‘TK Mini’ ตู้ยืม-คืนหนังสือตู้แรกของไทย เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงหนังสือได้ง่ายและสะดวกขึ้น

นานมาแล้ว ‘หนังสือ’ เป็นเรื่องของกลุ่มคนที่มีทุนทรัพย์ในระดับหนึ่ง การยืม-คืนหนังสือจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคนที่อยากอ่านหนังสือจำนวนมากๆ แต่อาจไม่มีกำลังทรัพย์มากพอ ทำให้ครั้งหนึ่งคอลัมน์ Urban Sketch ของ Urban Creature เคยออกแบบตู้ยืม-คืนหนังสืออัตโนมัติที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการอ่านได้ แต่ตู้หนังสือนี้จะไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะทางอุทยานการเรียนรู้ ‘TK Park’ ที่ให้ความใส่ใจเรื่องการเข้าถึงความรู้ผ่านการอ่านหนังสือ ได้มีการเปิดบริการตู้ยืม-คืนหนังสือ ‘TK Mini’ ซึ่งเป็นเครื่องอัตโนมัติบนพื้นที่สาธารณะตู้แรกของประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงหนังสือของคนไทยให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ในตู้ TK Mini มีหนังสือให้บริการถึง 320 เล่ม โดยคัดเลือกจากคลังหนังสือ TK Park ที่ชั้น 8 centralwOrld ประกอบไปด้วยหนังสือหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสารคดี หนังสือเด็ก หรือแม้แต่นวนิยาย โดยมีจำนวนการยืม-คืน รวมทั้งหมดแล้วกว่า 3,200 ครั้ง นับจากที่เปิดให้บริการมามากกว่า 6 เดือน ผู้ใช้บริการสามารถยืมและคืนหนังสือที่ตู้ TK Mini ผ่านแอปพลิเคชัน MyTK ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว แถมยังยืมหนังสือได้สูงสุดครั้งละ 10 เล่ม นานถึง […]

ส่องความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยที่สะท้อนถึงปัญหาการใช้ชีวิตในเมือง ผ่านหนังสือ ‘สถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราด’

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติรอบนี้ นักอ่านคนไหนที่ชื่นชอบเรื่องเมืองแล้วยังไม่รู้ว่าจะซื้อเล่มไหนดี Urban Creature ขอแนะนำรวมบทความที่มีชื่อว่า ‘365 DAYS OF THAI URBAN MESS ARCHITECTURE สถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราด’ หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ ‘ชัช-ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์’ สถาปนิกและนักเขียนเจ้าของหนังสือ ‘อาคิเต็กเจอ’ (และคอลัมนิสต์ของ Urban Creature) โดยภายในจะเป็นการบันทึกเรื่องราวสั้นๆ พร้อมภาพสเก็ตช์ 4 สี สิ่งของรอบตัวที่เห็นได้เรี่ยรายรอบเมือง ซึ่งเกิดจากฝีมือผู้คนตัวเล็กๆ ที่ดีไอวายสิ่งของเหล่านี้มาเพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตจริง ในโปรเจกต์นี้ชัชวาลตั้งใจใช้เวลาหนึ่งปีวาดภาพสิ่งของและงานดีไซน์ไทยๆ ก่อนพบว่าเมืองที่อาศัยอยู่นี้มีปัญหาของผู้คนทาบทับอยู่ตามตึกรามบ้านช่องและสิ่งของที่เดินเจอในทุกวัน ตามไปซื้อหนังสือสถาปัตยกรรมคณะเรี่ยราดได้ที่บูท Salmon Books งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ store.minimore.com/salmonbooks/items/365Days  นอกจากนี้ ผู้อ่านยังติดตามคอลัมน์ ‘ดีไซน์-เค้าเจอ’ ของชัชวาลได้ทุกเดือนทางเพจ […]

‘IONIQ’ ผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าจาก Hyundai ที่ให้ความยั่งยืนเป็นหลักสำคัญของแบรนด์

ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกภาคส่วนไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป โดยเฉพาะวงการรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงที่ยิ่งต้องหันมาให้ความสนใจ เพราะถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับแบรนด์ยานยนต์ Hyundai ที่นอกจากจะพัฒนาความสามารถของรถยนต์แล้ว ยังให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างสรรค์อนาคตแห่งความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ ของแบรนด์อีกด้วย รถยนต์ไฟฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะช่วยโลกของ Hyundai ด้วยเหมือนกัน เพราะในปัจจุบันนี้ ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทางแบรนด์ได้มีการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อพา ‘IONIQ’ ก้าวสู่ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าที่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน IONIQ ให้ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเป็นโจทย์สำคัญในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ เช่น การนำเอาเส้นใยจากขวด PET รีไซเคิลและไฟเบอร์จากชานอ้อยมาประกอบขึ้นเป็นวัสดุหุ้มเบาะใน ‘IONIQ 5’ หรือแม้แต่รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ‘IONIQ 6’ ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Ethical Uniqueness ที่นอกจากจะให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแล้ว หนังที่หุ้มเบาะยังรักษ์โลกด้วยการใช้กระบวนการเคลือบผิวด้วยน้ำมันสกัดจากพืชเพื่อเพิ่มความแวววาวและสวยงามของหนัง ส่วนพรมในรถก็ทำขึ้นจากวัสดุตาข่ายจับปลารีไซเคิล แผงแดชบอร์ดทำจากพลาสติก TPO หรือ Thermoplastic Polyolefin สารผสมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ้าบุหลังคาผลิตจากวัสดุ Bio PET รวมไปถึงการใช้สีที่สกัดจากธรรมชาติด้วย นอกจากนี้ ความพิเศษของแบตเตอรี่รถยนต์ IONIQ ยังสามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายไปรีไซเคิล และนำชิ้นส่วนใหม่มาประกอบกลับไปใช้งานได้อีกครั้ง เพื่อเป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกทางหนึ่งด้วย สัมผัสนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตจาก Hyundai ได้ที่ IONIQ Lab […]

ไขรหัสลับครั้งแรกและสมบูรณ์ที่สุดในเอเชีย นิทรรศการ ‘Da Vinci Alive Bangkok’ วันนี้ – 31 ก.ค. 67 ที่ชั้น 6 ห้างฯ ICONSIAM

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ICONSIAM มีการจัดแสดงงานนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง Van Gogh Alive Bangkok และ Monet & Friends Alive Bangkok ไป ในที่สุดก็ถึงตาของอีกหนึ่งศิลปินก้องโลก เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) กับงาน Da Vinci Alive Bangkok นิทรรศการศิลปะในรูปแบบดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟครั้งแรกในไทยและสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย ที่จะพาเราเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่โลกศิลปะเมื่อ 570 ปีก่อน เพื่อสำรวจชีวิตของเลโอนาร์โด ดา วินชี ในบทบาทของศิลปินอัจฉริยะชาวอิตาลี ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินและผู้คนทั่วโลก ภายในนิทรรศการจะจัดแสดงการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และศิลปะของเลโอนาร์โด ดา วินชี ในพื้นที่จัดแสดงกว่า 17 จุดในบริเวณงาน ประกอบด้วยเครื่องกลและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่กว่า 75 ชิ้น และผลงานศิลปะอันประณีตอีก 200 ชิ้น อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีการจัดแสดง ‘ความลับของ โมนา ลิซา’ (Mona Lisa’s Secrets) ที่ผู้ชมจะได้สำรวจภาพวาดที่ถูกขยายใหญ่ขึ้นพิเศษอย่างใกล้ชิด […]

ตัวช่วยจัดการอดีตที่ผิดพลาด แจ้งลบภาพหรือคลิปโป๊เปลือยผ่านเว็บไซต์ ‘Take It Down’

การแอบปล่อยภาพหลุดหรือคลิปโป๊เปลือยตามโลกออนไลน์โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม เป็นปัญหาที่สร้างแผลในใจให้เยาวชน และทำให้เกิดความอับอายอย่างที่ใครคนใดคนหนึ่งไม่สมควรต้องเจอ อีกทั้งการกำจัดภาพหรือคลิปเหล่านั้นออกจากโลกออนไลน์ก็ยังดูเป็นเรื่องยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ความหวังที่จะลบอดีตที่ผิดพลาดยังคงมี เมื่อ ‘Take It Down’ เว็บไซต์ที่ให้บริการฟรีสำหรับช่วยเหลือเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่กังวลเรื่องรูปภาพหรือคลิปเปลือยของตัวเองในโลกออนไลน์ เปิดให้แจ้งลบรูปภาพหรือคลิปเหล่านั้นออกจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อ ตัวตน หรือข้อมูลส่วนตัว การทำงานของ Take It Down จะกำหนดลายนิ้วมือดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกันซึ่งเรียกว่า ‘ค่าแฮช หรือ Hash Value’ ให้กับรูปภาพหรือวิดีโอภาพเปลือยที่เราต้องการลบ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกแจ้งไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นพันธมิตรเช่น Facebook, Instagram, OnlyFans และ Pornhub ผู้แจ้งสามารถใช้ค่าแฮชที่ได้มาเพื่อตรวจหารูปภาพหรือวิดีโอเหล่านั้นในแพลตฟอร์มต่างๆ และลบเนื้อหาเหล่านั้นได้ โดยทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครได้เห็นภาพเหล่านั้นของคุณ การมีภาพเปลือยทางออนไลน์นั้นน่ากลัว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังมีความหวังที่จะลบมันได้ หากเด็กหรือเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีที่มีความกังวลว่ารูปภาพโป๊เปลือยส่วนตัวของตัวเองจะถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ เข้าไปแจ้งลบได้ที่ takeitdown.ncmec.org/th

Mariam’s Library ห้องสมุดดินเผาในแทนซาเนีย ที่ผสานการสร้างแบบดั้งเดิมเข้ากับแนวทางสมัยใหม่

ถ้าการสร้างห้องสมุดเหมือนการติดอาวุธที่ชื่อว่า ‘ความรู้’ ให้กับคนในชุมชน ‘Mariam’s Library’ ก็คืออาวุธประจำชุมชน Mwanyanya หมู่เกาะแซนซิบาร์ เขตเมืองเก่ามรดกโลกที่ปกครองตนเองในประเทศแทนซาเนีย Mariam’s Library เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Parallel’s Gives ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของสตูดิโอออกแบบ Parallel Studio ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเหล่านักเรียนในแซนซิบาร์ ห้องสมุดขนาดเล็กเพียง 100 ตารางเมตรแห่งนี้ถูกออกแบบโดยผสมผสานการสร้างแบบดั้งเดิมเข้ากับแนวทางสมัยใหม่ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพต่อมรดกทางสถาปัตยกรรมของเกาะแซนซิบาร์ กระบวนการก่อสร้างมีการใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบดั้งเดิมจากฝีมือคนในท้องถิ่น และคำนึงถึงความยั่งยืนผ่านการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้อิฐดินเผาในการสร้างตัวห้องสมุด นอกจากนี้ยังมีการเจาะผนังเป็นวงกลมขนาดเล็ก เพื่อเปิดทางให้ลมถ่ายเทได้สะดวก และช่วยลดอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อน รวมถึงติดตั้งหลังคาไฟเบอร์ลูกฟูก เพื่อเปิดให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาในตัวห้องสมุดได้ในช่วงกลางวัน และเพื่อให้ Mariam’s Library อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร เอื้อต่อการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของชุมชน Parallel Studio จึงออกแบบให้พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ ส่วนที่นั่งต่างระดับสำหรับนั่งอ่านหนังสือภายในห้องสมุด และพื้นที่เปิดโล่งสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันของเด็กในชุมชน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างให้ห้องสมุดเล็กๆ แห่งนี้เป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะ ให้เด็กในชุมชนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้คนที่มีความสนใจตรงกันนั่นเอง Sources : ArchDaily | t.ly/lUTlWDesignboom | t.ly/nO4v3

อัปเดตระบบแสงใน Smart Lighting Expo และ Spring Lighting Fair 6 – 9 เม.ย. ที่ศูนย์การประชุมฯ ฮ่องกง

ในโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่อนาคต ระบบไฟอัจฉริยะถือเป็นหน่วยเล็กๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะระบบไฟที่เราใช้ทุกวันนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงให้แสงสว่างอย่างเดียว แต่เป็นตัวยกระดับความเป็นอยู่และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วย เห็นได้จากข้อมูลของ Statista คาดว่ามูลค่าตลาดไฟอัจฉริยะทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 25.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากในปี 2563 ที่มีมูลค่าเพียง 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ถ้าต้องการอัปเดตเทรนด์และสำรวจเทคโนโลยีของระบบแสงไฟอย่างเจาะลึก เราขอชวนไปงานมหกรรมไฟครั้งยิ่งใหญ่ ‘HKTDC Smart Lighting Expo’ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมพันธมิตรของ Business of Innovation & Technology Week (BITWeek) ที่จัดโดย Hong Kong Trade Development Council (HKTDC) พร้อมกับจัดควบคู่ไปกับงาน ‘HKTDC Hong Kong International Lighting Fair (Spring Edition)’ (Spring Lighting Fair) ครั้งที่ 15 งานจัดขึ้นภายใต้ธีม Bright Lighting • […]

ได้เวลาสิงห์นักอ่านลงสนามเพิ่มกองดอง กับ ‘สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52’ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 67 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์

กองดองที่ซื้อมาตอนงานหนังสือคราวที่แล้วยังไม่ทันหมด ‘งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52’ และ ‘งานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22’ ก็วนกลับมาจัดอีกแล้ว ครั้งนี้ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ชวนสิงห์นักอ่านทุกคนมาอ่านหนังสือกันแบบมาราธอนไปกับธีม Booklympics ที่ไม่ว่าใครจะเป็นนักอ่านมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น แต่ในสนามแข่งนี้เราจะมาพุ่งชนกองทัพหนังสือไปพร้อมๆ กัน แถมภายในงานยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการแข่งขัน Booklympics ที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วม เพื่อตามหาสุดยอดฝีมือเพื่อพัฒนาวงการหนังสือทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การออกแบบ (Designer), การคิดพลอตเรื่อง (Writer), การพิสูจน์อักษร (Proofreader), การขายและด้านการจัดแสดงดิสเพลย์ (Top Seller and Best Display Designer) และการอ่าน (Reader) อีกด้วย ใครที่อุ่นเครื่องเตรียมตัวแล้ว ไปเจอกันจุดสตาร์ท Booklympics ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฮอลล์ 5 – 7 ชั้น LG เริ่มวันแรกวันที่ 28 มีนาคม 2567 […]

ชวนส่งต่อนิทานเล่มเก่า หรือสมทบทุนซื้อนิทานเล่มใหม่ให้เด็กๆ ที่ขาดแคลนในเชียงรายถึง 30 มิ.ย. นี้

หนังสือนิทาน ไม่ใช่แค่ช่วยให้เด็กหลายคนนอนหลับฝันดีได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นสื่อหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ เรียนรู้และมีพัฒนาการในด้านต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย ร้านหนังสือ Fathom Bookspace ร่วมมือกับโรงเล่น พิพิธภัณฑ์เล่นได้ พื้นที่สร้างสรรค์ที่ทำงานร่วมกับชุมชนและองค์กรท้องถิ่น เชิญชวนให้ทุกคนส่งหนังสือนิทานที่สร้างการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบให้เด็กๆ กว่า 1,000 คนและอีก 300 ครอบครัว ในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ส่วนใหญ่ไม่มีหนังสือของตัวเองแม้แต่เล่มเดียว โครงการนี้ต่อยอดมาจากการดำเนินโครงการในปี 2564 ที่พบว่า หนังสือนิทานเป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นบทบาทของผู้ปกครองให้สามารถส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ได้อย่างสมวัยผ่านการอ่าน รวมถึงใช้เวลาเล่นสนุกด้วยกันผ่านจินตนาการภายใต้ตัวอักษรและรูปภาพ หากใครที่มีหนังสือนิทานหรือวรรณกรรมเยาวชนสภาพดีที่ไม่ได้อ่านซ้ำอีกครั้ง และไม่รู้ว่าจะจัดการกับหนังสือเหล่านั้นอย่างไร มาร่วมกันส่งต่อให้เป็นหนังสือเล่มแรกของเด็กๆ อีกหลายคนได้ที่ โรงเล่น พิพิธภัณฑ์เล่นได้ 120 ม.12 บ้านสันโค้ง ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย 57180 หรือหากใครไม่มีหนังสือนิทานที่จะส่งต่อ แต่อยากสร้างเสริมการอ่านให้อนาคตของชาติ สนับสนุนเงินซื้อหนังสือให้เด็กๆ ได้ผ่านช่องทาง tinyurl.com/mr3putsn จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้นทางร้าน Fathom จะนำเงินเหล่านี้ไปเลือกซื้อหนังสือและส่งต่อไปยังโรงเล่น พิพิธภัณฑ์เล่นได้ เพื่อส่งต่อให้กับเด็กๆ ต่อไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง […]

‘Healthy Space for all : Hello! ยินดีที่ได้รู้จัก’ ชวนฟังเสวนาเพื่อสร้าง Healthy Lifestyle 22 มี.ค. พื้นที่หน้าอาคาร Park Silom

พื้นที่สุขภาวะคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับคนเมือง ไปหาคำตอบได้ใน ‘Healthy Space for all : Hello! ยินดีที่ได้รู้จัก’ งานเสวนาที่จัดขึ้นโดยแพลตฟอร์ม ‘Healthy Space for all’ ที่จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังการทำงานด้านสื่อ ไปจนถึงประเด็นใกล้ตัวอย่างเรื่อง Healthy Lifestyle ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับการใช้ชีวิตในเมือง และจะสร้าง Healthy Activities ได้อย่างไรบ้าง โดยภายในงานจะมีการเปิดตัวนิตยสารฉบับแรก Healthy Space for all “Vol.1 Hello ยินดีที่ได้รู้จัก” เพื่อผลักดันการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะสู่ประชาชนทั่วไปและหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาพื้นที่สาธารณะที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันทั่วประเทศไทย และสร้างแรงบันดาลใจกับแรงผลักดันการพัฒนาพื้นที่สาธารณะละแวกบ้านสู่ท้องถิ่นและชุมชน นอกจากนิตยสารแล้ว ยังมีนิทรรศการเรื่องราวของพื้นที่สุขภาวะ และกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุก รวมไปถึงเสวนาในหัวข้อ Love my Space ep.1 let’s communicate ที่จะพาผู้ร่วมงานทุกคนไปพบกับประสบการณ์ที่จะทำให้ตัวเองและคนรอบตัวมีความสุข จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนของเหล่านักสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น – รศ. ดร.พนิต ภู่จินดา หัวหน้าศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะเมือง […]

คิดชื่อลูกไม่ออก บอกโปรแกรมตั้งชื่อลูก ตัวช่วยสำหรับพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังตามหาชื่อมงคลให้ลูกน้อย

การเลือกชื่อสักชื่อที่จะต้องติดตัวลูกน้อยไปตลอดชีวิต เปรียบเป็นของขวัญชิ้นแรกจากพ่อแม่ที่มอบให้แก่ลูก ซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างตั้งแต่ความเหมาะสม ความเป็นสิริมงคล ไม่มีอักษรกาลกิณี หรืออาจเป็นการเอาชื่อจากพ่อและแม่มาผสมรวมกัน สำหรับคู่รักคู่ไหนที่จะมีสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี ทาง Hi-Family Club เว็บไซต์ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับเด็กทารกและคุณแม่ ที่นอกจากให้คำแนะนำเรื่องการดูแลทารกแล้ว ล่าสุดทางเว็บไซต์ยังออกแบบ www.hifamilyclub.com/babynaming โปรแกรมสำหรับตั้งชื่อลูกสำหรับพ่อแม่มือใหม่ไว้ด้วย จุดประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้กับผู้ปกครองที่มองหาชื่ออันไพเราะ มีความหมาย และเป็นสิริมงคล ตรงตามความต้องการให้แก่ลูกรัก โดยใช้ข้อมูลบางส่วนที่อ้างอิงจาก ‘คู่มือตั้งชื่อลูก’ ของเสฐียรพงษ์ วรรณปก (ราชบัณฑิต) เพื่อให้ชื่อที่ตั้งมีอักษรและการออกเสียงที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การตั้งชื่อ โดยหลักเกณฑ์ภายในโปรแกรมตั้งชื่อแบ่งออกเป็น 4 แบบ ได้แก่ ตั้งชื่อลูกตามคุณพ่อคุณแม่ ตั้งชื่อลูกตามความหมาย ตั้งชื่อลูกตามตัวอักษร และตั้งชื่อลูกตามวันเกิด โดยโปรแกรมจะสร้างสรรค์ชื่อจากฐานข้อมูลเพื่อสร้างไอเดียดีๆ สำหรับการตั้งชื่อ เว็บไซต์นี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นเพียงการตั้งชื่อให้ลูกเท่านั้น เพราะหากใครกำลังหาชื่อที่มีความหมายดีตามหลักการเพื่อเปลี่ยนชื่อใหม่ ก็ใช้โปรแกรมนี้ได้เช่นกัน

‘Toy Storey Residence’ กำแพงบ้านในอินเดียที่ทำขึ้นจากของเล่นพลาสติก ช่วยกำจัดขยะและสร้างความยั่งยืนให้ชุมชน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พลาสติกกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ไปแล้ว และหลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าพลาสติกในรูปแบบของเล่นนั้นมีมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก หลายบ้านต้องประสบปัญหากับการมีของเล่นล้นบ้านและไม่รู้จะกำจัดอย่างไร เพราะบางชิ้นก็ไม่เหมาะแก่การนำไปรีไซเคิล สุดท้ายแล้วของเล่นเหล่านั้นก็จบลงด้วยการเผา ฝังกลบ หรือกลายเป็นขยะลอยอยู่ในทะเล เมืองวาดาการา รัฐเกรละตอนเหนือของประเทศอินเดีย ก็เป็นหนึ่งในเมืองที่ชื่อว่ามีการบริโภคของเล่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง สถาปนิกจาก Wallmakers จึงหาวิธีการจัดการขยะพลาสติกจากของเล่นกว่า 6,200 ชิ้นด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบการเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงในโครงการ ‘Toy Storey Residence’ โครงการ Toy Storey Residence ออกแบบมาในลักษณะ ‘บ้านภายในบ้าน’ ที่เพื่อนบ้านและสมาชิกในชุมชนสามารถมาใช้พื้นที่อยู่อาศัยได้ ในขณะที่พื้นที่ส่วนตัวนั้นก็จะถูกกั้นด้วยฉากโชจิโปร่งแสงแบบญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกเปิดกว้างแต่ยังรักษาความเป็นส่วนตัว และเมื่อลงไปยังชั้นใต้ดินก็จะพบกับห้องสมุดและห้องนอนที่เงียบสงบ ส่วนพื้นที่บริเวณส่วนกลางนั้นมีกำแพงที่ทำจากกระเบื้อง Mangalore แบบดั้งเดิม และของเล่นที่ถูกทิ้งขว้างมาเป็นส่วนประกอบช่วยให้พื้นที่ของบ้านมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยของเล่นเหล่านี้ โดยของเล่นแต่ละชิ้นจะทำหน้าที่ค้ำช่องกำแพง เพื่อให้มีแสงลอดเข้าสู่ภายในและมีการระบายอากาศตามธรรมชาติ ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการนำเอาของเล่นที่ไร้ค่ากลับมาใช้งานใหม่ แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนผ่านโครงสร้างบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ เด็กๆ ในชุมชนยังกลับมาเยี่ยมเยียนอดีตของเล่นชิ้นโปรดของพวกเขาที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของเล่นอีกต่อไป แต่กลายเป็นโครงสร้างบ้านที่ทำประโยชน์ต่อคนจำนวนมากได้อีกด้วย Sources :Designboom | tinyurl.com/ycky6at4Wallmakers | tinyurl.com/yne7vt6n

1 2 3 4 123

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.