Sex Worker ถูกกดขี่หรือเสรีภาพ? สเปนถกเถียงนโยบายแบนค้าประเวณี เมื่อผู้ค้าเสี่ยงเป็นเหยื่อมาเฟียมากขึ้น
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศสเปนได้ชื่อว่าเป็น ‘ซ่องแห่งยุโรป’ โดยงานวิจัยของสหประชาชาติระบุว่า สเปนเป็นประเทศที่มีการค้าประเวณีมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากไทยและเปอร์โตริโก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สเปนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าประเวณีที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็เพราะว่า การค้าบริการทางเพศในประเทศนี้ ‘ไม่ผิดกฎหมาย’ ทั้งนี้ การค้าประเวณีในสเปนกลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้าง เพราะนักเรียกร้องสิทธิสตรีออกมาต่อต้านการค้าประเวณีถูกกฎหมาย เพราะมองว่าเป็นการหาประโยชน์จากผู้หญิง ที่มีรากเหง้ามาจากการกดขี่ของผู้ชายต่อผู้หญิงนั่นเอง ซึ่งนายเปโดร ซานเชซ (Pedro Sanchez) นายกรัฐมนตรีของสเปน ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะล่าสุด เขาได้ประกาศกร้าวต่อหน้าผู้สนับสนุนว่า เขาจะกำจัดการค้าประเวณีในประเทศให้หมดไป โดยให้เหตุผลว่า การค้าบริการทางเพศนั้นคือการกดขี่ผู้หญิง ย้อนไปเมื่อปี 2019 พรรคแรงงานสังคมนิยมสเปน (PSOE) ของนายซานเชซเคยให้คำมั่นสัญญาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะยุติการค้าบริการทางเพศ และได้ระบุว่าการค้าประเวณีคือ “หนึ่งในแง่มุมที่โหดร้ายที่สุดของความยากจนของสตรี และยังเป็นรูปแบบความรุนแรงต่อผู้หญิงที่เลวร้ายที่สุดรูปแบบหนึ่ง” กระนั้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลังจากนายซานเชซได้รับเลือกตั้ง ทางรัฐบาลของเขายังไม่มีการร่างกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี นายซานเชซกลับมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้หญิงที่ถูกค้ามนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2017 ตำรวจสเปนพบผู้หญิง 13,000 คน จากการบุกจับการค้ามนุษย์ โดยทางตำรวจระบุว่า อย่างน้อย 80% ของผู้หญิงเหล่านี้ถูกเอาเปรียบโดยบุคคลที่สาม ทำให้หลายฝ่ายกังวลถึงความปลอดภัยของผู้หญิงที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ การค้าบริการทางเพศเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในสเปน […]