WHAT’S UP
เดินช้อปหนังสือบนเรือกลางน้ำใน ‘งานหนังสือลอยน้ำนานาชาติ’ วันนี้ – 26 พ.ย. 66 ที่ท่าเรือกรุงเทพ
สำหรับชาวหนอนหนังสือที่ไปเดินงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แล้วยังไม่จุใจ ถัดมาไม่ไกลบริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) เขาก็มีงานหนังสือให้แวะมาเติมกองดองด้วยเหมือนกัน แถมงานนี้ยังพิเศษกว่างานไหนๆ เพราะเราจะไปเดินดูหนังสือกันบนเรือกับ ‘งานหนังสือลอยน้ำนานาชาติ’ ที่จัดขึ้นบนเรือ ‘Doulos Hope’ ขององค์กรการกุศลทางทะเลระหว่างประเทศอย่าง ‘GBA Ships’ ที่เคลื่อนที่ไปในน่านน้ำทั่วประเทศบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมความรู้ การศึกษา และเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านหนังสือและอาสาสมัครจาก 25 ประเทศทั่วโลก โดยในเรือลำนี้ประกอบไปด้วยรายการหนังสือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการสอนทักษะต่างๆ หนังสือที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็ก รวมถึงความรู้ด้านกีฬาต่างๆ และสูตรอาหารนานาประเทศ งานหนังสือลอยน้ำนานาชาติบนเรือ Doulos Hope เปิดให้เข้าชมและเลือกซื้อหนังสือตั้งแต่วันนี้ – 26 พฤศจิกายน 2566 (ปิดทุกวันจันทร์) เวลา 14.00 – 21.00 น. ใครสนใจสามารถจองตั๋วและเวลาขึ้นเรือในราคาคนละ 30 บาท ได้ที่ thelittleboxoffice.com/douloshope (เด็กต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปเข้าชมฟรี) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DoulosHopeBangkok23
อนาคตวงการเบียร์กำลังสั่นคลอน นักวิทยาศาสตร์เตือน ภาวะโลกรวนอาจทำให้เบียร์ในยุโรปมีราคาแพงขึ้นและรสชาติแย่ลง
‘การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ’ หรือ ‘Climate Change’ คือปรากฏการณ์ที่นานาชาติแสดงความกังวล เพราะเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบเกือบทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงวงการเครื่องดื่มอย่าง ‘เบียร์’ ด้วย เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่า ภาวะโลกรวนจะทำให้เบียร์ในยุโรปมีราคาแพงขึ้น แถมรสชาติยังจะแย่ลงอีกด้วย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเกิดจากปริมาณและคุณภาพของ ‘ฮอปส์’ (Hops) ส่วนผสมสำหรับแต่งรสในเบียร์ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผลผลิตน้อยลง ผลที่ตามมาก็คือเบียร์อาจมีราคาสูงขึ้น และผู้ผลิตอาจจะต้องปรับวิธีการผลิตเบียร์ของตนเอง มากไปกว่านั้น นักวิจัยยังคาดการณ์ว่า ผลผลิตฮอปส์ที่ปลูกในภูมิภาคยุโรปจะลดลง 4 – 18 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 หากเกษตรกรไม่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งมากกว่าเดิม ในขณะที่ปริมาณกรดอัลฟาในฮอปส์ซึ่งทำให้เบียร์มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวจะลดลง 20 – 31 เปอร์เซ็นต์ Miroslav Trnka นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัย Global Change Research Institute of the Czech Academy of Sciences และผู้ร่วมเขียนงานวิจัยครั้งนี้ที่ตีพิมพ์ผ่านวารสาร Nature Communications ได้เตือนว่า บรรดานักดื่มเบียร์จะได้เห็นผลกระทบที่เกิดจาก Climate Change อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้านราคาหรือคุณภาพของเบียร์ […]
ค้นหาตัวตนและศักยภาพของย่านนางเลิ้ง ผ่านนิทรรศการ ‘เรา-เล่า-นางเลิ้ง’ ที่โรงเรียนสตรีจุลนาค 20 – 29 ต.ค. 66
‘นางเลิ้ง’ เป็นย่านที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ อุดมไปด้วยอาหารสูตรดั้งเดิมที่หาทานได้ยาก รวมถึงมีตรอกซอกซอยมากมายที่รอให้เหล่านักสำรวจเข้าไปค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทว่าคนส่วนมากยังขาดการรับรู้เกี่ยวกับข้อดีในชุมชน ทำให้ย่านที่ตั้งอยู่บนถนนนครสวรรค์แห่งนี้ไม่ได้รับการใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ขณะเดียวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในย่านก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา เพื่อจุดประกายและดึงศักยภาพของย่านนางเลิ้งให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง City PopUp ร่วมกับ Urban Studies Lab (USL) และหน่วยปฏิบัติการวิจัยด้านการออกแบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (DCE) จัดนิทรรศการ ‘Framing Spaces : เรา-เล่า-นางเลิ้ง’ หวังสร้างความร่วมมือจากทั้งคนในและคนนอกให้มาช่วยกัน Up ความ Pop ย่านนางเลิ้ง นิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน ‘Placemaking Week Bangkok 2023’ ภายใต้ทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ Ford Motor Company Fund และกรุงเทพมหานคร ที่เปิดโอกาสให้ร่วมกันเปลี่ยนเมืองอย่างสร้างสรรค์ แนวคิดหลักของนิทรรศการ เรา-เล่า-นางเลิ้ง แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ‘นางเลิ้งเป็น’ การถ่ายทอดชุมชนย่านนางเลิ้งผ่านการนำเสนอภาพจำ ประวัติศาสตร์ และสถานที่ที่สื่อถึงความเป็นนางเลิ้งในรูปแบบใหม่ โดยเหล่าครีเอเตอร์ที่จะมารังสรรค์สถานที่จัดงานในรูปแบบที่แตกต่างกัน อีกคอนเซปต์คือ ‘เราเป็น…’ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสถานที่และผู้มาเยือน เพื่อให้พวกเขาได้สะท้อนมุมมองของตัวเองที่มีต่อย่าน […]
ชาวเยอรมันแห่ตุนกลิตเตอร์ หลังสหภาพยุโรปประกาศแบนเพื่อลดไมโครพลาสติกในสิ่งแวดล้อม
ความสวยงามบางประเภทก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลิตเตอร์ที่เป็นส่วนประกอบทั้งในเครื่องสำอาง เครื่องประดับ หรือเครื่องแต่งตัว เพราะกลิตเตอร์นั้นคือไมโครพลาสติกชนิดหนึ่งที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะย่อยสลาย แถมด้วยขนาดที่เล็กมากยังทำให้พลาสติกชนิดนี้ไหลลงแม่น้ำและมหาสมุทรอย่างง่ายดาย จนอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์และพืชใต้น้ำ สหภาพยุโรปจึงเตรียมสั่งห้ามขายกลิตเตอร์และไมโครบีดส์ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปให้เหตุผลว่า การห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นวิธีการหยุดการปล่อยไมโครพลาสติกประมาณครึ่งล้านตันสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิตเตอร์จะถูกแบนจากร้านค้าตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้ เมื่อมีคำสั่งห้ามจำหน่ายเกิดขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อกลิตเตอร์ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยคนดังอย่าง ‘Sam Dylan’ จากรายการ ‘Big Brother’ เรียลลิตี้ของเยอรมนี ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มยอดขายกลิตเตอร์และทุกอย่างที่ทำจากกลิตเตอร์ โดยเขาให้สัมภาษณ์ทางหนังสือพิมพ์ว่า เขากำลังช้อปปิงกลิตเตอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งก็ได้มามากกว่า 82 ซองเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่กลิตเตอร์ที่มีประกายระยิบระยับเท่านั้น แต่การแบนในครั้งนี้ยังรวมไปถึงพลาสติกขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตรที่ไม่ละลายน้ำและไม่สามารถย่อยสลายได้อีกด้วย Source :The Guardian | tinyurl.com/2axfyjpf
LEGO ยกเลิกการใช้ขวดพลาสติกในการสร้างวัสดุตัวต่อเลโก้รักษ์โลก หลังพบการปล่อยคาร์บอนที่มากขึ้น
เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ทาง ‘LEGO’ ได้เปิดตัววัสดุตัวต่อเลโก้ต้นแบบตัวแรกที่ใช้ PET รีไซเคิล (rPET) ในการผลิต เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเปลี่ยนให้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดทำจากวัสดุที่ยั่งยืนภายในสิ้นทศวรรษนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปี 1963 เป็นต้นมา ตัวต่อเลโก้จำนวนหลายพันล้านชิ้นที่ผลิตในแต่ละปีล้วนทำมาจากพลาสติก ‘อะคริโลไนไตรล์ บิวทาไดอีน สไตรีน’ (ABS) หรือพลาสติกบริสุทธิ์ที่ทำจากน้ำมันดิบที่ปล่อยคาร์บอนมากถึง 1.2 ล้านตัน ทว่าเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ทาง LEGO ก็ออกมาประกาศล้มเลิกการใช้ขวดพลาสติกในการสร้างวัสดุตัวต่อเลโก้รักษ์โลกแล้ว หลังจากพบว่าการปรับโรงงานให้หันมาใช้พลาสติก rPET แทน ABS นั้นกลับก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นจนอาจได้ไม่คุ้มเสีย เพราะการขึ้นรูปเป็นตัวต่อจาก rPET จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการแปรรูปและทำให้แห้ง เพื่อที่ตัวต่อจากวัสดุใหม่จะได้คุณสมบัติความทนทานเทียบเท่าของเดิม ซึ่งในกระบวนการนี้เองที่ทำให้แม้เราจะเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่รักษ์โลกขึ้น แต่กลับปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ออกมาในปริมาณเท่าเดิมหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ ปัจจุบันทาง LEGO จึงมองหาทางออกใหม่ในการมุ่งสู่การผลิตตัวต่อเลโก้จากวัสดุที่ยั่งยืน ด้วยการทดสอบและพัฒนาตัวต่อที่ทำจากวัสดุทางเลือกที่ยั่งยืนอื่นๆ กว่า 100 รายการ รวมถึงพลาสติกที่มาจากการรีไซเคิลและจากแหล่งทางเลือกอื่นอย่าง E-methanol ที่ผลิตจากก๊าซผสมระหว่าง Green Hydrogen และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ได้จากการดักจับคาร์บอนในอากาศหรือโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อเข้าสู่ข้อบรรลุของบริษัทที่ต้องการให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 […]
PARK :D แพลตฟอร์มจัดการที่จอดรถในอารีย์ เพิ่มการรองรับรถโดยไม่ต้องสร้างที่จอดเพิ่ม
ใครที่เคยไปเดินเล่นหรือทำธุระในย่านอารีย์ก็คงทราบกันดีว่า ปัญหา ‘ที่จอดรถไม่เพียงพอ’ นั้นสร้างความลำบากให้ผู้ใช้งานในพื้นที่มาอย่างยาวนานและสม่ำเสมอ จนหลายครั้งผู้ขับขี่ที่จำเป็นต้องเข้าใช้งานในพื้นที่ต้องยอมจ่ายค่าจอดรถที่มีราคาสูงถึง 50 – 100 บาทต่อชั่วโมง หรือหากเป็นพนักงานออฟฟิศจะมีรายจ่ายค่าที่จอดรถราว 4,500 บาทต่อเดือนอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ ‘จ๋า-ชัญญา เตชวิริยะ’ และ ‘เต้-กันต์กวี บุญเพ็ง’ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสพบกันในบริษัทแห่งหนึ่งหลังจบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรม จึงปิ๊งไอเดียสร้างแพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการที่จอดรถในย่านอารีย์ขึ้นมาชื่อ ‘PARK :D’ แพลตฟอร์มนี้เป็นไอเดียสำหรับเข้าร่วมกิจกรรมประกวดออกแบบสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาย่านอารีย์ให้น่าอยู่ (ARID Hackathon 2023 : Innovation for Well-being) จนได้รับรางวัลชนะเลิศและเงินรางวัลเพื่อนำไอเดียจากการประกวดไปพัฒนาต่อ “ปัจจุบันอารีย์มีปัญหาเรื่องที่จอดรถจริงๆ เราเลยมองหาว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะมาแก้ปัญหานี้ ทำให้รถที่เข้ามาในย่านอารีย์มีปริมาณที่จอดเพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มที่จอดรถ แต่เป็นการเพิ่ม Capacity ของที่จอดรถที่มีอยู่เดิม” เต้เล่าถึงโจทย์แรกที่เขาและจ๋าต้องการแก้ไขในเบื้องต้น โดยการทำงานแพลตฟอร์ม PARK 😀 คือ การเป็นตัวกลางให้ผู้ที่มีที่จอดรถเป็นของตัวเองจับกับผู้ต้องการที่จอดรถในราคาถูกได้มากขึ้นผ่านรูปแบบ ‘Parking Lot-Sharing’ เพราะที่จอดรถ 1 ที่ มีเวลาการใช้ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ที่จอดรถของสำนักงานที่มักว่างในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ที่จอดรถของคอนโดฯ ที่มักว่างช่วงเวลากลางวัน หรือบ้านบางหลังที่มีที่จอดรถเหลือ การปล่อยเช่าที่จอดรถเหล่านี้จะช่วยเพิ่มปริมาณที่จอดรถในย่านอารีย์ได้ง่ายๆ […]
‘Shenzhen Women & Children’s Center’ ศูนย์บริการสตรีและเด็กในเมืองเซินเจิ้นที่ปรับปรุงจากอาคารเก่า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้โลก
อาคารบางแห่งในเมืองใหญ่ก่อสร้างขึ้นในสมัยก่อนตามมาตรฐานอาคารของยุคนั้นๆ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวโครงสร้างอาคารอาจไม่ตอบโจทย์มาตรฐานอาคารในยุคนี้ ทำให้ถูกรื้อถอนเพื่อสร้างเป็นอาคารแห่งใหม่แทน เช่นเดียวกับอาคาร Mixed-use เก่าที่มีอายุกว่า 29 ปี ในย่าน Futian ประเทศจีน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงที่เมืองเซินเจิ้นเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม อาคารนี้ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานสมัยก่อน ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัยจนทำให้ร้านค้าภายในอาคารค่อยๆ ปิดตัวลง และถูกทิ้งให้กลายเป็นอาคารที่ว่างเปล่าเป็นเวลานาน เนื่องจากประเทศจีนมีความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนในระดับสูงสุด (Carbon Peak) ภายในปี 2573 และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2603 อาคารแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งใน 24 ตัวอย่างของการฟื้นฟูโดยคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ และเพื่อเป็นการแก้ไขตัวอาคารที่ไม่ตอบโจทย์เมือง ‘MVRDV’ บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและชุมชนเมือง จึงวางแผนออกแบบให้อาคารนี้กลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้งโดยไม่ต้องรื้อถอนหรือสร้างใหม่ ปัจจุบันอาคารนี้อยู่ในฐานะของ ‘Shenzhen Women & Children’s Center’ โรงแรมและสถานที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้หญิงและเด็ก ซึ่งภายในประกอบไปด้วยห้องสมุด หอประชุม โรงละครเด็ก Discovery Hall รวมไปถึงห้องบำบัดและสำนักงานสำหรับพนักงาน MVRDV ทำการเปลี่ยนแปลงส่วนด้านหน้าของอาคารด้วยตารางหลากสีที่สามารถลดความร้อนที่เพิ่มขึ้น และติดตั้งแผงที่เปิดได้จากด้านในซึ่งจะช่วยให้มีการระบายอากาศตามธรรมชาติ เพิ่มความสะดวกสบาย และลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ส่วนสีโทนเหลือง ส้ม […]
‘กรุงเทพกลางแปลง’ กลับมาอีกครั้ง ชมหนัง 22 เรื่อง ใน 7 สถานที่ทั่วเมือง ยาวๆ ตั้งแต่วันนี้ – 12 พฤศจิกายน 66
หนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้กรุงเทพฯ ปีที่แล้วมีสีสันและทำให้คนอยากออกไปนอกบ้านมากขึ้นคือเทศกาลฉายหนัง ‘กรุงเทพกลางแปลง’ ที่แม้จะจัดหน้าฝน แต่คนเมืองหลายคนก็พร้อมกางร่ม สวมชุดกันฝนไปชมภาพยนตร์ดีๆ ร่วมกัน ปีนี้กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และสมาคมหนังกลางแปลงแห่งประเทศไทย นำกรุงเทพกลางแปลงกลับมาอีกครั้งกับโปรแกรมภาพยนตร์ 22 เรื่องหลากหลายรสชาติ ตลอดทั้ง 6 สัปดาห์ ใน 7 สถานที่ทั่วเมือง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้เข้าร่วมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฉายหนังสั้นนักศึกษาและหนังสั้นจากโครงการ Today at Apple ที่ทาง กทม.จัดอบรมร่วมกับสมาคมผู้กำกับฯ ในทุกสัปดาห์ การเสวนาพิเศษ คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง รวมถึงการฉายภาพยนตร์ต่างประเทศจากสถานทูต ที่สวนป่าเบญจกิติ ในวันที่ 3 – 5 พ.ย. และวันที่ 10 – 12 พ.ย. ที่เพิ่มเข้ามาจากโปรแกรมเดิม และนี่คือลิสต์หนังที่ฉายทั้งหมด พร้อมกับสถานที่ฉายที่มีทั้งรูปแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์ เหมาะกับช่วงนี้ที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจให้อยู่กลางแจ้งเท่าไหร่ โดยหนังจะเริ่มฉาย 19.00 น. เป็นต้นไป 1) หัวลำโพง– 7 ต.ค. […]
กระทรวงวัฒนธรรมของเบอร์ลินยื่นข้อเสนอเปลี่ยนห้างสรรพสินค้าให้เป็นห้องสมุดกลางแห่งแรกของเมือง
เคยคิดกันไหมว่า หากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางของการพักผ่อนหย่อนใจ ร้านค้า รวมไปถึงที่ตั้งของสำนักงานนั้นต้องเลิกกิจการไป อาคารขนาดใหญ่เหล่านี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นอะไรได้บ้าง สัญญาเช่า ‘Galeries Lafayette’ ห้างสรรพสินค้าสัญชาติฝรั่งเศสใจกลางกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีแห่งนี้จะหมดลงในช่วงปลายปี 2567 และมีรายงานว่าเจ้าของห้างฯ จะถอนตัวออกหลังจากเปิดให้บริการมานานกว่า 28 ปี เนื่องจากเงื่อนไขการค้าที่มีความท้าทายมากขึ้น ‘Joe Chialo’ วุฒิสมาชิกฝ่ายวัฒนธรรมของเบอร์ลินจึงได้ทำการยื่นข้อเสนอในการเปลี่ยนห้างฯ แห่งนี้ให้เป็นห้องสมุดกลางแห่งแรกในเมืองเบอร์ลิน โดยราคาในการซื้อห้างฯ และค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นห้องสมุดของโครงการนี้อาจจะต้องใช้เงินสูงถึง 589 ล้านยูโร หรือประมาณ 2.28 หมื่นล้านบาท หากโครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปได้ก็จะเปิดให้บริการได้ในปี 2569 โครงการนี้ยังคงเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น ด้วยข้อสงสัยจากทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเบอร์ลินในเรื่องของสภาพอาคาร ความเหมาะสมในการเปลี่ยนเป็นห้องสมุด และค่าใช้จ่ายที่อาจจะสูงเกินงบประมาณที่มี แต่อย่างไรก็ตาม บรรณารักษ์ในเยอรมนีก็ได้ทำการเรียกร้องให้ดำเนินโครงการต่อไป เพราะถือได้ว่าเป็นโอกาสแห่งศตวรรษที่จะมีห้องสมุดกลางในเมือง โดย ‘Regina Kittler’ หัวหน้าสมาคมห้องสมุดเยอรมนีสาขาเบอร์ลินมองว่า ห้างฯ Galeries Lafayette แห่งนี้มีศักยภาพในการเป็น ‘ห้องนั่งเล่นแห่งใหม่ในเบอร์ลิน’ ด้วยโครงสร้างเดิมที่เป็นกระจกและโลหะขนาดใหญ่ดึงดูดแสงธรรมชาติ มีผังทรงกลมแบบเปิดโล่ง และมีลิฟต์กับบันไดเลื่อนจำนวนมาก เหมาะแก่การเป็นพื้นที่ที่เปิดให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันมากกว่าการใช้งานในเชิงพาณิชย์ Source :The Guardian | tinyurl.com/4wnjb88z
‘Coca-Cola Y3000’ โค้กรสชาติใหม่ที่ใช้ AI ออกแบบรสชาติและบรรจุภัณฑ์แห่งโลกอนาคตใน 977 ปีข้างหน้า
ไม่รู้ว่าวงการการใช้ AI ในการออกแบบจะไปหยุดที่ตรงไหน เพราะล่าสุดบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่าง ‘Coca-Cola’ ได้ทดลองออกผลิตภัณฑ์รสชาติแปลกใหม่ขึ้นมาโดยใช้ AI กับเขาเหมือนกัน ‘Coca-Cola Y3000’ เป็นผลงานชิ้นโบแดงที่เกิดขึ้นหลังจากซุ่มทดลองกันมานานประมาณหนึ่งปีครึ่ง จากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยออกแบบรสชาติและบรรจุภัณฑ์ภายใต้คอนเซปต์ ‘รสชาติแห่งโลกอนาคต’ เพื่อดึงความสนใจจากผู้บริโภครุ่นใหม่ในท้องตลาด ปัจจุบัน Coca-Cola Y3000 วางขายแล้วแบบ Limited Edition ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทั้งแบบมีน้ำตาลและไม่มีน้ำตาล โดยราคาเท่ากับโค้กทั่วไปในท้องตลาด เมื่อผู้บริโภคซื้อไป บนแพ็กเกจจะสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเดินทางต่อไปยังเว็บไซต์ Creations สำหรับดูภาพอนาคตใน 977 ปีข้างหน้าจากการออกแบบของ AI Y3000 ว่าในปี 3000 จะมีลักษณะเป็นอย่างไรได้ด้วย ส่วนเราชาวไทยที่อาจจะหาซื้อ Coca-Cola Y3000 มาชิมรสชาติแห่งอนาคตกันไม่ได้ แต่อยากรู้ว่าภาพของโลกอนาคตในปี 3000 จะเท่สักแค่ไหน ก็สามารถเข้าไปเล่นที่ลิงก์นี้ได้เลย www.coca-cola.com/us/en/offerings/creations/y3000-cam ใครทดลองเล่นกันแล้วได้ผลลัพธ์มาในรูปแบบไหน ก็อย่าลืมเอาภาพมาอวดกันด้วยนะ Sources : CNN | t.ly/hNB2ECoca-Cola | t.ly/3uMen
อ่านหนังสือยังไงให้น่ารักสดใสสุดๆ ที่คั่นหนังสือลายดอกไม้จาก Reviv ฝีมือชาวม้ง ผลิตจากวัสดุผ้าอัพไซเคิล
หลังจากที่เราเคยนำเสนอที่คั่นหนังสือจากเศษผ้าฝีมือชาวม้งไปแล้ว ครั้งนี้ Reviv กลับมาอีกครั้งกับที่คั่นหนังสือลายใหม่ ‘ลายดอกไม้’ ที่มาพร้อม ‘โลโก้ Reviv’ ลวดลายสวยงาม ในคู่สีสดใส ชวนให้อยากหยิบมาคั่นหนังสือเล่มโปรด และต้อนรับขบวนงานหนังสือเล็กใหญ่ที่กำลังมาถึงนี้ และเหมือนเดิม ที่คั่นหนังสือคอลเลกชันนี้ก็เป็นฝีมือของน้องๆ และแม่ๆ ชาวม้งที่ปักและแมตช์คู่สีด้วยตัวเอง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ออกมาเป็นโปรดักต์น่ารักๆ ที่จะทำให้การอ่านของเรารื่นรมย์ขึ้น แถมยังเป็นมิตรต่อโลกด้วยเนื่องจากผลิตจากวัสดุเศษผ้าส่วนเกิน (surplus fabric) และปักเย็บด้วยเทคนิค Cross Stitch ซึ่งบางลายจะมีเพียง 1 ชิ้นในโลกเท่านั้น ที่คั่นหนังสือลายดอกไม้มีขนาด 4 x 11 เซนติเมตร เหมาะกับหนังสือขนาดพ็อกเกตบุ๊กที่พกพาสะดวก แถมมีหลายสีให้เลือกสรร ราคาชิ้นละ 189 บาท โดยรายได้ 40 – 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายจะนำไปแบ่งให้ช่างตัดเย็บแม่ๆ ชาวม้ง ตรงตามเจตนารมณ์ของ Reviv ที่ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นยั่งยืนซึ่งมาพร้อมรายได้ที่เป็นธรรม นอกจากที่คั่นหนังสือแล้ว Reviv ยังมีโปรดักต์รักษ์โลกอื่นๆ ที่น่าสนใจและใช้งานได้ทุกวันอีกด้วย ตามไปอุดหนุนกันได้ที่ shop.line.me/@reviv_shop/product/1005392866
ฟังเสียงจากข้างใน เพื่อเข้าใจตัวเอง กับ ‘ข้ า ง ใ น มาร์เก็ต Vol.02’ วันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค. 66 ที่ Muchimore
‘ข้ า ง ใ น มาร์เก็ต’ กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันอัปเกรด ‘ข้ า ง ใ น มาร์เก็ต Vol.02’ หลังจากได้กระแสตอบรับไปอย่างล้นหลามในครั้งที่ผ่านมา คราวนี้ ข้ า ง ใ น มาร์เก็ต Vol.02 เกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนโดย ‘สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth’ และโครงการของ ‘กระบวนทัศน์ใหม่ New Paradigm Channel’ ในรูปแบบของตลาดนัดรวมคนสนใจเรื่องใจใจ ด้วยธีม ‘ขอบคุณที่ฟังฉัน’ เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฟัง ในวันที่ใครต่อใครต่างแข่งกันเสียงดังจนลืมฟังกันและกัน เพื่อให้เราได้ยินเสียงของแต่ละสิ่งชัดเจนขึ้น งานนี้จึงรวบรวมกิจกรรม ‘รับฟัง’ หลากหลายรูปแบบในมิติต่างๆ ตามความถนัดและความตั้งใจของเพื่อนๆ ผู้ร่วมจัดงานมาไว้ด้วยกัน ซึ่งอาจเป็นการฟังที่ทุกคนคุ้นเคยบ้าง ไม่คุ้นเคยบ้าง ฟังเสียงที่เคยได้ยินบ้าง ไม่เคยได้ยินบ้าง ปะปนกันไป ผ่าน 6 กิจกรรมน่าสนใจ ได้แก่ 1) Awareness […]