ช่วงสิ้นปีของหลายๆ คนคงเป็นช่วงเวลาแห่งการครุ่นคิด ตกตะกอนถึงการเติบโตและความเปลี่ยนแปลง ทั้งสภาพแวดล้อม ความชอบ ความสนใจ ไปจนเหตุการณ์และปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
ในปีนี้ ‘กรุงเทพมหานคร’ เองก็เผชิญปัญหาและเกิดความเปลี่ยนแปลงไม่น้อย
คอลัมน์ Report อยากใช้ห้วงเวลาแห่งการทบทวนนี้ชวนทุกคนมาร่วมกันย้อนความทรงจำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองของเรา ตั้งแต่การสรุปเทรนด์และมูฟเมนต์ที่น่าสนใจของคนกรุง สรรพสิ่งที่ก่อสร้างและรีโนเวต อัปเดตโครงการใหญ่ที่เกิดหรือกำลังจะเกิดขึ้น ไปจนถึงปัญหาภัยพิบัติที่เป็นบทเรียนให้วางแผนป้องกัน ก่อนจะก้าวสู่ปีใหม่ไปพร้อมๆ กัน
เทรนด์ใหม่คนเมือง 2025
Longevity / คอมมูนิตี้ออฟไลน์ / AI

กรุงเทพฯ ปีนี้เรียกได้ว่ามองไปทางไหนก็มีแต่คนรักสุขภาพ สังเกตได้จากเทรนด์การวิ่งและ Run Club ที่เติบโตตลอดทั้งปี คอร์ตแบดฯ ที่จองช้าไปนิดเดียวก็เต็มตลอด และการหันมาดื่ม ‘เพียวมัตฉะ’ เกรดพิธีการเพื่อสุขภาพ จนราคาพุ่งสูงและขาดตลาด
การบูมของเทรนด์ ‘Longevity’ หรือการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ทำให้คนหันมาให้ความสำคัญและลงทุนกับสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างวิ่ง ตีแบดฯ หรือพิกเกิลบอล ที่เป็นที่นิยมเพราะเริ่มเล่นง่ายและสนุก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ กระทั่ง ‘พิลาทิส’ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสร้างสมาธิ
ด้านอาหารการกิน นอกจากการดื่มมัตฉะเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีประเด็นที่คนหันมาสนใจกินโปรตีนให้เพียงพอ นมโปรตีนจึงไม่ได้ขายให้แค่ชาวนักกล้ามอีกต่อไป ส่งผลให้มีนมโปรตีนใหม่ๆ มาให้เลือกบริโภคเต็มไปหมด ยังไม่นับรวมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) อื่นๆ อย่าง Ice Bath และ Sound Bath ที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์มากขึ้นด้วย
อีกด้านหนึ่งที่เกี่ยวโยงกับ Longevity คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งสิ่งนี้ก็สะท้อนในเทรนด์ของชาวกรุงเทพฯ ปีนี้เช่นกัน เห็นได้จากการจัดกิจกรรมและอีเวนต์สาธารณะมากขึ้น โดยมีคนไปเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้ Run Club ที่เปิดโอกาสให้ชาวนักวิ่งได้มาพบปะพูดคุย ทำความรู้จักกันหลังออกกำลังกาย หรือ Book Club ให้คนรักการอ่านได้มาแชร์ความคิดเห็นถึงหนังสือ
และอีกเทรนด์ที่เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ คือการที่ ‘AI’ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป อีกทั้งยังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้
ตั้งแต่การถาม ChatGPT จนเป็นเรื่องปกติ การมี AI Overviews ใน Google แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook, Instagram และ X ไปจนถึงเว็บไซต์และซอฟต์แวร์ที่คนจำนวนมากใช้ในการทำงาน ยกตัวอย่าง Google Docs, Canva หรือ Photoshop ที่ล้วนเพิ่ม AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชัน จนทำให้หลายคนใช้ AI มากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
น่าจับตามองว่าในอนาคต ภาครัฐจะมีนโยบายหรือข้อกำหนดอะไรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ใช้ และควบคุมการใช้ AI ให้ปลอดภัยหรือไม่
มูฟเมนต์ประจำปี 2025
เมือง Pet Friendly / ความยั่งยืน / Urban Design

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผู้คนหันมาเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น ประกอบกับกฎหมายควบคุมสัตว์เลี้ยงของ กทม.ที่จะบังคับใช้ในปี 2569 ทำให้เป็นมูฟเมนต์ที่น่าจับตามองของกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน พื้นที่สาธารณะ ห้างสรรพสินค้า และคอนโดฯ โครงการใหม่ๆ เริ่มมีการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ (Pet Friendly) มากขึ้น
ยกตัวอย่าง สวนลุมพินี ที่กำลังจะเปิด ‘Lumpini Dog Park’ สวนสาธารณะสำหรับสุนัขแห่งที่ 7 ของกรุงเทพฯ ในช่วงต้นปี 2569 หรือในฝั่งพื้นที่เอกชนเองก็มี ‘PAW YARD’ สวนสัตว์เลี้ยงเปิดใหม่ใจกลางสุขุมวิท ตั้งอยู่ในบริเวณ EM Tower ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ติดกับสวนเบญจสิริ ที่มีทั้งโซน Playground ร้านสัตว์เลี้ยง และคาเฟ่ ไปจนถึงโซนปิกนิกให้คนรักสัตว์มานั่งพักผ่อนได้ และ ‘Park Silom’ ที่เปิดโซนให้สัตว์เลี้ยงเข้ามาในสวนและพื้นที่ชั้น G ของโครงการได้
ส่วนโครงการใหญ่ประจำปีอย่าง ‘Dusit Central Park’ ก็อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าได้ทุกโซน ทั้งในศูนย์การค้าและสวน มี Dog Park เป็นพื้นที่ให้น้องหมาเข้าไปวิ่งเล่นโดยเฉพาะ ส่วนโครงการ ‘Cloud 11 Park’ สวนลอยฟ้าแห่งใหม่วางตัวเป็นพื้นที่ Pet Friendly ให้ชาวอุดมสุขพาสัตว์เลี้ยงไปวิ่งเล่นได้เช่นกัน
นอกจากการเป็นเมือง Pet Friendly แล้ว อีกเทรนด์ของเมืองที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องคือ ‘Sustainability’ หรือความยั่งยืน โดยในปีนี้กรุงเทพฯ มีความเคลื่อนไหวในด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอย่างการจัดเทศกาล ‘Bangkok Climate Action Week (BKKCAW)’ เป็นครั้งแรก จุดประสงค์คือ ต้องการเป็นพื้นที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงเรื่องสภาพภูมิอากาศได้จริง
กรุงเทพมหานครตั้งใจจัดเทศกาล BKKCAW อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อรายงานความคืบหน้า และสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเข้ามาเป็นผู้ลงมือทำร่วมกับประชาชนโดยตรง อีกทั้งภาครัฐยังต้องการใช้เทศกาลนี้เป็นพื้นที่ผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในสเกลเล็กและใหญ่
ขณะเดียวกัน ปีนี้เป็นปีที่กรุงเทพฯ จริงจังกับเรื่องการจัดการขยะมาก เห็นได้จากโครงการ ‘ไม่เทรวม’ ที่รณรงค์ให้ทุกคนแยกขยะเศษอาหารจากขยะทั่วไป เพื่อนำไปรีไซเคิลต่อได้ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2566 และในเดือนตุลาคม 2568 ได้มีโครงการ ‘บ้านนี้ไม่เทรวม แยกขยะลดค่าธรรมเนียม’ ที่ กทม.ปรับขึ้นราคาค่าเก็บขยะ 3 เท่า แต่ถ้าบ้านไหนแยกขยะตามหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพฯ กำหนด ลดเหลือราคาเดิมที่ 20 บาทต่อเดือน
อีกโครงการที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือโครงการ ‘สวน 15 นาที’ ที่ กทม.ตั้งเป้าหมายขยายให้ถึง 500 สวนทั่วกรุงเทพฯ ภายในปี 2569 โดยปัจจุบันมีมากถึง 417 สวนแล้ว และโครงการ ‘ปลูกต้นไม้ล้านต้น’ ซึ่งปัจจุบันปลูกได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมเป็นจำนวนมากกว่า 2 ล้านต้น
มูฟเมนต์สุดท้ายที่ Urban Creature สังเกตได้จากการนำเสนอเรื่องเมืองมาอย่างต่อเนื่องคือ ในปีนี้คนกรุงเทพฯ หันมาให้ความสนใจและจัดกิจกรรมที่ยึดโยงกับ ‘Urban Design’ หรือการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับเมืองมากขึ้น
หนึ่งในนั้นคือ ‘Bangkok Design Week 2025’ กับธีม ‘Design Up+Rising ออกแบบพร้อมบวก+’ ที่ชวนทุกคนมาแสดงออกว่า ความคิดสร้างสรรค์และงานออกแบบทำอะไรได้บ้าง เพื่อเปลี่ยนพลังลบเป็น ‘พลังบวก’ ในยุคที่เราต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับโลกที่ปั่นป่วนในปัจจุบัน
ในปีนี้มีงานออกแบบที่ยึดโยงกับเมืองหลายงาน ยกตัวอย่าง ‘Mega Mat’ เสื่อขนาดยักษ์จากพลาสติกรีไซเคิล ที่นำมาปูจนเต็มลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนเข้ามาร่วมสนุกได้เต็มที่
หรือจะเป็นงานที่ชวนไปเข้าใจขนส่งสาธารณะเส้นเลือดฝอยอย่าง ‘สองแถวแปลงร่าง’ ที่นำรถกระบะของโตโยต้ามาดัดแปลงเป็นรถสองแถวรูปแบบใหม่ มีเก้าอี้พร้อมเข็มขัดนิรภัย พัดลมระบายอากาศ และใช้เทคโนโลยีระบบชำระเงินอัตโนมัติ ระบบติดตามพิกัดรถแบบ Live Map และจอแสดงจุดจอดพร้อมเสียงประกาศ ของบัสซิ่ง ทรานสิท
รวมถึง ‘Neighbourmart’ โปรเจกต์ร้านซัพสินค้าโดย ili.U และ CEA ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางบอกเล่าเรื่องราวสินค้า Made in Bangkok จากกิจการเก่าแก่ในย่านต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ให้ทุกคนได้รู้จักและสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ต่อไป ประกอบกับจัดกิจกรรมที่ยึดโยงกับย่านและชุมชนอยู่เรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน โครงการที่อยู่อาศัยหรือมิกซ์ยูสหลายๆ แห่งของภาคเอกชนก็พยายามมุ่งเน้นการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างประโยชน์ให้เมืองไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นคอนเซปต์การออกแบบพื้นที่ในโครงการ การสร้างพื้นที่สาธารณะให้คนในย่านมาใช้งานได้ เติมพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพฯ ด้วยสวนขนาดใหญ่ในโครงการ ไปจนถึงการจัดกิจกรรม จัดตั้งนโยบาย หรือทำ CSR ที่เกี่ยวโยงกับการพัฒนาเมืองมากขึ้น ซึ่งมีทั้งที่ร่วมมือกับทาง กทม. และทำของตัวเอง
ยกตัวอย่าง ‘AP’ ที่คว้ารางวัล Good Design Award 2025 จากญี่ปุ่น ‘เซ็นทรัล รีเทล’ ที่สร้างห้องน้ำสาธารณะ ป้อม รปภ. และประตูเลื่อนเข้า-ออกใหม่ให้สวนลุมฯ หรือ ‘นิปปอนเพนต์’ ที่ร่วมมือกับ กทม. ทาสีตีเส้นถนนให้ประชาชนเดินได้อย่างปลอดภัย เป็นต้น
โครงการใหญ่ในกรุงเทพฯ
ทางเท้าและการเดินทาง / รถไฟฟ้า / พื้นที่สาธารณะ

พ้นไปจากความสนใจของคนกรุงเทพฯ แล้ว ตัวเมืองกรุงเทพมหานครก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน
เริ่มกันที่ปัญหาซิกเนเจอร์ประจำ กทม.อย่างทางเท้าที่ไม่สม่ำเสมอ มีสิ่งกีดขวาง เป็นหลุมบ่อ หรือเจ้า ‘กับดักระเบิดน้ำ’ ที่เชื่อว่าชาวนักเดินทุกคนต้องเคยเจอ แต่ในปีนี้ชาวกรุงเทพฯ เดินกันได้สะดวกและสนุกขึ้นในหลายพื้นที่ จากการปรับทางเท้ามาตรฐานใหม่ ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า 700 กิโลเมตร ตามโครงการ ‘กรุงเทพฯ เดินได้เดินดี’ ของ กทม. ที่ตั้งเป้าหมายพัฒนาทางเท้าให้ถึง 1,000 กิโลเมตร ภายในปี 2569
โครงการนี้ไม่เพียงปรับปรุงทางเท้า เพิ่มแสงสว่าง และลดสิ่งกีดขวางให้ปลอดภัยต่อผู้สัญจร แต่ยังมีการเพิ่มความสนุกสนานให้เมืองด้วยฝาท่อออกแบบใหม่ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละย่าน
แต่ถ้าการเดินยังไม่เร็วทันใจมากพอ บริการจักรยาน Bike Sharing ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่ตอบโจทย์ โดยทาง กทม.วางแผนขยายการให้บริการจักรยานสาธารณะมากถึง 6,000 คัน ภายในปี 2568 เพื่อสนับสนุนการลดใช้รถยนต์ส่วนตัว สอดคล้องกับแนวคิด ‘Bangkok Car Free Everyday’ ที่พยายามประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ทาง กทม.ร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันการเดินและการจักรยานไทย ทดลองวาง Lane Block หรือเสาล้มลุก เพื่อแบ่งเลนสำหรับจักรยานในซอยสุขุมวิท 39
แม้สุดท้ายแล้วจะเกิดเหตุการณ์ที่การจราจรติดขัด ส่งผลกระทบในวงกว้าง อีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์มาใช้งานมากกว่าจักรยานตามจุดประสงค์ จึงรื้อถอน Lane Block และตีเส้นให้มีช่องทางจราจร 2 ช่องทาง กับทางเท้าและจักรยานทางซ้าย 1 ช่องทางแทน แต่ก็ถือเป็นความพยายามที่ดีในการทดลองเพิ่มพื้นที่จักรยานในกรุงเทพฯ
อีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่เกี่ยวกับระบบขนส่งสาธารณะในปีนี้คือ ทาง กทม.ได้ปิดชำระหนี้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทเรียบร้อยแล้ว และยังเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานีอย่างเต็มรูปแบบ และรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออกก่อสร้างเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการผลิตขบวนรถไฟฟ้า โดยทาง รฟม.ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการฝั่งตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ในช่วงปลายปี 2570 และเปิดให้บริการตลอดสายภายในปี 2573
มีเรื่องทางเท้าและการเดินทางไปแล้ว พื้นที่สาธารณะเป็นอีกเรื่องที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยในปีนี้ อย่างโครงการ ‘สะพานเขียว’ ทางเชื่อมระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ที่หลังจากปิดปรับปรุงมาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ได้เปิดให้ทดลองใช้บริการสะพานเขียวเวอร์ชันใหม่ที่สมบูรณ์ไปแล้วราว 45 เปอร์เซ็นต์
โดยการปรับปรุงครั้งนี้ใช้หลัก Universal Design ในการออกแบบ เพื่อให้วีลแชร์ รถเข็นเด็ก และจักรยานเข้าถึงพื้นที่ได้จริง ด้วยการเพิ่มทางลาดยกระดับและลิฟต์ในบริเวณทางเข้าสวนลุมฯ ฝั่งถนนสารสิน แถมยังปรับปรุงพื้นสะพาน ปูทางเดินด้วยหินแกรนิต และเพิ่มเส้นทางจักรยานด้วยวัสดุกันลื่น Sport Surface สีสันสดใส ทั้งสีแดง เหลือง ม่วง ฟ้า และเขียว
นอกจากนี้ ที่สวนลุมฯ ยังมีการก่อสร้างศูนย์อาหาร ‘Hawker Center’ เป็นพื้นที่ให้ร้านสตรีตฟูดตามฟุตพาทย้ายเข้ามาค้าขายอย่างได้มาตรฐาน สะอาด เป็นระบบ และปลอดภัยมากขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2569 ตั้งแต่เวลาตี 5 ถึงเที่ยงคืน เพื่อรองรับทั้งคนที่มาออกกำลังกายในช่วงเช้าและนักท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน
และในปีนี้ กทม.ได้เริ่มดำเนินโครงการ ‘ปรับปรุง Skywalk ราชวิถี’ โซนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายขนส่งสาธารณะที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถาบันการแพทย์หลายแห่ง โดยมีการออกแบบให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม ทางเดินกว้างให้รถพยาบาลขนาดเล็กวิ่งได้ และเชื่อมต่อโครงข่ายขนส่งสาธารณะให้ประชาชนเดินทางสะดวกขึ้น
โครงการใหญ่จากภาคเอกชน
Dusit Central Park / NEXTOPIA
One Bangkok / Cloud 11

นอกจากโครงการจากภาครัฐแล้ว ในปีนี้ฝั่งเอกชนได้เปิดตัวโปรเจกต์ใหญ่กันหลายเจ้า
เริ่มด้วย ‘Dusit Central Park’ โครงการมิกซ์ยูสจากเครือเซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับดุสิตธานี ที่ตั้งอยู่หัวมุมถนนสีลมและพระรามที่ 4 ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย แถมยังมีจุดเช็กอินสำคัญเป็นสวนลอยฟ้า 7 ไร่ ให้คนเมืองไปใช้งานพักผ่อนมองดูวิวสวนลุมฯ อีกด้วย
ส่วนศูนย์การค้าที่ตั้งคู่กรุงเทพฯ มายาวนานอย่าง ‘สยามพารากอน’ ก็เปิดตัว ‘NEXTOPIA’ โซนใหม่บริเวณชั้น 5 กับคอนเซปต์ ‘เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต’ ที่ใช้นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในการออกแบบพื้นที่ ควบคู่กับร้านอาหาร ร้านค้า และพื้นที่กิจกรรมในชีวิตประจำวัน
และสำหรับ ‘One Bangkok’ ที่เปิดตัวมาได้ครบ 1 ปี ในปีนี้ได้มีการสื่อสารแนวคิด เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ จากการเป็นพื้นที่ทำงานและใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ปลอดภัย อีกทั้งยังตั้งใจเป็นฮับของศิลปะร่วมสมัย จัดกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลายงาน
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมจัด BEFF7 หรือเทศกาลหนังทดลองกรุงเทพ ครั้งที่ 7, ตลาดของคนรักแผ่นเสียง Record Store Day BKK 2025, เทศกาลละครเร่นานาชาติขนาดจิ๋ว (BICT on the MOVE 2025), เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68 (Bangkok World Music Day’ 25) และเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลศิลปะการแสดงร่วมสมัยนานาชาติ กรุงเทพฯ (BIPAM 2025), Galleries’ Nights 2025, และ Night at the Museum Festival 2025
และอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ใหม่เอาใจสายครีเอทีฟย่านอุดมสุข ที่กำลังจะเปิดให้บริการ ‘Cloud 11’ โครงการมิกซ์ยูสที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็น ‘Creative Culture Ecosystem’ เพื่อผลักดันนักสร้างสรรค์อย่างครบวงจร
ในโครงการมีทั้งโซนธุรกิจ โซนพื้นที่สีเขียว สวนลอยฟ้าในร่มขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นพื้นที่จัดอีเวนต์ศิลปะไปในตัว แหล่งรวมความบันเทิง และจุดเด่นอย่าง Art District พื้นที่รวมงานศิลป์หลากหลายรูปแบบ Creative Community ชุมชนสำหรับผู้ประกอบการสร้างสรรค์ และ Creative Academy สถาบันให้ความรู้ด้านการสร้างสรรค์ที่ได้หน่วยงานระดับโลกมาร่วมมือด้วย
ในระหว่างนี้กรุงเทพฯ มีการก่อสร้าง ‘Bangkok Mall’ ว่าที่ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน จากเครือ The Mall Group ในย่านบางนา บนพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และ ‘Bangkok Arena’ คอนเสิร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่ รองรับกว่า 20,000 ที่นั่ง โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569 – 2570 อีกแห่งคือ ‘Central Siam Square’ บนบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของโรงหนังสกาลา โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2567 และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 – 5 ปี
เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรง

ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ใหญ่ในปีนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้กับภัยพิบัติที่คนกรุงเทพฯ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จนหลายคนต่างเข้าใจผิดว่าตัวเองหน้ามืด พักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อนจะรู้ตัวว่าเกิด ‘แผ่นดินไหว’ กลายเป็นภาพคนจำนวนมากอพยพออกนอกอาคาร ลงมารวมตัวกันเต็มสองฝั่งท้องถนนในย่านใจกลางเมือง
เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่มีจุดกำเนิดในเมียนมา ส่งผลให้การจราจรในกรุงเทพฯ หยุดชะงัก รถไฟฟ้าปิดให้บริการ ค่าบริการแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์พุ่งสูงขึ้น คนจำนวนมากต้องเลือกเดินกลับบ้านแทน นำมาสู่การตั้งคำถามถึงการเป็น Walkable City ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินแบบนี้ในอนาคต
มากไปกว่านั้น แรงสั่นสะเทือนทำให้คอนโดฯ และตึกสูงหลายแห่งเกิดรอยร้าว บางแห่งระบบภายในเสียหายมากจนผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะอยู่ต่อ และจากความรุนแรงนี้เองได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงเกิดเป็นกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จากการบกพร่องทางการออกแบบและวิธีการก่อสร้าง จนมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 95 คน
ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์คือ ถนนยุบที่เป็นหลุมใหญ่ด้านหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการที่ดินไหลเข้าอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ที่กำลังก่อสร้าง ทำให้มีเสาไฟฟ้า 2 ต้น และรถยกของสถานีตำรวจสามเสนหล่นลงไปในหลุมยุบ โดยมีการแจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล-แยกซังฮี้ และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ในอาคารใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ รวมถึงแจ้งอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณข้างเคียง
หลังจากเหตุการณ์นี้ ทาง รฟม.ได้มีการตรวจสอบงานก่อสร้างทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย และเร่งแก้ไขเพื่อคืนพื้นที่ด้วยการอุดรูรั่ว ถมพื้น และทำผิวถนนชั่วคราวให้สามารถสัญจรได้ปกติ ก่อนจะซ่อมแซมตัวอุโมงค์และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รวมถึงอาคารใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน
ปัจจุบันโรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้เปิดให้บริการผู้ป่วยตามปกติแล้ว พร้อมๆ กับการปรับปรุงถนนและปิดการจราจรบางเส้น โดยทางโรงพยาบาลฯ ใช้วิธีจัดเตรียมรถสาธารณะเพื่อบริการส่งผู้เข้ารับบริการไปยังจุดต่างๆ นอกพื้นที่โรงพยาบาล
Sources :
Bangkok Design Week | url.in.th/lbGwW
Facebook : DogThailand – ที่พัก Pet Friendly ทั่วไทย | url.in.th/loUyk
Facebook : Realist | url.in.th/GgnSQ
Facebook : The Cloud | url.in.th/RhNes
Facebook : กรุงเทพมหานคร | url.in.th/vWJne, url.in.th/CoxcJ, url.in.th/lDeMA, url.in.th/QPVpA, url.in.th/ZtgvG, url.in.th/gHmPx, url.in.th/zqWmc
Facebook : สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร | url.in.th/PRhBX
Greener Bangkok | url.in.th/aPgmr
Harvard Health Publishing | shorturl.at/gmpXI
Marketeer | url.in.th/Kmmms
MGR Online | url.in.th/EjbDH
Neighbourmart | url.in.th/dioSv
Once | url.in.th/iJrUK
One Bangkok | url.in.th/sofZC
PostToday | url.in.th/JTRuH
Thai PBS | url.in.th/GKsLX, url.in.th/ZTtxO, url.in.th/bMtEi
Thairath | url.in.th/sixVc, url.in.th/diglR, url.in.th/vOWyG, url.in.th/VaYrm, url.in.th/PoMdV, url.in.th/JYdBv, url.in.th/YNTDC
The Active | url.in.th/kHfBq, url.in.th/plKey
THE MOMENTUM | url.in.th/mMobo
THE STANDARD | url.in.th/STraI, url.in.th/VbJzy, url.in.th/Rrsdy, url.in.th/xFbtf
Urban Creature | url.in.th/cxwSi
กรุงเทพธุรกิจ | url.in.th/FaVtb, url.in.th/MYiPJ
สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร | url.in.th/WdxNK