จากความตั้งใจของ Corradino D’Ascanio วิศวกรชาวอิตาเลียนที่ดัดแปลงชิ้นส่วนเก่าของเครื่องบินเป็น ‘รถยนต์สองล้อ’ ในปี 1946 ใครจะคิดว่านวัตกรรมในวันนั้นจะกลายเป็น VESPA ตำนานแห่งยานพาหนะที่เป็นตัวแทนของความอิสรเสรีซึ่งคนทั้งโลกหลงใหลมายาวนานกว่า 70 ปี มากกว่านั้น เวสป้ายังปรับตัวไปตามยุคสมัยโดยไม่เคอะเขิน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหล่าคนขับเวสป้าทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่คือคีย์สำคัญที่ทำให้เวสป้านั้นอยู่ต่อได้อย่างยั่งยืน และคนไทยเองคือหนึ่งในชาติที่ไฮป์เวสป้าไม่แพ้ชาติไหนๆ เพราะเวสป้ามีตัวแทนจำหน่ายในทุกภูมิภาคของไทยมากถึง 121 จุดใน 68 จังหวัด แถมในปี 2021 – 2022 เวสป้ารุ่น Sprint 150 ซึ่งถือเป็นรุ่นยอดนิยมที่สุดยังทำยอดขายไปได้กว่า 36,000 คัน และหากให้รวบยอดขายสะสมนับตั้งแต่เวสป้าไทยได้ก่อตั้ง เวสป้าทำยอดขายไปได้กว่า 215,711 คันเลยทีเดียว
ในโอกาสที่เวสป้าไทยครบรอบ 12 ปี เวสป้าจึงปักหมุดเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ผ่านแคมเปญ VIVA LA VESPA ที่เทกโอเวอร์โรงหนังและฮอลล์จัดกิจกรรมสุดคลาสสิกใจกลางเมืองอย่าง LIDO Connect ให้เป็น Vespa Experience Pop-up Exhibition สีสันสดใส ที่เรารับรองเลยว่าแฟนคลับเวสป้าเข้ามาเห็นแล้วจะต้องกรี๊ดให้กับความพิเศษหลายประการที่ทางบริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวสป้าเขาขนมาเสิร์ฟแบบจัดเต็ม
ความพิเศษประการแรกคือ ตัว Pop-up Exhibition ไฮไลต์ของงาน ซึ่งเขาขนพรีเมียมสกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษมาไว้ในงาน ทั้งเวสป้า แอลเอ็กซ์ (Vespa LX), เวสป้า เอส (Vespa S), เวสป้า พรีมาเวร่า (Vespa Primavera), เวสป้า สปรินต์ (Vespa Sprint), เวสป้า จีทีเอส (Vespa GTS) รวมไปถึงเวสป้า สเปเชียล อิดิชัน (Vespa Special Edition) และเวสป้า ลิมิเต็ด อิดิชัน (Vespa Limited Edition)
ไม่เพียงแต่จะเอ็กซ์คลูซีฟเพราะเป็นรุ่นที่หาชมได้ยากเท่านั้น แต่พวกเขายังจับมือกับศิลปินและแบรนด์ระดับโลกหลายคน อย่างห้องแรกที่เราเดินเข้าไปในนิทรรศการ เราพบกับฉากกั้นหลากสีสันที่วางซ้อนกันเป็นเลเยอร์ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอเวสป้าคันสีเหลืองรุ่นพิเศษ ซึ่งอาจพูดได้ว่าเป็นโมเดลที่มีสีสันที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะพวกเขาจับมือกับ Sean Wotherspoon เจ้าพ่อวงการสตรีทแฟชั่นในการออกแบบ
เมื่อก้าวเข้าไปอีกห้อง เราก็ต้องตะลึงกับแสงไฟแวววาวที่ฉายชัดไปยังเวสป้าคันสีดำที่ตั้งโชว์อยู่กลางห้อง โชว์ความเป็น ‘Italian Perfection’ นั่นคือผลงานคอลแลบกับ Emporio Armani ที่ผสมสีเทาเข้มและสีเหลือบเขียวให้เป็นสีพิเศษโดดเด่น
ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะเมื่อเคลื่อนตัวเข้าไปอีกห้อง เราพบห้องกระจกที่มีเวสป้าสีขาวสุดเท่ที่เป็นผลงานคอลแลบกับ Justin Bieber นักร้องและป็อปไอคอนระดับโลกตั้งโชว์ไว้อย่างโดดเด่น ให้แฟนคลับจัสตินและสาวกเวสป้าได้มาแชะภาพเท่ๆ กันได้ตามใจ
ห้องถัดไปคอนทราสต์กันอย่างชัดเจน เพราะเป็นเวสป้าที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศชายทะเล สื่อถึงความผ่อนคลายและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผลงานการคอลแลบกับ Christian Dior แบรนด์ลักซูรีระดับโลกที่นอกจากจะแสดงฝีมือการออกแบบผ่านแฟชั่น ทางแบรนด์ยังถ่ายทอดมาบนตัวรถด้วย
มากกว่านั้น ในงานยังมีการจัดแสดงเวสป้าสีแดงที่แบรนด์จับมือกับองค์กร Red เพื่อสนับสนุนกองทุนโลกที่ต่อสู้กับโรคเอดส์ เป็นการแสดงความรักของเวสป้าที่มีให้ผู้คนทั่วโลก เป็นที่มาของการดีไซน์ให้เป็นสีแดงทั้งหมด พร้อมเชื่อมต่อกันด้วยเส้นสายภายในห้องนี่เอง
ความพิเศษยังไม่จบ เพราะหลังจากถ่ายเซลฟีกับเวสป้ารุ่นพิเศษต่างๆ จนจุใจ เราเดินทะลุมาถึงห้องโถงที่จำลองบรรยากาศชายทะเลโพซิตาโนในอิตาลีมาไว้ในบรรยากาศ หลังจากอิ่มหนำสำราญไปกับอาหารและดนตรี เวสป้าไทยยังถือโอกาสเฉลิมฉลอง 12 ปีด้วยการเปิดตัวเวสป้ารุ่นใหม่อีก 4 รุ่น นั่นคือ เวสป้า พรีมาเวร่า คัลเลอร์ ไวบ์ (Vespa Primavera Color Vibe) และเวสป้า จีทีเอส ซีรีส์ใหม่ 3 รุ่น (New Vespa GTS Series) ซึ่งนอกจากจะเปิดประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ขับขี่ด้วยสีสันแปลกใหม่ เครื่องยนต์สุดยอดสมรรถนะ พวกเขายังขนของแถมพิเศษเฉพาะรุ่นมาแบบเต็มแมกซ์ให้เหล่าแฟนคลับและผู้สะสมได้ตาลุกวาว
ภายในงานยังมีพื้นที่จัดแสดงเวสป้ารุ่นคลาสสิกไว้ที่หน้าโถงหมายเลข 2 และชั้น 1 แถมยังมีบันไดสีทางขึ้นลิโด้ที่ Instagrammable และคัลเลอร์ฟูลสุดๆ จนเราเผลอถ่ายลงสตอรีไปหลายที
นี่คือตัวอย่างเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทำไมสกู๊ตเตอร์แบรนด์เวสป้าถึงไม่ได้เป็นแค่สกู๊ตเตอร์ แต่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของใครหลายคนได้
ถึงตอนนี้งานแสดง Exhibition จะจบลงแล้ว แต่แฟนๆ เวสป้าก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะในอนาคต แบรนด์สกู๊ตเตอร์สุดสนุกแบรนด์นี้จะมีแคมเปญและกิจกรรมใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์เราอีกแน่นอน
ติดตามเวสป้าและกิจกรรมใหม่ๆ ที่จะส่งมอบสีสันกันตลอดทั้งปีได้ที่ www.vespa.co.th, เฟซบุ๊ก Official Vespa Society Thailand, อินสตาแกรม @vespathailand และ LINE Official Account @VESPATHAILAND
Writer
