาวตัวน้อยเป็นครั้งแรก เพื่อบันทึกความเปลี่ยนแปลงของลูกสาวผ่านผลงานของเขา ซึ่งทำต่อเนื่องมาแล้วกว่า 12 ปี โดยตุ๊กตาแต่ละตัวถูกแกะสลักอย่างประณีตด้วยหัวใจของคุณพ่อที่มีต่อลูกสาวเรื่อยมา ความน่าสนใจคือเหล่าคาแรกเตอร์ของตุ๊กตาในแต่ละปีจะแตกต่างกัน เพื่อสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของลูกสาวในปีนั้นๆ ยกตัวอย่างในปีที่ลูกสาวอายุครบ 7 ขวบ เธออยากได้แมวน้อยสักตัว คุณพ่อจึงรังสรรค์แมวให้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของผลงาน หรือในวันเกิดปีที่ 11 เป็นช่วงเวลาที่เธอต้องเฉลิมฉลองวันเกิดท่ามกลางการแพร่ระบาดใหญ่ คุณพ่อจึงดีไซน์หมวกใบพิเศษที่มีรูปร่างเหมือนสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ครึ่งปลา ครึ่งคนที่ชื่อว่า ‘Amabie’ ปีศาจจากนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่มีความเชื่อว่าสามารถพยากรณ์โรคระบาด และปกป้องผู้คนจากโรคภัยไข้เจ็บได้  กลายเป็นเรื่องราวแสนอบอุ่นที่คุณพ่อได้บันทึกเรื่องราวสำคัญในชีวิตของลูกสาวด้วยมือของตัวเอง และมากไปกว่านั้นในฐานะจิตรกรเขายังได้เห็นถึงพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของตัวเองในแต่ละปีเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาหวังว่าจะได้แกะสลักชีวิตและเรื่องราวของเธอไปจนกว่าเขาจะหมดเรี่ยวแรงทำมัน Source : Vice | https://bit.ly/3jBSv2A

มนุษย์ต่างดาวก็เป็นลูกค้า IKEA ได้ IKEA ออกคู่มือประกอบเฟอร์นิเจอร์ เป็นภาษาเอเลี่ยน

ทุกครั้งที่เห็นข่าวการค้นพบร่องรอยประหลาดบนโลก หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น หลายสันนิษฐานก็ชี้กันว่า หรือมนุษย์ต่างดาว ‘อาจ’ จะมีจริง เอ้อ งั้นลองคิดเล่นๆ สิว่าถ้ามีจริงขึ้นมา พวกมันจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ยังไง IKEA สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่รอช้า จับมือทีมออกแบบประจำ Ogilvy ประเทศดูไบ สร้างคู่มือการประกอบเฟอร์นิเจอร์สำหรับมนุษย์ต่างดาวโดยเฉพาะ ในโปรเจกต์ #furnitureforall ที่มีทั้ง POÄNG เก้าอี้ไม้บุนวมรูปทรงโค้งมน ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่อิเกียวางขายมากว่า 40 ปี ตู้หนังสือ และเตียง โดยนักออกแบบได้แปลคู่มือประกอบเฟอร์นิเจอร์เป็นภาษาเอเลี่ยน และมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นพลเมืองใหม่บนโลก เช่น การเตือนไม่ให้ขนชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาใหม่ขึ้นบนยานอวกาศด้วยตัวเอง แต่ให้ใช้บริการรถเดลิเวอรีจากทาง IKEA ดีกว่า จะได้ไม่พัง (น่ารักเชียว) หรือรายละเอียดการประกอบชิ้นส่วนตู้หนังสือไว้ให้ชาวเอเลี่ยนสะสมความรู้เกี่ยวกับมนุษยชาติ เป็นต้น “ในกรณีที่มนุษย์ต่างดาวย้ายมายังโลกของเราจริงๆ เราต้องการช่วยให้พวกเขาสร้างบ้านในฝันใหม่ได้อย่างง่ายดายบนโลกนี้” IKEA กล่าว Source : Designboom | https://bit.ly/2UNpSW2

ญี่ปุ่นปลุกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นพ่อให้กลับมาทำงานอีกครั้งหวังลด CO2 แต่ ปชช.กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้หลายๆ ประเทศทั่วโลกประกาศที่จะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฯ ซึ่งรวมถึง ‘ญี่ปุ่น’ เองก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตัดสินใจจะปลุกเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อายุกว่า 44 ปีให้มันกลับขึ้นมาผลิตไฟฟ้าอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนฯ ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050! เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์มาฮิมะหมายเลข 3 ในจังหวัดฟุกุอิได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากได้รับการอนุมัติเป็นการพิเศษจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) เพราะปกติแล้วกฎหมายได้กำหนดให้โรงงานนิวเคลียร์ปฏิบัติการได้ไม่เกิน 40 ปี โดยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์มาฮิมะนี้อยู่ในความดูแลของโรงงานไฟฟ้าคันไซ ที่สัญญาว่าจะตรวจสอบและควบคุมการทำงานของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่กลับมาทำงานใหม่นี้อย่างระมัดระวัง  โดยญี่ปุ่นกล่าวว่า การกลับมาใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาปัญหาด้านพลังงานสำรองลดลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ แต่เพราะเครื่องปฏิกรณ์นี้เป็นหน่วยแรกที่มีอายุมากกว่า 40 ปีที่ได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งทำให้พลเมืองชาวญี่ปุ่นบางกลุ่มกังวลและไม่พอใจเกี่ยวกับความปลอดภัย จนยื่นฟ้องเพื่อขอให้หยุดการทำงานของเครื่องปฏิกรณ์ เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานที่ไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอายุเกินมาตรฐานนี้กลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะกลัวว่าจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับเหตุการณ์โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่จังหวัดฟุกุชิมะเมื่อปี 2011 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200,000 คน Sources :Insider | https://tinyurl.com/7n5epjhyVice World News | https://tinyurl.com/5sfs2et9

1 112 113 114 115 116 131

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.