“หลาดเก่า” (ตลาดเก่า) หรือเมืองเก่าตะกั่วป่า คือชุมชนเก่าแก่ของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เดิมที่นั่นคึกคักด้วยผู้คน แต่เมื่อโควิด-19 มาเยือนกลับเหงาลงถนัดตา แม้หลายสิ่งที่เคยเคลื่อนไหวค่อยๆ หยุดลง หากแต่การดำเนินชีวิตของชาวตะกั่วป่าก็ยังคงดำเนินไปอยู่ทุกวัน
เด็กตะกั่วป่าอย่างเราจึงขอชวนทุกคนมาสัมผัสหลาดเก่าผ่านภาพถ่าย ที่แม้จะเงียบงันไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่เงียบเหงาซะทีเดียว
ด้วยความตื่นเต้นที่จะไปเดินหลาดเก่า เราเลยตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะกลัวจะพลาดเจอผู้คนที่ออกมาหาอะไรกินตอนเช้า เราฝากท้องที่ ‘ร้านโกปี๊’ ในตรอกเล็กๆ มีเพียงคุณลุงท่านหนึ่งนั่งดื่มโกปี๊อยู่เพียงลำพัง กับคุณป้าเจ้าของร้านที่กำลังเตรียมของอยู่ในร้าน มองแล้วชวนนึกถึงวันวาน ในทุกๆ เช้าจะมีแต่ความคึกคัก เสียงทักทายผู้คนที่ผ่านไปมาและเสียงพูดคุยของเหล่าคอกาแฟวัยเก๋า
เมื่อเสร็จจากมื้อเช้า ถึงเวลาออกเดินเก็บภาพ ซึ่งตรงข้ามร้านโกปี๊เป็นที่ตั้งของ ‘ศาลเจ้าพ่อกวนอู ซิ่นใช่ตึ๋ง’ หรือที่คนในชุมชนเรียกกันว่า “อ๊ามใต้” ส่วนใหญ่คนหลาดเก่านั้นเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่นี่เลยเป็นอีกสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในละแวกนี้ ซึ่งจะคึกคักมากในช่วงเทศกาลกินเจ
ก่อนจะไปต่อ บังเอิญหันไปเห็นน้องๆ นักเรียนกำลังเดินเรียงแถวหิ้วดอกไม้และปิ่นโตไปทำบุญที่วัด ทำให้นึกถึงสมัยประถมฯ ที่เราต้องเข้าค่ายอบรมจริยธรรม
เดินไปเรื่อยๆ บนถนนศรีตะกั่วป่า ถนนสายหลักที่รายล้อมด้วยบ้านเรือนมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งก่อนนี้คึกคักไปด้วยผู้คน แต่ตอนนี้กลับเบาบางลงถนัดตา
จากที่เคยเห็นผู้คนนั่งอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับทักทายคนไปมาหาสู่กันได้ง่าย แต่วันนี้หน้าบ้านส่วนใหญ่เหลือเพียงม้านั่งที่ว่างเปล่า
มีแต่ภาพวาด เด็กจริงๆ กลับไม่เห็น
ท่ามกลางความเงียบเหงาที่ไม่ค่อยจะชินตาสักเท่าไร คงมีแต่บรรดาร้านรวงต่างๆ ซึ่งยังคงเปิดรอคอยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยสินค้ากันตามปกติ
ร้านโชห่วยเล็กๆ ที่ยังคงเปิดสวนกระแส กับคุณยายที่กำลังยืนรอลูกค้าด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเหงาและการเฝ้ารอ
หนึ่งรอยยิ้มต้อนรับด้วยความอบอุ่นเมื่อเรามาถึง คุณตาช่างซ่อมนาฬิกาเชิญชวนให้เราเข้าไปถ่ายรูปในร้านได้ตามอัธยาศัย
เขาอวดของสะสมมากมายอย่างมีความสุข ที่บางชิ้นถือเป็น Rare Item ซึ่งหาซื้อได้ยากในสมัยนี้
ระหว่างเดินไป พลางหยุดถ่ายภาพไป ก็มีเสียงทักทายจาก ‘คุณลุงบุญส่ง’ เขาถามไถ่เราตามประสาคนในพื้นที่ เลยถือโอกาสพูดคุยถึงบรรยากาศหลาดเก่าช่วงโควิด-19
“สำหรับคุณลุงแล้วหลาดเก่าตอนนี้กับตอนก่อนโควิด-19 แตกต่างกันไหมคะ”
“หลาดเก่าเองก็เป็นเมืองที่เงียบสงบอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังมีถนนคนเดิน เลยมีคนจากจังหวัดใกล้เคียงมาเที่ยวบ้าง พอเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องยกเลิกไปชั่วคราว ผู้คนก็ไม่ค่อยมาเที่ยวกัน ยิ่งตอนนี้มีแต่ผู้สูงอายุ ก็เลยดูเงียบๆ อย่างที่เห็น”
เมื่อคุณลุงพูดจบ เราแอบชะโงกหน้าดูในบ้านคุณลุงบุญส่ง ที่มีเครื่องเสียงและของมากมายวางอยู่ คุณลุงเลยเล่าว่า ทุกวันนี้ยังทำของใช้ต่างๆ เอง เชื่อมเหล็กเองอย่างที่เห็น ซึ่งบ้านหลังนี้จะเป็นศูนย์รวมของคนสูงอายุในบริเวณนี้ ที่จะพากันมานั่งดื่มชา ดื่มกาแฟ ตอนบ่าย ใครมีของกินอะไรก็หิ้วจากบ้านมาแบ่งปันกัน บ้างก็ร้องคาราโอเกะคลายเหงา ไปจนถึงพูดคุยหยอกล้อกันตามประสาคนท้องถิ่น
จากการเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ในหลาดเก่า ทำให้เราสัมผัสได้ว่า ในความเหมือนเดิมที่ทุกคนมองด้วยตาเปล่า ลึกๆ แล้ว มีความไม่เหมือนเดิมที่อาจถูกเหมารวมไปกับความเคยชิน นั่นคือการดำเนินชีวิตที่แม้ยากแต่ก็ต้องไปต่อ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มตัวของหลาดเก่า