ใครที่อยากหาร้านบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนทานข้าวอยู่บ้าน เราขอแนะนำ ‘SāN’ ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ใจกลางกรุง ที่ตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น กึ่งวินเทจให้ความรู้สึกสบายตา ชิลล์ๆ ซึ่งทางร้าน SāN มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘New Originals’ ที่พก 3 วัฒนธรรม ไทย จีน และอเมริกัน มาครีเอทความแปลกใหม่ผ่านเมนูอาหารพิเศษไม่เหมือนใคร สไตล์ ‘Asian Twist’ เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งลูกค้าหลายคนได้ลองมาทานต่างยกนิ้วคอนเฟิร์มว่าต้องมาเสียตังค์กันอีกสักตั้ง !
3 คน 3 ความชอบ 3 วัฒนธรรม
ร้าน SāN (ซาน) หรือ สาม เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ที่นำเสนออาหารในรูปแบบ 3 วัฒนธรรมทั้งไทย จีน อเมริกัน จากการรวมตัวของเชฟทั้งสามคนอย่าง เชฟนิก – กฤษฏา จินตกานนท์,เชฟแนน – ศุภรา จินตกานนท์ และเชฟ Jacob Brower ที่มีความชอบและหลงใหลด้านอาหารแตกต่างกันออกไป
อย่างเชฟนิกชื่นชอบอาหารจีนเป็นหลัก หลงใหลในวัตถุดิบ และวิธีการทำอาหารของจีน ทางเชฟแนนมีพื้นฐานทางด้านอาหารไทย พวกวัตถุดิบต่างๆ การคัดเลือกวัตถุดิบที่ลงลึกไปตั้งแต่ที่มายันกรรมวิธีการปลูก เพื่อให้ได้เมนูอาหารที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ส่วนเชฟจาค็อบจะมีสกิลทำอาหารในกรรมวิธีทำอาหารสไตล์เวสเทิร์น จึงเป็นความแตกต่างที่ลงตัวกันของเชฟทั้งสามคน
ถึงแม้เชฟจาค็อบอาจไม่ได้ถนัดอาหารเอเชียมาก เพราะมาอยู่ไทยได้แค่ 1 ปีเท่านั้น แต่ได้ใช้วิธีการทำอาหารแบบตะวันตกมาประยุกต์ให้เข้ากับอาหารเอเชีย ทำให้ทุกเมนูที่ออกมามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมที่แตกต่างเข้าด้วยกัน
ก่อนหน้านี้เชฟนิก และเชฟแนนเคยเปิดร้านอาหาร American Cuisine ชื่อว่า ‘White Shuffle’ มาก่อน ซึ่งเป็นร้านใหญ่มีขนาด 60-70 ที่นั่ง เลยคิดว่าโปรเจกต์ครั้งนี้ ทั้งสามคนอยากทำให้มันแตกต่างไปจากเดิม และเป็นโปรเจกต์เล็กๆ ที่ทำแล้วสนุก โดยสิ่งจำเป็นคือ ต้องมีโลเคชันเป็นของตัวเอง แปลก ไม่อยู่ในห้างฯ ซึ่งคอนเซ็ปต์หลักๆ คือขอพื้นที่เล็กไว้ก่อน เป็นร้านสบายๆ และดูเป็นกันเอง
‘Originals’ but ‘New Originals’
ก่อนสรุปออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ร้าน ‘New Originals’ เชฟทั้งสามมีความคิดว่า อยากฉีกกรอบกฎเกณฑ์อาหารเดิมๆ ตามสูตรปู่ย่าตายายที่มีมานานหลายปี ว่าอาหารแบบนี้ต้องจับคู่กับอย่างนี้เท่านั้น แต่มาทำให้เป็นสไตล์ใหม่ๆ แทน ทางร้านจึงหยิบจับวัตถุดิบที่ต่างขั้วกัน มา ‘เล่าใหม่’ ผ่านกรรมวิธีต่างๆ เพื่อให้อาหารสไตล์ของร้าน SāN โดดเด่น และเป็นต้นตำรับใหม่แห่งวงการอาหารไทยที่มีกิมมิกครบไทย จีน และยุโรป จนกลายเป็นไอเดีย ‘New Originals’
“คำว่า New Originals เป็นเหมือนคำถามปลายเปิดที่ให้ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเองว่าเขารู้สึกใหม่กับมันหรือเปล่า เพราะจะมีหลายคนบอกว่าทำไมบางจานรสชาติคุ้นเหมือนเคยทานมาก่อนแต่ก็เป็นรสชาติแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน”
บอกเล่าความอร่อยผ่านเมนูอาหาร
เริ่มต้นกันด้วยเมนู Breakfast เปิดขายช่วง 10.00-14.00 น. เท่านั้น โดยมีคอนเซ็ปต์ คือ อยากทำให้หนึ่งเซ็ตเมนูมีความ ‘คุ้มค่า’ เพราะตอนเช้าคนส่วนมากอยากทานอะไรที่หลากหลายมากกว่าการทานปริมาณเยอะ จึงเลือกเสิร์ฟเป็นจานเล็กแต่ครบครัน ซึ่งทางร้านมีให้ทั้งหมด 3 เซ็ต แล้วแต่ว่าอยากทานแบบไหน แต่ที่ชอบสั่งกันมากคือ เซ็ต B ประกอบด้วย แพนเค้ก แฮชบราวน์ ผลไม้สด กราโนล่าโยเกิร์ต ชา หรือกาแฟ และ น้ำผลไม้ ซึ่งเราได้เพิ่มท็อปปิ้ง ‘เบคอนทอดกรอบ’ ขึ้นมาด้วย
ต่อไปเป็น Duck Bao with Chinese Celery and Cucumber (99 บาท)แป้งหมั่นโถวทอดกรอบนอกนุ่มใน ที่ทางร้านปั้นแป้งเอง สอดไส้อกเป็ดตุ๋นกับเครื่องเทศไทย จีน และพะโล้ เสิร์ฟพร้อมกับแตงกวา และ BBQ Pork Bao With Hoisin+mustard, Green Onion (99 บาท) หมั่นโถวหน้าบาร์บีคิวหมูแดง พร้อมซอสฮอยซินผสมมัสตาร์ด โรยหน้าด้วยต้นหอม เนื้อหมูแดงติดสามชั้น มีกลิ่นหอมของซอสฟุ้งไปทั่วปาก
มาถึงอาหารจานหลักกันบ้าง จานแรกคือ Grill Beef Tongue, Crispy Potato Gratin, Bone Marrow BBQ Sauce (390 บาท) ลิ้นวัวย่างหมักซอส ก่อนนำมาย่างให้เกรียมกรอบ วางบนมันฝรั่งชุบแป้งทอด ซึ่งความพิเศษของจานนี้จะอยู่ที่การหยิบไขกระดูกของวัวมาใส่ในซอสบาร์บีคิวให้รสชาติเข้มข้นขึ้น
จานที่สองเป็นเมนูสไตล์ไทยที่กลายมาเป็นเมนูยอดฮิตของทางร้าน อย่าง San Fried Pork Over-Rice Serve with Daily Soup (240 บาท) ข้าวหน้าคอหมูสามชั้นทอดชิ้นหนา เหลืองกรอบน่าทาน เสิร์ฟพร้อมกับซุป ผักดอง และน้ำจิ้ม 3 แบบ ได้แก่ น้ำจิ้มงา, น้ำจิ้มเผ็ด และน้ำจิ้มพริกเผาไข่เค็มที่มีทั้งรสชาติเผ็ด มัน เค็ม โดยเชฟแนนเป็นผู้คิดสูตรน้ำจิ้มทั้งสามแบบด้วยตัวเอง
ถัดมาเป็นส่วนผสมวัตถุดิบต่างขั้วอย่าง เหล้าจีน เนย ชีส และเส้นก๋วยจั๊บ ซึ่งคนไทยอย่างเราๆ คงนึกไม่ออกว่าก๋วยจั๊บจะทานแบบไหนได้อีก ซึ่งทางร้านซานก็พิสูจน์ให้เห็นว่า ก๋วยจั๊บก็สามารถสร้างรสชาติแปลกใหม่ระหว่าง ‘เอเชีย’ และ ‘ยุโรป’ กับเมนู Prawn, Twist Noodle, Prawm Mousse and Red Chilli (350 บาท) เส้นก๋วยจั๊บเส้นหนึบผัดกับกุ้งแม่น้ำ ราดด้วยครีมไข่หอยเม่น เป็นจานที่มีรสชาติความเผ็ดจากพริกเสฉวนเล็กน้อย ซึ่งช่วยตัดเลี่ยนได้ดี
สุดท้ายคือ Duck Dan Dan Noodle (250 บาท) บะหมี่เป็ดแห้งเส้นโฮมเมดสไตล์จีนเสฉวน โดยเชฟเป็นคนลงมือทำเส้นด้วยตัวเองตามแบบอเมริกัน แล้วตัวซอสมีความเผ็ดร้อนจากพริกเสฉวน เสิร์ฟพร้อมเนื้อเป็ดตุ๋น เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ใครไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง !
ล้างปากกันด้วยของหวาน Vanilla Semi Fredo, Chocolate cake, Matcha Cream (170 บาท) โดยเอาช็อกโกแลตเค้กเป็นฐาน ตามด้วยไอศกรีมวานิลลา 1 ลูก และท็อปปิ้งด้วยครีมมัทฉะ รสชาติไม่หวานมากจนเกินไป อยู่ในระดับที่กำลังดี จากรสเข้มของเค้กช็อกโกแลต รสหวานจากไอศกรีม และปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมของมัทฉะชาเขียว พอทานทั้งสามอย่างคู่กันถือว่าลงตัวสุดๆ
ถ้าใครสนใจอยากแวะมาชิม ทางร้านแอบกระซิบว่าให้จองโต๊ะเข้ามาก่อนดีกว่า โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะทางร้านค่อนข้างมีที่นั่งจำกัด สามารถจองผ่านเบอร์โทร หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจได้เลย
วันเวลาเปิด-ปิด : อังคาร – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 22.00 น.
ที่ตั้งร้าน :78/5 ซ.สุขุมวิท 51 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
Facebook : https://www.facebook.com/3sanbkk
เบอร์ติดต่อ : 062-909-2404, 097-029-8703
Writer
