Zakka Shop & Cafe คาเฟ่ของคู่รักย่านเอกมัย - Urban Creature


ช่วงสถานการณ์ Covid-19 แบบนี้บางคนอาจแค่เสียหลักเบาๆ แต่กับหลายคนอาจจะล้มลงแล้วเจ็บหนักจนลุกยืนแทบไม่ไหว เราจึงถือโอกาสช่วงบ่ายๆ ของวันที่ได้เข้าออฟฟิศหลังจาก Work From Home ไปนานนับเดือน ชวนแก๊งเพื่อนแว๊นมอเตอร์ไซค์ไปที่ซอยเอกมัย 24 แล้วก็เจอกับคู่รักนักขายน้ำ ‘คุณนิด – พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง’ และ ‘คุณแนน – วิภาวรรณ ธีระวัฒนศิริ’ กับพนักงานต้อนรับอายุ 5 ขวบที่ออกมาทักทายอยู่หน้าประตูร้าน Zakka Shop & Cafe’ ทันทีที่พวกเราไปถึง เรียกว่าเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากจริงๆ หลังจากนั้นบทสนทนาแบบมีระยะห่างทางสังคมที่ปลอดภัยสบายใจกันทุกคนก็เริ่มต้นขึ้น

ก้าวแรกที่เอกมัย


พี่นิด : เราเปิดร้านมา 3 – 4 ปีแล้ว เมื่อก่อนนี้ทำมาหลายอย่างมาก ร้านอาหารตามสั่งก็เคยทำ (หัวเราะ) ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งร้านทั้งคน จนสุดท้ายเหลือสองคน เรากับแฟนก็เลยตกลงกันว่าจะทำในสิ่งที่ชอบกัน นั่นคือมีเสื้อผ้า ของแฮนด์เมด แล้วก็พวกกาแฟเครื่องดื่มต่างๆ ด้วย แล้วที่มาอยู่ย่านเอกมัย เพราะแฟนเคยเริ่มจากเป็นลูกจ้างร้านกาแฟที่นี่ ก็เริ่มสะสมประสบการณ์ขยับขยายมาเรื่อยๆ จนทำร้านนี้ ซึ่งเราก็มองว่าทุกย่านมันมีทุกอย่างผสมกันอยู่ มีทั้งเสน่ห์ และเรื่องราว บางคนอาจไม่รู้คิดว่าย่านทองหล่อ-เอกมัยต้องเป็นคนรวย มหาเศรษฐีอยู่ แต่จริงๆ แล้วย่านนี้มีทั้งคนรวย คนจน ชนชั้นกลางทุกคนอยู่รวมกันที่นี่ แต่มันอาจจะเป็นแค่ย่านที่คนรวยมารวมตัวกันมากกว่าที่อื่นแค่นั้นเอง

Zakka Shop & Cafe’ ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ


พี่นิด : เราเทคแคร์ลูกค้าของเราทุกคนเป็นพิเศษแต่เท่าเทียมกันนะ บางคนเป็นลูกค้า สักพักกลายมาเป็นเพื่อนเฉย ซึ่งร้านเราจะพิถีพิถันกับการทำเครื่องดื่ม เราทำแบบแก้วต่อแก้วเลย จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าพิถีพิถันหรือเปล่า แต่สำหรับคนอื่นอาจจะเรียกว่าช้าก็ได้ (หัวเราะ) แต่แฟนเราก็มีมาตรฐานของเขาอยู่


พี่แนน : สำหรับเราจุดเด่นของร้านคือการส่งต่อความรู้สึกให้ลูกค้าที่เข้ามาเหมือนมาบ้านเพื่อน ไม่ว่าในวันนั้นเจออะไรมาหนักหนาแค่ไหน พอมาร้านเราแล้วอยากให้เขาผ่อนคลายไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลานั่งพักอย่างไม่เคอะเขิน อยากทำอะไรก็ทำได้ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อย่างความละเอียดของเราก็เหมือนกัน มันเป็นจุดที่อยากให้ลูกค้าได้กินของอร่อย ได้กินสิ่งที่อยากกิน รสชาติที่ถูกใจ เพราะการทำเครื่องดื่มแต่ละแก้วของเราเน้นที่ความต้องลูกค้ามากๆ เราจะบอกเสมอว่าสั่งได้เลยนะว่าชอบอะไร แบบไหน เราปรับให้ได้ พยายามถามฟี้ดแบคตลอด แนะนำแลกเปลี่ยนกันไป คือเราดีเทลมาก จนแฟนบอกว่า ฉันทำไม่ได้เลย ลูกค้าเธอกินไม่เหมือนกันเลย (หัวเราะ)


พี่นิด : ส่วนมากร้านต่างๆ เขาจะบอกว่าที่ร้านอร่อยทุกเมนูใช่ไหม แต่เราการันตีเลยนะว่าร้านผมเนี่ยอร่อยจริงๆ เพราะแฟนผมจะละเอียดมาก เทสรสชาติตลอดเวลา แบบ เฮ้ย.. มันยังไม่ได้อะ ก็อย่างที่เขาบอกสั่งได้เลย หวาน ไม่หวาน จะเอากลางเหรอได้นะ 

เหมือนอาหารตามสั่งสั่งมาได้เลย
ไม่มีบอกว่าไม่ได้อยากกินอะไรมาเดี๋ยวจัดให้ 

ลองผิดลองถูกเรียนรู้จากประสบการณ์ 


พี่นิด : เราเอาทักษะการเป็นช่างภาพของเรามาใช้เยอะเหมือนกัน อย่างการจัดคอมโพสซิชั่น หน้าร้าน หรือรายละเอียดภายในร้าน ไปจนถึงการคุยกับคน เราก็ทำตรงนี้แทบทั้งหมดเลย การเลือกของเราเองก็ช่วยกันเลือกกับแฟน อย่างเขาชอบเสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่น งานไม้ ของแฮนด์เมด เราชอบอะไรก็เอามาผสมกันให้เกิดตรงกลาง ส่วนของเครื่องดื่มอันนี้ก็คือหน้าที่หลักเขาเลยครับ (หัวเราะ)  


นอกจากนั้นส่วนมาก เราได้ความรู้ ประสบการณ์ตรงจากลูกค้าเต็มๆ บางคนเขามีความเชี่ยวชาญหลากหลาย เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน พอได้มาคุยกันเขาก็เหมือนพาเราไปรู้จักกับอะไรที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง กลายเป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าลูกค้าไปแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เราสองคนทำร้านอาหารตามสั่ง เราเหนื่อยกันมากก็เลยคุยกันว่า ลองปรับมาเป็นการเหนื่อยที่เรายังไหวแล้วเรายังชอบดูไหม 

ไม่ใช่ว่าทำแล้วไม่เหนื่อยนะ
แต่เรายอมเหนื่อยแบบมีความสุขมากกว่า
ก็เลยลองสู้กันใหม่ดู มันก็เลยอยู่มาจนถึงทุกวันนี้


พี่แนน : เหมือนทำให้เราได้อยู่ในที่ที่อยากอยู่แล้วก็มีความสุขทุกวัน การเริ่มลองผิดลองถูกของเรามันก็ตอบโจทย์ว่าเราได้ทำอะไรที่ชอบจริงๆ แต่เราแอบกลัวเหมือนกัน พอฐานลูกค้ามากขึ้นเรากลัวทำออกมาได้ไม่ดี แต่ก็จะพยายามที่สุดให้ทุกคนได้กินของอร่อยที่สุด  อีกอย่างเราชอบที่ได้เจอ ได้พูดคุยกับลูกค้า ได้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนบ้านแวะมาเยี่ยมกันได้ตลอดเวลา เลยเป็นเหตุผลที่เลือกสิ่งนี้เป็นอาชีพ สำหรับเรามันเป็นธุรกิจทางใจนะไม่ต้องใหญ่มากค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ พัฒนาไป เติบโตไปพร้อมกันทั้งร้านและพวกเราสองคน

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง


พอเริ่มพูดคุยกันไปมาก็เกิดเสียงหัวเราะมากเรื่อยๆ จากการที่เราเองไม่ได้พบปะพูดคุยกับคนเป็นๆ มาสักพักใหญ่กลายเป็นว่าบทสนทนาครั้งนี้ก็เมดมายเดย์ให้กับเราอยู่เหมือนกัน ถ้าใครได้ลองไถทวิตเตอร์ในช่วงนี้อาจจะได้เจอโพสต์ที่เล่าเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ปั่นจักรยานไปส่งน้ำจากเอกมัยถึงย่านปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ใช่แล้ว! เขาคือพี่นิดจากคาเฟ่ร้านนี้นั่นเอง

สองเท้ากับสองล้อคู่ใจ


พี่นิด : จริงๆ เริ่มปั่นมาตั้งแต่เด็กเลยนะ จักรยานมันอยู่กับเรามาตลอดชีวิต แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่หายไปบ้าง หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปทำงานที่ร้านจักรยาน ก็คือเงินที่ทำงานมาก็เอาไปซื้อจักรยานเลย คันละหลายพันด้วย (หัวเราะ) มันเป็นความผูกพันตัดกันไม่ขาด ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่อยากปั่นจักรยานทางไกลอยู่แล้ว พอดีกับเราเองก็ทำงานพอมีเงินเก็บแล้วเลยกลับมาจริงจังอีกครั้ง แล้วก็ดันเกิด COVID-19 พอดี ก็นั่งคิดว่า เฮ้ย… เอาไงดี คิดไปคิดมาก็เออมันคงไม่นานหรอก อย่างช่วง COVID-19 แรกๆ เราก็ปั่นออกกำลังกายปกติไม่ได้ออกไปส่งของนะ แค่รอ COVID-19 หายก็จะไปปั่นทางไกลแล้วแหละ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันไม่ใช่แล้ว สถานการณ์นี้มันยาวนานกว่าที่คิด

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง


พี่แนน : คือที่เขามีแผนจะไปปั่นจักรยานทางไกล ปั่นไปใต้เลยนะ (หัวเราะ) เหมือนอีกสองวันจะไป แล้วช่วงนั้นก็เกิดเหตุการณ์ COVID-19 รุนแรงขึ้นมา ทุกอย่างก็เลยเหมือนหยุดชะงักไป แล้วเขาก็เริ่มตั้งสติ เริ่มคิดว่าเออจะออกไปส่งน้ำแทน  เพราะด้วยความที่เขาต้องซ้อมปั่นระยะทางไกลอยู่เเล้ว บวกกับหลายสถานที่ก็อยากไปลองปั่นดู เช่น สมุทรปราการเขาก็อยากไป เพราะว่าเป็นระยะทางที่กว้างมากขึ้นมันท้าทายสำหรับเขา (ยิ้ม)

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง

ส่งช้าหน่อยแต่ถึงชัวร์


พี่นิด : เรื่องการส่งเครื่องดื่มของเรา จริงๆ มีหลายรูปแบบให้เลือกเลย มีขับมอเตอร์ไซต์ไปส่งเองบ้าง บางทีก็ปั่นจักรยานไปส่งบ้าง สำหรับลูกค้าที่ตกลงแล้วว่ามันมีระยะเวลาในการส่งนะ หรือจะสั่ง GRAB, LINE MAN ก็ได้ตามความสะดวกของลูกค้าเลย แต่สำหรับช่วงนี้ที่เราเลือกออกมาปั่นจักรยานส่งเอง เพราะอยากลองเส้นทางปั่นใหม่ๆ ซึ่งมันก็แอบมีความวุ่นวาย มีปัญหาที่เราเองคาดไม่ถึงเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้


อย่างครั้งแรกที่ออกไปส่งของด้วยตัวเองแถวๆ ปากน้ำ ใช้ถังอัดน้ำแข็งไปแต่ระหว่างทางมันก็ละลายกลายเป็นน้ำหมด แล้วดันเจอทางถนนไม่ดี การแพ็คของเราก็ยังไม่เซฟพอ และด้วยการที่เราไม่เคยออกเดินทางไกลขนาดนั้น คราวนี้แหละขวดแตกเละเลย เพราะใช้ขวดแก้ว เราก็เลยแบบเอาไงดีวะ บอกลูกค้าตรงๆ แล้วกัน ผมทำขวดแตกอีกสองวันผมเอามาให้ใหม่นะ เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ซึ่งเรารู้สึกผิดมากๆ แล้วมันก็กลายเป็นเทรนด์ที่เขาโพสต์กันในทวิตเตอร์ เราก็ตกใจนิดนึงว่ามันไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ)

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง
Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง


รอบต่อมาเราเลยทำการบ้านใหม่สำหรับการปั่นจักรยานไปส่ง หาวิธีเอาบั้บเบิ้ล มาห่อแพ็คให้ดีขึ้นกว่าเดิม หากระเป๋าเก็บความเย็นมาใช้ให้มันดีกว่าเดิม ให้ลูกค้ามั่นใจว่าของที่จะไปถึงมีคุณภาพสมบูรณ์แน่นอน แต่เรื่องระยะเวลาการส่งเราก็จะตกลงและแจ้งกับลูกค้าก่อนนะให้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย เพราะเราทำกับแฟนแค่สองคน ถ้าโอเคก็ขอรายละเอียดชื่อ ที่อยู่ เราจัดส่งเป็นย่านๆ นะครับ อาจจะต้องรอเป็นรอบไป วันนี้เต็มแล้วเอาไว้รอบหน้านะครับ เราก็มีลิมิตเหมือนกัน


ระหว่างที่เรากำลังพูดคุยกันเพลินๆ พี่แนนก็แอบไปทำเครื่องดื่มมาให้พวกเราดื่มแก้ร้อนเราเลยถือโอกาสแอบไปทักทายพนักงานต้อนรับที่มีชื่อชวนง่วงว่า ‘นอนนี่’ กันสักหน่อยเจ้าแมวปุกปุยทำหน้าที่ดีเลยทีเดียวแถมยังรู้มุมกล้องด้วยนะหลังจากพักชิมน้ำรสมือพี่แนนกันไปแล้วก็ถึงบางอ้อขอสั่งกลับบ้านกันเลย 

ใส่ใจทุกรายละเอียดเลือกใช้วัสดุที่ดีต่อโลก


พี่แนน : หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราถึงใช้ขวดแก้ว ใช้ขวดพลาสติกไม่ดีกว่าเหรอ จุดเริ่มต้นที่มาใช้ขวดแก้ว เพราะเพื่อนแวะมาหาที่ร้านแล้วอยากเอาน้ำกลับไปกินที่บ้าน แต่เราไม่มีขวดพลาสติก มีแต่ขวดแก้วอีเกียก็เลยทำให้เขาไป แล้วเขาก็เอามาใส่ใหม่อีกพร้อมถ่ายรูปอวดลงเฟสบุ๊ค เราก็เห็นว่าเออมันน่ารักดี ขอรูปเอามาลงโปรโมทลงไลน์แอด พอลูกค้าเห็นก็อยากได้แบบนี้กันเยอะเลย เราก็เริ่มจากตรงนั้น ทำให้ลูกค้าเลือกเลยแล้วกัน มีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เพราะบางคนเอาไปกินทั้งบ้านแปบเดียวหมดแล้วขวดที่เราให้ไปมันสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จะเอาไปใส่น้ำก็ได้ทำเป็นแจกันใส่ดอกไม้ก็ได้ คือมันเหมือนเป็นการลดปริมาณการสร้างขยะด้วย


พี่นิด : อย่างเรื่องการใช้ขวดนี่คือความชอบส่วนตัวนะ ใจเราอยากให้คนอื่นได้ของกลับไปใช้ด้วย อาจจะได้กำไรไม่มากแต่ได้ของที่ดีกลับไป แล้วช่วงหลังๆ มาก็คิดได้ว่า เราก็ปลูกต้นไม้นี่หว่า กำลังเป็นเทรนด์ที่หลายคนหันมาปลูกต้นไม้ในช่วงที่กักตัวอยู่ที่บ้านกันเราก็เลยคิดว่า เอาต้นไม้ไปฝากลูกค้าด้วยดีกว่า แล้วแนะนำว่ากินน้ำหมดแล้วไม่รู้จะเอาขวดไปทำอะไร ก็เอาขวดไปล้าง เอาน้ำเปล่าใส่ แล้วก็เอาต้นไม้ที่เราแถมให้ไปปลูกนะครับ มันเป็นของตกแต่งได้ แถมเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ด้วยนะ เค้าก็มีความสุข เราก็มีความสุข (ยิ้ม) เหมือนนอกจากไปพบปะพูดคุยกับลูกค้าแล้ว ยังได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องต้นไม้ไปด้วย (หัวเราะ) 

ตอนนี้เราก็เริ่มจากตัวเองเท่าที่ทำได้ก่อน
อะไรลดได้ก็จะลแต่ไม่ได้หักดิบขนาดนั้น
เพราะว่าของบางอย่างมันต้องใช้เงิน
ทุกอย่างมันมีต้นทุนของมันอยู่

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง

เรื่องเล่าชุ่มชื่นหัวใจระหว่างปั่น 


พี่นิด : โห พูดถึงแล้วขนลุกเลย จริงๆ ประทับใจเกือบทุกที่นะ คือคนที่เขาสั่งของเราไม่ได้โวยวาย ด่าทอว่า เฮ้ย ทำไมมาช้าจังต้องให้ยืนรอไม่มีอะไรแบบนั้นเลย ผมว่านี่เป็นประวัติศาสตร์ของผมเลยนะ (ยิ้ม) ลูกค้าบางคนก็เป็นเพื่อนเราที่ไม่ได้เจอกันมาเป็น 10 – 20 ปีก็มาเจอกันตอนไปส่งของนี่แหละ เหมือนทุกครั้งที่เราออกแรงปั่น มันได้เห็นชีวิต ได้เห็นความเป็นอยู่ของผู้คนว่าเขาทำอะไรกันในช่วง COVID-19

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง


เราเองก็ได้ไปเปิดโลก เขาเองก็คงไม่ได้เจอคนมานานอะ (หัวเราะ) เรากลายเป็นมนุษย์หนึ่งคนที่แบบอยู่ดีๆ ไปโผล่หน้าบ้าน บางคนก็เอาขนม เอาน้ำให้กิน บางคนก็ชวนนั่งพักที่บ้านก่อน มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ หรือบางวันปั่นผ่านไปเจอคนเขาแบบเดือดร้อนกำลังนั่งรอข้าวแจกฟรีอยู่ข้างทางแล้วคนเยอะมาก 100 – 200 คนเลย ยืนต่อแถวกันพอร้อนมากๆ ก็เปลี่ยนเป็นเอารองเท้าแตะมาวางจองที่แทน คือได้เห็นเลยว่ายังมีคนที่เดือดร้อนจริงๆ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นประสบการณ์ที่เงินก็ซื้อไม่ได้จริงๆ

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง

จากสถานการณ์ COVID-19 อะไรเกิดขึ้นบ้าง


พี่นิด : อืม ก็คงเป็นการมีสติ มีสมาธิมากกว่านะ ได้มีเวลาคิดว่าเรามีอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ความรู้ ตอนนี้มันเป็นเวลาที่เราควรเอาสิ่งที่เรามีอยู่ทั้งหมดมาใช้ให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดได้แล้ว แถมยังได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย

บางคนยังไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร
ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
เวลานี้มันเป็นเวลาที่เหมาะสมมากๆ ในการค้นหาตัวเอง

Photo Credit : พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง


หวังว่าเรื่องราวของเพื่อนบ้านชาวเอกมัยจะกลายเป็นพลังให้กับใครหลายๆ คนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้ และฮึดสู้ให้ผ่านสถานการณ์ COVID-19 ไปให้ได้

Writer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.