เตรียมจองตั๋วบินไปยุโรปปีหน้า เพราะนักวิทยาศาสตร์เผยว่าแสงเหนือจะสวยที่สุดในรอบ 20 ปี

ถ้า Bucket List ของคุณจดไว้ว่าสิ่งที่อยากทำก่อนตายเป็นการไปดูแสงเหนือหรือออโรรา (Aurora) ด้วยตาเนื้อตัวเองสักครั้ง ก็คงไม่มีเวลาไหนดีไปกว่าปีหน้าอีกแล้ว เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่า ยุโรปในช่วงหน้าหนาวของปี 2024 จะสามารถมองเห็นแสงเหนือที่สวยที่สุดในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงตุลาคม ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมีการคาดการณ์จากนักวิจัยฟิสิกส์อวกาศจากหอดูดาวธรณีฟิสิกส์ทรอมโซ มหาวิทยาลัยอาร์กติกแห่งนอร์เวย์ (UiT) ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดปรากฏการณ์ ‘Solar Maximum’ ที่วนกลับมาเกิดขึ้นในทุกๆ 11 ปี ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จากการสลับขั้วแม่เหล็กเหนือ-ใต้ และเหตุการณ์ Solar Maximum ในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ดวงอาทิตย์เข้าใกล้จุดสูงสุดและพายุสุริยะเพิ่มมากขึ้นในรอบ 20 ปี ทำให้เกิดแสงเหนือที่สวยงามมากขึ้นตามไปด้วยทั้งในบริเวณขั้วโลกตอนล่างและทางใต้ของยุโรป แตกต่างจากในอดีตที่ชมแสงเหนือได้เพียงบางประเทศหรือบางจุดเท่านั้น เพราะในครั้งนี้เราจะมองเห็นแสงเหนือส่องสว่างทั่วสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์เป็นส่วนใหญ่ โดยจะทอดยาวไปทางใต้จนถึงสโตนเฮนจ์กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าไม่จองตั๋วไปดูในครั้งนี้ อาจต้องรอไปอีก 11 ปีถึงจะมีแสงเหนือในลักษณะนี้ให้เห็นกันอีกครั้ง Source : The Guardian | t.ly/ji8z_

นักวิทยาศาสตร์คิดค้นสีชนิดใหม่ ช่วยสะท้อนแสงอินฟราเรด ทำให้บ้านเย็นและอุ่นได้ตลอดปี

ปัจจุบันหลายคนเริ่มหันมาใช้สีทาบ้านที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นขึ้น แต่สีที่ปล่อยรังสีในระดับต่ำมักเป็นสีขาว สีเงินเมทัลลิก หรือสีเทา ซึ่งเป็นทางเลือกที่ไม่หลากหลายเท่าไรนัก นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดจึงคิดค้นสีชนิดใหม่ที่มีเฉดสีหลากหลายมากกว่าเดิม เช่น สีส้ม สีเหลือง สีน้ำเงิน ที่จะช่วยทำให้บ้านและอาคารมีสีสันสวยงามไปพร้อมๆ กับให้ความอบอุ่นในฤดูหนาวและความเย็นในฤดูร้อน รวมถึงยังมีคุณสมบัติที่ทนทานต่ออุณหภูมิ ความชื้น และรังสีอัลตราไวโอเลตระดับสูงได้มากกว่าสีชนิดอื่นๆ หลังจากทำการทดสอบพบว่า สีชนิดนี้ช่วยลดพลังงานในการทำความร้อนในช่วงอากาศเย็นได้ประมาณ 36 เปอร์เซ็นต์ และลดพลังงานที่จำเป็นสำหรับการทำความเย็นในช่วงอากาศอบอุ่นเกือบ 21 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งนักวิจัยมองว่าสีเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมจากการช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอาคาร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานทั่วโลก และ 11 เปอร์เซ็นต์จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยองค์ประกอบของสีมีสองชั้น ชั้นล่างทำจากเกล็ดอะลูมิเนียมที่ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนแสงอินฟราเรดกลับได้มากกว่าเดิม ส่วนชั้นบนทำจากอนุภาคนาโนอนินทรีย์ที่มีสีหลากหลาย ทำหน้าที่ให้ความสวยงามและช่วยปกป้องสีชั้นล่างจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ทำให้เกิดสนิมอีกด้วย นอกจากจะช่วยป้องกันบ้านและอาคารแล้ว สีเฉดใหม่ยังสามารถนำไปใช้กับพื้นผิวอื่นๆ ได้ เช่น รถบรรทุกหรือตู้รถไฟที่มีห้องเย็นสำหรับขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย จึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการใช้งานในอนาคต ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ยังคงปรับปรุงสูตรสีสำหรับการใช้งานจริงๆ โดยกำลังมองหาทางเลือกที่จะทำให้เฉดสีสามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย Sources :DesignTAXI | tinyurl.com/4h3b98crNature World News | tinyurl.com/nhk32evpStanford | tinyurl.com/26mb797z

Scientist Rebellion กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ประท้วงให้โลกหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนที่มนุษย์จะเจอกับหายนะโลกร้อน

ใครเป็นคอหนังคงรู้จักหรือเคยดู Don’t Look Up ภาพยนตร์เกี่ยวกับนักดาราศาสตร์สองคนที่ออกมาเตือนมนุษยชาติเกี่ยวกับดาวหางที่ใกล้จะทำลายโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นักการเมือง นักข่าว และผู้คนจำนวนมากกลับไม่สนใจ อีกทั้งยังทำให้คำเตือนถึงหายนะครั้งใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องตลกอีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังไม่ได้ไกลตัวแต่อย่างใด เพราะตอนนี้เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกำลังเกิดขึ้นจริงในโลกของเรา 6 เมษายน 2565 ปีเตอร์ คาลมุส (Peter Kalmus) นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศจากนาซา (NASA) ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวประท้วงอยู่ที่หน้าสำนักงานของบริษัทเจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) ในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พวกเขามัดข้อมือของตัวเองไว้กับประตูของบริษัท และยังมีผู้ประท้วงรายอื่นๆ ยืนปักหลักอยู่บริเวณหน้าสำนักงานด้วย นักวิทยาศาสตร์และผู้ประท้วงเลือกมารวมตัวที่หน้าสถาบันทางการเงินและการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เนื่องจากระหว่างปี 2559 – 2564 ในบรรดาธนาคารเพื่อการลงทุนทั้งหมดของโลก เจพีมอร์แกนเชสคือบริษัทที่ระดมทุนสนับสนุนโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลมากที่สุด หรือกว่า 382 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,900 ล้านบาท)  นักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้เจพีมอร์แกนเชส รวมถึงบริษัทอื่นๆ หยุดสนับสนุนเงินทุนให้แก่โครงการเชื้อเพลิงฟอสซิล เพราะผลผลิตสุดท้ายของการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกให้ค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก โครงการเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โลกเผชิญกับหายนะจากภาวะโลกร้อน  คาลมุสกล่าวพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมมาประท้วงที่หน้าบริษัทแห่งนี้ เพราะไม่มีใครฟังเสียงของนักวิทยาศาสตร์เลย ผมพร้อมเสี่ยงชีวิตและอาชีพเพื่อโลกที่สวยงามใบนี้ นักวิทยาศาสตร์พยายามเตือนพวกคุณมาหลายสิบปีแล้วว่าโลกกำลังมุ่งหน้าสู่หายนะที่เลวร้ายและใหญ่หลวง” แม้ว่าการประท้วงเป็นไปอย่างสงบ แต่ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ในชุดปราบจลาจลกว่า […]

หมารู้ภาษา นักวิจัยฮังการียืนยันว่าสุนัขแยกแยะได้เมื่อเราพูดภาษาอื่น

ใครๆ ก็เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ‘หมาเป็นสัตว์ที่รู้ภาษา’ ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไปแล้ว เพราะในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบรรดาสุนัขมีความสามารถด้านการแยกแยะความแตกต่างระหว่างภาษาต่างๆ ได้จริงๆ ประเด็นนี้อ้างอิงมาจากรายงานของ Vice News ที่เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยพิสูจน์ว่าสุนัขรับรู้ความแตกต่างทางภาษาของมนุษย์ได้ ซึ่งมีการตีพิมพ์รายละเอียดของการศึกษาทางวารสาร NeuroImage เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และพบว่า “สมองของสุนัขตรวจจับ และแยกแยะความแตกต่างระหว่างรูปแบบการพูดที่มันคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยได้ ที่สำคัญยังแยกความแตกต่างระหว่างแต่ละภาษาได้อีกด้วย” ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Eötvös Loránd ในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ได้ทดสอบการประมวลผลทางภาษาผ่านสุนัขจำนวน 18 ตัว สุนัขกลุ่มนี้ได้รับการฝึกฝนให้นอนนิ่งๆ เพื่อถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (fMRI) ลูกสุนัขเหล่านี้ถูกทดสอบด้วยเสียงข้อความที่ตัดตอนมาจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง The Little Prince ในเวอร์ชันภาษาสเปนและฮังการี ซึ่งเป็นภาษาที่บรรดาสุนัขทั้งหมดเคยได้ยินมาจากเจ้าของคนเดียวกัน ทั้งนี้นักวิจัยยังเล่นเสียงแต่ละแทร็กย้อนหลัง เพื่อทดสอบความสามารถของสุนัขต่อการจดจำเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติ และเสียงที่มีสัญญาณรบกวน นอกจากนี้ นักวิจัยยังศึกษารูปแบบสมองของสุนัขขณะกำลังฟังเพลง พวกเขาสังเกตเห็นว่าบริเวณต่างๆ ในสมองของเหล่าสุนัขสว่างขึ้นเมื่อมีการเล่นเสียงสัญญาณรบกวน และเสียงพูดปกติ และพบรูปแบบสมองที่แตกต่างกันเมื่อมีการเล่นภาษาที่มันคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยด้วย Laura Cuaya ผู้รายงานการศึกษาและนักวิจัยที่ Eötvös Loránd เผยว่าสุนัขเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ต่อการนำมันมาทำวิจัยเพื่อหาคำตอบว่าสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ สนใจสิ่งที่คนเรากระทำหรือแสดงออกมาหรือไม่ เพราะพวกมันอาศัยและอยู่ร่วมกับมนุษย์มานานเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว เป้าหมายของการวิจัยครั้งนี้ คือการทดสอบทักษะที่เรียกว่าการแยกแยะทางภาษา […]

ที่ปิดแผลจากเปลือกทุเรียน กลิ่นไม่แรง สมานแผลไว

เมื่อความหลงใหลในทุเรียนของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมากล้น นักวิทยาศาสตร์ชาวสิงคโปร์หัวใสเลยหยิบเอาความคลั่งไคล้นี้มาหวดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ  เรื่องมีอยู่ว่า เหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง สิงคโปร์ (NTU) ได้แปลงร่างเจ้าเปลือกทุเรียนให้เป็นแผ่นเจลต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นการนำส่วนเปลือกที่เรากินไม่ได้มาใช้ประโยชน์  กระบวนการสุดเจ๋งนี้ใช้การสกัดผงเซลลูโลสออกจากส่วนแกลบทุเรียนด้วยกรรมวิธี Free-Drying Process จากนั้นผงเซลลูโลสจะผสานเข้ากับสารกลีเซอรอล (ผลพลอยได้จากวิธีการรีไซเคิลรูปแบบหนึ่งที่มาจากอุตสาหกรรมไบโอดีเซลและสบู่) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นซอฟต์เจลที่ปรับให้เป็นที่ปิดแผลสุดมหัศจรรย์ได้ จากนั้นก็นำแผ่นเจลดังกล่าวไปเก็บรักษาด้วยสารประกอบจากยีสต์ขนมปัง เพื่อเตรียมการให้พร้อมสำหรับการใช้ปฐมพยาบาล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย รักษาบริเวณบาดเจ็บให้เย็นและชุ่มชื้น แถมช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น แม้คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราๆ จะชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้มากๆ แต่พวกเราก็ไม่ค่อยได้นึกถึงการใช้สอยเปลือกทุเรียน ก็ใครจะไปคิดล่ะว่ามันเป็นมากกว่าอาหารได้ “ในสิงคโปร์ เราบริโภคทุเรียนประมาณ 12 ล้านลูกต่อปี นอกจากเนื้อผลไม้แล้ว เราไม่ได้นำแกลบและเมล็ดของมันมาใช้มากนัก เลยทำให้มันเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม” William Chen ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการด้านโปรแกรมวิทยาศาสตร์การอาหารและเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยกล่าว เฉินยังยืนยันแบบปังๆ ด้วยว่าเทคโนโลยีของทีมใช้ได้กับเศษอาหารอินทรีย์รูปแบบอื่นๆ ได้ อาทิ ธัญพืชและถั่วเหลือง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มากๆ ต่อการแก้ไขปัญหาเศษอาหารของประเทศ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ เจ้าปลาสเตอร์ทุเรียนนั้น ไม่มีกลิ่นและย่อยสลายได้ง่าย พร้อมทั้งยังได้รับการพิสูจน์ว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากกว่าวัสดุแบบเดิมๆ ซึ่งมักใช้สารประกอบโลหะที่มีราคาแพงกว่า อย่างเงินหรือทองแดง  นับตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ต้นแบบมา ทีมงานก็ได้เจรจากับพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของการเพิ่มยอดการผลิตเจลปิดแผล ถ้าทุกอย่างราบรื่นดี เฉินกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์ อาจไปถึงร้านค้าภายในเวลาเพียงสองปีเท่านั้น แค่นี้ก็มั่นใจได้เลยว่าราคาขายปลีกของที่ปิดแผลชนิดนี้จะแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน Source : […]

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.