ในอดีตหากคิดจะมีสัตว์เลี้ยงสักตัว หลายคนคงจะนึกถึงน้องหมา น้องแมว กันก่อน แต่ในตอนนี้ ‘เต่า’ กลายเป็นสัตว์ชนิดใหม่ที่ผู้คนทั้งสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป อยากซื้อมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จนทำให้เกิดการรุกล้ำพื้นที่สัตว์ และมีการซื้อ-ขายบนโลกออนไลน์ จนอาจเสี่ยงทำให้เต่าสูญพันธุ์
เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ที่สหรัฐอเมริกามีการยึดเต่ามัสก์ (Musk Turtle) จากการลักลอบจับสัตว์ป่าได้จำนวนหนึ่ง โดยเป็นการยึดจากการซื้อ-ขายอย่างผิดกฎหมายบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลใจให้กับ Lou Perrotti ผู้กำกับโครงการอนุรักษ์ของสวนสัตว์ Roger Williams Park ในเมือง Providence เป็นอย่างมาก เพราะมีเต่าหลายพันตัวถูกส่งออกจากสหรัฐอเมริกาเป็นประจำทุกปี จากความต้องการสัตว์ประเภทนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในเอเชียและยุโรป ทำให้มีการรุกล้ำพื้นที่เพื่อจับสัตว์เหล่านี้มากขึ้น
โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการค้าสัตว์ป่ามองว่า การรุกล้ำนี้เกิดจากการที่หลายพื้นที่ทั่วโลกต้องการซื้อเต่าไปเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จึงทำให้เต่าน้ำจืดและเต่าน้ำจืดหายากมีจำนวนลดลงทั่วโลก เพราะเต่าน้ำจืดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกลักลอบซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก โดยส่วนใหญ่ถูกส่งไปขายที่ตลาดมืดในฮ่องกงและเมืองอื่นๆ ของเอเชีย ทั้งขายเพื่อนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง เพาะพันธุ์ รวมถึงนำไปเป็นอาหารและยาโบราณ ซึ่งมีการศึกษาที่พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเต่า 360 ชนิด มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์แล้ว
โดยตั้งแต่ปี 2563 จนถึงต้นปี 2565 สหรัฐฯ ได้พิพากษาคดีลักลอบค้าเต่าหลายคดี รวมเป็นจำนวนเต่าทั้งหมดกว่า 3,300 ตัว โดยการส่งเต่าไปยังประเทศอื่นๆ นั้นนับเป็นปัจจัยที่ทำให้เต่าเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำลายที่อยู่อาศัย การตายบนท้องถนน รวมไปถึงนักล่าที่กินไข่ของพวกมัน
การค้าสัตว์เลื้อยคลานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการค้าเต่าผิดกฎหมาย ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เสนอรายชื่อเต่า 42 ชนิดภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES)
แม้ว่าเต่าบางสายพันธุ์ที่อยู่ในรายชื่อจะพบเห็นได้ทั่วไป แต่การจดทะเบียนจะเป็นข้อกำหนดว่าผู้ค้าจะต้องมีใบอนุญาตขายสัตว์ในต่างประเทศ เพื่อป้องกันการค้าผิดกฎหมายและการสูญพันธุ์ของประชากรเต่าในอนาคต
Source :
South China Morning Post | bit.ly/3V00kim