WHAT’S UP
Fietsenstalling Stationsplein เปลี่ยนใต้น้ำให้เป็นอาคารจอดจักรยาน จอดฟรี 24 ชม. และจอดได้สูงสุด 11,000 คัน
เมื่อนึกถึงการเดินทางด้วยจักรยาน ภาพเมืองอัมสเตอร์ดัมในประเทศเนเธอร์แลนด์มักจะผุดขึ้นตามมา นั่นเพราะว่าผู้คนในเมืองแห่งนี้นิยมปั่นจักรยาน เพื่อลดการใช้รถยนต์บนท้องถนนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมลภาวะทางอากาศนั่นเอง เมื่อทางการรณรงค์ให้ผู้คนเลือกใช้จักรยานมากขึ้น และที่ทางบนพื้นดินก็ดูเหมือนจะจัดสรรได้ยากในปัจจุบัน เนเธอร์แลนด์จึงขยายพื้นที่จอดรถและจักรยานไปยังพื้นที่ใต้ดิน เพื่อแก้ปัญหาการจอดจักรยานบนท้องถนนที่ดูเกะกะตาหรือสร้างความไม่เป็นระเบียบให้กับเมือง ถัดมาในปี 2019 เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์แดนจักรยานก็ได้เริ่มสร้างโปรเจกต์อาคารจอดจักรยานใต้น้ำ เพื่อเปิดพื้นที่แห่งใหม่เป็นตัวช่วยจัดการพาหนะหลักของชาวเมืองอีกหนึ่งแรง โดยอาคารจอดจักรยานแห่งนี้ชื่อว่า ‘Fietsenstalling Stationsplein’ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีกลาง ‘Amsterdam Central Station’ ซึ่งเป็นสถานีสำหรับขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าและรถใต้ดิน อาคารจอดจักรยานใต้น้ำจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ เปิดใช้ส่วนแรกไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา และส่วนที่สองก็กำลังมีแผนเปิดให้บริการในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาคารจอดจักรยานทั้งสองจะสามารถช่วยรองรับจักรยานของชาวเมืองได้ถึง 11,000 คัน โดยสตูดิโอ ‘wUrck Architecture’ ที่รับหน้าที่ออกแบบอาคารแห่งนี้บอกว่า แรงบันดาลใจนั้นมาจากหอยนางรม เสมือนว่าชาวเมืองกำลังพาจักรยานคันโปรดไปตามบันไดเลื่อนผ่านโค้งเลี้ยวลงไปจอดรถในหอยยักษ์ใต้น้ำ เมื่อเข้ามาสู่ด้านในหอยยักษ์หรือตัวอาคาร จะพบกับโถงขนาดใหญ่ที่แบ่งแถวจัดเรียงแนวจอด และแบ่งกติกาต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยพื้นผิวด้านในที่แห่งนี้จะใช้โทนขาวนวลของไข่มุกมาเป็นแสงสีหลักในพื้นที่ ส่วนด้านบนเพดานถูกออกแบบให้มีกระจกโค้งมนที่ใช้สีฟ้าประดับตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใต้น้ำ แต่ไม่อึดอัดเพราะพื้นที่ด้านในยังถูกดีไซน์ให้รู้สึกสว่างไสว มองเห็นความเรียบง่ายที่กว้างขวางและให้ความรู้สึกนุ่มนวลเย็นสบาย โรงจอดจักรยานใต้น้ำแห่งนี้สามารถมาจอดได้ฟรี 24 ชั่วโมง หรือถ้าใครมีธุระต้องจอดข้ามวันจะคิดค่าจอดวันละ 1.35 ยูโร (ประมาณ 50 บาท) และนอกจากจะเป็นพื้นที่จอดจักรยานของประชาชนทั่วไปแล้ว ที่จอดจักรยานแห่งนี้ยังเริ่มต้นทดลองบริการจักรยานส่วนกลาง (OV-Fiets Bikeshares) เพื่อให้ทุกคนใช้ขี่สัญจรไปมายังที่ต่างๆ […]
ย้อนดูหลักฐานการต่อสู้ของประชาชนที่นิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน’ 20 ก.พ. – 26 พ.ค. 66 ที่ มธ. รังสิต
หลายครั้งที่การชุมนุมประท้วงหรือการต่อต้าน มักถูกฉายด้วยภาพจากฝั่งรัฐว่าเป็นการกระทำที่ผิดปกติ ก่อให้เกิดความวุ่นวาย จนประชาชนทั่วไปติดภาพของการออกมาชุมนุมว่าเป็นสิ่งที่เลวร้าย ทั้งที่จริงแล้วในรัฐธรรมนูญไทยหลายฉบับต่างรับรองเสรีภาพในการชุมนุมว่าเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมี เพื่อให้การชุมนุมเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้สื่อสารความต้องการของตัวเองออกมาได้ และในการชุมนุมประท้วงเหล่านี้เอง สิ่งที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงเจตจำนงอย่างมีศิลปะและความคิดสร้างสรรค์แต่คงไว้ด้วยความตรงไปตรงมา เพื่อให้สารหรือข้อเรียกร้องมีพลังและไปถึงผู้คนที่หลากหลายมากขึ้น นั่นก็คืออุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย หรือวัตถุพยานอื่นๆ ในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อรวบรวมวัตถุพยานที่หลงเหลือจากเหตุการณ์การชุมนุมเอาไว้ ‘พิพิธภัณฑ์สามัญชน Museum of Popular History’ จึงได้ร่วมมือกับ ‘พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ โดยมี ‘KINJAI CONTEMPORARY’ เป็นผู้จัดร่วมและออกแบบจนเกิดเป็นนิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน (Evidences of Resistance)’ ขึ้น ภายในจะจัดแสดงวัตถุพยานสำคัญของความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยรัฐ รวมไปถึงวัตถุที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันของผู้ชุมนุม ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดจนเหมือนไร้ซึ่งความหวัง เพราะสำหรับประชาชนมือเปล่าที่ไร้อำนาจและอาวุธ ความคิดสร้างสรรค์จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญเพียงไม่กี่อย่างที่พวกเขาใช้ได้ นิทรรศการ ‘วัตถุพยานแห่งการต่อต้าน’ จัดขึ้นที่ห้อง 112 พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ม.ธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ – 26 พฤษภาคม 2566 โดยเปิดให้เข้าชมได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30 – […]
The Stage Zero Collection ชุดชั้นในบอกสัญญาณมะเร็งเต้านม ช่วยคัดกรองความเสี่ยงผู้หญิงผิวดำ
‘มะเร็งเต้านม’ คือหนึ่งในโรคที่ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยง โดยตามสถิติแล้ว ผู้หญิงผิวดำมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้สูงกว่าคนผิวขาวถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะมักจะพบสัญญาณที่บ่งบอกอาการของโรคก็ต่อเมื่อร่างกายแสดงอาการออกมาในระยะหลังแล้วเท่านั้น เพราะเหตุนี้ แบรนด์ชุดชั้นใน Love & Nudes จึงร่วมมือกับบริษัทโฆษณา McCann Toronto ผลิตชุดชั้นในรุ่น ‘The Stage Zero Collection’ เพื่อช่วยให้ผู้หญิงที่มีผิวสีเข้มได้รู้ถึงอาการมะเร็งเต้านมได้ก่อนที่จะสายเกินไป Chantal Carter ผู้ก่อตั้ง Love & Nudes อธิบายว่า เครื่องมือวินิจฉัยมะเร็งเต้านมและการศึกษาโดยทั่วไปนั้นออกแบบโดยคำนึงถึงผิวขาวเป็นหลัก ซึ่งคู่มือการตรวจนั้นระบุว่ารอยแดงเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านม แต่อาการเหล่านี้จะแสดงแตกต่างกันไปในโทนสีผิวที่เข้มกว่า ทำให้มองเห็นได้ยาก โดย The Stage Zero Collection มีทั้งหมด 4 สี ซึ่งชุดชั้นในแบบพิมพ์ 3 มิตินี้จะช่วยให้ผู้ที่สวมใส่มองเห็น สัมผัส และรู้สึกถึงสัญญาณของโรคได้ด้วยตัวเอง ผ่านการสัมผัสรอยบุ๋มของมะเร็งเต้านมที่อักเสบและตำแหน่งที่อาจพบก้อนเนื้อ ซึ่งจะมีขนาดและรูปร่างเท่าของจริง ชุดชั้นในคอลเลกชันนี้ใช้เวลาในการทดลองและผลิตนานกว่า 18 เดือน รวมถึงยังให้ช่างแต่งหน้าแต่งเติมเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสีของมะเร็งเต้านมในโทนสีผิวต่างๆ นอกเหนือจากรอยแดงของผู้หญิงผิวขาว Sources : DesignTAXI […]
ชมหนังสั้นประเด็นโลกร้อนจากทั่วโลกที่ ‘เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน’18 – 19 ก.พ. 66 ณ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
ใครที่อยากเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ชวนไปชมภาพยนตร์ประเด็นวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลากหลายรูปแบบที่ ‘เทศกาลหนังสั้นโลกป่วยเราต้องเปลี่ยน ครั้งที่ 3’ หรือ ‘CCCL FILM FESTIVAL 2023’ ภายในงานมีโปรแกรมจัดฉายหนังทั้งหมด 40 เรื่องจาก 16 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วยหนังสั้นจากประเทศไทย 21 เรื่อง หนังสั้นจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16 เรื่อง และหนังจากต่างประเทศ 3 เรื่อง ประกอบด้วยฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และแคนาดา ตัวอย่างโปรแกรมฉายที่น่าสนใจ ได้แก่ สารคดีสั้นที่ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 เรื่อง ‘Haulout’ โดย Maxim Chakilev และ Evgenia Arbugaeva, หนังสั้นสไตล์จัดจ้านจากเทศกาลโลการ์โน เรื่อง ‘Watch the Fire or Burn Inside it’ โดย Jonathan Vinel และ Caroline Poggi, […]
หนีเมืองไปฟังเสียงดนตรีท่ามกลางธรรมชาติในงาน Leaf & Rhyme วันที่ 18 ก.พ. 66 ที่ Baimai Activity Space
อีกหนึ่งอีเวนต์ใกล้กรุงเทพฯ ที่เราอยากชวนทุกคนเดินทางออกจากเมืองไปฟังเสียงเพลง โอบรับเสียงรอบตัว และเชื่อมต่อกับผู้คนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งต่อความรู้ ความเข้าใจ ให้คนอื่นๆ ได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของธรรมชาติ งาน ‘Leaf & Rhyme’ จัดโดย ‘กลุ่มใบไม้’ ทีมนักกิจกรรมที่เป็นกระบอกเสียงเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็งเสมอมา หลักๆ แล้วภายในงานนี้ ทุกคนจะได้พบกับวงดนตรีและพี่น้องศิลปินกว่า 13 รายชื่อที่จะสลับขึ้นโชว์ตั้งแต่บ่ายจวบจนวงล้อมรอบกองไฟยามค่ำคืน ได้แก่ Selina and Sirinya, Youth Brush, สุขเสมอ, เย็นตะวัน, Sao Moonlight Gypsy, JIPI, โจ อาชาไนย (The Voice 7), ปืน เนติ (The Voice 4), นายเป้ ม.เมื่อย, Black Hole, 22 Island, Book และเมธาวี (แมวจร) นอกจากหูที่ได้ฟังดนตรีกันท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติแล้ว ตาของเรายังได้ชมนิทรรศการศิลปะที่เชื่อมโยงกับงานด้านอนุรักษ์ธรรมชาติกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนที่นอนก็แบกเต็นท์มากางค้างแรมกันได้ในงานนี้ เพราะพื้นที่จัดงานอย่าง Baimai […]
TK Park เปิดสาขาใหม่ที่ปุณณวิถี ยืม-คืน อ่านหนังสือ ทำงานได้ทุกวัน ที่ชั้น 3 True Digital Park
ในที่สุดชาวปุณณวิถีและพื้นที่ใกล้เคียงก็จะมีห้องสมุดไว้ใช้หยิบยืมหนังสืออ่าน และทำงานแล้ว นั่นคือ TK Park สาขา True Digital Park ที่เปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่นี่ได้รับการออกแบบเป็นห้องสมุดแบบเปิดให้ผู้สนใจเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย มีหนังสือให้บริการมากกว่า 1,800 เล่มภายในพื้นที่ขนาด 960 ตารางเมตร และมีที่นั่งอ่านกว่า 80 ที่นั่ง ห้องเงียบ รวมถึงพื้นที่สำหรับอ่านอีบุ๊กและนิตยสาร หนังสือในห้องสมุดแห่งนี้จะเน้นที่หนังสือพัฒนาตัวเอง ธุรกิจ หนังสือเด็ก และหนังสือทั่วไป ใครที่เป็นสมาชิก TK Park อยู่แล้ว สามารถยืม-คืนหนังสือได้ ไม่ต้องสมัครสมาชิกใหม่ ส่วนใครที่เป็นลูกบ้าน True Digital Park รับสิทธิ์สมัครสมาชิก TK Park รายปีฟรี ผ่านแอปฯ MyTK หรือตู้สมัครสมาชิกด้านหน้า TK Park สาขา True Digital Park เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. (งดบริการยืมหนังสือทุกวันจันทร์) […]
‘Stump’ โคมไฟบนเกาะ Møn ที่ช่วยลดมลภาวะทางแสง ทำให้ชาวเดนมาร์กเห็นดาวชัดขึ้น
‘มลภาวะทางแสง (Light Pollution)’ ที่เกิดจากแสงประดิษฐ์โดยมนุษย์ในเวลากลางคืน เป็นอีกหนึ่งมลภาวะที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราไม่น้อย นั่นเป็นเพราะแสงเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตและทำให้กิจกรรมทางดาราศาสตร์อย่างการดูดาวเสียหาย ไม่ต่างกับเกาะ Møn ทางตอนใต้ของเดนมาร์ก ที่ถูกจัดให้เป็นชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด (Dark Sky Communities) ที่มีการรักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้เหมาะสมต่อการสังเกตเห็นดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว กระจุกดาว เนบิวลา หรือทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า ก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน เพื่อคงความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนและรักษาความเป็นชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดเอาไว้ จึงเกิดการร่วมมือกันของนักออกแบบ ‘Peter Bysted’ และ ‘Icono’ บริษัทไฟจากเดนมาร์ก เพื่อพัฒนา ‘Stump’ โคมไฟภายนอกสำหรับเกาะนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่ใช่แค่โคมไฟภายนอกที่มีขนาดใหญ่โตและให้แสงสว่างไสวในที่มืด แต่ Stump มีจุดมุ่งหมายที่ต้องการผสมผสานตัวเองเข้ากับสภาพแวดล้อมกลางแจ้งโดยไม่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกสะดุดตา ขณะเดียวกันยังสามารถให้แสงสว่างตามทางเดินทั้งในพื้นที่กลางแจ้งส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะในปริมาณเพียงพอ ไม่มากเกินไปจนเกิดเป็นมลภาวะทางแสง ที่เป็นเช่นนี้เพราะภายใน Stump ประกอบด้วยระบบไฟที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งจะปล่อยแสงที่นุ่มนวลโทนสีอบอุ่นเมื่อเปิดใช้งาน และส่งออกมาผ่านกระจกแบบโปร่งใสที่ทำให้เกิดแสงและเงาที่สวยงาม โดยไม่กลบแสงดาวบนท้องฟ้าให้หายไปเหมือนในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยไฟจากหลอด LED นอกจากนี้ ตัวฐานของโคมไฟยังสร้างขึ้นจากตอไม้ที่แข็งแรงเพียงพอที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเก้าอี้ ให้คนที่ผ่านมาใช้งานในระยะสั้นพักพิงหรือนั่งมองดูดาวในช่วงกลางคืนได้อีกด้วย Sources : Dezeen | t.ly/_ctiYanko Design | t.ly/c-Oq
Six Frames เปลี่ยนโฉมโรงนาเก่าให้เป็นบ้านร่วมสมัยที่มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ชั้นแรกถึงห้องใต้หลังคา
‘Lukas Lenherr Architektur’ คือสตูดิโอสถาปัตยกรรมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่แปลงโฉมโรงนาเก่ายุค 1850 ในเมือง Männedorf ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในร่างของบ้านที่น่าอยู่และมีหน้าตาร่วมสมัย บริษัทผู้ออกแบบได้เพิ่มโครงสร้างไม้สปรูซ 6 ชิ้นที่มีความแข็งแรงและซับซ้อนภายในโรงนาที่มีอยู่ก่อน เพื่อรองรับโครงสร้างเดิมของโรงนาแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี โครงการนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า ‘Six Frames’ โรงนาแห่งนี้มี 3 ชั้น ภายในถูกตกแต่งด้วยไม้ทั้งหมด โดดเด่นด้วยบันไดไม้ที่ใช้เดินไปยังทุกชั้นของบ้าน ส่วนการออกแบบพื้นที่นั้นเป็นไปตามการจัดวางโครงสร้างที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งทำให้เกิดพื้นที่ใหม่ที่มีช่องเปิดและแนวสายตาที่หลากหลาย แถมยังช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ชั้นแรกไปจนถึงชั้นใต้หลังคาเลยทีเดียว ผนังของอาคารสร้างจากไม้ใหม่เป็นไม้สนสีเงิน เลือกตกแต่งด้วยวิธี Yakusuzgi เป็นภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่น คือการทำให้ไม้ไหม้เกรียมเพื่อรักษาไม้ให้สามารถคงอยู่ได้นานหลายชั่วอายุคน เมื่อมองจากภายนอก จะเห็นบ้านที่ทำให้รู้สึกถึงโรงนาในชนบทแสนเรียบง่ายแต่ซ่อนดีไซน์สมัยใหม่ไว้ด้านใน Lukas Lenherr Architektur สามารถเปลี่ยนโรงนาที่ค่อนข้างเก่าและธรรมดาให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับการปรับปรุงใหม่พร้อมการตกแต่งภายในที่ละเอียดอ่อน ทำให้บ้านดูน่าสนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียสำหรับการแปลงโฉมอาคารเก่าหรือสถาปัตยกรรมให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น Sources :Designboom | bit.ly/3x61u1MYanko Design | bit.ly/3lqO2mj
โครงการ Flush Your Ex ในออสเตรเลีย ชวนทิ้งจดหมายจากแฟนเก่าลงชักโครกด้วยการเปลี่ยนให้เป็นกระดาษชำระ
ใกล้วาเลนไทน์แล้ว เราอยากชวนทุกคนเริ่มเคลียร์พื้นที่สำหรับเก็บของขวัญจากคนรักใหม่ ด้วยการเก็บจดหมายจากคนรักเก่าไปทิ้ง แต่จะให้ฉีกทิ้งลงถังขยะหรือเผาทิ้งไปเฉยๆ ก็คงจะไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ ดังนั้น ที่ประเทศออสเตรเลียจึงมีโครงการกำจัดความทรงจำที่เลวร้ายจากแฟนเก่าให้กลายเป็นประโยชน์กับคนอื่นต่อไป Flush Your Ex คือโครงการที่เชิญชวนให้คนที่ไม่อยากเก็บจดหมายจากคนรักเก่า ด้วยการส่งให้กับ Who Gives a Crap บริษัทผลิตกระดาษทิชชูและกระดาษชำระ เพื่อนำความทรงจำเก่าเหล่านั้นมาอัปไซเคิลให้กลายเป็นกระดาษชำระ จากนั้นจะถูกใช้เช็ดสิ่งสกปรกและทำความสะอาด ก่อนจะถูกโยนทิ้งลงชักโครกและปล่อยให้ไหลไปตามท่อน้ำทิ้ง Who Gives a Crap ก่อตั้งขึ้นด้วยความตระหนักว่า บนโลกใบนี้มีประชากรกว่า 2.4 พันล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงห้องน้ำได้ ทางบริษัทจึงบริจาค 50 เปอร์เซ็นต์ของกำไรให้กับโครงการสร้างห้องน้ำและปรับปรุงสุขอนามัยในประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย ดังนั้น การส่งต่อจดหมายรักที่ไม่รักอีกต่อไปเพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นกระดาษชำระในโครงการ Flush Your Ex นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งทางที่จะได้ช่วยเหลือผู้คนอีกมากมายให้เข้าถึงสุขอนามัยอีกด้วย Sources : DesignTAXI | bit.ly/40Jnhts Who Gives a Crap | bit.ly/3xagkEw
Pegasus 88M เรือซูเปอร์ยอช์ตพิมพ์ 3 มิติลำแรกของโลก ที่สะท้อนกับผิวน้ำจนเหมือนว่ากำลังล่องหน
Jozeph Forakis Design จากมิลาน ได้ออกแบบเรือยอช์ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีความตั้งใจสร้างเรือให้ใกล้ชิดกับทะเลและธรรมชาติให้ได้มากที่สุด จึงเกิดเป็นแนวคิด ‘มองไม่เห็นทั้งในด้านการออกแบบและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม’ ก่อนจะออกแบบเรือแห่งอนาคตที่ทั้งล่องหนและปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ขึ้นมา Pegasus 88M เป็นเรือซูเปอร์ยอช์ตที่สร้างขึ้นจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติลำแรกของโลก โดยใช้เครื่องพิมพ์นี้สร้างทั้งตัวเรือและโครงสร้างส่วนบน ทำให้ได้วัสดุที่มีความทนทานแต่น้ำหนักเบา ซึ่งสามารถผลิตได้ด้วยพลังงาน ของเสีย และใช้เวลาในการสร้างน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเรือยอช์ตทั่วไป ส่วนด้านนอกของเรือยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยพื้นผิวโลหะสีเงิน ทำให้ลำเรือสะท้อนภาพโดยรอบและกลมกลืนไปกับผิวน้ำจนดูเหมือนว่าเรือลำนี้กำลังล่องหนอยู่กลางมหาสมุทร รวมถึงยังมีปีกกระจกที่ช่วยสะท้อนเมฆและท้องฟ้าด้านบน ซึ่งช่วยให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น ภายในเรือยังมี ‘Tree of Live’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวนไฮโดรโปนิกส์ที่จะทำให้ผู้โดยสารบนเรือยอช์ตได้รับอากาศบริสุทธิ์ระหว่างล่องเรือ นอกจากนี้ Pegasus 88M ยังไม่ปล่อยคาร์บอนขณะล่องอยู่ในทะเล และสามารถเดินทางได้อย่างไม่จำกัดระยะทางด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นพลังงานไฮโดรเจน ซึ่งสามารถกักเก็บพลังงานไว้ได้เป็นเวลานานสำหรับนำมาใช้กับเรืออีกด้วย Sources : DesignTAXI | bit.ly/3x6Gtny Jozeph Forakis Design | bit.ly/3YhSIts
กินดื่ม ช้อปปิง ฟังดนตรี ชมงานศิลปะ ในงาน FutureFest 2023 วันที่ 11 – 12 ก.พ. 66 ที่โกดังเสริมสุข
‘FutureFest 2023’ อีกหนึ่งงานเทศกาลดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรม ประจำเดือนแห่งความรักที่อยากชวนทุกคนไปเที่ยวกัน เพราะว่านี่คืองานที่เราจะได้เต็มอิ่มไปด้วยความบันเทิงและสาระตลอดสองวันเต็ม จัดโดยมูลนิธิคณะก้าวหน้าร่วมกับบริษัทส้มจี๊ด เอ็นเตอร์ไพรส์ งานครั้งนี้จัดขึ้นที่ ‘โกดังเสริมสุข’ พบกับบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา และโปรแกรมกิจกรรมมากมายที่เตรียมไว้ต้อนรับทุกคน อย่างเช่น ‘Flea Market’ ตลาดนัดที่แบรนด์ดังจากไอจีจะมาออกร้านกันกว่า 50 บูท และยังได้พบกับ ‘B.A.D Beer มหกรรมคราฟต์เบียร์คนไทย’ เจอกับร้านคราฟต์เบียร์หลากหลายทางเลือกจากผู้ประกอบการรายย่อยและนักต้มเบียร์ เพื่อปลดล็อกทุกข้อจำกัดทางกฎหมายและเศรษฐกิจ ให้ทุกคนได้เลือกดื่มลองชิมกันอย่างอิสระ ส่วนคนรักการชมภาพยนตร์ก็ต้องชอบงานนี้ เพราะมีหนังนอกกระแสฉายให้ดูกันตลอดวัน มีทั้งหนังสั้นของนักศึกษาและหนังสั้นของผู้กำกับมากฝีมือหลายคนที่หาดูได้ยาก รวบรวมมาไว้ให้ดูกันในงานนี้แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรม ‘Workshop’ ที่จะชวนมาร่วมประสบการณ์ไปกับผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถกเถียงกับวง ‘Talk Sessions’ ที่จะเสวนาพูดคุยในหัวข้อต่างๆ ทั้งแฟชั่น ดนตรี และการเมือง แถมยังได้เดินเล่นมองดู ‘Exhibitions’ ที่รวมนิทรรศการงานศิลปะจากหลากหลายศิลปินมาถ่ายทอดเรื่องราว สุดท้ายที่ขาดไปไม่ได้เลยนั่นคือ ‘Live Concert’ ฟังดนตรีไปกับศิลปินอินดี้แห่งยุคที่จะมาแสดงกันถึง 5 วงต่อวัน เช่น H 3 F, […]
Recompose โรงงานทำปุ๋ยหมักจากมนุษย์ในซีแอตเทิล เปลี่ยนร่างของคนที่รักกลับสู่ธรรมชาติภายใน 60 วัน
ในยุคปัจจุบันที่การเผาศพก่อให้เกิดมลภาวะ ส่วนการฝังศพก็กลายเป็นเรื่องยากเพราะพื้นที่ในเมืองมีไม่เพียงพอ การเปลี่ยนร่างของคนที่คุณรักให้กลายเป็นดินด้วยกรรมวิธีการทำปุ๋ยหมักสำหรับนำไปใช้ต่อ จึงอาจเป็นทางออกที่น่าสนใจของปัญหาเหล่านี้ก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ ‘Recompose’ บริษัทสตาร์ทอัปสัญชาติอเมริกันจึงเปิดโรงงานและสถานที่จัดงานศพในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการเปลี่ยนซากศพของมนุษย์ให้กลายเป็นดินที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในงานเกษตรกรรมต่อได้ หลังจากที่การทำปุ๋ยหมักจากศพมนุษย์ได้รับการรับรองให้ถูกกฎหมายรัฐวอชิงตันเมื่อปี 2019 โรงเรือนขนาด 19,500 ตารางฟุตของ Recompose ประกอบไปด้วยล็อบบี้และห้องสำหรับทำพิธีศพแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับประเพณีเดิม โดยร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกนำไปใส่ในโลงศพแคปซูลเหล็กหกเหลี่ยมพร้อมกับเศษฟางและไม้ เพื่อทำให้เกิดกระบวนการหมักภายใน ก่อนจะกลายสภาพเป็นปุ๋ยหมักที่เต็มไปด้วยสารอาหารสำหรับพืชภายใน 30 วัน จากนั้นดินที่ถูกแยกออกจากวัสดุที่ไม่เกิดการกัดกร่อน เช่น วัสดุอุดฟันหรือหมุดโลหะ และตะปูที่ใช้สำหรับตรึงร่าง จะถูกย้ายไปยังถังบ่มเพื่อทำให้แห้งอีกประมาณ 2 – 6 สัปดาห์ ก่อนที่ทางโรงงานจะส่งดินเหล่านี้คืนให้ครอบครัวหรือเพื่อนของผู้เสียชีวิตสำหรับเก็บรักษา หรือบริจาคต่อให้กับองค์กรพันธมิตรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่าง ‘Remember Land’ เพื่อนำดินกลับสู่ธรรมชาติบริเวณป่า ‘Bells Mountain’ ขนาด 700 เอเคอร์ทางตอนใต้ของวอชิงตันตามที่ญาติต้องการ ใครสนใจการบริการเปลี่ยนศพให้กลายเป็นปุ๋ยหมักแบบนี้ สามารถใช้บริการ Recompose อย่างเต็มรูปแบบได้ในราคา 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 234,000 บาท) โดยมีเงื่อนไขว่าคุณจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพไปยังโรงงานด้วยตัวเอง Sources : Dezeen | […]