ชาวแบริ่ง-สำโรงเตรียมโบกมือลา XXXYYY คาเฟ่และโปรเจกต์สเปซ ไปอุดหนุนกันได้ถึงวันที่ 2 พ.ย. 67

เป็นเวลาหลายปีที่ย่านแบริ่ง-สำโรงมีชีวิตชีวาขึ้นจากการเกิดขึ้นของ XXXYYY คาเฟ่และโปรเจกต์สเปซของสองเพื่อนรักนักออกแบบ ‘ไนน์-กชพร เปี่ยมราศรี’ และ ‘หลิง-อรวรรณ กอเสรีกุล’ ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย นอกจากงานออกแบบและศิลปะ พวกเธอก็ชื่นชอบกาแฟกันเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อหลอมรวมกับความเหนื่อยล้าจากการทำงานประจำ ผสมผสานกับการอยากลองทำอะไรใหม่ๆ กชพรกับอรวรรณจึงตัดสินใจศึกษาและก่อร่างสร้าง XXXYYY ให้เป็นคาเฟ่กึ่งพื้นที่ปล่อยของของนักออกแบบและคนรักงานดีไซน์ ที่ผ่านมา พื้นที่ X กับ Y แห่งนี้ได้มอบความสุขผ่านเครื่องดื่มและขนมให้คนที่ชอบบรรยากาศของคาเฟ่ และขณะเดียวกันก็นำเสนอนิทรรศการของนักออกแบบทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่มาไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ เติมพลังให้คนย่านแบริ่ง-สำโรงทั้งแบบที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ว่าได้ ทว่าเมื่อมีพบย่อมต้องมีวันลา เพราะ XXXYYY ประกาศว่าจะเปิดให้บริการก่อนจะปิดพักไม่มีกำหนดวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยระหว่างนี้ทุกคนยังเข้ามาเอนจอยกับเครื่องดื่มและขนมอร่อยๆ ไวบ์ดีๆ รวมถึงนิทรรศการครั้งสุดท้ายกับ Hand’s Talent ที่นำเสนอผลงานอันเกิดจากการทำด้วยมือของเหล่าศิลปินและนักออกแบบ โดยจะจัดแสดงถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ใครที่อยากแวะไปเยี่ยมเยือน XXXYYY ก่อนจากกัน คาเฟ่และโปรเจกต์สเปซแห่งนี้ยังเปิดต้อนรับทุกคนที่ย่านแบริ่ง-สำโรง เดินทางโดย BTS สถานีแบริ่ง ทางออกที่ 4, รถยนต์ส่วนตัวจอดที่อาคารธนาคารเก่าก่อนถึงพื้นที่ 80 เมตร เปิดให้บริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 […]

โตขึ้นแค่ไหน ก็ไม่ต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ‘ÜNOS’ รองเท้าผ้าใบที่โตตามขนาดเท้า One size fits all ซื้อหนึ่งครั้งใส่ได้ยาวๆ 

ในอดีตคำว่า ‘One size fits all’ อาจเป็นคำโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีอยู่จริง แต่สำหรับ ‘ÜNOS by Sz’ รองเท้าผ้าใบที่จะขยายขนาดไปตามรูปร่างเท้าของผู้ใช้งาน การจะใช้คำนี้อธิบายคงเป็นคำที่ถูกต้องที่สุด ÜNOS เป็นผลงานการออกแบบรองเท้าผ้าใบของ ‘D’Wayne Edwards’ นักออกแบบที่ออกแบบรองเท้าให้กับศิลปินมาแล้วกว่า 500 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Tupac, Notorious B.I.G., Snoop Dogg หรือ Nas โดย ÜNOS ย่อมาจากคำว่า ‘Ü Need One Size’ ที่บอกเล่าถึงไอเดียสุดแหวกแนวของเขาในการทำให้รองเท้าหนึ่งคู่สามารถอยู่กับเราได้นานที่สุด ด้วยการขยายใหญ่ไปตามการเจริญเติบโตของเท้าเรา บริเวณพื้นรองเท้าออกแบบมาในรูปตัว Z ที่ทำให้สามารถปรับขยายออกตามขนาดและรูปร่างเท้าเพื่อรองรับการใช้งานในขณะสวมใส่ อีกทั้งยังช่วยให้รองเท้าผ้าใบมีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ถือเป็นผลิตภัณฑ์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ารองเท้าผ้าใบแบบเดิมๆ ด้วยการยืดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ให้อยู่กับเราได้นานขึ้น ลดปริมาณรองเท้าที่ต้องถูกฝังกลบ อีกทั้งยังช่วยลดจำนวนการผลิตจากเดิมที่รองเท้าหนึ่งแบบจะต้องผลิตถึง 40 ขนาด ให้เหลือเพียง 8 ขนาด ปัจจุบัน ÜNOS วางขายแล้วในตลาดรองเท้าผ้าใบ ด้วยราคารองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 50 […]

‘เกาะ Manresa’ อดีตเกาะโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำลายธรรมชาติ สู่พื้นที่สาธารณะเพื่อการศึกษาและฟื้นฟูระบบนิเวศ

อดีตพื้นที่อุตสาหกรรมส่วนใหญ่หากไม่ได้ถูกทิ้งร้างไว้เฉยๆ ก็อาจถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ แต่ ‘Manresa’ อดีตเกาะที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินในช่องแคบลองไอแลนด์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐคอนเนตทิคัตที่มีประวัติพื้นที่น่าสนใจมาอย่างยาวนาน กำลังได้รับการฟื้นตัวเพื่อเป็นพื้นที่สาธารณะเปิดรับชาวเมืองให้เข้ามาใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ เดิมที Manresa เป็นพื้นที่พักผ่อนอยู่แล้ว จนในปี 2493 ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินจนถึงปี 2555 ซึ่งการมีอยู่ของโรงไฟฟ้าก่อให้เกิดปัญหาระบบนิเวศมานานกว่า 60 ปี และหลังจากที่ปลดระวางโรงไฟฟ้าไป พื้นที่แห่งนี้ก็มีการฟื้นตัวทางระบบนิเวศตามธรรมชาติ โดยมีป่าเบิร์ช (Birch) ที่เติบโตบนขี้เถ้าถ่านหินเก่า และนกออสเปรย์ที่ทำรังอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้ระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำเจริญรุ่งเรืองและมีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ ทาง ‘Bjarke Ingels Group (BIG)’ บริษัทสถาปนิกชื่อดังจากเดนมาร์ก และ ‘SCAPE’ บริษัทสถาปัตยกรรมภูมิทัศน์ในนิวยอร์ก มองเห็นถึงประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่นี้ให้เป็นสวนสาธารณะขนาด 125 เอเคอร์ หรือประมาณ 505,857 ตารางเมตร จึงร่วมมือกันออกแบบให้ Manresa กลายเป็นศูนย์กลางการพักผ่อนหย่อนใจ ศูนย์กลางการศึกษาและการฟื้นฟูระบบนิเวศ เกาะ Manresa ในรูปแบบใหม่นี้จะมาพร้อมพื้นที่กลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ และมีไฮไลต์อย่างสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ ชายหาดที่มองเห็นช่องแคบลองไอแลนด์และนิวยอร์ก สะพานคนเดิน รวมไปถึงท่าเทียบเรือที่ได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้คนเข้ามาใช้พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทางน้ำกันด้วย อย่างไรก็ตาม โครงสร้างและส่วนประกอบเก่าๆ ของโรงไฟฟ้าที่หลงเหลืออยู่อย่างอาคารหม้อไอน้ำ ห้องกังหัน อาคารสำนักงาน […]

ช่วยไม่ให้เกิดเหตุการณ์ “แล้วลูกเต่าทะเลล่ะ” ด้วย ‘COCOLAMP’ อุปกรณ์ครอบหลอดไฟ เบนแสงที่รบกวนการวางไข่ของเต่าทะเล 

แสงไฟใกล้ชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟจากโรงแรม รีสอร์ต หรือร้านอาหาร ล้วนแล้วแต่รบกวนการวางไข่ของเต่าทะเล และมีผลทำให้ลูกเต่าที่ฟักออกมาเกิดความสับสน เดินไปยังพื้นที่ที่มีแสงสว่างแทนที่จะเดินลงทะเล จนเต่าทะเลในประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ ‘COCOLAMP’ คือไอเดียนวัตกรรมอุปกรณ์ครอบหลอดไฟ จากนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ช่วยแก้ปัญหาลูกเต่าหลงทาง ด้วยการเบนแสงไฟบริเวณชายหาดที่รบกวนการวางไข่ของเต่าทะเลตามหลัก Turtle Friendly ให้ลูกเต่าคลานลงทะเลได้อย่างปลอดภัย พวกเขาศึกษาข้อมูลตัวอย่างจากเกาะแอนนามาเรีย รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แสดงให้เห็นว่า การจัดแสงไฟให้เป็นมิตรต่อเต่าทะเลสามารถลดจำนวนลูกเต่าที่หลงทางได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการใช้วัสดุจากเส้นใยมะพร้าวที่ได้จากชุมชนในการผลิต มียางพาราเป็นตัวเชื่อมประสานและเคลือบด้วยซิลิกาจากแกลบข้าว ทำให้ COCOLAMP มีความคงทน ติดตั้งง่าย ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม ราคาไม่แพง และย่อยสลายได้ในธรรมชาติ นอกจากตัวอุปกรณ์ครอบหลอดไฟแล้ว COCOLAMP ยังมีการใช้ Line Chatbot เข้ามาช่วยรวบรวมข้อมูลและประเมินผลการใช้งานของอุปกรณ์ ภายหลังการติดตั้งและใช้งานจริงด้วย ปัจจุบัน COCOLAMP กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพในห้องทดลอง ก่อนที่จะนำไปติดตั้งในพื้นที่จริงเพื่อประเมินผลการใช้งานอีกครั้ง

ทำไมดูเป็นคนดองหนังสือเก่งจัง ไปชมนิทรรศการปก คอสเพลย์ ช้อปหนังสือ ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 วันที่ 10 – 20 ต.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วนกลับมาอีกครั้งกับงานหนังสือที่รอต้อนรับให้เหล่านักอ่านช้อปปิงหนังสือใหม่และหนังสือที่เล็งๆ ไว้เข้ากองดอง ใน ‘งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29’ ใครที่เคยบ่นว่า หนังสือที่มีในกองดองอ่านจนตายก็คงไม่หมด น่าจะถูกใจกับธีม ‘อ่านกันยันโลกหน้า เพราะงานนี้มหึมามหาหนังสือ’ ในปีนี้ เพราะเราสามารถหาซื้อทั้งหนังสือเก่า หนังสือใหม่ ไม่ว่าจะสำนักพิมพ์ไหนหรือแนวอะไร งานนี้ก็มีให้หมด พร้อมกับโปรโมชันต่างๆ ที่สำนักพิมพ์จัดสรรไว้ให้ด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการจัดแสดง 100 ปกหนังสือสวย พบปะนักเขียนชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ การซื้อหนังสือส่งต่อให้ผู้อื่น การแข่งขันนักขายเรื่องผี คอสเพลย์ ประกวดเล่านิทาน ฯลฯ ให้เหล่านักอ่านได้แวะมาร่วมสนุกกันตลอดทั้งวัน เตรียมเงินและกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปส่งเสริมการอ่าน เพิ่มปริมาณสถิติคนไทยอ่านหนังสือกันได้ที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 วันที่ 10 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ฮอลล์ 5 – 7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ […]

‘Carpentopod’ โต๊ะไม้ 12 ขาที่เดินมาเสิร์ฟของกินถึงมือ ด้วยมอเตอร์ที่สั่งงานจากรีโมตคอนโทรล

เคยไหม เวลาดูหนังหรือซีรีส์เพลินๆ แล้วไม่อยากละสายตาหรือลุกจากโซฟาไปแม้แต่นิดเดียว การจะไปหยิบเครื่องดื่มหรือขนมในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็อาจทำให้ขาดอรรถรสไปได้ ‘Giliam de Carpentier’ วิศวกรเทคนิคผู้สนใจเรื่องการออกแบบและสร้างกลไกการเดิน หลังจากเริ่มมีทักษะทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และงานไม้ เขาได้สร้างนวัตกรรมใหม่ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับมนุษย์อีกขั้น นั่นคือ ‘Carpentopod’ โต๊ะไม้ที่มีจำนวนขามากถึง 12 ขา และเคลื่อนที่ได้ด้วยมอเตอร์ที่ซ่อนไว้ด้านในผ่านการสั่งงานจากรีโมตคอนโทรล ตัวโต๊ะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยแต่ละส่วนประกอบไปด้วยขา 6 ขา ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ของตัวเอง ซึ่งมอเตอร์สองตัวที่เชื่อมกับขาทั้งสองส่วนและแบตเตอรี่นั้นถูกจัดเก็บเอาไว้ในส่วนท้องหรือตรงกลางของโต๊ะ ที่ออกแบบมาเป็นช่องกลวงเพื่อใส่อุปกรณ์เหล่านี้เข้าไป และใช้บานพับประกอบไว้ด้านนอกเพื่อปิดไม่ให้มองเห็นส่วนที่ซ่อนเอาไว้ แต่ผู้ใช้งานก็ยังเปิด-ปิดบานพับนี้ได้อย่างง่ายดาย ส่วนการก้าวเดินของ Carpentopod ถูกสร้างขึ้นโดยซอฟต์แวร์ที่จะทำให้ขาทั้งหมดของโต๊ะตัวนี้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและแข็งแรง โดยขาโต๊ะทั้ง 12 ขานั้นทำขึ้นจากแผ่นไม้ลามิเนตที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมั่นคง ไม่ต้องกังวลว่าของที่อยู่บนโต๊ะจะร่วงหล่นลงมาระหว่างทางหรือไม่ แม้ตอนเคลื่อนที่จะดูน่ากลัวๆ ไปบ้าง แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ โต๊ะเดินได้ตัวนี้อาจจะกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญของหลายๆ บ้าน ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเล็กๆ น้อยๆ ให้คนในบ้านก็เป็นได้ ชมทักษะการเดินของ Carpentopod ที่ www.youtube.com/watch?v=xKDY4yWxfJM Sources :Designboom | tinyurl.com/3sxbkfnjGiliam de Carpentier | www.decarpentier.nl/carpentopod

เปลี่ยนสีให้บ้านได้ทุกครั้งที่เบื่อกับ ‘UNPAINT’ สีลอกได้ไม่ทิ้งรอย ยั่งยืน ย่อยสลาย ทาได้ทุกพื้นผิว

การเลือกสีทาบ้านและสีเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านถือเป็นโจทย์ยากของหลายๆ บ้าน เพราะเราจะต้องอยู่กับมันไปอีกนาน แถมการแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่สำหรับปัจจุบันอาจไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพราะล่าสุดบริษัทนวัตกรรมความยั่งยืน ‘Glasst’ ได้เปิดตัว ‘UNPAINT’ ผลิตภัณฑ์สีที่ทาได้ตั้งแต่ผนัง เฟอร์นิเจอร์ และพื้นผิวต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี Glasstomer ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตรที่บริษัทสีจากโคลอมเบียพัฒนาขึ้น ทำให้สามารถลอกสีออกเมื่อไม่ต้องการได้ง่ายๆ ด้วยมือ ส่วนวิธีใช้ก็แสนง่าย เพียงเลือกสี UNPAINT ที่มีให้เลือกกว่า 57 สี จากนั้นใช้แปรง ลูกกลิ้ง หรือหัวสเปรย์สำหรับพ่น ระบายสีลงบนพื้นผิวที่ต้องการ จากนั้นรอให้แห้งก็เป็นอันเสร็จสิ้น ทั้งนี้ การทาสี UNPAINT หนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้นานกว่า 1 ปี และถ้าในระหว่างนั้นผู้ใช้งานเกิดรู้สึกเบื่อสีเดิมขึ้นมา ก็ลอกสีดังกล่าวออกได้ทันทีด้วยมือ โดยแทบจะไม่ทิ้งร่องรอยของสีที่ลอกไว้บนผนังหรือเฟอร์นิเจอร์เดิม นอกจากนี้ UNPAINT ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากย่อยสลายได้ทางชีวภาพและปราศจากสารอินทรีย์ระเหยง่าย อีกทั้งสี 1 กิโลกรัมยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 11 กิโลกรัม UNPAINT วางจำหน่ายแล้วในตลาดลาตินอเมริกา และกำลังขยายตลาดไปทั่วโลกจากการได้รับความนิยมอย่างมากในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้าน การทาสีพื้นที่เชิงพาณิชย์ งานอีเวนต์ และนิทรรศการที่ต้องเปลี่ยนแปลงสีพื้นหลังอยู่บ่อยๆ Sources :Coatings […]

‘ของดีควรดู มิวเซียมน่ารู้ในจุฬาฯ’ พิพิธภัณฑ์จุฬาฯ เปิดนิทรรศการพิเศษ จัดแสดงสิ่งของน่ารู้จากคณะและหน่วยงานต่างๆ 2 ต.ค. – 27 ธ.ค. 67 ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากเป็นสถานศึกษาแล้ว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังมีของเด็ดของดีอย่างเหล่าพิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในคณะต่างๆ แต่ด้วยข้อจำกัดของการเป็นสถานที่กึ่งปิดกึ่งเปิด ทำให้มิวเซียมเลิฟเวอร์หรือคนภายนอกไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสมิวเซียมเหล่านี้เท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาฯ ได้จัดนิทรรศการพิเศษ ‘ของดีควรดู มิวเซียมน่ารู้ในจุฬาฯ’ ซึ่งเป็นการรวบรวมของดีจากพิพิธภัณฑ์ในจุฬาฯ มาจัดแสดงร่วมกันเพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าชม โดยเป็นความร่วมมือระหว่างพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะและหน่วยงานหลายภาคส่วนภายในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น 1) สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม (พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน, พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์, เรือนไทยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หอประวัติจุฬาฯ, หอสมุดดนตรีไทย และหอศิลป์จามจุรี)2) คณะวิทยาศาสตร์ (พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาฯ, พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ, พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา และพิพิธภัณฑ์พืช ศาสตราจารย์กสิน สุวตะพันธุ์)3) คณะทันตแพทยศาสตร์ (พิพิธภัณฑสถานวาจวิทยาวัฑฒน์ และพิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์)4) ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค (พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งน่าน และพิพิธภัณฑ์ศิลป์-สินธรรมชาติ จ.สระบุรี)5) สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ (พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน)6) คณะเภสัชศาสตร์ (พิพิธภัณฑ์สมุนไพร)7) คณะสัตวแพทยศาสตร์ (พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์ทางสัตวแพทย์)8) คณะอักษรศาสตร์ (พิพิธพัสดุ์ ไท-กะได)9) คณะแพทยศาสตร์ (หอประวัติคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ) โดยการจัดแสดงภายในนิทรรศการนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ […]

Sparkling Market ตลาดอาหารทะเลป๋อกวง แลนด์มาร์กใหม่ในไต้หวันที่ได้แรงบันดาลใจจากคลื่นทะเลและชายหาด

ตลาดอาหารทะเลในประเทศติดชายฝั่งทะเล ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวเข้ามาลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ตลาดอาหารทะเลหลายแห่งต้องเผชิญคือเรื่องความสะอาดของพื้นที่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวและชาวเมืองให้กลับมาใกล้ชิดกับตลาดอาหารทะเลมากขึ้น ตลาดอาหารทะเลป๋อกวงที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือประมงซินจู๋ ประเทศไต้หวัน ได้ปรับโฉมใหม่ หวังแก้ปัญหาความทรุดโทรมและไม่เป็นระเบียบของตลาดเดิม จนเกิดเป็น ‘Sparkling Market’ แลนด์มาร์กใหม่ของท่าเรือประมงซินจู๋ Sparkling Market เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่างบริษัทออกแบบ Atelier Or และบริษัท Pu-Ming Tseng Architects & Associates ออกมาเป็นอาคารรูปทรงตัว N ที่ถูกลดความสูงลงจากเดิม 13 เมตร เหลือ 7 เมตร เพื่อให้กลายเป็นพื้นที่กึ่งเปิดโล่ง ในขณะที่หลังคาคอนกรีตเสริมเหล็กและตัวอาคารถูกออกแบบในลักษณะคลื่นขนาดใหญ่สีน้ำตาลทอง ที่ได้แรงบันดาลใจจากคลื่นทะเลและเม็ดทราย นอกเหนือจากความสวยงาม Sparkling Market ยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานพื้นที่ในทุกฤดู ด้วยการติดตั้งฟังก์ชันการระบายน้ำที่ดีในช่วงหน้าฝน หลังคาและผนังของอาคารยังช่วยป้องกันแสงแดดในช่วงฤดูร้อน และช่วยป้องกันลมหนาวในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ภายในตลาดยังประกอบด้วยแผงขายของจำนวน 74 แผง ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เช่น เคาน์เตอร์ล้างจาน น้ำประปา และปลั๊กไฟ โดยทีมผู้ออกแบบหวังว่า Sparkling Market จะเป็นพื้นที่ขายอาหารทะเลที่ตอบโจทย์ด้านการออกแบบที่สวยงาม ควบคู่ไปกับฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยให้พื้นที่สะอาดและถูกสุขลักษณะแก่ผู้ซื้อ-ผู้ขายด้วย […]

ได้เวลาเริ่มต้นเส้นทางศิลปินอาชีพ DS.RU.BAND และ Boy in love คว้าแชมป์ในรายการ THE POWER BAND 2024 SEASON 4

กว่า 6 เดือนที่เหล่านักล่าฝันฝ่าฟันกันมา ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงจุดหมายที่ปิดฉากไปอย่างสวยงามกับ ‘THE POWER BAND 2024 SEASON 4’ เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และคราบน้ำตาแห่งความยินดี ภายใต้คอนเซปต์ ‘Let The Music Power Your World เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี’ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย, วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงชั้นนำ ได้แก่ Muzik Move, LOVEiS ENTERTAINMENT, Smallroom, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment ที่ร่วมมือกันผลักดันให้เกิดงานนี้มองว่า THE POWER BAND 2024 ที่เดินทางกันมาจนถึงปีที่ […]

เซฟเก็บไว้อ่านยามน้ำท่วม หนังสือ ‘คู่มือจัดการบ้านหลังน้ำลด’ เปิดให้อ่านและดาวน์โหลดทางออนไลน์

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ หลายๆ บ้านน่าจะประสบปัญหาฝนสาดน้ำท่วมกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งถ้าท่วมน้อยๆ แป๊บๆ แล้วน้ำลดก็คงไม่เป็นอะไร แต่บางบ้านไม่ใช่แบบนั้น เพราะต้องขนข้าวของขึ้นที่สูง อยู่กับน้ำท่วมเกือบครึ่งตัว และระบบต่างๆ ในบ้านใช้การไม่ได้เลย แต่เมื่อสถานการณ์กลับมาดีขึ้น น้ำลดลง ปัญหาที่ตามมาต่อคือ แล้วจะทำยังไงกับบ้านและทรัพย์สินของเราที่เสียหาย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สมาคมนักออกแบบเรขศิลป์ไทย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดทำ คู่มือจัดการบ้านหลังน้ำลด มาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 และนำมาเผยแพร่ให้สมาชิกและประชาชนที่สนใจในรูปแบบออนไลน์ การเรียงลำดับหัวข้อเนื้อหาในเล่มจะเริ่มจากเรื่องที่สำคัญที่สุดไปยังสำคัญน้อยที่สุด โดยแนวทางและวิธีการที่นำเสนอนั้นเป็นหลักการเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นหลักการเตรียมตัวและดำเนินการ เริ่มตั้งแต่อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม การดำเนินการ การจัดการระบบไฟฟ้า ตรวจสอบโครงสร้างบ้าน การทำความสะอาด ระบบสุขาภิบาล ประตู หน้าต่าง พื้น ผนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และต้นไม้ อ่านและดาวน์โหลดได้ที่ asa.or.th/handbook/home-affter-flood

เช็กตารางเดินรถในอ่างทองบนแพลตฟอร์ม ‘at-transit’ ช่วยลดระยะเวลารอรถโดยสาร

ปัญหาหลักๆ ของผู้โดยสารที่ใช้รถขนส่งสาธารณะในต่างจังหวัดคือ การรอรถอย่างไร้จุดหมาย โดยเฉพาะบางเส้นทางที่ไม่ได้มีเวลาแจ้งเอาไว้ชัดเจน ทำให้หลายคนต้องเสียเวลาในการรอไปโดยใช่เหตุ เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดอ่างทองด้วยเหมือนกัน ทำให้เจ้าของเพจ ‘เมื่อไรรถจะมา‘ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ประสบปัญหาได้สร้างเว็บไซต์ ‘at-transit’ ที่เป็นช่องทางในการแจ้งจุดรอรถ ตารางเวลา และเส้นทางรถในสถานีขนส่งต่างๆ ภายในจังหวัดขึ้นมา ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เล่าให้ Urban Creature ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการทำเว็บไซต์นี้ว่า มาจากปัญหาที่ได้เจอในฐานะของผู้โดยสารขาจรที่นานๆ ครั้งจะใช้รถโดยสารสักที แต่กลับพบว่าสายรถที่เคยใช้บริการไปก่อนหน้านี้มีการปรับเปลี่ยนเวลาบ้าง เปลี่ยนเส้นทางบ้าง หรือบางสายก็ยกเลิกเส้นทางการวิ่ง เช่น รถสองแถวหรือรถตู้ระหว่างจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เลยคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาเดียวกัน จึงได้ริเริ่มทดลองทำเว็บไซต์ at-transit ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารกันระหว่างผู้โดยสารกับรถโดยสาร จริงอยู่ที่รถบางสายจะมีการส่งต่อข้อมูลให้กับผู้โดยสารประจำบนโซเชียลมีเดียผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ หรือโอเพนแชต หรือรถบางประเภทอาจจะต้องคอยสอบถามผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งช่องทางเหล่านี้อาจไม่สะดวกต่อบางคน at-transit จึงสำรวจและเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเหล่านี้มารวบรวม พร้อมเผยแพร่ให้ผู้โดยสารโดยเฉพาะขาจรติดตามได้ง่ายขึ้น ด้วยการให้คนขับรถ เจ้าของคิวรถ หรือคนปล่อยรถ มากรอกเวลาการเดินทาง เพื่อส่งต่อข้อมูลที่อัปเดตขึ้นแสดงบนหน้าแพลตฟอร์ม และสามารถเซฟเป็นไฟล์รูปเพื่อนำไปส่งต่อบนแพลตฟอร์มอื่นๆ แม้ว่าข้อมูลรถที่มีจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก ด้วยความที่ช่วงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลอยู่ แต่ at-transit ก็ได้รับคำชมจากกลุ่มผู้ขับรถโดยสารค่อนข้างมาก เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการทำตารางเดินรถด้วยเหมือนกัน แต่ต้องหยุดไปในช่วงโควิด ดังนั้น at-transit ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยกระจายข่าวสารให้กับกลุ่มรถโดยสารเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ […]

1 2 3 4 5 135

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.