WHAT’S UP
RE.UNIQLO เปิดรับเสื้อกันหนาวเพื่อส่งต่อ ช่วยลดขยะ ยืดเวลาการใช้เสื้อ และลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากความหนาว
แม้ว่าฤดูหนาวบ้านเราจะไม่หนาวเหน็บขนาดที่หยิบเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ได้ตลอดเวลา แต่ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศ ที่คนในพื้นที่เสียชีวิตจากความหนาวเพราะขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันความเย็นเมื่อเข้าหน้าหนาวหรืออุณหภูมิลดต่ำลง โครงการ ‘RE.UNIQLO’ ชวนทุกคนมาร่วมกันบริจาคเสื้อกันหนาวที่ใส่ไม่ได้หรือไม่ใส่แล้วให้ทางแบรนด์เสื้อผ้า UNIQLO เพื่อเป็นตัวกลางในการส่งต่อเสื้อกันหนาวจำนวน 50,000 ตัวให้กับผู้ที่ต้องการได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นเวลาหลายปีที่โครงการ RE.UNIQLO มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2549 เพื่อรวบรวมเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วของลูกค้ามาส่งต่อให้ผู้อื่นที่ต้องการ หรือนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะแฟชั่น ลดการใช้ทรัพยากร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมไปถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าให้นานขึ้น สอดคล้องกับจุดยืนของ UNIQLO ที่เป็นมิตรต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและชุมชน หากใครมีเสื้อกันหนาวที่ใส่ไม่ได้หรือไม่ใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม สามารถนำไปบริจาคกับ UNIQLO ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ที่จุดรับบริจาคและที่หน้าร้านทุกสาขา
Bronx Children’s Museum เปลี่ยนโรงไฟฟ้าเก่าเป็นพิพิธภัณฑ์เด็ก หลังจากดำเนินการโดยไม่มีอาคารมากว่า 10 ปี
หลังจากที่ ‘Bronx Children’s Museum’ พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กบนรถบัสสีม่วงสดใส ได้เคลื่อนตัวไปทั่วนิวยอร์กโดยไม่มีอาคารจัดแสดงเป็นหลักเป็นแหล่งมานานกว่า 10 ปี ในที่สุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมปีที่แล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอาคารที่ตั้งอย่างเป็นทางการที่ริมแม่น้ำฮาร์เล็มในเขต South Bronx Bronx Children’s Museum แห่งนี้กินพื้นที่ขนาด 13,650 ตารางฟุตในชั้นสองของโรงไฟฟ้าเก่าที่สร้างขึ้นในปี 1925 อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ก้าวจาก Bronx Terminal Market, Yankee Stadium และสถานีรถไฟใต้ดินใกล้เคียง จุดมุ่งหมายของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ ต้องการให้เด็กๆ ในเมืองมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมของเมืองและธรรมชาติ ผ่านการออกแบบโดยสตูดิโอ ‘O’Neill McVoy Architects’ ที่เชื่อมต่อรูปทรงเรขาคณิตเข้ากับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำ แผ่นกั้นห้องและเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ภายใน Bronx Children’s Museum สร้างขึ้นจากผนังพาร์ติชันไม้ลามิเนต (CLT) แบบโค้งดัดได้และแผ่นอะคริลิกรีไซเคิลโปร่งแสง ให้ความรู้สึกเหมือนภายในมีความเชื่อมต่อกันระหว่างที่เราเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้โคมไฟ LED ระบบเซนเซอร์ที่เพิ่มหรือลดแสงภายในพิพิธภัณฑ์ให้สอดคล้องไปกับแสงแดดจากภายนอกอย่างเหมาะสม หน้าต่างที่ช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น รวมไปถึงติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของระบบเครื่องปรับอากาศภายในตัวอาคาร ปัจจุบัน Bronx Children’s Museum เปิดให้เข้าชมสัปดาห์ละ […]
‘Lofi.co’ เว็บไซต์ฟังเพลงพร้อมเสียงบรรยากาศ ให้เลือกแมตช์ 20 เสียง กับ 40 ภาพพื้นหลัง มีฟังก์ชันจับเวลา สมุดโน้ต และ PDF Reader
เว็บไซต์สร้างบรรยากาศระหว่างทำงาน ที่ฟังเพลงไปพร้อมๆ กับเสียงบรรยากาศอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แล้วในปัจจุบัน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีทั้งเว็บไซต์ LifeAt, Imissmycafe หรือ Noisli ให้เลือกใช้ แต่ครั้งนี้ Urban Creature ขอป้ายยาอีกครั้งกับ ‘Lofi.co’ เว็บไซต์ฟังเพลงพร้อมเสียงบรรยากาศเบาสบาย ที่อาจกลายเป็นเพื่อนคนใหม่ในวันเหงาๆ ที่คุณต้องทำงานอยู่บ้านคนเดียว ด้วยความพิเศษที่ผู้ใช้สามารถเลือกมิกซ์เสียงบรรยากาศได้ตั้งแต่เสียงฝน คีย์บอร์ด รถไฟ หรืออื่นๆ อีกมากมายกว่า 20 เสียง ให้กลายเป็นเสียงบรรยากาศประจำตัวได้ง่ายๆ แถมเอาไปจับคู่กับภาพวาดพื้นหลังที่มีให้เลือกกว่า 40 ภาพ (อัปเดตทุกเดือน) หรือเพลงสไตล์ Lofi จากเว็บไซต์เองก็สนุกไปอีกแบบ นอกจากนี้ ภาพวาดพื้นหลังสถานที่ต่างๆ ยังมีกิมมิกที่ให้ผู้ใช้งานเลือกเปลี่ยนเวลาจากกลางวันเป็นกลางคืนได้ เพิ่มความแปลกใหม่และเข้ากับช่วงเวลาที่ใช้งานอยู่ นี่ยังไม่รวมฟังก์ชันอื่นๆ อย่างนาฬิกาจับเวลาแบบ Pomodoro ที่เป็นเทคนิคการบริหารเวลาแบบหนึ่งที่ช่วยให้เรามีสมาธิกับงานที่ทำมากขึ้น สมุดโน้ตที่จดบันทึกความคิดได้ตลอดเวลา PDF Reader ที่นำเข้าไฟล์ได้ไม่สะดุด หรือแม้กระทั่งคลิป YouTube ที่เล่นภายในหน้าเว็บไซต์ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าเว็บให้วุ่นวาย Lofi.co เปิดให้ใช้บริการฟรีในบางฟีเจอร์ และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของเว็บไซต์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นใน 3 ราคา ดังนี้ ใครสนใจอยากลองเล่นเว็บไซต์แบบฟรีๆ […]
‘Cultural Pavilion’ ฮอลล์คอนเสิร์ตเคลื่อนที่ในออสเตรีย ที่รื้อถอน ประกอบใหม่ และขยายได้ตามต้องการ
คอนเสิร์ตและงานเทศกาลต่างๆ มักถูกเพ่งเล็งว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ที่ประเทศออสเตรีย มีฮอลล์คอนเสิร์ตที่เน้นเรื่องความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่ด้วย ‘Cultural Pavilion’ คือฮอลล์คอนเสิร์ตเคลื่อนที่แห่งใหม่ในเมือง Semmering ที่สร้างโดยบริษัทสถาปนิก ‘Vienna-based Mostlikely Architecture’ โดยออกแบบมาเพื่อให้มีความผสมผสานและกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบที่เป็นทิวทัศน์ของภูเขา Semmering เพื่อความกลมกลืนกับป่าด้านข้าง การก่อสร้าง Pavilion เลือกใช้ไม้สนที่ผ่านการรับรองในท้องถิ่นเท่านั้น โดยมีการแปรรูปต้นสนทั้งหมดประมาณ 75 ตันในการสร้าง ส่วนระบบปรับอากาศก็ใช้การระบายอากาศโดยธรรมชาติอย่างเหมาะสม และซัปพอร์ตด้วยหลักการ ‘ชิมนีย์เอฟเฟกต์’ (Chimney Effect) เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานสูงของระบบทางเทคนิคที่อาจส่งผลต่อกระทบสิ่งแวดล้อมรอบด้าน นอกจากนี้ Cultural Pavilion ยังใช้วิธีการออกแบบกึ่งสำเร็จรูป ที่ถอดและประกอบตัวสิ่งก่อสร้างใหม่ได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น และหากในอนาคตจะมีเทศกาลขนาดใหญ่มาใช้พื้นที่แห่งนี้ ตัว Pavilion ก็สามารถดัดแปลงและขยายพื้นที่เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละงานได้เช่นกัน Cultural Pavilion ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยเส้นและความลาดเอียงในการตกแต่งภายใน ทั้งม่าน องค์ประกอบทางเทคนิค และแสงที่ส่องเข้ามา รวมถึงตัวอาคารที่มีหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ มองเห็นทิวทัศน์ของป่าได้ไกลเกือบถึงเวียนนา ทำให้ผู้เข้าร่วมงานในเทศกาลต่างๆ ได้ชมวิวโดยรอบในระหว่างที่ดื่มด่ำกับงานแสดงภายในไปพร้อมๆ กัน Sources :Designboom | bit.ly/3Vy5RxZMostlikely | bit.ly/44w0gwj
‘Saurk’ ส่วนผสมของส้อมและซอส ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การจิ้ม และไม่ต้องกลัวเทซอสเหลืออีกต่อไป
หากคุณเป็นคนที่ติดซอส ขาดซอสไม่ได้ แต่มีปัญหาทุกครั้งกับการกะปริมาณให้พอดี เพราะเมื่อเทใส่ถ้วยทีไรก็มักจะเหลือจนต้องทิ้งทุกครั้ง ต้องอย่าพลาดกับอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การกินอาหารแบบจิ้มซอสสะดวกขึ้น และทำให้ Enjoy Eating ยิ่งกว่าเดิม นอกจากจะคิดค้นรสชาติซอสใหม่ๆ มานานกว่า 100 ปี ‘Thomy’ แบรนด์ซอสในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังหาวิธีเพิ่มความสุขในการกินผ่านการออกแบบให้เครื่องปรุงและอุปกรณ์การกินกลายเป็นสิ่งเดียวกัน นั่นคือเจ้า ‘Saurk’ ลูกผสมระหว่างซอสและส้อมที่จะมีรูเล็กๆ สำหรับบีบซอสมะเขือเทศ มายองเนส หรือมัสตาร์ด ออกมาให้เข้าปากได้อย่างพอดี เรียกได้ว่าจะกินซอสมากหรือน้อยก็กำหนดปริมาณเองได้ด้วยแรงมือ ถึงแม้จะดูเป็นวิธีการกินที่แปลกประหลาดไปหน่อย แต่รับรองว่าจะช่วยให้ประหยัดซอสได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเทออกมาแล้วจะเหลือทิ้งเพราะไม่พอดีกับปริมาณอาหารแน่นอน วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่หมุนส่วนที่เป็นส้อมให้เข้ากับเกลียวของหลอดซอส Thomy จิ้มอาหาร และบีบให้ซอสไหลออกมา เพียงเท่านี้ก็จะได้กินอาหารพร้อมกับซอสอย่างพอดีคำ และเมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็สามารถถอดส้อมออกไปทำความสะอาด เพื่อเก็บไว้ใช้งานครั้งต่อๆ ไปได้อย่างไม่จำกัด Source :DesignTAXI | bit.ly/44oJ0c1
PowerPod นวัตกรรมกังหันลมในเมือง ใช้พื้นที่น้อย ปลอดภัยต่อคนและสัตว์ ทางเลือกใหม่ของพลังงานหมุนเวียน
การรักษาทรัพยากรเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนกำลังตระหนักถึงความสำคัญ และการใช้พลังงานทดแทนคือสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โดยหนึ่งในพลังงานหมุนเวียนที่น่าจะเป็นแหล่งทุนที่หาง่ายที่สุดคือ ‘พลังงานลม’ แต่ด้วยข้อจำกัดของกังหันลมแบบเดิมที่มีขนาดใหญ่ ส่งเสียงดัง และอาจสร้างอันตรายต่อสัตว์ต่างๆ รวมถึงต้องอาศัยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีลมโกรกอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของเมืองได้ ด้วยเหตุนี้ ‘Halcium’ บริษัทสตาร์ทอัปในเมืองซอลต์เลกซิตี้ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงออกแบบกังหันลมแบบใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเอาชนะความท้าทายเหล่านั้น ก่อให้เกิดพลังงานลมมาสู่เมืองต่างๆ ชื่อของกังหันลมที่ว่านี้คือ ‘PowerPod’ ซึ่งเป็นกังหันลมต้นแบบขนาดเล็กที่ดีไซน์มาให้รวบรวมอากาศได้ 360 องศา มีใบพัดอยู่ภายในที่ถูกปกป้องด้วยเปลือกนอก ส่งผลให้ปลอดภัยสำหรับเด็ก สัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่า อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพและกำลังมากกว่ากังหันลมทั่วไป ที่จะช่วยผลิตพลังงานได้มากกว่ากังหันลมแบบเดิมถึง 300 เท่า อีกความสามารถหนึ่งของ PowerPod คือ การรับพลังงานลมจากการเปลี่ยนทิศทางหรือหลายทิศทางพร้อมกันได้ ซึ่งลมแบบนี้มักพบได้บ่อยในสภาพแวดล้อมในเมือง พูดง่ายๆ คือ เจ้านวัตกรรมกังหันลมนี้สามารถผลิตพลังงานได้โดยไม่ต้องคำนึงทิศทางลม และเชื่อมต่อเข้ากับระบบไฟฟ้าของอาคารต่างๆ หรือรวมเข้ากับพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อกักเก็บพลังงาน ใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาพลังงานหมุนเวียนได้ มากไปกว่านั้น PowerPod ยังเป็นพลังงานสำรองสำหรับบ้านและการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในกรณีของเหตุฉุกเฉินหรือไฟฟ้าดับ และด้วยลักษณะที่มีรูปร่างเล็กกะทัดรัด ทำให้เอื้อต่อการติดตั้งบนหลังคา ระเบียง หรือขอบหน้าต่าง เพื่อรับลมและผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าได้ ทั้งนี้ PowerPod ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยบริษัทผู้ออกแบบกำลังดำเนินการ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของตัวต้นแบบให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ […]
ยกอาณาจักรจิบลิมาไว้กลางเซ็นทรัลเวิลด์ กับงาน ‘The World of Studio Ghibli’s’ เปิดให้เข้าชม 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 66
ใครเป็นสาวกสตูดิโอจิบลิต้องไม่พลาดกับงาน ‘The World of Studio Ghibli’s Animation Exhibition Bangkok 2023’ นิทรรศการแอนิเมชันจิบลิที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกพลขนทัพกันมาไว้กลางเซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนี้ ‘Live Nation Tero’ จัดใหญ่จัดเต็มด้วยการเนรมิตพื้นที่กว่า 1,890 ตารางเมตรของ ‘เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์’ อย่างยิ่งใหญ่ ให้แฟนๆ ได้ดำดิ่งลงไปในโลกแห่งจินตนาการ เวทมนตร์ และความฝัน เต็มอิ่มไปด้วยซีนสุดประทับใจจากจักรวาลภาพยนตร์แอนิเมชันจิบลิ ตั้งแต่ผืนป่าของโทโทโร่ ขึ้นรถไฟแห่งวิญญาณไปกับเจ้าคาโอนาชิ แวะเยี่ยมร้านขนมปังของโอโซโนะ ไปจนถึงไฮไลต์สุดพิเศษอย่าง ‘ลาพิวต้า’ (Laputa) ปราสาทกลับหัวจากเรื่อง Castle in the Sky ที่มาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ เป็นที่แรก The World of Studio Ghibli’s Animation Exhibition Bangkok 2023 จะเปิดปราสาทเวทมนตร์ต้อนรับแฟนๆ ชาวไทย ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง […]
‘Katsura Library’ อ่านหนังสือที่ ม.เกียวโต พร้อมชมวิวป่าไผ่ ห้องสมุดใหม่ที่รวม 5 ห้องสมุดเก่าให้กลายเป็นหนึ่ง
ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ติดท็อป 3 ทุกปี คงหนีไม่พ้น ‘มหาวิทยาลัยเกียวโต’ (Kyoto University) เพราะนอกจากการเรียนการสอนที่ดี สภาพแวดล้อมในบริเวณมหาวิทยาลัยยังร่มรื่น ชวนให้เกิดความรู้สึกอยากเรียนรู้ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่มหาวิทยาลัยเกียวโต วิทยาเขต Katsura ที่ได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ห้องสมุดใหม่ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของนักศึกษาและบุคคลทั่วไปมากขึ้น ด้วยการรวมเอาห้องสมุดทั้ง 5 แห่งเดิมที่แยกตามการจัดหมวดหมู่ของวิชามาไว้ด้วยกัน และสร้างห้องสมุดใหม่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็น Area-Focus Hub Library ให้วิทยาเขตแห่งนี้ ‘Katsura Library’ เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่กว่า 4,556 ตารางเมตรที่สร้างขึ้นภายใต้การควบคุมการออกแบบที่เข้มงวด เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ใหม่ยังคงสอดคล้องไปกับตัววิทยาเขตเดิม ด้วยความร่วมมือจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมไปถึงการควบคุมออกแบบจาก ‘Waro Kishi + K.ASSOCIATES/Architects’ อดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเกียวโตและสตูดิโอของเขา ภายในของ Katsura Library ประกอบด้วยพื้นที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ พื้นที่การเรียนรู้แบบสาธารณะที่มีตั้งแต่ห้องทดลองแบบเปิด ห้องวิจัยทั่วไป และห้องสร้างสื่อ รวมไปถึงห้องอ่านหนังสือที่เปิดให้นักศึกษาและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเข้าถึงได้อย่างอิสระ โดยแต่ละส่วนจะให้ความรู้สึกที่เงียบสงบ แต่เชื่อมต่อถึงกันด้วยพื้นที่ห้องโถงใหญ่และกระจกใสกั้นห้อง ผนังภายนอกของ Katsura Library ตกแต่งด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ผสมกับคอนกรีตแบบเปลือย และการออกแบบหลังคาทรงเรียบ […]
กลับมาอีกครั้งกับ Reading Seoul Plaza ห้องสมุดกลางแจ้งบนพื้นที่สีเขียวในโซล ให้คนพักผ่อน ทำกิจกรรมฟรีถึงปลายปี
เมื่อปีที่แล้ว กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้ริเริ่มโปรเจกต์เปลี่ยนพื้นที่สาธารณะใจกลางเมืองให้กลายเป็นห้องสมุดกลางแจ้งสุดชิล พร้อมต้อนรับนักอ่านและนักกิจกรรมทุกเพศทุกวัย ซึ่งในปีนี้ทางรัฐบาลกรุงโซลก็นำกลับมาจัดกิจกรรมอีกครั้ง เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับเมือง ‘โซลพลาซา’ (Seoul Plaza) คือพื้นที่บริเวณลานกว้างที่ตั้งอยู่หน้าศาลาว่าการกรุงโซล ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องสมุดกลางแจ้งขนาดใหญ่ในชื่อ ‘Reading Seoul Plaza’ ซึ่งโปรเจกต์นี้เกิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันหนังสือและลิขสิทธิ์สากล (World Book and Copyright Day) หลังจากได้รับกระแสตอบรับที่ดี รัฐบาลกรุงโซลได้อัปเกรดและปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ให้ดีขึ้นสำหรับประชาชนที่จะมาอ่านหนังสือ นอกจากบรรยากาศอันอบอุ่นแสนสบายที่มาพร้อมกับบีนแบ็กหลากสีสันและร่มกันแดด ปีนี้หนังสือจะมีให้เลือกหลากหลายประเภทขึ้น ทั้งยังเพิ่มโปรแกรมปรึกษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้ชาวพนักงานออฟฟิศ ตลอดจนกิจกรรมสนุกๆ ให้เด็กๆ มามีส่วนร่วมในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย ใครที่มีแพลนไปเกาหลีช่วงนี้ อย่าลืมแวะไปอาบแดดอุ่นๆ อ่านหนังสือในพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองที่ Reading Seoul Plaza กันนะ ห้องสมุดกลางแจ้งโซลพลาซาเปิดให้ประชาชนนั่งอ่านหนังสือชิลๆ ‘ฟรี’ ทุกวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ เวลา 11.00 – 17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น. ระหว่างวันที่ 23 เมษายน – 2 […]
Casal Salolio เปลี่ยนโฉมบ้านในชนบทอันเรียบง่าย ให้เป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่ไม่ทิ้งอดีตให้หายไป
บางครั้งอาคารหรือสถาปัตยกรรมเก่าแก่มักถูกรื้อทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่ใช่เพียงโครงสร้างที่หายไป แต่เรื่องราวของอาคารเหล่านั้นก็ได้หายไปด้วยนั่นเอง วิธีหนึ่งที่เรียบง่ายและช่วยทำให้สถาปัตยกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่คือ การรักษาสิ่งเก่าให้คงอยู่และมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยการต่อเติมผสมผสานความร่วมสมัยเข้าไป ตัวอย่างเช่น ในเมือง Cascais ประเทศโปรตุเกส สตูดิโอจากลิสบอนชื่อ ‘Miguel Marcelino Arquitecto’ ได้เปลี่ยนบ้านชนบทอันเรียบง่ายที่ชื่อว่า ‘Casal Salolio’ ซึ่งเป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดหลังหนึ่งในพื้นที่ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ โดยบ้านหลังเก่าแห่งนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงและขยายพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถาปัตยกรรมนี้มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ตามกาลเวลา เดิมทีบ้านหลังนี้มีโครงสร้างเป็นห้องเดียวแบบว่างโล่ง ซึ่งต่อมามีการเพิ่มห้องเสริมและปีกด้านข้าง ต่อจากนั้นก็มีเตาอบหิน เพนียด และต่อเติมชั้นสอง รวมถึงเสริมภาคผนวกอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังติดคานสองอันเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างอีกประการ ภายนอกของอาคารแสดงให้เห็นรูปทรงเรขาคณิตที่แยกส่วนกันและมีความไม่สม่ำเสมอ ทำให้สถาปนิกได้พบและเข้าใจร่องรอยวิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงได้ต่อเติมอาคารอีกสองส่วนที่มีขนาดใกล้เคียงกันและออกแบบให้ล้อไปกับลักษณะของสถาปัตยกรรมเดิม มีความกลมกลืนไปกับบริบทของชนบท และส่วนใหม่ที่ต่อเติมขึ้นมานี้เป็นรูปตัว L ที่ทำให้เกิดพื้นที่เป็นลานกว้างภายในบ้านด้วย การเปลี่ยนแปลง Casal Salolio ให้เป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า การออกแบบนั้นสามารถที่จะยังคงนึกถึงอดีตและคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมไว้ ในขณะที่ก็ยังผสมผสานองค์ประกอบแบบร่วมสมัยอย่างลงตัวได้อีกด้วย Source :Archello | bit.ly/3HekzV0
Walk The Talk บอร์ดเกมใหญ่ที่สุดในโลกในสวนพฤกษศาสตร์มิลาน ให้ผู้เล่นเลือกวิธีการเดินทางที่ยั่งยืนด้วยตัวเอง
หากใครเป็นสายบอร์ดเกมคงเคยคิดอยากจะเอาตัวเองลงไปเป็นเบี้ยตัวละครที่ได้ผจญภัยบนเกมกระดานกันสักครั้ง ซึ่งทางสถาปนิก ‘Italo Rota’ และบริษัทสถาปัตยกรรม ‘Carlo Ratti Associati’ ก็ได้ร่วมมือกันสร้างฝันให้หลายๆ คนเป็นจริงด้วยการเปลี่ยนสวนพฤกษศาสตร์ของมิลานให้กลายเป็นบอร์ดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับงาน Milan Fashion Week ทว่านี่ไม่ใช่การออกแบบเพื่อทุบสถิติใดๆ แต่เป็นการชวนทุกคนให้มาผจญภัยด้วยการเลือกเส้นทางในมิลานด้วยตัวเอง เพื่อไตร่ตรองว่าทางเลือกในชีวิตประจำวันนั้นสามารถสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรบ้าง ‘Walk The Talk’ เป็นบอร์ดเกมขนาดกว่า 3,500 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ของมิลาน ที่มีแรงบันดาลใจจากการจำลองเส้นทางการเดินเล่นในเมืองผ่านสถานที่สำคัญที่ปรากฏบนกระเบื้องไม้กว่า 400 แผ่น และมีไอคอน 32 รูปแบบเป็นตัวแสดงอุปสรรคหรือการแก้ปัญหาการเดินทาง เช่น ขนส่งสาธารณะและรถยนต์ไฟฟ้า ผู้เล่นสามารถเดินทางผ่านเมืองได้ด้วยการหาวิธีแก้ปัญหาจากความท้าทายต่างๆ ในแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทุกๆ เส้นทางการเดินนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นนั่นเอง ความน่าสนใจก็คือ กระเบื้องที่นำมาทำเป็นบอร์ดเกมนั้นสามารถเก็บพลังงานระหว่างวันเอาไว้ได้ และจะส่องแสงสว่างเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทำให้เล่นเกมต่อไปได้แม้ว่าฟ้าจะมืดลงแล้วก็ตาม Italo Rota สถาปนิกผู้ร่วมสร้างบอกว่า Walk The Talk นำแนวคิดการเล่นเกมมาใช้เพื่อสร้างการสนทนาระหว่างผู้ที่มาเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ รวมไปถึงยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับสถานที่ต่างๆ ในเมือง ตลอดจนสร้างประสบการณ์ที่ผู้คนสามารถแบ่งปันกันได้ในขณะที่ร่วมเล่นเกมนี้ด้วยกัน Sources :Carlo Ratti Associati | […]