WHAT’S UP
ออกไปสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง ทำความรู้จักและเข้าใจธรรมชาติใกล้ตัวเราให้มากขึ้นกับ iNaturalist
“ต้นนี้คือต้นอะไร แล้วตัวนี้คือตัวอะไร” อาจจะเป็นคำถามที่ใครหลายคนเคยสงสัยขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่งของแต่ละวันที่วุ่นวาย ซึ่งนั่นเป็นการที่เราได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ได้สังเกตสิ่งแวดล้อมและชีวิตรอบตัว สิ่งมีชีวิตนานาชนิดที่ต้องปรับตัวตามเมืองใหญ่ จะเห็นว่านอกจากตัวเรา ตึกสูง และกำแพงคอนกรีต ยังมีชีวิตที่เติบโตงอกงามในระบบนิเวศเมืองนี้ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก รูปแบบชีวิตที่ปรับตัวกับความเป็นอยู่ของเมือง ทำให้มีโจทย์ในการวิวัฒนาการที่ต่างออกไป ยกตัวอย่าง มลภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดมความร้อน เสียงที่ดังขึ้น หรือแสงที่ส่องสว่างตลอดเวลา พ้นไปจากพวกเราที่ต่อสู้เอาชีวิตรอดในสังคมเมืองแล้ว ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็ต้องปรับตัวและดิ้นรนให้มีชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากนกบางชนิดที่อยู่ในเมืองมีเสียงและรูปแบบการร้องที่ต่างออกไปจากนกชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่า แมงมุมในเมืองใหญ่มีแพตเทิร์นของใยที่ต่างออกไปจากแมงมุมในชนบท อันเป็นผลกระทบจากเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนที่มากขึ้นและจำนวนแมลงที่ลดลง ไลเคนที่อยู่ได้ในเมืองบางชนิดอาจลดน้อยหรือหายไปเพราะคุณภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยการเพิ่มและลดลงของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่อาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์อย่างเราๆ แพลตฟอร์มที่ช่วยระบุและบันทึกข้อมูลสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ iNaturalist เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เราสำรวจและทำความรู้จักเพื่อนร่วมเมืองอย่างพืชพรรณและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่พบเห็นในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ทำให้การสำรวจของเราสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย AI Camera ที่ส่องปุ๊บก็รู้ทันทีว่าเป็นตัวอะไรหรือต้นอะไร และถ้าการสำรวจพืชชนิดหนึ่ง เราจำเป็นต้องเห็นหลายๆ ส่วนถึงจะระบุชนิดได้แม่นยำขึ้น ก็แค่อัปรูปหลายๆ รูปที่เคยถ่ายต้นไม้ต้นนั้นไว้ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลไว้ระบุชนิดทีหลังได้ หรือจะบันทึกเสียงของสิ่งมีชีวิตนั้นไว้ในฐานข้อมูลก็ได้อีกเช่นกัน สำรวจ แบ่งปัน และระบุตำแหน่งให้คนในคอมมูฯ นอกจากนี้ ด้วยความที่ iNaturalist เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์การเป็น Citizen Scientists ที่ใครๆ ก็สำรวจ แบ่งปันข้อมูล […]
‘Login.jp_’ ช่อง YouTube ดีเจเซตที่นำดนตรีสมัยใหม่เข้าไปเยือนร้านโลคอลในตำนานของญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงเสน่ห์ของญี่ปุ่น นอกจากปลาดิบ ศาลเจ้า หรือการวางระบบเมืองที่เป็นระเบียบแล้ว บรรยากาศแบบ ‘ท้องถิ่น’ แท้ๆ ในร้านค้าเก่าแก่ หรือวิวทุ่งนาสีเหลืองอร่าม กว้างสุดลูกหูลูกตา ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้ Urban Creature ขออาสาพาทุกคนลัดฟ้าไปแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อทำความรู้จัก ‘Login.jp_’ ช่อง YouTube ที่จะยกระดับการฟังเพลงจากดีเจเซต (DJ Set) ทั่วไป ให้ล้ำกว่าที่เคยด้วยการยกบูทดีเจไปตั้งในโลเคชันที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะซีรีส์ ‘The Shoten’ (แปลว่า ร้านค้า) เพราะพวกเขาตั้งใจนำเพลงยุคใหม่ไปเจอกับร้านค้ารุ่นเก๋าที่กำลังจะเลือนหายไป เพื่อเชื่อมวัฒนธรรมสองขั้วเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ร้านหรือสถานที่ต่างๆ ดูมีบรรยากาศที่สนุกขึ้น แต่ยังทำให้เราได้เห็นวัฒนธรรม การใช้ชีวิต และบางพื้นที่ที่ค่อยๆ เลือนหายไปในโลกที่เทคโนโลยีและ AI เข้ามาแทนที่การใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม และเราขอทำหน้าที่คิวเรเตอร์เลือก 3 โลเคชันแสนสนุกที่โชว์ความเป็น Login.jp_ ได้อย่างดีจนอยากชวนไปชมกัน Sakana ร้านขายปลาที่สืบทอดกันมาสี่รุ่นย่านอาคาบาเนะ คลิปแรกของช่องที่หยิบเอาดนตรีสนุกๆ มามิกซ์รวมกับบรรยากาศร้านขายปลาที่สืบทอดกันมายาวนานกว่าสี่รุ่นในย่านอาคาบาเนะ โตเกียว Login.jp_ อธิบายถึงไอเดียการเลือกที่นี่ไว้ว่า ปลาและอาหารทะเลเป็นส่วนสำคัญในอาหารของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคโจมง (Jomon) หรือย้อนไปได้ถึง 13,000 […]
‘Bio-Toilet’ ชุดห้องน้ำที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า แถมยังให้พลังงานชีวภาพจากการย่อยสลายของเสีย เพื่อนำไปใช้ทำอาหารต่อได้
‘ห้องน้ำ’ มักเป็นอุปสรรคอันดับต้นๆ ของคนที่อยากไปเดินป่าหรือตั้งแคมป์เสมอ เพราะน้อยครั้งที่จะมีห้องน้ำที่มิดชิดหรือสะดวกต่อการทำธุระ ด้วยเหตุนี้ Long-Drop Toilets หรือส้วมหลุม จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกในการช่วยให้เหล่านักเดินป่าไม่ต้องเสี่ยงต่อการกลั้นปัสสาวะ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในพื้นที่ชนบท สถานที่ตั้งแคมป์ห่างไกล หรือพื้นที่ภัยพิบัติ โครงสร้างของส้วมหลุมประกอบด้วยหลุมลึกประมาณ 3 ถึง 6 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 – 1.2 เมตรในพื้นดิน พื้นไม้ หรือพื้นคอนกรีตที่มีรูเล็กๆ บางครั้งเชื่อมต่อกับที่นั่งชักโครก ฝาที่ใช้ปิดที่นั่ง และโครงสร้างโดยรอบที่สร้างพื้นที่พร้อมให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน และเพื่อความสะอาดควรตั้งห่างจากแหล่งน้ำและที่อยู่อาศัยในระยะ 50 เมตรขึ้นไป โดยห้องน้ำรูปแบบนี้สร้างขึ้นด้วยวัสดุที่หาได้จากท้องถิ่น แถมยังไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อของเสียถูกปล่อยลงในหลุมแล้ว หากไม่มีการจัดการที่ดีก็เสี่ยงปนเปื้อนในดินที่ดูดซับเชื้อโรคได้ หรือถ้าจะเปลี่ยนของเสียให้เป็นปุ๋ยหมักก็ต้องกักเก็บไว้ในถังเปิดในบริเวณใกล้เคียงกับห้องน้ำ ซึ่งคงไม่ค่อยถูกสุขอนามัยเท่าไหร่ ‘HomeBiogas’ บริษัทนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญเรื่องการปฏิวัติการจัดการขยะอินทรีย์ได้คิดค้นและผลิต ‘Bio-Toilet’ ห้องน้ำที่มีท่อต่อไปยังระบบกักเก็บของเสีย เพื่อผ่านกระบวนการย่อยสลายและเปลี่ยนให้เป็นก๊าซชีวภาพ ส่งตรงไปยังเตาแก๊สที่กักเก็บก๊าซชีวภาพเอาไว้ใช้ทำอาหาร ส่วนน้ำที่ได้จากกระบวนการย่อยสลายก็นำไปปลูกต้นไม้ผ่านท่อใต้ดินได้ด้วยเช่นกัน ข้อดีของ Bio-Toilet คือการที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าทั้งในแง่ของการติดตั้งและใช้งาน รวมถึงไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนบริเวณรอบข้างอีกด้วย ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าห้องน้ำในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสะอาดอีกด้วย Bio-Toilet ใช้กับครัวเรือนได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเท่านั้น โดยภายในชุดจะมีโถชักโครกและที่นั่ง เครื่องย่อย […]
เตรียมพาน้องหมาไปวิ่งเล่นที่สวนลุมฯ กับ Lumpini Dog Park สวนหมาแห่งที่ 9 ของ กทม. เปิดให้บริการวันที่ 31 ธันวาคมนี้
ช่วงนี้เห็นหลายคนไปสวนลุมฯ เพื่อตามหาแมว นก และเหล่าสัตว์โลกน่ารัก แต่ตอนนี้ในโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนลุมพินีนั้นมีส่วนของ Dog Park แห่งใหม่ เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนรักสุนัขด้วย โครงการสวนสาธารณะสำหรับสุนัขนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) ที่ตั้งใจพัฒนาสวนลุมฯ ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนของทุกชีวิต ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงคู่ใจ พร้อมทั้งกลายเป็นสวนหมาแห่งที่ 9 ของกรุงเทพมหานคร Dog Park แห่งนี้ประกอบด้วย – พื้นที่แยกสำหรับสุนัขขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อความปลอดภัย – Dog Playground พื้นที่วิ่งเล่น ออกกำลังกาย และกระตุ้นพัฒนาการสุนัข – พื้นที่เก็บมูลสุนัข พร้อมระบบจัดการขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – จุดล้างทำความสะอาดเท้าสุนัข เพื่อรักษาความสะอาดของพื้นที่ – สวนสไตล์ญี่ปุ่น (Japanese Garden) สำหรับเจ้าของและสุนัขพักผ่อนใต้ร่มไม้ – Pavilion สำหรับประชาชนใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิว อีกความพิเศษคือ Dog Park ในสวนลุมฯ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนสุนัขหลากหลายแห่งระดับโลก เช่น Central Park Dog Run ที่เมืองนิวยอร์ก […]
The Grand Egyptian Museum พิพิธภัณฑ์ในอียิปต์ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 20 ปี รวบรวมสมบัติตุตันคามุนครบทุกชิ้น
วินาทีนี้ไม่มีสถานที่ใดเป็นกระแสเท่า The Grand Egyptian Museum (GEM) ที่เพิ่งจัดพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับว่าเป็นโปรเจกต์ยักษ์บนพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร โดยอยู่ห่างจากมหาพีระมิดกีซาเพียง 2 กิโลเมตร และใช้งบประมาณก่อสร้างไปกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8 หมื่นล้านบาท) โครงการนี้ได้รับการประกาศครั้งแรกในปี 2535 และเริ่มก่อสร้างในปี 2548 แต่กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคสารพัดที่ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางการเมืองครั้งใหญ่ในช่วงปฏิวัติอาหรับสปริง ปี 2554 ปัญหาเศรษฐกิจ ไปจนถึงการระบาดของโควิด-19 จึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้คนรอคอยกันมากว่า 20 ปี ในด้านการออกแบบอาคาร ที่นี่ตั้งใจวางตัวพิพิธภัณฑ์ในแนวเฉียงรับกับเส้นพีระมิด แต่ไม่สูงบดบัง พร้อมกับออกแบบลวดลายของอาคารรูปสามเหลี่ยมให้ล้อไปกับรูปทรงพีระมิด เสมือนกำลังสร้างขอบใหม่ให้ที่ราบสูงทะเลทราย เวลามองจะเห็นเหมือนมีพีระมิดเล็กลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ ไฮไลต์สำคัญที่ชวนให้ทุกคนต้องไปเยือนคือ การรวบรวมโบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่าจากสุสานของ ‘ตุตันคามุน’ มากกว่า 5,000 ชิ้น มาจัดแสดงไว้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ได้เห็นทั้งหน้ากากทองคำ บัลลังก์ ราชรถ และโลงศพทองคำของจริง นับตั้งแต่การค้นพบสุสานในปี […]
‘น่าน-สงขลา’ ได้การรับรองจาก UNESCO ให้เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ระดับโลกที่พร้อมพัฒนาเมืองผ่านงานหัตถกรรมและอาหาร
‘เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network : UCCN)’ คือโครงการที่มีเป้าหมายสร้างความร่วมมือกับเมืองต่างๆ ที่นำความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยเมืองที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการสามารถเสนอตัวเองและกรอกใบสมัครให้ทางโครงการพิจารณาได้ ซึ่งประเทศไทยเองมีหลายจังหวัดที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกเครือข่าย เช่น จังหวัดภูเก็ต (พ.ศ. 2558) จังหวัดเชียงใหม่ (พ.ศ. 2560) จังหวัดสุโขทัยและกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2562) เป็นต้น ในปีนี้ยูเนสโกได้ประกาศเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ทั้งหมด 58 เมือง โดยมีสองจังหวัดของไทย ได้แก่ จังหวัดน่านและจังหวัดสงขลา ที่ได้รับเลือกเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้วย สำหรับจังหวัดน่านที่ได้รับการประกาศในสาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) ได้นำเสนอแนวคิด ‘ปราชญ์ท้องถิ่น-ชุมชน-ธรรมชาติ’ (Artisans-Community-Nature) ในการสะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองเก่าที่มีชีวิต ผ่านงานหัตถกรรมที่ยังคงดำเนินอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอไทลื้อและลายน้ำไหล งานเครื่องเงินอิ้วเมี่ยน งานจักสานพื้นบ้าน งานไม้หัวเรือแข่ง พญานาค มรดกเตาเผาโบราณบ่อสวก รวมไปถึงจิตรกรรมฝาผนังที่โด่งดัง ‘กระซิบรักบันลือโลก’ ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นภูมิปัญญาและทุนวัฒนธรรมที่สืบทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และจะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต […]
ไปเดินข้ามสะพานคลองโอ่งอ่างใหม่ ที่ กทม.ร่วมกับ SCG ใช้วัสดุรักษ์โลกพัฒนาแลนด์มาร์กของย่านพระนคร
มีใครกำลังคิดถึงคลองโอ่งอ่างและบรรยากาศสบายๆ ของย่านสำเพ็ง-สะพานเหล็กอยู่ไหม ตอนนี้กรุงเทพมหานคร และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) ร่วมกันรีโนเวตสะพานยอดฮิตด้วยนวัตกรรมผสานเทคโนโลยี 3D Printing Concrete สะพานนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยวัสดุรักษ์โลก High Performance Concrete (HPC) ที่แข็งแรงทนทาน คู่กับการใช้ปูนซีเมนต์ลดโลกร้อนรุ่นใหม่ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนครึ่งในการก่อสร้าง ซึ่งเร็วกว่าการก่อสร้างแบบเดิมๆ หลายเท่า การปรับปรุงนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการพัฒนาคูคลองบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์และคลองแสนแสบ’ ที่ไม่เพียงทำให้การข้ามคลองสะดวกขึ้น แต่ยังเป็นการพัฒนาแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่ช่วยเชื่อมโยงรถ ราง เรือ และเส้นทางสัญจรของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งสองฝั่งคลองให้สะดวกขึ้น ใครอยากไปเดินเล่น หรือถ่ายรูปที่แลนด์มาร์กใหม่ในย่านเมืองเก่า แวะไปได้ที่ช่วงสะพานดำรงสถิต-สะพานภาณุพันธ์ ใกล้ MRT สถานีสามยอด (ทางออก 1) ตั้งแต่วันนี้ Source :Facebook : สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ | www.facebook.com/share/p/1QFWMpbyUN/
‘น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม’ น้ำพุร้อนน้ำเค็มที่เดียวในประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดถ้าไปจังหวัดกระบี่
การท่องเที่ยวในกระบี่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลและชายหาดที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อน เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ ‘น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม’ ที่มีส่วนช่วยบำบัดผ่อนคลายความเครียด และไม่มีที่ไหนนอกจากในจังหวัดกระบี่ น้ำพุร้อนเค็มเป็นบ่อน้ำที่ผุดขึ้นมาจากธรรมชาติเช่นเดียวกับบ่อน้ำร้อนทั่วไป ซึ่งน้ำพุร้อนส่วนใหญ่ที่เราเคยเห็นนั้นมักเป็นน้ำจืด แต่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีบ่อน้ำพุร้อนน้ำเค็มซึ่งเกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโผล่พ้นพื้นดิน ไม่ส่งกลิ่นกำมะถันรุนแรง ทำให้เราแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำร้อนได้โดยไม่รู้สึกฉุนจมูก ซึ่งอุณหภูมิแต่ละวันจะแตกต่างกันออกไป โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 – 47 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อมนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เพราะการแช่น้ำร้อนเป็นหนึ่งในการบำบัด ช่วยให้สบายตัว ผ่อนคลาย และลดความเครียดได้ รวมไปถึงในน้ำร้อนเค็มนั้นยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น โซเดียมคลอไรด์ แมกนีเซียม โพแทสเซียม และอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดความดัน ลดการอักเสบของข้อ ปัจจุบันทางการแพทย์ได้มีการศึกษาและนำน้ำพุร้อนเค็มมาใช้เสริมทางการแพทย์ เพื่อออกแบบการรักษาเฉพาะทางให้เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคต่างๆ มากไปกว่านั้น น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อมยังได้รับรางวัล Green Destinations Top 100 Stories ในปี 2566 ที่ส่งผลให้ได้รับการผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวพิเศษแบบยั่งยืน เพราะเป็นน้ำพุร้อนเค็มแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ถ้าใครมีโอกาสแวะเวียนไปเที่ยวที่จังหวัดกระบี่ อย่าลืมแวะไปที่น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อมกัน เปิดบริการตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น. โดยมีค่าเข้าเพียงคนละ 40 […]
ชวนไปใช้ Biblio Reading Corner มุมอ่านหนังสือใหม่ใจกลางสามย่าน ที่อยากชวนคนมาพักผ่อนหย่อนใจไปกับหนังสือดีๆ ในราคา 59 บาท
ใครชอบอ่านหนังสือยกมือขึ้น! Urban Creature ขอชวนนักอ่านออกจากบ้านมาเปลี่ยนบรรยากาศที่ ‘Biblio Reading Corner’ มุมอ่านหนังสือใหม่ใจกลางเมืองในโครงการ Slowcombo สามย่าน ที่อยากชวนทุกคนมาพักนั่งอ่านหนังสือชิลๆ ด้วยกัน ที่นี่คัดสรรหนังสือทั้งจากสำนักพิมพ์ Biblio และคอลเลกชันของ Slowcombo ทั้ง Fiction และ Non-fiction ไปจนถึงหนังสือศิลปะและดีไซน์ มาให้ทุกคนยืมอ่านในราคาเริ่มต้นเพียง 59 บาทต่อวัน หรืออ่านเพลินพร้อมจิบเครื่องดื่มรสชาติดีในราคา 99 บาท และสำหรับใครที่ซื้อของใน Slowcombo 300 บาทขึ้นไป เข้าใช้บริการได้ฟรี (เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ) นอกจากมุมหนังสือที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่การอ่านในเมืองแล้ว Slowcombo เองยังเป็นคอมมูนิตี้ที่รวบรวมร้านต่างๆ ที่คอนเซปต์ Mindfulness และ Sustainable Lifestyle ไม่ว่าจะเป็นร้านจัดดอกไม้ ร้านอาหารมังสวิรัติ ร้านรวง Eco Friendly สตูดิโอพิลาทิส เป็นต้น การมีมุมหนังสือที่เป็นกิจกรรมทำสมาธิเพิ่มขึ้นมาจึงนับว่าเป็นการเติมให้ที่นี่สมบูรณ์ขึ้น พบกับ Biblio Reading Corner ที่ชั้น 1 […]
รถไฟฟ้าทุกสายเหมาจ่าย 40 บาท ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งวัน สายสีแดงและสีม่วง เริ่ม 1 ธ.ค. 68 ก่อนขยายจนครบทุกสาย ม.ค. 69
หลังจากที่นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ รวมไปถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทที่ถูกปัดตกไปเรียบร้อย ล่าสุด ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งศึกษาข้อมูลแนวทางรวมศูนย์การบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รวม (Single Ownership) เพิ่ม เพื่อให้บริการ ‘บัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน’ ที่จะครอบคลุมโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 8 สาย ได้แก่ สายสีแดง สีม่วง สีน้ำเงิน สีชมพู สีเหลือง สีเขียว สีทอง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยจะเปิดให้บริการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวันในสายสีแดงและสายสีม่วง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2569 และคาดว่าจะขยายครบทุกสายในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า นโยบายนี้เกิดขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน โดยมีรูปแบบการคิดค่าโดยสารเดินทางไม่จำกัดเที่ยวในวันเดียว ให้บุคคลทั่วไปจ่ายในราคาเหมา 40 บาทต่อวัน นักเรียน-นักศึกษาราคา 30 […]
แจ้งหมีใกล้ฉันกับ BowBear แอปฯ แผนที่เตือนภัยหมีแบบเรียลไทม์ หลังสถิติหมีเข้าพื้นที่ชุมชนพุ่งสูง
หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นมีสถิติการพบเห็นหมีบุกรุกเข้าใกล้พื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 พบว่า ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของเหตุหมีทำร้ายคน เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ประชาชนใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เขตที่อยู่อาศัยและพื้นที่เกษตรกรรม ไม่ใช่ในป่าลึก และมีผู้เสียชีวิตจากการถูกหมีทำร้ายสูงถึง 10 ราย WISM บริษัทเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน BowBear เพื่อเตือนให้ประชาชนรู้ถึงตำแหน่งของหมี โดยชื่อแอปฯ มาจากคำว่า Bow ที่ออกเสียงเหมือนใน ‘Bow and Arrow’ หรือ คันธนู และเป็นคำพ้องเสียงกับภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ‘การป้องกัน’ ด้วย แอปฯ นี้ทำงานด้วยระบบ Crowdsourcing หรือการรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้ทุกคน แทนที่การเตือนภัยแบบดั้งเดิมอย่างป้ายประกาศหรือการเดินลาดตระเวนของชุมชน เมื่อผู้ใช้งานพบเห็นตัวหมี ร่องรอย รอยเท้า หรือแม้แต่มูลของหมี ก็ปักหมุดลงบนแผนที่ของแอปฯ ได้ทันที โดย ‘หมุดสีแดง’ คือจุดที่มีการยืนยันการพบเจอหมี ส่วน ‘หมุดสีส้ม’ คือจุดที่คาดการณ์ว่าอาจพบเจอหมีได้ ข้อมูลนี้จะถูกแชร์ไปยังผู้ใช้งานคนอื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ ‘เสียงสุนัขเห่า’ ที่กดใช้เวลาเจอหมี ในความดังต่อเนื่องที่ผู้พัฒนาแอปฯ ยืนยันว่าจะทำให้หมีตกใจและหนีไปได้ ด้วย UI […]
‘ดาษดื่น’ ร้านขายของที่ระลึกของคนสงขลารุ่นใหม่ ที่หยิบเอกลักษณ์ท้องถิ่นมาใช้ได้อย่างไม่ดาษดื่น.
บางคนอาจรู้จัก ‘ดาษดื่น (DASDNN)’ จาก ‘พัดรวยหนัด’ พัดที่พี่ลูกกอล์ฟ LG and Friends และลิซ่า Blackpink ถือถ่ายคลิปวิดีโอจนเกิดกระแสฟีเวอร์ แต่ความจริงแล้ว ภายใต้ร้านดาษดื่นยังมีอีกหลายสินค้าน่าสนใจที่บอกเล่าความเป็นสงขลาออกมาได้อย่างจี๊ดจ๊าดด้วยคอนเซปต์ร้านขายของชำ ร้านชำที่อยากนำเสนอความธรรมดาแบบพิเศษ สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของสงขลาคือ ที่นี่เป็นเมืองที่มีแบรนด์ท้องถิ่นหลายราย และผลิตสินค้าที่มีคุณภาพอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือยังขาดร้านที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมสินค้าที่ระลึกหรือของฝากหลากหลายชนิดไว้ด้วยกัน รวมไปถึงการพัฒนาด้านดีไซน์หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ดาษดื่นจึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ในช่วงงานเทศกาล Pakk Taii Design Week ‘มะปราง-สีตวรรณ สิงหเศรษฐ’ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ได้แก่ ‘เอ๋-ปกรณ์ รุจิระวิไล’ และ ‘แอม-พิสุทธิ์พักตร์ สุขวิสิทธิ์’ บอกกับเราในระหว่างพูดคุยว่า เหตุผลที่ตั้งชื่อร้านขายของที่ระลึกในรูปแบบร้านของชำแห่งนี้ว่า ‘ดาษดื่น’ เพราะต้องการนำเสนอความธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน “ดาษดื่น มีความหมายว่า อะไรง่ายๆ ที่เห็นได้ทั่วไป เห็นกันอย่างดาษดื่น เราเลยใช้คอนเซปต์นี้มาต่อยอด โดยหยิบเอาภาพลักษณ์ของร้านชำซึ่งมีอยู่ในเมืองเก่ามาเป็นคอนเซปต์หลักของร้าน” มะปรางเล่า ร้านชำที่อยากพัฒนาสินค้าในท้องถิ่นให้หนุกหนัด […]