การจะหาที่พักผ่อนในกรุงเทพฯ ที่ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งถ้าอยากได้ความร่มรื่น อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสงบๆ และอยู่ใกล้เมืองแล้วยิ่งตัวเลือกน้อยลงเข้าไปอีก
จาก Pain Point ของคนเมืองที่ลำบากกับการหากิจกรรมวันหยุดและหาสถานที่พักผ่อน ทำให้เราได้รู้จักกับบ้านริมน้ำหลังหนึ่งชื่อ The Fence Craft Beer Bar คอมมูนิตี้ย่านตลิ่งชันที่รวมหลายกิจกรรมเอาไว้ในที่เดียว ทั้งพายซัปบอร์ด ดูวิถีชีวิตริมคลองกับ SUP Talingchan ดื่มกาแฟ Specialty ที่ Huto.Co (ฮูโต๋) และปิดท้ายวันด้วยคราฟต์เบียร์ดีๆ และอาหารอร่อยๆ จาก The Fence Craft Beer Bar ในบรรยากาศริมคลองที่เหมาะกับการนั่งรับลมเย็นใต้ร่มไม้ตลอดทั้งวัน
คอมมูนิตี้นี้คือการรวมตัวของเพื่อนที่ชอบอะไรต่างกัน แต่อยู่รวมกันแล้วลงตัวได้ดี แถมยังให้ชุมชนรอบข้างมีสีสันมากขึ้น เริ่มต้นมาจาก The Fence Craft Beer Bar ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ชอบดื่มคราฟต์เบียร์เป็นชีวิตจิตใจ โดยมีหุ้นส่วน 4 คนคือ อ้น-ศิรสิทธิ์ กลิ่นสุวรรณ, อู๋-จารุกิตติ์ ธเนศอนุกุล, อ๊อบ-อรรถพล ธเนศอนุกุล และฤทธิ์-ณรงค์ฤทธิ์ เอนกสุวรรณมณี เมื่อเห็นว่าพื้นที่ริมคลองตรงนี้ทำอะไรได้อีกเยอะมากกว่าร้านคราฟต์เบียร์และร้านอาหาร จึงชวนเพื่อนที่รักกิจกรรมทางน้ำอย่าง แฮม-สิริฤทธิ์ กำธรกิตติกุล และมุก-ชนิดา ธนาลาภพิพัฒน์ มาทำ SUP Talingchan เพื่อให้สเปซนี้มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับพื้นที่มากขึ้น และชวนโอปอล์-มโนธัช ศรีจิราธร มาเปิดร้านกาแฟ Huto.Co ด้วยอีกคน
The Fence Craft Beer Bar มีจุดสังเกตง่ายๆ คืออยู่ข้างรั้วสะพานสีขาวริมคลองบางระมาด หากมาจากถนนราชพฤกษ์ และมาตามถนนแก้วเงินทอง ขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ขวามือติดกับสะพานคลองบางระมาด ข้ามมาแล้วถึงเลยทันที
จากร้านคราฟต์เบียร์สู่คอมมูนิตี้ของกลุ่มเพื่อน
คุณอ้น หนึ่งผู้ร่วมก่อตั้ง The Fence Craft Beer Bar เล่าว่า The Fence เริ่มต้นมาประมาณ 3 ปีแล้ว ก่อนโควิด-19 ระบาด 1 ปี ก่อนหน้านี้เน้นขายแค่คราฟต์เบียร์กับอาหาร และมีลูกค้าต่างชาติแวะเวียนมาเรื่อยๆ แต่เมื่อมีโควิด-19 และร้านประสบปัญหาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากกฎข้อบังคับต่างๆ จึงรีโนเวตร้านและพยายามชวนเพื่อนที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆ มาร่วมแชร์พื้นที่กัน จากร้านคราฟต์เบียร์และอาหาร จึงกลายเป็นคอมมูนิตี้ของกลุ่มเพื่อนที่มาร่วมกันทำธุรกิจตามความสนใจและความถนัดของตัวเอง
จุดเริ่มต้นของการทำร้านคราฟต์เบียร์มาจากคุณอ๊อบหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านที่อาศัยอยู่ที่อเมริกาชื่นชอบการดื่มเบียร์อยู่แล้ว และเห็นว่าตลาดคราฟต์เบียร์ของอเมริกามีสีสันมาก คราฟต์เบียร์เปรียบเสมือนสินค้า OTOP ของแต่ละเมือง มีการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ทำให้เศรษฐกิจขนาดเล็กในชุมชนแข็งแรงขึ้น ในขณะที่ตลาดคราฟต์เบียร์ของไทยยังเล็กมากๆ แต่เริ่มมีผู้บริโภคเปิดใจลองดื่มมากขึ้นแล้ว จึงรวมตัวกับเพื่อนๆ ที่ชอบดื่มเบียร์ด้วยกันทำร้านเล็กๆ แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยมีโอกาสลองคราฟต์เบียร์นำเข้าที่พวกเขาช่วยกันคัดสรรเข้ามา
คุณอ้นบอกว่า ถึงแม้ว่าร้านจะชื่อ The Fence Craft Beer Bar แต่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมาเพื่อดื่มเบียร์อย่างเดียวก็ได้ คนที่ไม่ดื่มแต่อยากจะมาพายซัปบอร์ด (Stand Up Paddle Board) กับ SUP Talingchan หรือมาดื่มกาแฟ นั่งชิลใต้ร่มไม้ด้านนอกที่ร้าน Huto.Co ก็ได้เช่นกัน เป็นร้านที่มาได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าอยากใช้เวลาช่วงไหนและทำกิจกรรมอะไรก็สามารถเลือกได้เลยตามสะดวก
แม้จะห่างจากเมืองไม่มาก แต่ย่านนี้ยังคงมีวิถีชีวิตตามแบบฉบับชุมชนริมน้ำอยู่ เหมาะกับคนที่อยากหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่แต่ไม่อยากเดินทางไกลมาก เพราะนอกจากจะอยู่ริมน้ำแล้วที่นี่ยังมีต้นไม้ใหญ่เยอะ เหมาะจะนั่งพักผ่อนสงบๆ ใช้ชีวิตเปื่อยๆ เรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน
แต่เดิมย่านนี้คือจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพราะอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำ 2 แห่งคือตลาดน้ำคลองลัดมะยมและตลาดน้ำตลิ่งชัน คุณอ้นเล่าว่านักท่องเที่ยวที่พักแถวข้าวสารมักจะเสิร์ชหาร้านดื่มเบียร์ดีๆ และมาเจอกับ The Fence นอกจากนี้ยังมีบรรดาลูกค้าจากละแวกนี้ที่แวะเวียนกันมา มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานแถวนี้ มีทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ที่นี่จึงมีทั้งอาหารทานเล่นไปจนถึงทานจริงจัง แต่ที่สำคัญต้องเป็นเมนูที่ทานกับคราฟต์เบียร์แล้วอร่อยด้วย
คุณอู๋หนึ่งในหุ้นส่วนที่ดูแลเรื่องอาหารของร้านเล่าว่า นอกจากเบียร์แล้วเรื่องอาหารพวกเขาก็ใส่ใจและจริงจังไม่แพ้กัน เพราะลูกค้าของที่นี่มีความหลากหลายมาก เนื่องจากเป็นย่านชุมชน และใกล้หมู่บ้านหลายแห่ง ทำให้มีทั้งคนที่มากับครอบครัว พาลูกมาเล่นซัปบอร์ด หรือมาแฮงเอาต์กับกลุ่มเพื่อน อาหารที่นี่จึงหลากหลายและเข้าได้กับคนทุกกลุ่ม จะกินมื้อเบาๆ เป็นของทานเล่น เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด เห็ดทอด หรือเมนูกับแกล้มก็ได้ แต่ถ้าอยากได้มื้อใหญ่ กินจริงจังก็มีให้เลือกหลายสัญชาติ ทั้งไทย ฝรั่ง และอิตาเลียน เช่น ต้มยำ หม้อไฟ พิซซ่า เบอร์เกอร์ พาสต้า สเต๊ก ซี่โครงหมูอบซอส ฯลฯ หรือจะทานเป็นอาหารจานเดียว เช่น ข้าวคลุกผัดกะเพราหมูย่าง และข้าวเนื้อพริกกระเทียมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ดองก็ได้เช่นกัน ซึ่งเราได้ลองแล้วยืนยันว่าอาหารดีไม่แพ้เบียร์และเข้ากันอย่างที่ร้านตั้งใจไว้จริงๆ
ระหว่างวันยังสามารถสั่งกาแฟจากร้าน Huto.Co มาทานกับอาหารได้ หรือจะมานั่งดื่มกาแฟสักพักเพื่อรอเล่นซัปบอร์ดก็ได้ ที่นี่มีกาแฟ Specialty หลากหลายให้เลือกชิม โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรและโรงคั่วไทย ชอบรสชาติแบบไหนก็บอกบาริสต้าได้เลย หรือจะให้บาริสต้าแนะนำก็ได้เช่นกัน หรือถ้าไม่ดื่มกาแฟก็มีเมนูชาเขียว โกโก้ และโซดาไว้เป็นตัวเลือก
นอกจากการเข้ามาทำธุรกิจในย่านนี้แล้ว คุณอ้นและคุณมุกยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพยายามรักษาความสัมพันธ์กับชุมชนไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะเปรียบเสมือนเพื่อนบ้านที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ตลอด ที่ร้านจึงสนับสนุนให้ลูกค้าอุดหนุนธุรกิจเล็กๆ ของคนในชุมชนอยู่เสมอ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาขายไอศกรีม กวยจั๊บ หรือก๋วยเตี๋ยวผ่านคลองบางระมาด สามารถโบกเรือแล้วซื้อมานั่งกินในร้านได้เลย
พายซัปบอร์ดในคลองทัวร์ตลิ่งชัน
นอกจากคราฟต์เบียร์ อาหาร และกาแฟ อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือการพายซัปบอร์ดกับ SUP Talingchan อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ควรลองสักครั้งในชีวิต เพราะการพายซัปบอร์ดแต่ละที่จะได้บรรยากาศและประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ที่นี่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของบ้านริมน้ำแบบใกล้ๆ และได้ชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ในมุมมองที่แปลกใหม่
คุณมุก ผู้ก่อตั้ง SUP Talingchan เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำซัปบอร์ดที่นี่เริ่มจากความชอบในกีฬาทางน้ำ และชอบวิถีชีวิตริมน้ำในย่านนี้ โดยปกติคนมักจะคุ้นเคยกับการพายซัปบอร์ดในทะเลมากกว่า เมื่อเพื่อนชวนมาทำตรงนี้และลองสำรวจเส้นทางแล้วจึงพบว่าเป็นเส้นทางที่น่าสนใจมาก เพราะอยู่ใกล้ตลาดน้ำ 2 แห่ง มีประตูน้ำที่ระบายน้ำเข้าออก มีวัด มีสะพาน มีทางรถไฟ มีวิวพระอาทิตย์ตก เป็นชุมชนที่มีวิวหลากหลายและมีเอกลักษณ์จึงตัดสินใจมาทำซัปบอร์ดที่นี่
การพายซัปบอร์ดไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความน่าสนใจของที่นี่คือการพายในคลองที่ยังเห็นวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำตลิ่งชัน ตลอดเส้นทางการพายซัปเราจะได้เห็นทั้งคนที่ยังขายของด้วยเรือ เรือขนส่งสินค้า เรือท่องเที่ยว หรือรอบเช้าบางวันโชคดีอาจจะได้เจอเรือเก็บขยะ หรือเรือส่งไปรษณีย์ เพราะหลายบ้านมีคลองเป็นหน้าบ้าน จึงต้องใช้คลองเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง ระหว่างทางจะมีผู้คนบ้านริมน้ำทักทายและถามไถ่อยู่เสมอ เพราะคุ้นเคยกับ SUP Talingchan และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
การพายซัปบอร์ดที่นี่เหมาะทั้งกับมือใหม่และคนที่พายเป็นอยู่แล้ว มีบริการสอนตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงแอดวานซ์ และให้เทคนิคดีๆ กลับบ้านสำหรับพายครั้งต่อไป รวมถึงมีครูสอนคอยแนะนำตลอดเส้นทาง สามารถพายเป็นกลุ่มได้สูงสุด 4 คน จะมาคนเดียวหรือชวนเพื่อนมาเป็นกลุ่มก็ได้ แต่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าเพื่อดูวันน้ำขึ้น-ลง เพื่อให้ครูผู้สอนได้ดูความปลอดภัยของน้ำคลองเสียก่อน
นอกจากการได้พาคนมาทำความรู้จักกับชุมชนริมคลองย่านตลิ่งชันแล้ว คุณมุกบอกว่าการทำ SUP Talingchan ยังทำให้ได้ความรู้เรื่องการจัดการน้ำของกรุงเทพฯ เข้าใจธรรมชาติของน้ำ และได้ถ่ายทอดเรื่องนี้ให้กับลูกค้าที่มาพายด้วย เพราะเธอต้องเรียนรู้และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำอยู่เสมอ และหลายเรื่องก็เรียนรู้จากลุงๆ ป้าๆ บ้านริมน้ำนี่เองเพราะวิถีชีวิตของเขาอยู่กับน้ำกันมานานแล้ว
เส้นทางจะแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางด้วยกัน
- ระยะทางไป-กลับ 4 กม. เส้นทางนี้จะออกจากร้านแล้วเลี้ยวขวา พายจากคลองบางระมาดไปทางวัดช่างเหล็ก สะพานดำ วัดตลิ่งชัน ตลาดน้ำตลิ่งชัน และไปสุดปลายทางที่ประตูน้ำที่เชื่อมคลองชักพระกับคลองบางกอกน้อย ใช้เวลาพายประมาณ 2 ชั่วโมง (ลูกค้าส่วนใหญ่จะพายเส้นทางนี้เป็นหลัก)
- ระยะทางไป-กลับ 10 กม. เส้นทางนี้จะออกจากร้านแล้วเลี้ยวซ้าย ไปทางตลาดน้ำคลองลัดมะยม เส้นทางนี้เหมาะกับคนที่มีความเชี่ยวชาญและแข็งแรง เพราะใช้เวลาพายประมาณ 4 ชั่วโมง รวมไปกลับและแวะพักกินข้าว
ให้บริการวันละ 2 รอบ รอบที่ 1 08.00 – 10.00 น. และรอบที่ 2 15.30 – 17.30 น. ค่าบริการ 600.-/คน ระยะเวลา 2 ชั่วโมง (ที่ร้านมีบริการกระเป๋ากันน้ำ น้ำดื่ม และชูชีพ)
ถ้ามารอบเช้าวันเสาร์-อาทิตย์จะเห็นบรรยากาศตลาดน้ำ แต่มาเย็นวันธรรมดาก็ได้เห็นท้องฟ้าสวยๆ แค่ได้อยู่กลางน้ำ รับลมเย็นๆ และได้ดูวิวพระอาทิตย์ตกในเมืองแบบนี้ก็หาได้ยากแล้ว และที่สำคัญน้ำในคลองนี้สะอาด ตกแล้วไม่คัน ไม่เป็นอันตรายแน่นอน
หากใครกังวลและว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถใส่ชูชีพขณะพายได้ ฝึกครั้งแรกแล้วยังยืนไม่ได้หรือพายไม่ถึงปลายทางก็ไม่เป็นไร เพราะสิ่งสำคัญคืออยากให้ทุกคนได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากที่นี่มากกว่า
ใครอยากหากิจกรรม One day trip แบบไม่เร่งรีบอยากให้ลองไปที่นี่จริงๆ เพราะนอกจากจะบรรยากาศดีแล้ว ยังให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน มีอาหารอร่อยๆ และมีกิจกรรมให้เราทำได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ ดื่มกาแฟ แล้วไปเล่นซัปบอร์ด แล้วปิดท้ายด้วยอาหารและคราฟต์เบียร์ดีๆ แค่นี้ก็ช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้ากับชีวิตในเมืองกรุงได้แล้ว
The Fence Craft Beer Bar
11.00 – 24.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
โทร : 09-2268-4632 , 08-9493-3180
34 ถนนแก้วเงินทอง แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
https://goo.gl/maps/9kq6FrFznVDyHD1LA
Facebook : The Fence Craft Beer Bar, SUP Talingchan, Huto.Co
ป.ล. ถ้าอยากใช้บริการ SUP Talingchan ต้องจองไปทางเพจก่อนนะ
Writer
ธนาวดี แทนเพชร
Photographer
