กลับมาอีกครั้งและต้องบอกว่ายิ่งใหญ่กว่าเดิม สำหรับ ‘THE POWER BAND 2022 Season 2’ เวทีประกวดดนตรีสากลที่เปิดโอกาสให้เหล่านักดนตรีที่มีความสามารถได้มีพื้นที่แสดงพลังอย่างไร้ขีดจำกัด
ในการประกวดซีซันสองนี้ได้มีการกระจายเวทีประกวดออกไปยัง 5 จังหวัดทั่วประเทศไทย ได้แก่ ขอนแก่น, ชลบุรี, เชียงใหม่, สงขลา, กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับความหลากหลายและขยายพื้นที่รองรับเหล่าคนดนตรีมากฝีมือจากทั่วทุกสารทิศ
และในที่สุด จากระยะเวลากว่าหลายเดือนกับการคัดเลือกวงดนตรีจากพื้นที่ต่างๆ จนมาถึงเวทีประกวดรอบตัดสินที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ (รางน้ำ) ก็ได้ผู้ชนะเลิศทั้ง 3 Class ดังนี้
Class A ประเภทรุ่นมัธยมศึกษา ได้แก่ วง ‘มอซอ’ จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดภูเก็ต
Class B ประเภทรุ่นบุคคลทั่วไป ได้แก่ วง ‘Jazz Passion’ จากกรุงเทพฯ
Class C ประเภทดนตรีสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด ได้แก่ วง ‘Solar System Band’ จากจังหวัดเชียงใหม่
คอลัมน์ ‘Art Attack’ จึงขอใช้โอกาสนี้ พาทุกคนไปพูดคุยกับหนึ่งในคณะกรรมการและตัวแทนของวงดนตรีที่ชนะเลิศการประกวดเวที THE POWER BAND 2022 Season 2 ภายใต้คอนเซปต์ DREAM IT, DO IT กล้าฝัน! กล้าทำ! ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และค่ายเพลง Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck และ Warner Music Thailand เพื่อเปิดพื้นที่ประสบการณ์ทางดนตรีให้กับเหล่านักดนตรีผู้มีฝันได้กล้าลงมือทำ!
พื้นที่ทำตามฝัน
‘เป้-ไพสิฐ คำกลั่น’ หรือ Pae Sax จากวง Mild หนึ่งในคณะกรรมการจากเวทีประกวดดนตรีสากล THE POWER BAND 2022 Season 2 เริ่มต้นเล่าถึงยุคสมัยของเขาว่า หากย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน พื้นที่แสดงออกในด้านดนตรีนั้นมีค่อนข้างน้อย อาจมีแค่เพื่อนหรือคนรอบตัวเท่านั้นที่เขาพอจะเล่นดนตรีให้ฟังได้
“แต่ตอนนี้พื้นที่การแสดงออกมีมากขึ้นและทำได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีอัปโหลดและโพสต์คลิปแสดงความสามารถของตัวเองได้แล้ว แต่ข้อเสียของความเยอะคือทำให้คอนเทนต์จับต้องเป็นชิ้นเป็นอันได้ค่อนข้างยาก สุดท้ายมันก็วนกลับมาที่การประกวดแบบนี้ที่เป็นรูปธรรมมากกว่า”
THE POWER BAND 2022 Season 2 มีเกณฑ์ตัดสินพิจารณาจากสไตล์การร้อง, การเรียบเรียงองค์ประกอบของดนตรี, ความเข้าใจในทฤษฎีดนตรี, ทักษะการเล่นเครื่องดนตรี, ความสมบูรณ์ของการเล่นหรือการแสดงเป็นวง รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ที่จะสรรค์สร้างตรีที่ไร้ขีดจำกัด โดยมีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเหล่าคนดนตรีจากค่ายเพลงแนวหน้าของประเทศดูแลเรื่องการบอกกล่าวชี้จุดเด่นจุดด้อย สิ่งที่ต้องปรับปรุง รวมถึงให้คำแนะนำกับทุกๆ วงที่เข้าประกวด ต่อให้ไม่ได้เป็นวงที่ชนะเลิศ แต่ทุกวงที่เข้าร่วมกิจกรรมก็ล้วนได้รับประสบการณ์ทางดนตรีจากเหล่าคนทำงานมืออาชีพกลับไปพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานกันต่อ
วงดนตรีจากหลายพื้นที่
“น้องๆ ที่มาเข้าร่วมประกวดคือคนที่เก่งมากๆ ตัวผมเองตอนอายุสิบห้าสิบหกเป็นนักดนตรีแล้วก็จริง แต่ไม่ได้เล่นเก่งขนาดนี้ ไม่มีเทสต์ที่ดีหรือการใช้ภาษาที่สวยงามเท่าพวกเขา ผมมองว่ารายการประกวดดนตรีที่มีคุณภาพมากๆ จะทำให้คนกล้าออกมาแสดงความสามารถจริงๆ หลังจากได้เห็นน้องๆ หลายวงแล้วผมก็อยากผลักดันให้พวกเขาไปสู่จุดที่สูงที่สุดของการเป็นวิชาชีพนั้นๆ” เป้เล่าถึงสิ่งสำคัญที่มองเห็นบนเวทีการประกวดครั้งนี้ให้ฟัง
วงดนตรีที่ชนะเลิศ Class A อย่างวงมอซอ เป็นนักเรียนจากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย 9 สมาชิกนักดนตรีตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 – 6 เล่นดนตรีร่วมกันบนเวทีระดับประเทศแห่งนี้
‘บีม-เบญญาภา กองดี’ นักร้องนำของวงเล่าถึงการประกวดครั้งนี้ว่า “พวกเราทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างหนักมากและมันคุ้มค่าที่ได้ทุ่มเท นอกจากได้รับรางวัลแล้ว เราก็ยังได้ดูโชว์ดีๆ และเห็นศักยภาพของวงดนตรีอื่นๆ ของแต่ละภาคด้วย เป็นประสบการณ์และโอกาสที่ได้จากการสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน
“เหตุผลที่เลือกมาประกวดเวที THE POWER BAND เพราะอยากให้ทุกคนในวงได้ประสบการณ์จากเวทีระดับนี้ ได้ดูวิธีทำงานของมืออาชีพ อยากฟังคำติชมของคณะกรรมการ เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขให้วงของพวกเราดีขึ้นกว่าเดิม”
ทางด้านของ ‘เบอร์ลิน-สุภัสสรา สีสุด’ นักร้องนำจาก Jazz Passion วงดนตรีจากกรุงเทพฯ ที่คว้ารางวัล Class B ประเภทรุ่นบุคคลทั่วไป เธอเล่าว่า
“รายการประกวดครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก แบ่งเป็นหลายคลาส ทั้งยังมีมาตรฐานกับทีมงานคุณภาพ นอกจากจะให้ประสบการณ์ที่สุดยอดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากที่นี่คือการได้ทำตามความฝันกับการเล่นดนตรีบนเวทีที่มีเครื่องเสียงดีๆ ในโรงละครอักษรา ทำให้พวกเรามั่นใจเกินร้อย
“สำหรับเรา เวทีประกวดดนตรียังจำเป็นมากๆ เพราะทุกคนอยากเล่นดนตรีและพัฒนาตัวเอง เวทีนี้เป็นการเปิดพื้นที่ให้กับน้องๆ เด็กๆ รุ่นใหม่ได้โชว์ความสามารถ ได้เจอคนรู้จักในวงดนตรีอื่นๆ รวมถึงได้คอนเนกชันจากคนในแวดวง ซึ่งอาจส่งผลให้ได้ทำงานร่วมกันในวันข้างหน้าก็เป็นได้”
ส่วนใน Class C วงดนตรี Solar System Band จากเชียงใหม่นั้นเป็นผู้คว้าชัย วงดนตรีนี้มีสมาชิกด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วยรุ่นพี่มือกีตาร์ อีกคนเป็นแซ็กโซโฟน และมีน้องคนเล็กอายุ 14 ปีเป็นมือกลอง โดยมีจุดเริ่มต้นจากการแจมเล่นดนตรีกันอย่างเข้าขา เลยชักชวนกันมาทำเพลงและประกวดในเวทีต่างๆ
“เวทีนี้เปิดประตูให้เราที่อยากเล่นอยากแสดงดนตรีกับน้องที่อายุต่างกันมากๆ ซึ่งมันไม่ค่อยมีพื้นที่แบบนี้เท่าไหร่นัก แต่รายการ THE POWER BAND เปิดโอกาสให้สามารถร่วมกันแสดงข้ามรุ่นได้ เสน่ห์อีกอย่างของรายการที่ชวนให้ลงสมัครคือ เขาให้เราแต่งเพลงและแบบนำเพลงที่เลือกมาเรียบเรียงได้ตามที่อยากออกแบบ ซึ่งมันอยู่ในโหมดของการทำงานเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เราได้ทำอะไรใหม่ๆ อยากนำเสนอให้คนอื่นๆ ได้ฟังเพลงของเรา พอได้มาประกวดก็รู้สึกประทับใจที่มีคนมองเห็นและยอมรับวงดนตรีของพวกเราในวงกว้าง” ‘ก้อง-สาธุการ ทิยาธิรา’ ตัวแทนวงเล่าด้วยน้ำเสียงสนุก
“อีกหนึ่งความประทับใจคือ วงผมต้องเล่นเป็นวงแรก แต่มีความสับสนเรื่องเวลากันเล็กน้อย ไม่สามารถมาเล่นเป็นวงแรกได้ทันเวลา ก็มีวงที่เข้ารอบเหมือนกันเสนอขึ้นเล่นวงแรกแทนวงผม ทั้งที่จริงๆ เขาไม่ต้องทำก็ได้ แต่ยังยืนยันว่าจะช่วยเหลือ ทำให้รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันที่จะมาเอาชนะเพียงอย่างเดียว มันมีน้ำใจนักดนตรีที่ช่วยเหลือกัน เป็นสปิริตที่น่ายกย่องและทำให้การแข่งขันน่ารักขึ้นไปอีก”
พื้นที่ของคนกล้าฝัน กล้าทำ
นอกจากได้รับประสบการณ์จากคณะกรรมการมืออาชีพ สถาบันดนตรี ค่ายเพลง รวมถึงเงินรางวัลแล้ว เวทีประกวด THE POWER BAND 2022 Season 2 ยังให้โอกาสวงที่ชนะเลิศทั้ง 3 คลาสได้เข้าร่วมทำเพลงที่ควบคุมการผลิตโดยโปรดิวเซอร์ชื่อดัง และยังได้ร่วมทำมิวสิกวิดีโอ ภายใต้การดูแลของค่ายอย่าง Muzik Move
สำหรับเหล่านักดนตรีที่สนใจเข้าร่วมประกวดบนเวที THE POWER BAND ในโอกาสต่อไป เป้ผู้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่เฝ้ามองทุกกระบวนการจัดการแข่งขันครั้งนี้ก็ได้ฝากข้อแนะนำดีๆ มาให้
“สำหรับคนที่จะมาประกวด ลองตีโจทย์ให้แตกว่าความเป็นแบนด์ต้องทำอะไรบ้าง เพราะมิติของการประกวดมีทุกรูปแบบ เราไม่ได้ประกวดแค่นักดนตรีหรือนักร้อง เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของความเป็นแบนด์คือความสามัคคี ที่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน บุคลากรในวงต้องมีความรับผิดชอบในตัวเองสูง ถ้าเรารู้ว่าเรายังไม่เก่งพอเท่ากับเพื่อน ก็ซ้อมให้ดี มีวินัย ฝึกฝน และมีส่วนร่วมสำคัญในวงให้ได้ ทั้งหมดนี้จะพาทั้งวงกันไปให้ไกลขึ้น”
อีกสิ่งที่เป้เน้นย้ำให้เราฟังถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าประกวด คือรายการ THE POWER BAND นั้นมีคณะกรรมการจากสถาบันทางดนตรีและค่ายเพลง ฉะนั้นเรื่องความสามารถทางดนตรีจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกวงต้องร่วมกันสร้างสรรค์อย่างสุดพลัง
“ทั้งๆ ที่โลกใบนี้อยู่ในช่วงเวลาที่มีแต่ทางลัดเต็มไปหมด และมันก็สร้างนิสัยบางอย่างให้กับเด็กที่ชอบทางลัด ชอบความรวดเร็ว ชอบอะไรที่ไม่ต้องเสียเวลา สิ่งนั้นมันทำได้กับเทคโนโลยีในชีวิตประจำหรือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่กับเรื่องสกิลหรือการศึกษามันไม่มีทางลัด
“ผมยังเชื่อเสมอว่า การทำสิ่งไหนให้ดีมันต้องเข้าใจในสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้ ต้องเข้าใจในทุกโครงสร้างทั้งหมดของมัน การจะทำแบบนั้นได้ต้องให้เวลา ฝึกซ้อม ฝึกฝน เพราะความแตกต่างของเวทีนี้คือเรื่องความแข็งแรงในการเป็นนักดนตรี ทั้งยังค่อนข้างเข้มข้นในเรื่องดนตรี มันไม่มีอะไรง่าย และผมคิดว่าการแพ้หรือชนะมันเป็นเรื่องอุปโลกน์มากๆ ไม่อยากให้เด็กๆ ไปกลัวมัน ควรกลัวเรื่องที่ไม่กล้าทำดีกว่า”
ได้ฟังทั้งหนึ่งในคณะกรรมการและตัวแทนของวงดนตรีที่ชนะเลิศการประกวดเวที THE POWER BAND 2022 Season 2 บอกเล่าประสบการณ์แบบนี้แล้ว ใครที่มีฝันและกล้าลงมือทำ ก็เตรียมตัวฝึกซ้อมกันให้ดีแล้วมาลงสมัครในเวทีระดับประเทศ THE POWER BAND ในซีซั่นต่อไปด้วยกัน
สามารถรับชม THE POWER BAND 2022 Dream It Do It ย้อนหลังได้ที่นี่ bit.ly/3AIGqAF และติดรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ King Power Thai Power พลังคนไทย