เผลอแป๊บเดียวเวทีประกวดเฟ้นหาสุดยอดวงดนตรีหน้าใหม่อย่าง ‘THE POWER BAND’ ที่จัดกันเป็นประจำทุกปี ก็เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว โดยปีนี้กลับมาอีกครั้งด้วยคอนเซปต์ ‘Let The Music Power Your World เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี’
ครั้งนี้ ‘King Power’ จัดใหญ่ จับมือกับคนในอุตสาหกรรมดนตรีอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงดัง ได้แก่ Muzik Move, LOVEiS Entertainment, Smallroom, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment ที่พร้อมมาส่งต่อประสบการณ์และถ่ายทอดความรู้แก่ผู้เข้าร่วมประกวดทุกคน
ถ้าถามว่า ‘THE POWER BAND 2024 SEASON 4’ ในครั้งนี้จัดใหญ่จัดเต็มแค่ไหน วันนี้คอลัมน์ Art Attack ขอพาไปคุยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวทีในครั้งนี้ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างสรรค์บุคลากรทางด้านดนตรีให้กับประเทศในอนาคตไปพร้อมๆ กัน
การประกวดที่มากกว่าการแข่งขันวงดนตรี
“THE POWER BAND ไม่ใช่แค่การจัดการแข่งขัน แต่เรากำลังสร้างสรรค์บุคลากรทางด้านดนตรีให้กับประเทศ เพื่อต่อสู้กับคนอื่นๆ”
นี่คือสิ่งที่ ‘ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ’ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว THE POWER BAND 2024 SEASON 4 เวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ
การก้าวสู่ปีที่ 4 ของ THE POWER BAND คือการตอกย้ำว่าเวทีนี้ถือเป็นเวทีการประกวดที่เปิดกว้างในทุกแขนงดนตรี เพราะที่ผ่านมามีนักดนตรีที่ฉายแววโดดเด่นและได้มีโอกาสทำงานจริงในแวดวงดนตรีมาหลายต่อหลายคนแล้ว นับเป็นการต่อยอดที่ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น อีกทั้งในปีนี้ยังมี 6 ค่ายเพลงชื่อดังมาเสริมทัพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการก้าวสู่การเป็นศิลปินอาชีพให้มากขึ้นไปอีก
ทางด้าน ‘อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา’ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผู้สมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ได้เห็นพัฒนาการของเด็กวัยเรียนและบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงเชื่อว่าเวทีนี้จะจุดประกายให้คนที่มีใจรักดนตรีได้เห็นว่า เรามีเวทีระดับประเทศให้เด็กของเราได้แสดงศักยภาพ
โดยการประกวดครั้งนี้ชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท พร้อมร่วมทำซิงเกิลกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพ และโอกาสในการร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีระดับประเทศอีกด้วย
ปรับกฎให้ครอบคลุมผู้สมัครทุกคนมากขึ้น
“จริงๆ การทำการประกวดก็เหมือนการทำหลักสูตรการศึกษาเหมือนกัน เพราะต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ” อัคราวิชญ์ พิริโยดม หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล บอกกับเรา
ไม่ใช่แค่ในแง่ความยิ่งใหญ่ของรางวัลที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับจากการประกวด แต่ในส่วนของกฎการประกวดก็มีการปรับเปลี่ยนให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อผลักดันให้มีบุคลากรเก่งๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีบ้านเราได้มากขึ้น
โดยในปีนี้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมฯ (High School Class) และรุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class : Road to Artist)
และในการประกวดได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 รอบ คือ รอบส่งคลิปออดิชัน รอบโซนนิ่งแสดงสด และรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ซึ่งความพิเศษของปีนี้คือ อนุญาตให้รุ่นบุคคลทั่วไปใช้ Backing track/Data ในการประกวดรอบโซนนิ่งแสดงสดและรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศได้ด้วย (รอบส่งคลิปออดิชันไม่อนุญาตให้ใช้ Backing Track/Data)
โดยรอบโซนนิ่งแสดงสด จะเป็นการไปคัดเพชรเม็ดงามจาก 5 สนามแข่งขันทั่วประเทศ ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร : ส่งคลิปออดิชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 3 พฤษภาคม ประกาศผล 13 พฤษภาคม และรอบโซนนิ่งแสดงสดวันที่ 25 พฤษภาคม
- จังหวัดขอนแก่น : ส่งคลิปออดิชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม ประกาศผล 10 มิถุนายน และรอบโซนนิ่งแสดงสดวันที่ 22 มิถุนายน
- จังหวัดเชียงใหม่ : ส่งคลิปออดิชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 21 มิถุนายน ประกาศผล 1 กรกฎาคม และรอบโซนนิ่งแสดงสดวันที่ 13 กรกฎาคม
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี : ส่งคลิปออดิชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม ประกาศผล 23 กรกฎาคม และรอบโซนนิ่งแสดงสดวันที่ 3 สิงหาคม
- จังหวัดนครปฐม : ส่งคลิปออดิชันได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ประกาศผล 13 สิงหาคม และรอบโซนนิ่งแสดงสดวันที่ 24 สิงหาคม
ก่อนจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพร้อมกันในวันที่ 19 – 20 กันยายน 2567
การแข่งขันที่จะให้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
“THE POWER BAND ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักดนตรีทุกคนได้แสดงความสามารถแบบไร้ขีดจำกัดเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่ให้ทุกคนได้สะสมประสบการณ์อันล้ำค่าที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน” อภิเชษฐ์กล่าว
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า THE POWER BAND มีการเข้าแคมป์ ‘THE POWER BAND MUSIC CAMP’ ที่รวบรวมมิวสิกกูรูระดับประเทศกว่า 20 คน มาถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านดนตรีทุกแขนงให้กับผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศกว่าร้อยชีวิต เพื่อเป็นอีกหนึ่งในโอกาสที่สำคัญของทุกคน ที่ถึงแม้ทุกคนจะไม่สามารถเป็นผู้ชนะได้ แต่จะได้รับโอกาสในการทำตามความฝัน และนำความรู้กับประสบการณ์ที่ได้รับจากการประกวดไปต่อยอดในอนาคตได้อย่างแน่นอน
มากไปกว่านั้น ‘คชภัค ผลธนโชติ’ ผู้บริหารค่าย BOXX Music และ Zircle Muzik มองว่า การได้เล่นดนตรีกับเพื่อนในระหว่างซ้อมยังถือเป็นอีกความสุขหนึ่งที่มองย้อนกลับไปทีไรก็รู้สึกคิดถึงทุกครั้ง
“ผมเองเป็นคนหนึ่งที่เคยประกวดดนตรี ช่วงที่เราได้อยู่กับเพื่อนอย่างมีความสุขมันคือช่วงของการซ้อมดนตรีนี่แหละ แล้ววันนี้ผมมีโอกาสได้เป็นศิลปิน ผมเลยรู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้” คชภัคเล่า
“นอกจากรางวัลที่ให้กับผู้ชนะแล้ว ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของการเข้าแคมป์คือ หากวงไหนที่มีความโดดเด่นเข้าตา ก็อาจจะมีค่ายเพลงเข้าไปคุยและดึงตัวเข้ามาเซ็นสัญญาได้ด้วยเหมือนกัน” ‘ดนุภพ กมล’ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด กล่าวเสริม
ร่วมกันผลักดันวงการเพลงไปข้างหน้า
การที่เวที THE POWER BAND ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ถือได้ว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จนได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐานคุณภาพจากคนในวงการและความสนใจจากนักดนตรีรุ่นใหม่
การันตีได้จากที่ผ่านมาก็มีนักดนตรีหลายคนจากเวทีนี้ที่ได้มีโอกาสทำงานจริงในแวดวงดนตรี เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดและสะท้อนความสำเร็จของโครงการนี้ไปอีกขั้น
สอดคล้องกับความตั้งใจของคิง เพาเวอร์ ที่ต้องการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้คนที่มีศักยภาพด้านดนตรีได้มีพื้นที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ พร้อมผลักดันให้คนไทยกล้าคิด กล้าแสดงพลังได้อย่างเต็มที่
อภิเชษฐ์ เล่าว่า ความต้องการของคิง เพาเวอร์ คือการให้การสนับสนุนบุคคลที่มีความสามารถทางด้านดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะการเริ่มต้นสนับสนุนตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้พวกเขามีโอกาสอีกมากที่จะพัฒนาตนเอง และเข้าไปในอุตสาหกรรมดนตรีต่อไปในอนาคต
“เราไม่ได้มองว่ามันประเดี๋ยวประด๋าว แต่มันใช้เวลาพัฒนาและต่อยอดต่อไปเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นซูเปอร์สตาร์ดังระดับโลกที่เกิดจากเวทีเล็กๆ ของเราเวทีนี้ก็ได้” อภิเชษฐ์ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
ได้ฟังขนาดนี้แล้ว ใครที่มีฝันอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4 เพื่อค้นหาตัวเองในเส้นทางสายดนตรี พร้อมโอกาสในการเรียนรู้เทคนิคทางดนตรีต่างๆ จากมิวสิกกูรูระดับประเทศ ชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท พร้อมร่วมทำซิงเกิลกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพ และโอกาสในการร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีระดับประเทศ สมัครเข้าร่วมประกวดและติดตามรายละเอียดได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 2 สิงหาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband