WHAT’S UP
ขาดแคลนแรงงานต่างชาติ เกาหลีใต้ดึงผู้สูงอายุทำงาน ทดแทนแรงงานที่หายไป
ช่วงนี้ ตม.เกาหลีใต้ดูจะเข้มงวดกว่าเดิม เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยตั้งใจจะไปเที่ยวให้สมกับที่ไม่ได้ออกนอกประเทศมาหลายปี แต่กลับถูกส่งตัวกลับเนื่องจากมาตรการป้องกันชาวต่างชาติลักลอบเข้าไปทำงานในประเทศของเจ้าที่รัฐ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เกาหลีใต้กำลังขาดแคลนแรงงานต่างชาติ (ถูกกฎหมาย) เป็นพิเศษ ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา ทำให้เกาหลีใต้ต้องเผชิญกับสภาวะขาดแคลนแรงงานต่างชาติที่เป็นกลไกสำคัญในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ส่งผลให้มีจำนวนแรงงานผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 58 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะกลุ่มคนหนุ่มสาวไม่ค่อยสนใจทำงานใช้แรงงานเท่าไรนัก หลายบริษัทจึงไม่มีทางเลือกและต้องหันมาจ้างงานผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นแทน แม้ว่าหลายหน้าที่นั้นอาจเหมาะสมกับคนทำงานวัยหนุ่มสาวมากกว่าก็ตาม ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วที่สุดในโลก เพราะกว่า 33.1 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีอายุระหว่าง 70 – 74 ปีนั้นยังคงทำงานอยู่ ซึ่งถือว่าติดอันดับต้นๆ ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดการจ้างงานประชากรในแต่ละกลุ่มอายุใน 38 ประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก แถมยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ถึง 15.2 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย ข้อมูลจากธนาคารกลางเผยให้เห็นว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปกว่า 230,000 คนนั้นมองหางานในโรงงานและงานก่อสร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 2020 แล้ว ในขณะที่กลุ่มคนหนุ่มสาวต่างพยายามเลี่ยงงานในส่วนนี้ และถึงแม้ว่าปี 2020 จะมีแรงงานต่างชาติเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้ได้บ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการเพราะเมื่อเทียบกันแล้ว มีจำนวนแรงงานต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมดที่มีในปี 2019 […]
ประเทศแรกของโลก! สกอตแลนด์บังคับใช้กฎหมายแจกผลิตภัณฑ์ประจำเดือนฟรี ให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงผ้าอนามัยได้
ในขณะที่ประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลแจก ‘ผ้าอนามัยฟรี’ กันอยู่ ตอนนี้ ‘สกอตแลนด์’ ได้นำหน้าเราไปไกลแล้ว หลังจากก้าวขึ้นเป็นประเทศแรกของโลกที่บังคับใช้กฎหมายแจกผลิตภัณฑ์ประจำเดือนให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ โดยผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประจำเดือนไม่ว่าจะเป็นผ้าอนามัยแบบแผ่นหรือแบบสอด สามารถรับผลิตภัณฑ์แบบไม่จำกัดจำนวนได้ตามสถานที่สาธารณะและหน่วยงานของรัฐทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด สระว่ายน้ำ โรงยิมสาธารณะ อาคารชุมชน ศาลากลาง ร้านขายยา หรือสำนักงานแพทย์ มากไปกว่านั้น ผู้คนสามารถค้นหาโลเคชันแจกผ้าอนามัยที่ใกล้ที่สุดได้ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน ‘PickupMyPeriod’ และภาครัฐยังมีบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ถึงบ้านด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนที่มีประจำเดือนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออาศัยอยู่บริเวณไหนของสกอตแลนด์ จะสามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้อย่างเท่าเทียม อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาของผู้หญิงบางกลุ่มที่เผชิญสภาวะขาดแคลนหรือไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประจำเดือนได้ (Period Poverty) เนื่องจากผู้หญิงมีระยะเวลาเป็นประจำเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5 วันต่อเดือน ทำให้บรรดาผู้มีประจำเดือนในสกอตแลนด์ต้องเสียเงินไปกับการซื้อผ้าอนามัยมากถึงเดือนละ 8 ปอนด์ หรือราว 340 บาท กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ทั่วสกอตแลนด์ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2022 หลังจาก Monica Lennon สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคแรงงานแห่งสกอตแลนด์ได้เสนอร่างกฎหมายนี้ตั้งแต่ปี 2016 และผ่านการอนุมัติโดยฝ่ายนิติบัญญัติในขั้นต้นไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รวมเป็นระยะเวลาถึง 6 ปี กว่าที่ชาวสกอตแลนด์ทุกคนจะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับประจำเดือนให้ใช้ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงิน หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมาย Monica Lennon ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอว่า “สกอตแลนด์อาจเป็นประเทศแรกของโลก […]
เดินส่องย่าน เรียนรู้วิถีชีวิต เสพศิลปะ ใน ‘ศิลป์ในซอย ตอน Plearn in Soi’ 19 – 21 ส.ค. 65 ย่านกะดีจีน-คลองสาน
ใครกำลังมองหางานสนุกๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ได้ทำทั้งเดินเล่น ชมงานศิลปะ ฟังเพลง เสวนาหาความรู้ ไปจนถึงทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาของย่านในกรุงเทพฯ ‘ศิลป์ในซอย : ART IN SOI 7 ตอน Plearn in Soi’ ที่จัดโดย UDDC และพันธมิตร ในวันที่ 19 – 21 สิงหาคมนี้ น่าจะถูกใจเป็นที่สุด เพราะ ‘ศิลป์ในซอย’ มีคอนเซปต์หลักเป็น ‘แสง-สี-ศิลป์ เชื่อมย่าน เชื่อมการเรียนรู้ เชื่อมเศรษฐกิจชุมชน’ ทำให้เป็นงานที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย โดยงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่ย่านกะดีจีน-คลองสาน ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้ – ART & Light IN SOI ชมงานศิลปะและแสงไฟ บริเวณมรดกวัฒนธรรมและพื้นที่สาธารณะภายในย่านกะดีจีน-คลองสาน เส้นทางตั้งแต่สวนสาธารณะ-ตรอกดิลกจันทร์-อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี– TALK IN SOI ฟังการเสวนาสาธารณะ และชมนิทรรศการถอดบทเรียนการขับเคลื่อนย่านกะดีจีน-คลองสานบนฐานความรู้ ที่นิทรรศการการพัฒนาบนฐานความรู้ย่านกะดีจีน-คลองสาน และเวทีเสวนาสาธารณะถอดบทเรียนการขับเคลื่อนย่านกะดีจีน-คลองสานบนฐานความรู้– WALK IN […]
เมื่อคนรักษาระยะห่างกับสัตว์ไม่ได้ นอร์เวย์ตัดสินใจการุณยฆาตวอลรัสเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์
ข่าวสะเทือนใจของคนรักสัตว์คงหนีไม่พ้นเรื่องของการตัดสินใจการุณยฆาต ‘เฟรยา’ วอลรัสชื่อดังแห่งนอร์เวย์ เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่สนคำเตือนของทางการที่ห้ามเข้าใกล้เฟรยาเพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อทั้งคนและสัตว์ แถมยังฝ่าฝืนด้วยการลงไปว่ายน้ำกับเฟรยา พยายามเข้าไปใกล้เพื่อถ่ายรูป หรือแม้แต่การขว้างปาสิ่งของใส่ก็มี และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีภาพของกลุ่มคนจำนวนมากเข้าไปยืนถ่ายรูปเจ้าเฟรยาอย่างใกล้ชิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการร้องขอให้รักษาระยะห่างกับเฟรยาหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล แถมอยู่ใกล้ในระดับที่สามารถสัมผัสตัวเจ้าวอลรัสได้ ด้วยเหตุนี้ ทางการนอร์เวย์จึงตัดสินใจทำการการุณยฆาตวอลรัสเฟรยาก่อนที่จะเกิดเหตุอันตรายกับประชาชน ทาง Frank Bakke-Jensen อธิบดีกรมประมงของนอร์เวย์เผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการประเมินว่าวอลรัสจะเป็นภัยคุกคามและเป็นอันตรายต่อมนุษย์ในภายหลัง ซึ่งทางการเคยวางแผนย้ายเฟรยาออกจากพื้นที่แล้วแต่ยังไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของตัววอลรัส และเมื่อประชาชนไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้ จึงต้องตัดสินใจทำการการุณยฆาตเฟรยา และยังเสริมอีกว่าทางการนอร์เวย์ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของมนุษย์ต้องมาก่อน เฟรยาเป็นวอลรัสเพศเมีย น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัมที่ชอบขึ้นมานอนอาบแดดบนเรือ และว่ายน้ำไล่จับเป็ดให้คนได้เห็นความน่ารัก จนกลายเป็นดาวเด่นแห่งออสโลฟยอร์ด (Oslo Fjord) ที่ไม่ว่าใครก็ตามไปเที่ยวบริเวณนั้นก็ต้องมองหาเจ้าวอลรัสตัวนี้อยู่เสมอ ทำให้มันค่อนข้างคุ้นชินและไม่กลัวคนเท่าไร ซึ่งการการุณยฆาตเฟรยาทำให้ประชาชนรวมถึงชาวโซเชียลจำนวนมากออกมาตั้งคำถามถึงการกระทำในครั้งนี้ว่าจำเป็นที่จะต้องจบชีวิตเจ้าวอลรัสตัวนี้หรือไม่ ทั้งๆ ที่สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะมนุษย์ไม่ยอมทำตามกฎเองต่างหาก Sources : BBC | bbc.in/3JValJh CNN | cnn.it/3JYqkq3
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ยี่ห้อ จับมือขอขึ้นราคา 1 – 2 บาท หลังแบกต้นทุนการผลิตไม่ไหว
หลังจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอัตราค่าโดยสารสาธารณะพากันยกขบวนพาเหรดขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดอาหารยังชีพคู่บ้านคนไทยอย่าง ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป’ ก็ทนแบกต้นทุนไม่ไหว จ่อขึ้นราคาตามมาติดๆ ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เช้านี้ วันที่ 16 สิงหาคม 2565 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ยี่ห้อ ได้แก่ ยำยำ ไวไว มาม่า นิสชิน และซื่อสัตย์ ได้จับมือกันเข้าหารือกับกรมการค้าภายใน (คน.) เพื่อชี้แจงถึงต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว และขอปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นซองละ 1 – 2 บาท เป็นการร่วมกันเฉพาะกิจที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในอดีต หลังจากหลายเดือนก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อต่างมีการยื่นขอปรับราคาขึ้น เพราะภาระต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักในการผลิตอย่าง แป้งสาลีและน้ำมันปาล์มที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า ทางแบรนด์ได้มีการยื่นขออนุมัติต่อกรมการค้าภายในมาสักพักแล้ว เพื่อขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ ‘มาม่า’ และ ‘ซื่อสัตย์’ ขึ้น 2 บาทต่อซอง จาก 6 บาท เป็น […]
ชวนดูสารคดี I AM GRETA และพูดคุยประเด็นวิกฤตโลกร้อนใน 3 จังหวัดทั่วไทย ส.ค. – ก.ย. 65
ใครที่สนใจประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เราขอชวนทุกคนไปเปิดมุมมองใหม่และแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านกิจกรรม ‘CCCL Film Tours 2022’ ในเทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน (CCCL Film Festival) โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน Canada Fund for Local Initiatives (CFLI) ภายในงานจะจัดฉายภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘I AM GRETA’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของ ‘เกรียตา ทุนแบร์ย’ นักเคลื่อนไหวทางด้านสภาพภูมิอากาศชื่อดังของโลก ผ่านฟุตเทจทั้งมุมที่แข็งแกร่งและอ่อนไหวของเธอ ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เราเชื่อว่าการออกมาเรียกร้องและแสดงจุดยืนเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนของเกรียตาจะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนทั่วโลกลุกขึ้นมาเรียกร้องให้สังคมและรัฐบาลทั่วโลกตระหนักต่อความสำคัญของวิกฤตโลกร้อน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสนทนาประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในมิติต่างๆ ร่วมกับเยาวชน คนทำหนัง รวมไปถึงผู้ขับเคลื่อนสังคมด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิทธิมนุษยชน เพื่อสะท้อนเสียงของกลุ่มคนหลากหลายในสังคมต่อประเด็นนี้ CCCL Film Tours 2022 จัดขึ้นระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 ใน 3 จังหวัดทั่วไทย ได้แก่ 20 สิงหาคม 2565 ที่ Punspace Tha Phae Gate จังหวัดเชียงใหม่27 […]
เตรียมปิดตำนานบ้าน Parasite หลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ในกรุงโซลจนมีคนเสียชีวิตในบ้านชั้นใต้ดิน
เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมในประเทศไทย เรามักเห็นภาพผู้คนรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน แต่ในประเทศเกาหลีใต้ หลายครอบครัวไม่มีหลังคาให้นั่งพักเช่นนั้น แถมยังเข้าถึงการช่วยเหลือได้ยาก เพราะผู้คนจำนวนไม่น้อยพักอาศัยอยู่ในบ้านชั้นใต้ดินหรือกึ่งใต้ดินของแฟลตต่างๆ สภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่นี้เห็นได้ชัดเจนขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกรุงโซลเจอฝนถล่มหนักสุดในรอบ 80 ปี ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ น้ำทะลักลงรถไฟฟ้าใต้ดิน จนการคมนาคมหลายเส้นทางต้องหยุดชะงัก ที่แย่ไปกว่านั้นคือ อุทกภัยครั้งนี้ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายในแฟลตกึ่งใต้ดินหรือที่เรียกว่า ‘พันจีฮา (Banjiha)’ บ้านของครอบครัวชนชั้นปรสิตแบบที่หลายคนเคยเห็นจากภาพยนตร์ ‘Parasite’ ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เหยื่อได้ขอความช่วยเหลือไปแล้ว แต่ทางหน่วยกู้ภัยไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เนื่องจากน้ำท่วมทะลักเข้าไปจนเต็มพื้นที่บ้าน กลายเป็นประเด็นที่ทำให้คนกลับมาพูดถึงบ้านพันจีฮาอีกครั้ง ทั้งในเรื่องความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมของรายได้ ที่ทำให้ครอบครัวรายได้น้อยต้องอาศัยอยู่ในบ้านพักราคาถูก อีกทั้งยังมีสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่และอันตรายด้วย รายงานของสำนักข่าวยอนฮับเปิดเผยว่า ทางกรุงโซลเตรียมหารือกับรัฐบาลในการแก้ไขกฎหมายเพื่อสั่งห้ามใช้พันจีฮาเป็นที่พักอย่างเด็ดขาด โดยทางการจะให้เวลากับเจ้าของแฟลตเป็นเวลา 20 ปี สำหรับการเปลี่ยนห้องใต้ดินหรือกึ่งใต้ดินเป็นพื้นที่สำหรับใช้ในกรณีอื่น เช่นห้องเก็บของหรือที่จอดรถ ส่วนผู้เช่าพันจีฮานั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสนับสนุนเพื่อย้ายไปอยู่ในบ้านเช่าสาธารณะต่อไป พันจีฮากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกตั้งแต่ภาพยนตร์ ‘Parasite’ ของผู้กำกับ ‘บงจุนโฮ’ ออกฉายครั้งแรกในปี 2019 หนังเรื่องนี้เล่าถึงครอบครัวยากจนในเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นใต้ดิน พวกเขาต้องดิ้นรนและเอาตัวรอดด้วยการสวมรอยเข้าไปทำงานในบ้านของมหาเศรษฐียกครอบครัว Parasite ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมายเกี่ยวกับการนำเสนอประเด็นปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำในกรุงโซล จนสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากเวทีออสการ์ในปี 2020 มาครอง ข้อมูลในปี 2020 เปิดเผยว่า […]
HARSHTAG #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา รวมเรื่องสั้นที่อยากชวนให้ทุกคนเลิกเหยียดและคุกคามกันได้แล้ว
โดนพ่อแม่ลงรูปถ่ายในเฟซบุ๊กโดยไม่ขออนุญาต เพื่อนพากันแซวและนินทารูปร่างหน้าตาเราในรูปที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เจอใครไม่รู้มาปล่อยเฟกนิวส์เราในอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์ที่เหล่านักเขียนหยิบเอามาสร้างเป็นเรื่องแต่ง (ที่หลายคนอาจเจอในชีวิตจริง) ในรวมเรื่องสั้น ‘HARSHTAG #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา’ ของสำนักพิมพ์แซลมอน หนังสือเล่มนี้เป็นเสมือนบันทึกที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดแห่งยุคสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสัญญาใจที่ชวนให้ผู้คนหยุดการไซเบอร์บุลลี่ ตั้งแต่การวิจารณ์รูปร่าง การคุกคามทางเพศ การเหยียดเพศ ไปจนถึงการละเมิดความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นว่าด้วยบทสนทนาที่ลูกสาวไม่พอใจที่ครอบครัวโพสต์รูปเธอบนเฟซบุ๊ก โดย นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ หญิงสาวที่สงสัยว่าคนใกล้ตัวปลอมแอ็กเคานต์ในแอปฯ เป็นเธอ โดย โชติกา ปริณายก ข้อขัดแย้งของคนในครอบครัวที่มีต่อคุณยายที่เปิดแชนเนลเล่าเรื่องเสียว โดย จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์ นิยายแชตที่บอกเล่าความรุนแรงของการปล่อยคลิปหลุดโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม โดย ตัวแม่* ไปจนถึงการ์ตูนสะท้อนความเจ็บปวดของอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับคอมเมนต์รุนแรงหยาบคาย โดย สะอาด หลังอ่านจบ เราพบว่ามีหลายส่วนของหลายเรื่องสั้นที่ทำให้เรานึกย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของตัวเองและคนที่เคยพบเจอ ว่าเราเคยทำอะไรแบบนี้กับใครไหม หรือเราเคยโดนใครไซเบอร์บุลลี่บ้างหรือเปล่า แล้วตอนนี้เรายังทำแบบนั้นอยู่หรือไม่ ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้ใครเจ็บปวดก็ตาม ขณะเดียวกัน แม้ว่าหนังสือเล่มนี้คนอ่านจะเป็นใครก็ได้ แต่สำหรับเรามองว่าคนอ่านวัยรุ่นน่าจะอินหรือรู้สึกแทงใจเป็นพิเศษ และคงดีไม่น้อยถ้าพวกเขาอ่านแล้วตระหนักถึงความรุนแรงของการกระทำเหล่านี้ รวมถึงพยายามชักชวนกันให้หยุดการไซเบอร์บุลลี่ในสังคม ทำความเข้าใจเรื่องไซเบอร์บุลลี่ผ่านเรื่องสั้นอ่านสนุกได้ที่ salmonbooks.net/book/harshtag/ (200 บาท)
ชวนแม่ฟังดนตรี ดูแสงสีเสียง กับกิจกรรม Music for Mom ที่สวนเบญจกิติ 12 – 13 ส.ค. 65
วันแม่ปีนี้ ใครยังไม่มีแพลนไปไหน เราอยากแนะนำให้ทุกคนชวนคุณแม่ออกจากบ้านไปฟังดนตรีเพราะๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นกับกิจกรรม ‘Music for Mom’ บริเวณริมสวนเบญจกิติ ที่มาพร้อมการแสดงโดยวงออร์เคสตราและศิลปินนักร้อง เช่น ตู่ ภพธร, มาเรียม B5, Immanuel String Orchestra เป็นต้น ไฮไลต์ของงานนี้คือ ผู้เข้าร่วมจะได้ชมศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่ก่อนใครผ่านการแสดงแสง สี เสียง (Lighting Show) บนตัวอาคารศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่เคล้าคลอไปกับเสียงดนตรียามเย็น รับรองว่านี่จะเป็นอีกรูปแบบของงานดนตรีในสวนที่แตกต่างจากงานครั้งก่อนๆ แน่นอน Music for Mom เป็นกิจกรรมที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดขึ้นเพื่อต้อนรับศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ที่จะกลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนปีนี้ หลังจากปิดปรับปรุงแบบจัดเต็มนานเกือบ 3 ปี ใครอยากรู้ว่าแนวคิดเบื้องหลังการรีโนเวตศูนย์ฯ สิริกิติ์คืออะไร การตกแต่งจะสวยและน่าสนใจขนาดไหน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ urbancreature.co/queen-sirikit-national-convention-center กิจกรรม Music for Mom จัดขึ้นในวันที่ 12 – 13 สิงหาคม 2565 ที่สวนเบญจกิติ […]
‘The Infinite Blooms’ ยกโครงการหลวงมาให้คนกรุงช้อป ชิม ชม ที่ CentralWorld
Royal Project 53 ‘The Infinite Blooms’ ยกโครงการหลวงมาให้คนกรุงช้อป ชิม ชม ที่ CentralWorld ปีนี้ งาน ‘โครงการหลวง 53’ โดยมูลนิธิโครงการหลวง ภายใต้แนวคิด ‘The Infinite Blooms’ สืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการหลวง ได้เนรมิตศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นสวนดอกไม้บนดอยสูง ที่ละลานตาด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม สินค้าผลผลิตทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรม อาหารเมนูพิเศษจากวัตถุดิบคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ดอยคำ ผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ น่าจับจ่ายใช้สอยมาเสิร์ฟให้ขาชิม ขาช้อป ถึงกรุงเทพฯ ทั่วพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ใครเป็นแฟนคลับต้องห้ามพลาด เพราะงานนี้เขามีไฮไลต์มาฝาก ทั้งผลงานวิจัยกัญชง พืชเศรษฐกิจที่นำมาวิจัยต่อยอดเป็นอาหารสุขภาพซูเปอร์ฟู้ด ผลิตภัณฑ์แปรรูป น้ำมันกัญชงสกัดเย็น และผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ทั้งครีมทามือ ครีมกันแดด และเซรั่ม ชมดอกเอเดลไวส์แห่งเทือกเขาแอลป์ สัญลักษณ์ ‘รักแท้’ ที่หาชมได้เฉพาะแถบยุโรปมาประดับตกแต่งในงานให้ได้ชื่นชมเป็นครั้งแรกในโซนเซ็นทรัลคอร์ท ชั้น 1 เมื่อมาถึงโซนแดซเซิล ชั้น 1 ยังจะได้ชมสินค้าหัตถกรรมชนเผ่า บุหงาโครงการหลวง […]
เต่าตัวผู้หายไปไหน? โลกร้อนทำเต่าเกิดใหม่ในฟลอริดา กลายเป็นเพศเมียกว่า 99 เปอร์เซ็นต์
ภาวะโลกร้อนไม่ได้ทำให้มนุษย์ต้องเจอสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อซกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบที่น่ากังวลต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตอย่าง ‘เต่าทะเล’ ด้วย เพราะในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานี้ รายงานระบุว่า รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เจอสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาตัวอ่อนและไข่ของเต่าทะเลค้นพบว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของเต่าทะเลที่เกิดใหม่นั้นเป็น ‘เพศเมีย’ แทบไม่มีเพศผู้เลย ข้อมูลจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Ocean Service) นั้นอธิบายว่า เพศของเต่าทะเลจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของไข่ที่อยู่ในขั้นตอนการเจริญพันธุ์ หากฟักตัวในบริเวณที่อุณหภูมิต่ำกว่า 27.7 องศาเซลเซียส ลูกเต่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพศผู้ แต่ถ้าหากฟักตัวในบริเวณที่อุณหภูมิสูงกว่า 31 องศาเซลเซียส ลูกเต่าก็จะเกิดเป็นเพศเมีย ถือเป็นข้อมูลที่คลายข้อสงสัยให้กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอากาศที่ร้อนขึ้นมากกว่าเดิมในช่วง 4 ปีนี้ ทำให้ทรายในฟลอริดาที่แม่เต่าไปฟักไข่ไว้อุณหภูมิสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การเกิดใหม่ของลูกเต่าจึงกลายเป็นเพศเมียอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอัตราการเกิดของเต่าทะเลทั้งสองเพศที่ไม่สมดุลกันนี้ก็อาจส่งผลให้จำนวนประชากรเต่าในอนาคตลดลงตามไปด้วยเช่นกัน เห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า น้องเต่าเกิดใหม่ในบ้านเราจะกลายเป็นตัวเมียกันหมดเหมือนกับที่ฟลอริดาไหมนะ Source : Reuters | t.ly/FvDr
รู้จัก Voice of Baceprot วงเมทัลสาวมุสลิมจากอินโดนีเซีย เตรียมมาแสดงที่ไทย 27 ส.ค.นี้
หากพูดถึงวงดนตรีเมทัลหลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าจะมีวงหญิงล้วน สวมฮิญาบ ถือเบส จับกีตาร์ รัวกลอง และร้องเพลงหนักๆ บนเวทีเรียกเสียงเชียร์จากแฟนเพลง แต่ต้องบอกเลยว่า Voice of Baceprot จากประเทศอินโดนีเซียนั้นถือเป็นวงรุ่นใหม่ที่เหล่านักฟังเพลงเมทัลกำลังจับตามอง Voice of Baceprot เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน คือ Marsya (ร้องนำและกีตาร์), Widi (เบส) และ Sitti (กลอง) โดยทั้ง 3 คนเรียนดนตรีด้วยกันและต่างก็หลงรักในดนตรีเมทัล จึงรวมตัวก่อตั้งวง Voice of Baceprot ขึ้นในปี 2014 ซึ่งคำว่า Baceprot นั้นมาจากภาษาซุนดา แปลว่า ‘เสียงดังโหวกเหวก’ ที่หมายถึงแนวเพลงของพวกเธอนั่นเอง เพลงของ Voice of Baceprot นั้นมักจะพูดถึงประเด็นสังคมเสียส่วนใหญ่ กลายเป็นวงที่ทำลายความเชื่อและการเหมารวมที่กดทับผู้หญิงมุสลิมเอาไว้ ทั้งการที่ผู้หญิงชาวมุสลิมไม่ควรจะมีสิทธิ์มีเสียง หรือผู้หญิงไม่เหมาะกับเพลงเมทัลที่เสียงดัง โดยวงเริ่มต้นจากการเล่นดนตรีในโรงเรียนและเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับซิงเกิลเดบิวต์ ‘School Revolution’ ในปี 2018 เมื่อวงเป็นที่รู้จักมากขึ้น […]