โครงเหล็กสีขาวที่มีความสูงถึง 300 เมตรเทียบเท่ากับหอไอเฟล และเต็มไปด้วยกังหันลมขนาดเล็กนี้ถูกเรียกว่า ‘Windcatcher’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดพลังงานลมนอกชายฝั่งแบบลอยน้ำได้ และสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่ากังหันลมลอยน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก แต่ประหยัดพลังงานมากกว่ากันครึ่งหนึ่ง
แม้จะมีใบพัดขนาดเล็กแต่ก็ทดแทนมาด้วยปริมาณที่มากขึ้น สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากกังหันลมทั่วไปที่มีฐานยึดในบริเวณน้ำตื้นคือ สามารถกักเก็บพลังงานได้มากขึ้นจากกระแสลมที่แรงกว่าในบริเวณน้ำลึกหรือทะเลเปิด และใบพัดที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดทั่วไปถึง 10 เท่า จะรับลมได้ดีกว่าและสร้างพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าตามไปด้วย
Windcatcher ประกอบด้วยกังหันลมขนาดเล็ก 117 ตัว และหมุนได้อย่างอิสระไปตามทิศทางลม การวางกังหันขนาดเล็กไว้ใกล้กันทำให้พลังงานที่เกิดขึ้นช่วยพัดกังหันในบริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงในการสร้างพลังงานให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งกังหันลมลอยน้ำเพียงเครื่องเดียวสามารถสร้างพลังงานสะอาดได้เพียงพอต่อการใช้งานของบ้าน 80,000 หลัง และลดพื้นที่การใช้งานมากกว่ากังหันทั่วไป 80 เปอร์เซ็นต์
ในภูมิประเทศที่เหมาะสม Windcatcher สามารถผลิตพลังงานได้มากถึง 400 กิกะวัตต์/ชั่วโมง ซึ่งกังหันลอยน้ำที่ใหญ่และทรงพลังมากที่สุดในท้องตลาดสามารถทำได้เพียง 80 กิกะวัตต์/ชั่วโมงเท่านั้น
“เราสามารถผลิตไฟฟ้าในราคาต่อกิโลวัตต์ใกล้เคียงกับที่เทคโนโลยีลอยน้ำแบบอื่นคาดว่าจะทำได้ในอีกสิบปีข้างหน้า” Ole Heggheim ซีอีโอของ Wind Catching System บริษัทพลังงานทางเลือกของนอร์เวย์เจ้าของไอเดีย Windcatcher บอกว่าเป้าหมายสำคัญคือการผลิตไฟฟ้าในราคาที่สามารถแข่งขันกับแหล่งพลังงานประเภทอื่นให้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
อย่างไรก็ตามกังหันลมลอยน้ำยังถือเป็นการผลิตไฟฟ้าราคาสูงเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานทางเลือกอื่น สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและค่าบำรุงรักษาโรเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ แต่ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีในท้องตลาดเข้ากับแนวคิดของ Wind Catching System พวกเขาหวังว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำกว่ากังหันลมลอยน้ำทั่วไป ประกอบกับอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับผู้บริโภคลดลงในที่สุด