สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวไป ‘ซัพ’ ของดีในกรุงเทพฯ และโปรดักต์คอลเลกชันพิเศษที่ห้างซัพสินค้า ‘เนเบอร์มาร์ท’

ไม่ว่าจะแห่งหนไหนก็ล้วนมีของดีประจำย่านด้วยกันทั้งนั้น อย่างกรุงเทพฯ เองก็มีเหล่าของกินของใช้ที่นับเป็นของเด็ดของดีประจำย่านจำนวนไม่น้อย เพียงแต่หลายคนอาจไม่รู้หรือไม่ทันสังเกต หนึ่งในชิ้นงานที่เป็นที่พูดถึงในวงกว้างและช่วยเมืองได้จริงใน Bangkok Design Week 2025 คงต้องยกให้โปรเจกต์ เนเบอร์มาร์ท ร้านค้าที่มีแนวคิดสนับสนุน ‘คุณค่า’ ของกิจการเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากการพัฒนาร่วมกันของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA และไอแอลไอยู (ILI.U) พันธมิตรชาวคนรักเมืองที่น่ารักของพวกเรา ด้วยความที่มีโอกาสไปเยี่ยมชมร้านค้าเป็นคนกลุ่มแรกๆ แถมยังได้ลองลิ้มชิมรสเครื่องปรุงหลากหลายรสชาติในนิทรรศการประสบการณ์ ‘เครื่องกรุงรส’ ก็ทั้งรู้สึกสนุกและประทับใจในความเป็นหม้อหลอมทางวัฒนธรรมของเมืองหลวงของเรา ไหนจะยังได้ชมสินค้ากับแพ็กเกจจิ้งแบบออริจินัลกับสินค้า Made In กรุงเทพฯ จาก 20+ ย่านการค้า 60+ กิจการ ใน 8 หมวดสินค้า เช่น อาหารแห้งและวัตถุดิบ ของใช้และของแต่งบ้าน เสื้อผ้าและเครื่องประดับ เครื่องเขียน เป็นต้น ขอบอกว่าละลานตาไปหมด อยากคว้าหยิบใส่ตะกร้าไปจ่ายเงินทั้งร้านให้รู้แล้วรู้รอด ยังไม่นับรวมสินค้าคอลเลกชันที่เนเบอร์มาร์ทไปจับมือกับเหล่าผู้ประกอบการผลิตออกมาอีกนะ อย่างเครื่อง ‘กรุง’ รส ที่รวม 6 เครื่องปรุงรสคัดสรรแบบมินิไซซ์ จากโรงหมักบ่มเก่าแก่ที่ถือกำเนิดในกรุงเทพมหานคร, ชาสามย่าน […]

หมดปัญหาไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำ ชวนดู ‘ตัวโดนเท’ งานออกแบบสุดเท่ที่ช่วยแก้ปัญหาร้านรถเข็น

‘ตัวโดนเท’ คืองานออกแบบถังดักไขมันพกพาสำหรับรถเข็นจาก ‘ชัช-ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์’ แห่ง Everyday Architect Design Studio ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปัญหาไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำสาธารณะ จากร้านรถเข็นขายอาหารริมทางที่ยังเทน้ำเสียทิ้งลงท่อระบายตรงๆ อยู่ ทางสตูดิโอเลือกออกแบบถังไขมันขนาดเล็กและพกพาได้ ให้เสียบไว้กับล้อรถเข็นได้ง่ายๆ และใช้งานได้จริง โดยจากข้อมูลงานวิจัย ‘สถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราด’ ที่ชัชเคยทำมา มีอินไซต์ที่น่าสนใจคือ ร้านรถเข็นส่วนหนึ่งมักพกก้อนอิฐหรือโครงไม้ไว้หนุนล้อ หรือจอดคร่อมระหว่างพื้นต่างระดับเวลาที่พื้นที่จอดไม่พอหรือใช้หลบทางเดินเท้า และใช้หยุดล้อเวลาจอดบนพื้นที่ลาดเอียง ถังดักไขมันพกพานี้เลยทั้งใช้หนุนและล็อกล้อรถเข็นไปได้ในตัว แถมยังช่วยแก้ปัญหาเมืองได้ 2 เรื่อง ได้แก่ ลดการปล่อยน้ำเสียลงท่อโดยตรงด้วยวิธีดักไขมัน และช่วยเพิ่มพื้นที่ทางเท้ากลับมาด้วยวิธีการจอดรถเข็นแบบคร่อมในพื้นต่างระดับ ใครที่คิดถึงคอลัมน์ ดีไซน์-เค้าเจอ ที่พักซีซันไป ลองแวะมาชมงานแบบชัชๆ ชิ้นนี้ พร้อมพูดคุยถึงแนวคิดและขั้นตอนกระบวนการออกแบบพัฒนาได้ที่งาน Bangkok Design Week 2025 วันนี้ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ซอยเจริญกรุง 32 ข้างไปรษณีย์กลาง บางรัก

ชวนไปชมความสร้างสรรค์ย่านปากคลองตลาดและบางลำพู ในงาน Bangkok Design Week 2025

เชื่อว่าหลายๆ คนรวมไปถึงศิลปินแขนงต่างๆ ล้วนมีไอเดียมากมายที่อยากพัฒนาพื้นที่ หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลักดันให้คนทั่วไปค้นพบความน่าสนใจในย่านต่างๆ ทว่าติดตรงที่ต้องมีทุนต่อยอดให้ภาพในหัวเกิดขึ้นจริงให้ได้ British Council คือหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทางศิลปะหรือความคิดสร้างสรรค์ จึงก่อตั้งทุนความร่วมมือทางวัฒนธรรมหรือ Connections Through Culture เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทักษะ ความรู้ หรือการร่วมผลิตผลงาน โดยทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ระหว่างเอเชีย-แปซิฟิก และสหราชอาณาจักร ซึ่งทางองค์กรเชื่อว่า ความร่วมมือข้ามพรมแดนในสาขาศิลปะต่างๆ จะนำไปสู่ความคิดและแนวทางใหม่ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลก ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือที่เกิดขึ้นยังเป็นส่วนช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างศิลปิน นักปฏิบัติด้านสร้างสรรค์ และองค์กรทางศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ จากสหราชอาณาจักรและประเทศไทย ในปีนี้เอง เราจะได้ชมและเข้าร่วมกิจกรรมสนุกๆ ของโปรเจกต์ Street Wise ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับทุน Connections Through Culture 2024 และจัดแสดงในเทศกาล Bangkok Design Week 2025 ที่งาน ‘Bangkok Flower Market Festival’ ย่านปากคลองตลาด และย่านบางลำพูกับงาน ‘Bang Lamphu Festival’ ที่ New World […]

House of Bean Book Cafe ร้านเช่าการ์ตูนเก่าย่านลาดพร้าว ที่ผันตัวมาเสิร์ฟกาแฟคุณภาพดีพร้อมมังงะให้อ่านฟรีกว่า 80,000 เล่ม

ในยุคที่ใครๆ บ่นว่าการ์ตูนแพง อยากอ่าน Sakamoto Days ก็ปาไปเล่มละ 300 บาท จะซื้อเล่มเดียวก็พาจะขาดตอน แถมร้านเช่าการ์ตูนก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา House of Bean Book Cafe เป็นหนึ่งในร้านเช่าการ์ตูนเก่าที่ปรับตัวมาเป็นคาเฟ่แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของหนังสือการ์ตูน ที่ทางร้านได้เก็บสะสมมังงะเก่าๆ กว่า 80,000 เล่มเอาไว้อย่างดี ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในซอยเสนานิคม 42 ย่านลาดพร้าว บรรยากาศภายในร้านอบอุ่นและเป็นกันเอง สองข้างของร้านขนาบด้วยชั้นหนังสือไม้ที่มีหนังสือการ์ตูนหลากหลายสไตล์วางไว้ พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และของตกแต่งน่ารักๆ ที่เข้ากับเหล่าการ์ตูน นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเมล็ดกาแฟดีๆ ที่ได้รับรางวัล 2 ปี จากทั้งออสเตรเลียและเยอรมนีให้เลือกสรร ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและรสชาติไม่ซับซ้อนจนเกินไป หรือใครไม่ใช่คอกาแฟก็มีเมนูอื่นๆ อย่างมัตฉะให้ชิมกันด้วยนะ ใครอยากจิบกาแฟอร่อยๆ และตามหาการ์ตูนที่อยากอ่านหรือมังงะเก่าๆ ที่อาจลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเคยชอบเรื่องนี้มากๆ ไปกันได้ที่ House of Bean Book Cafe ซอยเสนานิคม 42 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.30 – 18.00 น. […]

ส่องน้องเหมียวในวัดโพธิ์กับกิจกรรม ‘Trip มองแมวจรในโลกเมือง’ บทเรียนการอยู่ร่วมกันของวัดและน้องแมวกว่า 200 ตัว

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ชาว Urban Creature ได้มีโอกาสร่วม ‘Trip มองแมวจรในโลกเมือง’ หนึ่งในกิจกรรมจาก ‘มิวเซียมสยาม’ ใน Activity Series ‘ส่องสรรพในประวัติศาสตร์ ว่าด้วยนานาสัตว์’ เรื่อง แมวในมุมมอง กิจกรรมนี้ต้องการบอกเล่าเรื่องของน้องเหมียว สัตว์เลี้ยงที่ครองใจมนุษย์มาแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน จากเดิมที่แมวเคยได้รับการสักการะในฐานะเทพเจ้า กลายมาเป็นแมวจรในสังคมเมืองปัจจุบัน ซึ่งในกรุงเทพฯ แมวยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม และเพิ่มจำนวนขึ้นมากจนก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา ทำให้เกิดแคมเปญรณรงค์ ‘คิดก่อนเลี้ยง ดูแลจนตาย’ ซึ่งมิวเซียมสยามมองว่าการให้ความรู้ในแง่ประวัติศาสตร์แมวในสังคมไทย ความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของแมว และปลูกฝังความรับผิดชอบของผู้เลี้ยง อาจช่วยลดปัญหาเรื่องแมวจรจากสังคมไทยในอนาคตได้ ใน Trip มองแมวจรในโลกเมือง เราได้ ‘พระมหานรินทร์’ ผู้ดูแลระบบจัดการแมวในวัดพระเชตุพนฯ มาเป็นวิทยากรบอกเล่าถึงระบบการจัดการแมวจรที่มาอาศัยอยู่ในวัด ให้พื้นที่ธรรมเป็นพื้นที่ปลอดภัย มนุษย์และแมวอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข พร้อมชี้ชวนให้ดูแมวที่อาศัยอยู่ภายในวัดไปตลอดทาง พระมหานรินทร์เล่าว่า ในอดีตทางวัดเองก็มีความพยายามจัดการแมวโดยเรียกให้เจ้าหน้าที่เทศบาลของกรุงเทพฯ มาจับไปอยู่เหมือนกัน แต่ต่อให้จับไปเท่าไหร่สุดท้ายแมวก็กลับมาอยู่ดี อีกทั้งกระบวนการจับยังเป็นที่น่าหดหู่ใจสำหรับท่าน ด้วยเหตุนี้ ในช่วงปี 2557 – 2558 พระมหานรินทร์จึงตั้งใจดูแลแมวภายในวัดเอง ด้วยการควักเงินส่วนตัวในการดูแล ตั้งแต่ซื้ออาหาร จัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็น ดูแลพยาบาล […]

ความหวังใหม่เมืองกาญจน์? พาชมรถเมล์ไฟฟ้าทดลองวิ่งโฉมใหม่ ในเส้นทาง ตลาดลาดหญ้า-ท่าม่วง

รถเมล์ไฟฟ้าอาจเป็นสิ่งปกติที่เห็นจนชินตาของคนกรุงเทพฯ แต่สำหรับจังหวัดอื่นๆ หรือแม้แต่ตัวเมืองหลายจังหวัดต่างไม่มีรถเมล์ที่รอบวิ่งแน่นอน หรือกระทั่งไม่มีรถเมล์วิ่งในพื้นที่ด้วยซ้ำไป แต่เหมือนว่าอนาคตอันใกล้นี้จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ทาง ‘อบจ.กาญจนบุรี’ ได้ร่วมมือกับ ‘บริษัท ไทยแสงเจริญ เซอร์วิส จำกัด’ บริษัทนำเข้ารถโดยสารในประเทศไทย ในการนำรถเมล์แอร์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถชานต่ำ ซึ่งไม่ต้องก้าวขึ้นบันไดหลายขั้นเหมือนรถเมล์แบบเดิม และมีทางลาดรองรับรถเข็นวีลแชร์เข้ามาทดลองให้บริการในตัวเมืองกาญจนบุรี เส้นทางระหว่างตลาดลาดหญ้า-ท่าม่วง นับเป็นครั้งแรกจากเดิมที่มีเพียงแค่รถสองแถวและรถเมล์พัดลมคลาสสิกวิ่งอยู่เท่านั้น ตัวรถได้ทำการทดลองออกวิ่งในช่วงเช้าและเย็นจำนวน 2 รอบ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม จนถึง 3 กุมภาพันธ์ 2568 และคาดว่าจะเปิดให้บริการจริงในช่วงกลางปีนี้ โดยมีผู้ใช้บริการหลักเป็นนักเรียนในพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้รถสาธารณะในการไป-กลับโรงเรียนและที่พักอาศัยอยู่แล้ว จังหวัดกาญจนบุรีถือเป็นจังหวัดที่ 2 ที่มีการนำรถเมล์ไฟฟ้าออกมาทดลองให้บริการ ต่อจากก่อนหน้านี้ที่มีการทดลองวิ่งที่จังหวัดภูเก็ต ในเส้นทางรถเมล์ของ อบจ.ภูเก็ต มาแล้วในช่วงประมาณต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เริ่มมีแนวคิดเกี่ยวกับการเปิดเส้นทางรถสาธารณะในตัวเมืองโดย อบจ.เองมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีแนวโน้มเห็นรถสาธารณะในตัวเมืองต่างจังหวัดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความน่ากังวลใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากส่วนมากหลังการทดลองให้บริการ รัฐมักไม่ให้บริการเองแต่เปิดให้เอกชนที่สนใจมาให้บริการมากกว่า ส่งผลให้ถึงแม้เส้นทางมีความต้องการ แต่ถ้าเอกชนเห็นว่าให้บริการแล้วไม่คุ้มทุน เส้นทางเหล่านี้ก็จะถูกลดรอบให้น้อยลงจนไม่สะดวกสบายกับคนในพื้นที่และหายไปอีกครั้งหนึ่งในที่สุด Sources :EV-roads | tinyurl.com/yycrun5xเมืองกาญจน์.com | […]

ไม่ต้องไปถึงที่ก็อุดหนุนสินค้าหัตถกรรมไทยได้ ‘ThailandPostMart’ จาก SACIT และไปรษณีย์ไทย แพลตฟอร์มผลักดันงานท้องถิ่นไทยไปสู่สากล

งานหัตถกรรมเป็นสินค้าขึ้นชื่อของไทย ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติไหน หากได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็มักจะซื้อสินค้าท้องถิ่นติดไม้ติดมือกลับไปทุกครั้ง แต่ถ้าพวกเขาหรือกระทั่งตัวเราเองไม่ได้มีเวลาแวะเวียนไปล่ะ จะมีทางไหนที่เราสามารถเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมไทยโดยไม่ต้องไปถึงแหล่งบ้าง สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ได้มองหาวิธีการนำเสนอเรื่องเล่าของงานฝีมือผ่านสินค้าชนิดต่างๆ จากผู้ประกอบการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ส่งต่อไปให้กับคนนอกชุมชน เพื่อสร้างฐานลูกค้าในวงกว้าง และเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตให้สามารถจำหน่ายสินค้าถึงมือผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ จากแนวคิดนี้นำมาสู่การร่วมมือกันระหว่าง SACIT และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขยายการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมไทยบนช่องทางออนไลน์ในรูปแบบ ‘เลือก สั่ง จ่าย ส่ง’ หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้างานหัตถกรรมไทยได้ง่ายขึ้น พร้อมจัดส่งถึงมือลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com ความพิเศษคือ ไม่ใช่แค่ลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้นที่สั่งสินค้าได้ แต่ลูกค้านอกประเทศเองก็สั่งสินค้าได้ด้วยเหมือนกัน ถือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงงานศิลปหัตถกรรมไทยในกลุ่มลูกค้าสากล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืนของสินค้าประเภทนี้ในไทย นอกจากสินค้าหัตถกรรมแล้ว บนแพลตฟอร์มนี้ยังมีสินค้าท้องถิ่นอื่นๆ ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคหลากหลายชนิดให้เลือกซื้ออีกด้วย ใครที่อยากสนับสนุนผู้ประกอบการไทย แค่เลือกดู กดสั่ง และจ่ายเงิน หลังจากนั้นก็รอรับสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยมาส่งให้ถึงหน้าบ้านได้เลย

Thaipography Archive แพลตฟอร์มคลังป้ายฟอนต์ไทย จากกลุ่มคนรักในตัวอักษรที่จะมาป้ายยาให้คนสนใจป้ายมากขึ้น

นี่คือเว็บไซต์รวบรวมการออกแบบฟอนต์ไทย โดย ‘บูม-พร้อมพรรณ ศุขสุเมฆ’ ที่อยากชวนทุกคนหยุดดูป้ายร้านค้า ตึก อาคารบ้านเรือนให้นานขึ้น พร้อมถ่ายภาพเก็บไว้ลงคลัง เพราะเมื่อผ่านไปแล้วเราอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาเห็นป้ายเหล่านี้อีก Thaipography Archive เป็นส่วนหนึ่งของ Thaipography Project ที่มาจากความตั้งใจออกแบบฟอนต์ตัวอักษรไทยแล้วนำมาดัดแปลงเป็นตัวอักษรแบบละติน หรือกลุ่มตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ยังคงความเป็นไทยอยู่ ซึ่งเป็นกระบวนการออกแบบตัวอักษรแบบย้อนกลับ เพราะปกติการออกแบบฟอนต์ภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปนั้นจะออกแบบด้วยตัวละตินก่อนแล้วค่อยแปลงเป็นภาษาไทย นับเป็น ‘การทดลอง’ เล็กๆ ของผู้มีความสนใจในตัวอักษรว่า หากเราสลับวิธีออกแบบแล้ว คนไทยจะดูออกไหมว่าฟอนต์นี้เริ่มต้นจากแบบอักษรไทย และชาวต่างชาติจะอ่านตัวอักษรละตินเหล่านี้ออกไหมหากสวมความเป็นไทยเข้าไป ซึ่งก่อนจะนำมาสู่กระบวนการทดลองทั้งหมดก็ต้องมีคลังรูปแบบตัวอักษรไทยที่มากพอจะเห็นเอกลักษณ์และแนวทางได้ แพลตฟอร์มคลังป้ายตัวอักษรไทยจึงถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยเวลากว่า 6 ปีที่บูมสนใจในเรื่องตัวอักษรและลายเส้นของไทย เธอเริ่มจากการศึกษาข้อมูลที่รวบรวมตัวอักษรและการออกแบบของไทย จนปี 2022 บูมเจอหนังสือ ‘แกะรอยตัวพิมพ์ไทย’ ของ ‘ประชา สุวีรานนท์’ และได้รู้ว่าอาจารย์ใช้เวลาเป็น 10 ปีในการรวบรวมรูปแบบการออกแบบ และทำให้รู้ว่ามีคนสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ยังขาดแหล่งที่รวบรวมการออกแบบ ฟอนต์ และแบบตัวอักษรที่อาจสูญหายไว้ เธอจึงสร้าง Thaipography Archive ไว้เป็นพื้นที่แบ่งปันและเก็บรักษางานออกแบบดีๆ พร้อมชวนผู้ที่สนใจในภาพป้ายไทยอย่าง @thaiposign และ @thaipography_photo มาช่วยรวบรวมตัวอักษรและเรียนรู้ข้อมูลงานออกแบบเหล่านี้ให้ละเอียดขึ้น โดยคาดหวังให้แพลตฟอร์มนี้เป็นแหล่งความรู้สำหรับนักเรียน […]

ตามล่า ‘ฝาท่อเยาวราช’ ผ่านแอปฯ Coral 18 ลาย 18 จุด แลกของรางวัลฟรี จาก รพ.เทียนฟ้ามูลนิธิ ถึงบริพัตร คลองโอ่งอ่าง

การเดินในเมืองจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยแอปพลิเคชัน Coral ที่ชวนทุกคนมาตามล่าลาย ‘ฝาท่อเยาวราช’ เพื่อชมงานศิลปะและศึกษาประวัติศาสตร์ของย่านนี้ไปพร้อมๆ กัน เพียงแค่โหลดแอปฯ Coral จากนั้นเข้าไปในหน้ากิจกรรม ‘ฝาท่อ Chinatown เยาวราช’ แล้วเปิดแมปเดินตามเก็บ 18 ลายฝาท่อ จาก 18 โลเคชัน ตั้งแต่บริเวณหน้าโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิไปจนถึงถนนบริพัตร คลองโอ่งอ่าง โดยใช้ฟังก์ชันเปลี่ยนจากฝาท่อจริงให้กลายเป็นของสะสมดิจิทัลลายฝาท่อได้เลย มากไปกว่านั้น ภายในแอปฯ ยังมีรายละเอียดภาพวาดและสถานที่ของลวดลายฝาท่อนั้นๆ ให้เราอ่านกันด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการศึกษาประวัติศาสตร์และเรื่องราวของพื้นที่บนถนนเยาวราชแบบสนุกๆ ด้วยการนำแนวคิด Gamification มาประยุกต์ ส่วนใครที่เก็บฝาท่อดิจิทัลคู่กับตัวฝาท่อจริงครบแล้ว ก็ไปแลกรับของที่ระลึกสุดน่ารัก สติกเกอร์ลายฝาท่อ และตราปั๊มได้ที่1) ร้าน Culture Connex ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ เวลา 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)2) อาคารพิชัยญาติ เคาน์เตอร์บริการลูกค้า ชั้น 2 เวลา 07.00 – 21.00 น. ทุกวัน3) ร้าน […]

‘บ้านผีเสื้อ’ เชียงใหม่ บ้านหลังแรกของโลก ที่ใช้พลังงานสะอาด และผลิตไฟฟ้าด้วยตัวเองได้ 100% 

บ้านพักอาศัยบนพื้นที่ 18 ไร่ ที่เชียงใหม่หลังนี้มีความโดดเด่นคือ เป็นบ้านที่พึ่งพาตนเองจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ไฮโดรเจนในการแปลงน้ำเป็นไฮโดรเจน เพื่อผลิต จัดเก็บ และใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงาน ทำให้บ้านสามารถผลิตพลังงานเองได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า บ้านผีเสื้อ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนธรรมชาติที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตอบสนองต่อความพยายามในการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ของประเทศไทย ที่นี่ใช้ระบบพลังงานแบบออฟกริดโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อนำมาขับเคลื่อนบ้านด้วยพลังงานสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีแสงแดด ก็ยังมีการจ่ายพลังงานอย่างต่อเนื่องและเสถียร โดยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ปล่อยคาร์บอน ด้วยระบบของแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 140 กิโลวัตต์ (kWp) ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวันเพื่อใช้ในบ้านและตอบสนองความต้องการพลังงานทันที  ขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์ส่วนเกินจะถูกนำมาผลิตไฮโดรเจนผ่านอิเล็กโทรไลเซอร์ขนาด 20 kW ที่ทำการแยกน้ำออกเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน ไฮโดรเจนจะถูกเก็บในรูปแบบก๊าซที่แรงดัน 35 บาร์ ในถังจะเก็บไฮโดรเจนได้สูงสุด 42 กิโลกรัม ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานให้กับบ้านได้ประมาณ 600 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ในเวลากลางคืนหรือช่วงที่มีแสงแดดน้อย ไฮโดรเจนที่เก็บไว้จะถูกแปลงกลับเป็นกระแสไฟฟ้าโดยใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Fuel Cell) ขนาด 8 กิโลวัตต์ […]

‘Architecture for Dogs’ นิทรรศการผลงานการออกแบบสำหรับสุนัข เพื่อให้น้องหมาใช้งานได้ตามความต้องการ

คนเลี้ยงสัตว์เข้าใจดีว่า เฟอร์นิเจอร์หรืองานออกแบบบางชิ้นไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อรองรับนิสัยหรือการใช้งานของน้องหมาน้องแมวในบ้าน ทำให้หลายครั้งเราต้องรับหน้าที่ดัดแปลงหรือปรับของใช้เหล่านั้นให้เด็กๆ ใช้งานได้ แต่คงจะดีไม่น้อยถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อน้องหมาน้องแมวของเราโดยเฉพาะ Architecture for Dogs คือนิทรรศการที่รวมผลงานของสถาปนิกและนักออกแบบในแวดวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ ที่ไม่ใช่แค่คอกหรือที่นอนทั่วๆ ไป แต่มีความพิเศษตรงที่เข้าใจในความต้องการของน้องหมา ซึ่งก่อนหน้านี้งานนี้ได้เดินทางไปจัดแสดงมาแล้วหลายประเทศ และตอนนี้ก็กำลังจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ ADI Design ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ชิ้นงานออกแบบที่ว่ามีตั้งแต่ผลงานของ ‘Hiroshi Naito’ ที่ออกแบบที่นอนทำความเย็นสำหรับสุนัขสายพันธุ์ Spitz ขึ้นมา เนื่องจากเป็นพันธุ์ขนยาว ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าในช่วงฤดูร้อน Pepe น้องหมาที่จากไปแล้วของเขามักจะชอบไปนอนอยู่บนพื้นกระเบื้องบริเวณที่อาบน้ำเพื่อช่วยลดอุณหภูมิลง จึงออกแบบท่ออะลูมิเนียมสำหรับใส่ถุงน้ำแข็งด้านใน พร้อมกับสอดแผ่นไม้สลับกับท่อเพื่อให้น้องหมาไม่ลื่นในระหว่างที่ใช้งานที่นอนนี้ หรือบ้านรถเข็นสำหรับ Shiba ของ ‘Toyo Ito’ ที่อยากให้เจ้าหมาออกไปข้างนอกกับเจ้าของได้ทุกวันแม้จะแก่จนเดินไม่ไหวก็ตาม รถเข็นนี้ออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีเบาะนุ่มๆ รองรับ มีร่มหลังคาที่เปิด-ปิดได้หลายระดับเพื่อช่วยบังแดดบังฝน และมีการออกแบบพื้นรถให้ต่ำที่สุดเพื่อที่เจ้าหมาจะได้ขึ้น-ลงรถอย่างสะดวก นิทรรศการ Architecture for Dogs จะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 หากใครมีโอกาสไปที่มิลานก็แวะไปชมได้ที่ ADI Design Museum หรือหากใครอยากนำชิ้นงานเหล่านี้มาปรับใช้กับน้องหมาที่บ้านบ้าง […]

‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ พัฒนาพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจด้วยศิลปะ บนแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของสมุย

หมุดหมายแห่งใหม่ของการไปเที่ยวเกาะสมุยอาจไม่ได้มีเพียงชายหาดอีกต่อไป แต่ยังมี ‘House of Lucie Samui & Samui Art Center’ อาคารจัดแสดงผลงานศิลปะ 3 ชั้นที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเมืองร้อน จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบโอกาสให้ศิลปินท้องถิ่นทุกแขนงเข้ามาติดต่อใช้พื้นที่ในการแสดงผลงานได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด งานปั้น หรืองานแกะสลักก็ตาม นอกจากนี้ยังจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน ทั้งการจัดเวิร์กช็อปและงานเสวนาเกี่ยวกับศิลปะในแง่ต่างๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรม One Shot-One Minute ที่ผู้เข้าร่วมงานต่างๆ ที่จัดขึ้นภายใต้อาร์ตเซ็นเตอร์แห่งนี้สามารถเข้ามาแบ่งปันภาพถ่ายและพูดคุยถึงความรู้สึกในภาพนั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวของศิลปะได้มากขึ้นด้วย โดยตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของชั้นที่ 1 และ 2 เป็นบริเวณของหอศิลปะสมุยที่จะจัดแสดงงานศิลปะท้องถิ่นในรูปแบบของภาพวาด งานปั้น และงานแกะสลัก ส่วนด้านบนชั้น 3 เป็นบริเวณของ ‘House of Lucie’ ที่ใช้จัดแสดงผลงานภาพถ่ายโดยเฉพาะ ในแต่ละครั้งนิทรรศการจะจัดแสดงนานถึง 1 – 2 เดือน เพื่อหวังว่าจะช่วยเสริมกำลังใจแก่ศิลปิน และเปิดโอกาสในการสร้างรายได้จากศิลปะของพวกเขาให้มากขึ้น พื้นที่ทางวัฒนธรรมแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือของ ‘ฮอสเซน ฟาร์มานี’ […]

1 2 3 4 5 143

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.