Food Waste Crayons โดย LUKYANG Studio เปลี่ยนขยะเศษพริกป่น กระเจี๊ยบ ใบเตย ให้กลายเป็นสีเทียนรูปทรงน่ารัก ใช้งานได้จริง

จากการประกาศรางวัล DEmark หรือ Design Excellence Award 2025 สิ่งหนึ่งที่เราสะดุดตามากคือ Food Waste Crayons หรือสีที่ทำมาจากขยะอาหาร ของ LUKYANG Studio เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า เมืองของเรากำลังประสบปัญหาขยะอาหารล้นเมือง โดยจากผลสำรวจของ Food Waste Index คนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ยคนละ 86 กิโลกรัมต่อปี LUKYANG Studio Co., Ltd. สตูดิโอออกแบบผลิตภัณฑ์รักษ์โลก (Eco Product Design Studio) จึงคิดไอเดียการทำสีเทียนจากเศษอาหาร หรือ Food Waste Crayons ที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นโปรดักต์ดีๆ ใช้งานได้จริง เริ่มต้นจากการทดลองทำสีจากของในบ้าน เช่น กาแฟ ดอกไม้แห้งต่างๆ ก่อนนำมาผลิตเป็นสีเทียนจากเศษอาหารและสมุนไพรไทย พอได้กรรมวิธีการผลิตที่พอใจแล้วก็นำวัตถุดิบต่างๆ มาผ่านกระบวนการแปรรูปผสมกับขี้ผึ้งแล้วขึ้นเป็นสีเทียนแท่ง โดยมีสีสันต่างกันไปตามวัตถุดิบที่น่าสนใจในช่วงเวลานั้นๆ ยกตัวอย่าง พริกป่น ให้โทนสีแดงและส้ม ใบเตย ให้โทนสีเขียว ฟักทอง ให้โทนสีเหลือง […]

Bosco Verticale และย่าน Isola ป่าแนวตั้งและพื้นที่สาธารณะของเมือง ที่ตั้งใจออกแบบให้คนออกมาใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น

ช่วงนี้งานออกแบบตึกหรือโครงการใหม่ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศมักมีพื้นที่สีเขียว หรือต้นไม้ประดับไว้ เพื่อเติมธรรมชาติให้กับเมืองอยู่เสมอ ย่านอีโซลา (Isola) ในมิลาน ประเทศอิตาลีก็เช่นกัน ด้วยการผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองและพื้นที่สีเขียวร่วมสมัย ด้วยป่าแนวตั้งหรือ ‘Bosco Verticale’ ตึกสูงที่มีต้นไม้และพุ่มไม้เติบโตบนระเบียง โดยไม่ใช่เพียงเถาวัลย์หรือกิ่งไม้เกาะไว้เพื่อความสวยงามเฉยๆ แต่เป็นต้นไม้กว่า 800 ต้น พืช 15,000 ต้น และพุ่มไม้อีก 5,000 ต้น ที่สีและการเจริญเติบโตจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อาคารนี้อยู่ใกล้กับหอคอยและแบรนด์ดังมากมายในย่านปอร์ตา นูโอวา (Porta Nuova) และสวนสาธารณะ BAM (Library of Trees) หรือห้องสมุดต้นไม้ที่ช่วยเชื่อมย่านวัฒนธรรม การค้า และพื้นที่สาธารณะสีเขียวเข้าไว้ด้วยกัน ย่านอีโซลามักเป็นที่นิยมของหนุ่มสาวและคู่รักที่มาใช้เวลาดื่มกาแฟ ค็อกเทล หรือลิ้มรสพิซซาแบบดั้งเดิม ทำให้บรรยากาศของย่านนี้คึกคักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่นอกจากจะเป็นสถานที่ฮิตของวัยรุ่นแล้ว ที่นี่ยังเป็นย่านวัฒนธรรม มีร้านหนังสือ โรงละคร รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะมีสมาคมสิ่งแวดล้อม สวนชุมชนอย่าง Isola Pepe Verde และสถานที่ซ่อมจักรยานที่คนในเมืองเรียนรู้การซ่อมได้ด้วยตัวเอง อีกหนึ่งความพิเศษของย่านนี้คือ ถนน Via Borsieri […]

ส่งหนังสือที่อ่านจบแล้วกลับขึ้นชั้นวางอีกครั้ง ‘Reshelf’ เว็บไซต์ซื้อขายหนังสือมือสอง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางแบ่งปันเล่มโปรดให้เหล่านักอ่าน

มีหนังสือมือสองอยากส่งต่อ แต่ไม่รู้จะขายที่ไหน ลองเอาไปขายที่เว็บไซต์ ‘Reshelf’ ดูสิ Reshelf คือแพลตฟอร์มตัวกลางซื้อขายหนังสือมือสองน้องใหม่ แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ได้รับผลตอบรับจากเหล่านักอ่านเป็นอย่างดี ด้วยฝีมือของ ‘จีน่า-จิระชญา เศวตวาณิชกุล’ และทีม จีน่าเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเว็บไซต์ Reshelf มาจากการที่เธอพบว่าการขายหนังสือในกองดองเพื่อซื้อหนังสือใหม่เป็นเรื่องยาก และการซื้อหนังสือมือหนึ่งโดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ครั้นจะให้ซื้อหนังสือมือสองผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็ไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกไหม สุดท้ายจีน่าเลยออกแบบเว็บไซต์ตัวกลางในการซื้อขายหนังสือด้วยตัวเอง ผ่านการหยิบเอาเพนพอยต์ที่ตัวเองเจอ ผสมรวมกับความคิดเห็นและฟีเจอร์อื่นๆ ที่เหล่าหนอนหนังสือที่รู้จักกันอยากให้มีภายในเว็บไซต์  เกิดเป็นเว็บไซต์หน้าตาสะอาดสะอ้านที่ให้เราสวมบทเป็นนักอ่านขุดคุ้ยกองดองของผู้อื่น พร้อมทั้งโละกองดองของตัวเองไปพร้อมๆ กัน แถมในหน้าเว็บยังกรองฟิลเตอร์ตามประเภทหนังสือและภาษาที่ต้องการ จากนั้นก็ซื้อขายระหว่างกันได้แล้ว ในช่วงแรกนี้ ตัวเว็บไซต์เปิดให้คนเข้ามาซื้อขายหนังสือกันได้ฟรีๆ แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่หลังจากนี้ถ้ามีอะไรอัปเดตเกี่ยวกับเว็บไซต์ เธอจะมาสอบถามความเห็นของเหล่าหนอนหนังสือก่อนแน่นอน “เพราะ Reshelf เกิดขึ้นได้เพราะคอมมูนิตี้ ทุกอย่างที่ดีไซน์เกิดจากสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น” จีน่าบอกกับเรา นอกจากนี้ เธอมองว่าในอนาคต Reshelf อาจจะไม่ใช่แค่ชั้นวางสำหรับซื้อขายหนังสือมือสองเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่เธอและทีมอยากทำ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ให้คนที่สนใจในหนังสือประเภทเดียวกันได้มาจอยน์คอมมูนิตี้กัน หรือแม้กระทั่ง Book Blind Date แบบออนไลน์เองก็ตาม ใครมีหนังสืออยากปล่อยหรือมองหาหนังสือมือสองเล่มไหนอยู่ ลองเข้าไปดู และหยิบน้องออกจากชั้นวางกลับบ้านได้ที่ www.reshelf.xyz 

เดินไปดูทางเท้าใหม่ ซอยเย็นอากาศ ต่อยอดจากทางเท้ารัชดาฯ 19 เดินได้ วิ่งดี สะดวก และปลอดภัย

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยเห็นโครงการทางเท้าเส้นเลือดฝอยที่ปรับซอยวิภาวดี 16 หรือตรงรัชดาฯ 19 ให้มีสัดส่วนของทางเท้าที่ชัดเจน ทาสีกำหนดขอบเขตทั้งทางม้าลายและทางเดินให้เห็นเด่น และไม่มีร่องระบายน้ำแบบรางวีขัดขวางการเดินเท้า ตอนนี้ทางโครงการได้ขยายมายังทางเท้าใหม่บริเวณซอยเย็นอากาศ 1 ย่านสาทรแล้ว เพราะปกติพื้นที่ตรงนี้ไม่มีทางเท้าชัดเจน แต่มีผู้อยู่อาศัยเดินไปเดินมาเยอะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กๆ ซึ่งนอกจากทำให้การเดินสัญจรในซอยเป็นไปได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้นแล้ว การแบ่งสัดส่วนด้วยเส้นสีแบบนี้ยังทำให้ภาพที่ออกมาดูเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าใช้งานขึ้นด้วย กทม.มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงทางเดินในย่านอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนสามารถทั้งเดินและวิ่งออกกำลังกายในซอยและเส้นทางต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็คงดีไม่น้อยเลยถ้าเราจะใช้เส้นทางเหล่านี้เดินเที่ยวและสำรวจเมืองได้ด้วย

SEA-CRET Evidence ร่องรอยปริศนา มัจฉาพิศวง ผู้ชนะรางวัล Book on board ปีที่ 4 ‘เปลี่ยนหนังสือ(ไทย)ที่ชอบ เป็นบอร์ดเกม(ไทย)ที่ใช่’ 

จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว สำหรับโครงการ Book on Board ที่จะเปลี่ยนเหล่าวรรณกรรมให้เป็นบอร์ดเกมแสนสนุกสำหรับทุกคน โดยในปีนี้เป็นธีม ‘เปลี่ยนหนังสือ(ไทย)ที่ชอบ เป็นบอร์ดเกม(ไทย)ที่ใช่’ ความพิเศษของปีนี้คือ การตั้งโจทย์ให้นักออกแบบนำผลงานของนักเขียนไทยที่เข้าร่วมโครงการมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บอร์ดเกม ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมศักยภาพของนักออกแบบบอร์ดเกมไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลงานวรรณกรรม และสนับสนุนให้นักเขียนไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น ในปีนี้มีผลงานที่ส่งเข้าประกวดมากถึง 70 ทีม ก่อนการคัดเลือกรอบสุดท้าย โครงการได้มีการตระเวนประชาสัมพันธ์และจัด Mini Workshop พัฒนาทักษะการตั้งต้นไอเดียในรูปแบบ Roadshow ทั่ว 4 ภูมิภาค ทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และกรุงเทพฯ จนได้ 12 ทีมสุดท้าย และผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้คือ ‘เกม SEA-CRET Evidence ร่องรอยปริศนา มัจฉาพิศวง’ โดยทีม Autocat Studio จากหนังสือ JOE the SEA-CRET Agent 01 / Plank ver. โดย สุทธิชาติ […]

ต้นปีหน้า สวนลุมพินีจะมี Hawker Center เข้าถึงง่าย สะอาด ปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ค้าเดิม เปิดให้บริการตั้งแต่ตีห้าถึงเที่ยงคืน

ใครที่เคยไปสิงคโปร์อาจจะเคยเห็นหรือลิ้มรสความอร่อยของร้านรวงต่างๆ ใน Hawker Center มาแล้ว และชื่นชอบโมเดลการจัดการร้านอาหารแบบนี้จนอยากให้ที่ไทยทำบ้าง ตอนนี้ กทม.กำลังจะเปิด Hawker Center สวนลุมพินีเช่นกัน เพื่อยกระดับสตรีทฟู้ดให้ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย พร้อมช่วยเหลือผู้ค้าเดิมให้มีพื้นที่ขายของที่มั่นคง โดย Hawker Center แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อจัดระเบียบร้านค้าหาบเร่แผงลอยตามฟุตพาทที่กีดขวางทางเดิน โดยจะส่งเสริมให้ย้ายเข้ามาขายในศูนย์อาหารแทน พร้อมยกระดับให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยของอาหารจาก กทม. นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยเหลือผู้ค้าเดิมควบคู่ไปด้วย เพราะโครงการนี้จะให้สิทธิ์ผู้ค้าเดิมที่เคยได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบถนนสารสินเป็นกลุ่มแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะเข้ามาเป็นศูนย์อาหารแล้ว แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของสตรีทฟู้ดด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย มีอาหารหลากหลาย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ตี 5 ถึงเที่ยงคืน เพื่อรองรับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ทั้งคนออกกำลังกายและนักท่องเที่ยวในระหว่างการก่อสร้าง กทม.ได้ย้ายต้นไม้ใหญ่ไปปลูกในสวนลุมพินีชั่วคราว และจะนำกลับมาปลูกใหม่ในพื้นที่ศูนย์อาหาร มากไปกว่านั้นยังออกแบบอาคารให้มีระบบระบายอากาศตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ รวมถึงเลือกใช้หลังคาสีหม่นเพื่อไม่ก่อให้เกิดแสงรบกวนไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย Hawker Center จะอยู่บริเวณถนนราชดำริ ติดกับสวนลุมพินี สามารถรองรับผู้ค้าได้สูงสุด 88 รายต่อรอบ แบ่งเป็นรอบเช้า (05.00 – 16.00 น.) และรอบเย็น (16.00 – 24.00 น.) […]

Marshall Livehouse แห่งแรกของโลก คอมมูนิตี้ทางดนตรีครบวงจรรูปแบบใหม่ที่ซอยเจริญกรุง 36 ใจกลางกรุงเทพฯ

จากความร่วมมือระหว่าง ‘Marshall’ แบรนด์เครื่องเสียงในตำนานสัญชาติอังกฤษผู้อยู่เคียงข้างศิลปินมาเป็นเวลากว่า 60 ปี และ ‘ASH Asia’ พาร์ตเนอร์ด้านการจัดจำหน่าย ทำให้ ‘Marshall Livehouse’ ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกบนถนนเจริญกรุง โปรเจกต์นี้จะเปลี่ยนย่านที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและความหลากหลายทางศิลปะของกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมและดนตรีแห่งใหม่สำหรับสร้างเสริมประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ในรูปแบบครบวงจร Marshall Livehouse จึงไม่ใช่แค่สถานที่จัดแสดงดนตรี แต่เป็นพื้นที่ 4 ชั้นที่ออกแบบด้วยแนวคิด ‘Community First’ เพื่อเป็นศูนย์รวมของคอมมูนิตี้และคนที่รักในเสียงดนตรี มาพร้อมกิจกรรมทางดนตรีที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน สตูดิโอซ้อมดนตรีที่เข้าถึงง่าย และโปรแกรมทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับวิสัยทัศน์ระดับโลก แต่ละชั้นแบ่งออกตามการใช้งานได้ดังนี้ – ชั้น 1 : The Stage and Bar พื้นที่แสดงดนตรีสดขนาดย่อมที่เปิดให้ศิลปินหน้าใหม่ก้าวสู่เวทีการแสดงสดครั้งแรกในบรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมบริการกาแฟในช่วงกลางวัน และบาร์เครื่องดื่มในช่วงค่ำคืน โดย City Boy Coffee Stand– ชั้น 2 : Vinyl Listening Bar and Gear Hub ศูนย์บริการลูกค้าอย่างเป็นทางการและครบวงจรของ Marshall สำหรับสินค้าที่ซื้อในประเทศไทย […]

ชวนดู ‘Wall to Wall ฝันร้าย 84 ตร.ม.’ ภาพยนตร์ว่าด้วยความดิ้นรนของคนอยากมีบ้าน ถ่ายทอดผ่านพนักงานออฟฟิศในกรุงโซล กับบ้านราคาสูงที่กลายเป็นปัญหานานาชาติ

เมื่อการมีบ้านกลายเป็นปัญหาร่วมระดับนานาชาติที่หลากหลายประเทศต้องเผชิญ ทั้งไทยที่ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับรายได้ของคนทั่วไป หรือแม้กระทั่งเกาหลีใต้ที่ความฝันการเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ นั้นยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน Urban Creature อยากชวนทุกคนดู Wall to Wall ฝันร้าย 84 ตร.ม. ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยาจากเกาหลีใต้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โน อูซอง (รับบทโดย คัง ฮานึล) พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ใช้เงินเก็บทั้งหมดมาผ่อนอะพาร์ตเมนต์ราคา 1,100 ล้านวอน หรือราว 25 ล้านบาท ในกรุงโซล ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดในชีวิตของเขา แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปเพียง 3 ปี ชีวิตที่เคยวาดฝันไว้กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ด้วยรายได้ของพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ไม่เพียงพอต่อการผ่อนบ้านหลังนี้ ทำให้เขาต้องไปรับอาชีพเสริมเป็นไรเดอร์ส่งของ กลับบ้านมาก็ไม่ได้พักผ่อนอีก เพราะต้องเผชิญกับเสียงรบกวนปริศนาที่ดังลอดมาจากผนังอะพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาอดหลับอดนอนและเกิดความเครียดสะสม มากไปกว่านั้น เพื่อนบ้านคนอื่นๆ เริ่มสงสัยและโทษว่าเขาเป็นต้นเหตุของเสียงนั้น แต่พอเขาอยากจะขายบ้านหลังนี้ ราคาก็กลับตกเหลือประมาณ 800 ล้านวอน หรือ 18 ล้านบาท มีแต่ความฝันลมๆ แล้งๆ รอให้มีการพัฒนาพื้นที่ในเขตอะพาร์ตเมนต์และสร้างรถไฟความเร็วสูงที่อาจทำให้อสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ราคาสูงขึ้นมาได้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขายังคงต้องอดทนกล้ำกลืนอยู่ในพื้นที่ 84 […]

เตรียมพบ Marina Bay Sands ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม กับโรงแรมหรู อารีนา และพื้นที่ประชุมนานาชาติ ดันสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกในปี 2029

เชื่อว่าใครที่เคยไปสิงคโปร์คงมีโอกาสแวะไปถ่ายภาพกับแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ‘Marina Bay Sands’ มาแล้วแน่นอน โดยตึกนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2010 และมีผู้เข้าชมกว่า 470 ล้านคน ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าโรงแรมธรรมดา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางทั้งในเชิงการท่องเที่ยวและธุรกิจ ตอนนี้ Marina Bay Sands กำลังขยายโครงการเพิ่มเติมเพื่อให้แลนด์มาร์กนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยโรงแรมใหม่สูง 55 ชั้น ที่มีห้องสวีตกว่า 570 ห้อง กับการออกแบบที่เน้นการไหลเวียนของลม และฟาซาดที่ออกแบบมาเพื่อลดการรับพลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งยังมีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแนวตั้งอีกด้วย จุดเด่นที่สุดของโครงการคือ ‘Skyloop’ บนชั้นดาดฟ้าขนาด 76,000 ตารางฟุต ที่มีเสาวงรีซ้อนทับกันเป็นเกลียว มอบทั้งความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานอาหาร พักผ่อน และชมวิวที่แตกต่างจากเดิม โดย Skyloop จะตั้งอยู่สูงกว่า Sands SkyPark ที่อยู่ติดกัน เพื่อสร้างเลเยอร์ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสมุมมองของเมืองสิงคโปร์ในระดับและองศาที่แตกต่างกัน นอกจากตัวโรงแรม ที่นี่ยังมีอารีนาความจุ 15,000 ที่นั่งเพื่อเตรียมให้สิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพการแสดง กีฬา และกิจกรรมระดับนานาชาติขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่ MICE (การประชุม สัมมนา การจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ) เพิ่มมากขึ้นอีก […]

‘WABU’ แพลตฟอร์มที่อยากชวนคนลงเดินเท้าสำรวจเส้นทาง ออกไปพบเจอกับเรื่องราวน่าสนใจในสถานที่ต่างๆ

ว่ากันว่า ‘การเดิน’ จะพาเราไปพบกับเรื่องราวน่าสนใจในพื้นที่แปลกใหม่ที่อาจนึกไม่ถึงมาก่อน เพราะสองเท้าคือเครื่องมือที่พาเราลัดเลาะเข้าไปยังพื้นที่เล็กๆ ที่รถยนต์เข้าไปไม่ถึง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางการเดินในพื้นที่ที่เราไม่เคยไปนั้นจะต้องเดินท่องเที่ยวแบบไหนถึงจะได้ไปเจอความน่าสนใจที่ว่า เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘WABU’ ที่ย่อมาจาก ‘WAlking BUddy’ แพลตฟอร์มที่อาสาทำหน้าที่เป็นเพื่อนผู้สำรวจเส้นทางก่อนจะพาทุกคนออกไปเดินสำรวจชุมชนหรือย่านต่างๆ ที่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักในแง่ของการท่องเที่ยวมากเท่าไหร่นัก เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิต ประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย จุดเริ่มต้นของการเป็นเพื่อนเดิน WABU นั้นเกิดขึ้นจากความชอบเดินของ ‘พี่อ๋อย-พิมพิมล คงเกรียงไกร’ และ ‘พี่เต้-ศตพร นวลละออง’ สองผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม ที่พี่อ๋อยเล่าให้เราฟังว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่เมือง Arles ประเทศฝรั่งเศส ที่ภายในเมืองมีการแบ่งรูตเดินตามความสนใจในการเที่ยว โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินตามเส้นทางที่กำหนดไว้บนพื้นว่าอยากจะไปเที่ยวในเส้นทางไหน ทำให้การเดินเที่ยวในครั้งที่ GPS ยังไม่เป็นที่นิยมไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แถมยังสร้างความประทับใจให้กับพี่อ๋อย และเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีรูตท่องเที่ยวลักษณะนี้ในบ้านเราบ้าง จนได้มีโอกาสจัดงานแสงสีสิงห์ที่จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อปี 2566 โดยเป็นงานที่นำเอาศิลปะและดีไซน์เข้ามานำเสนอร่วมกับการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดและเชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสกับจังหวัดเมืองรองด้วยงานศิลปะที่จัดวางไว้ตามจุดต่างๆ ของเมือง แต่ด้วยความที่พี่อ๋อยกลัวว่านักท่องเที่ยวที่ไม่รู้จักทางจะสับสนเส้นทางการเดินและหาชิ้นงานไม่เจอ จึงได้สร้างเว็บไซต์ WABU เพื่อให้ผู้คนที่เข้าร่วมงานเปิดดูและเดินตามรูตที่วางเอาไว้สำหรับการตามหาชิ้นงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แม้ว่าเว็บไซต์จะเป็นเพียงโปรเจกต์ทดลอง แต่พี่อ๋อยกลับพบว่ามีการเข้าใช้งานเพื่อเดินตามเส้นทางที่งานแนะนำเอาไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ในปี 2568 นี้ WABU […]

BMTA BUS แอปพลิเคชันรถเมล์ ขสมก. ดูข้อมูลเส้นทางรถเมล์เรียลไทม์ผ่าน GPS แอปฯ เดียวครบทุกเรื่องเกี่ยวกับ ขสมก.

ใครเป็นสายนั่งรถเมล์ โหลดแอปพลิเคชันนี้เก็บไว้ได้เลยกับ ‘BMTA BUS’ แอปฯ รถเมล์โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป้าหมายของแอปฯ นี้คือ ขสมก.ต้องการให้บริการการเดินทางแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมขึ้น ด้วยการเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรถเมล์แบบเรียลไทม์ และค้นหาเส้นทางได้ง่ายๆ ผ่านระบบ GPS นอกจากจะค้นหาเส้นทางและดูตำแหน่งรถเมล์ได้แล้ว ภายในแอปฯ ยังมีการอัปเดตเกี่ยวกับการให้บริการและการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง รวมไปถึงผู้โดยสารสามารถให้คะแนนความพึงพอใจบริการของพนักงาน ความสะอาดของรถ ความปลอดภัยในการขับขี่ และระยะเวลารอรถ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการรถโดยสารของ ขสมก.ในอีกทางหนึ่ง ใครที่ขึ้นรถเมล์ของ ขสมก.บ่อยๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BMTA BUS ได้ง่ายๆ เพียงค้นหาคำว่า BMTA BUS ในระบบ iOS และ Android Source : Facebook : ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews | t.ly/i1ZkA

สะพานคนเดินและจักรยาน เส้นทางสัญจรจากกลางเมืองไปชานเมือง ลดปัญหาการจราจร รักษามรดกจากอดีต และเป็นพื้นที่สาธารณะของเมือง

เมือง Albi ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ Tarn เป็นเมืองเก่าแก่ที่โด่งดังเรื่องมหาวิหารอิฐแดงสีสันสวยงาม รวมถึงย่านเมืองเก่าของยุคกลางก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ตั้งแต่ปี 2553 อีกด้วย ประวัติศาสตร์การเชื่อมต่อของเมืองนี้น่าสนใจมาก ในศตวรรษที่ 13 มี Pont Vieux เป็นสะพานเพียงแห่งเดียวที่ข้ามแม่น้ำได้ จนกระทั่งปี 2407 ที่มีการตัดทางรถไฟด้วยสะพานรถไฟอิฐแดงที่สูงถึง 30 เมตรเหนือผิวน้ำ ต่อมาในปี 2410 จึงมีการสร้าง Pont Neuf หรือสะพานสำหรับรถยนต์เพิ่มเติม แต่เมื่อการจราจรบน Pont Neuf แออัดมากขึ้น ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างย่านชานเมืองกับใจกลางเมืองไม่สะดวกเท่าไรนัก ปี 2556 เมืองจึงตัดสินใจจัดประกวดแบบสำหรับสะพานคนเดินและจักรยานแห่งใหม่ที่จะแขวนจากสะพานรถไฟเก่า ท้ายที่สุด Ney & Partners บริษัทสถาปนิกและวิศวกรจากบรัสเซลส์ ได้รับชัยชนะจากแนวคิดที่จะแขวนสะพานใหม่ไว้ด้านล่างของสะพานรถไฟ ด้วยเหตุผลหลากหลายข้อ อย่างแรกคือ ช่วยลดผลกระทบต่อทัศนียภาพของเมืองเก่า ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทางเข้าออกที่กว้างของฝั่งชานเมือง รวมถึงช่วยให้มองเห็นทิวทัศน์เมืองเก่าผ่านซุ้มโค้งของสะพาน และประการสุดท้ายคือ ช่วยฟื้นฟู Place du Calvaire พื้นที่สาธารณะที่เคยรกร้างว่างเปล่า ทีมออกแบบสร้างทางเชื่อมใหม่เป็นสะพานคนเดินยาว […]

1 2 3 146

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.