‘Sunny Bear Coffee Roasters & Hand Craft Bread Baker’ ขนมปังและกาแฟแฮนด์คราฟต์ ที่ผสานทั้งศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันจนออกมาเป็นของกินแสนอร่อย โดยกลิ่นอายของร้านนี้เกิดจากความชอบกินขนมปังและกาแฟเป็นพื้นฐานเดิม ค่อยๆ ศึกษาและทำออกมาในรูปแบบตัวเอง จะเห็นได้ว่าทั้งขนมและกาแฟมีความเรียบง่าย สะท้อนความเป็นตัวตนของทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน
| ชอบกินขนมปังและชอบดื่มกาแฟกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านนี้
ร้านเล็กๆ หลังสีขาวที่ตัดกันอย่างลงตัวกับสีน้ำตาล มองผ่านกระจกบานใสก็สามารถเห็นข้างในร้านได้อย่างชัดเจน อดไม่ได้ที่จะขอเปิดประตูเข้าไปคุยจึงได้รู้ถึงจุดเริ่มต้นที่ดูเป็นสิ่งเล็กๆ เพียงแค่ชอบกินขนมและชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิม ค่อยๆ ออกเดินทางไปกินตามที่ต่างๆ มีถูกใจบ้างและไม่ถูกใจบ้าง
จึงลองหันกลับมาทำเองในรสมือที่ตัวเองชื่นชอบ ทำให้ทั้ง ‘พี่เอซ นิลบล และพี่ไผ่-กอไผ่ ปาณินท์’ สองสามีภรรยาเจอรสสัมผัสที่ใช่และรสชาติที่ชอบ ทำให้เกิดร้าน Sunny Bear Coffee Roasters & Hand Craft Bread Baker ขึ้นมา พร้อมเสิร์ฟขนมปังและกาแฟโฮมเมดให้คนที่มีจริตเดียวกันได้ลิ้มรส ซึ่งกว่าจะเจอรสที่ใช่ทั้งคู่ได้ลงมือทดลองทำหลายแบบแล้วหลายแบบเล่า…
| เกิดความหลงใหลจนต้องศึกษาอย่างเอาจริงเอาจัง
เมื่อทั้งสองคนเริ่มรู้ตัวเองว่าชอบอะไร จึงค่อยๆ ศึกษามาเรื่อยๆ ต้องขอบอกว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองหลงรักการทำอาหารมาก ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักสวนครัวเอง ทำไข่เค็มเอง หรือหมักกิมจิเอง ทำให้การลงมือทำกาแฟและขนมด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องลำบาก แต่กลายเป็นเรื่องสนุกที่ได้คลุกคลีกับสิ่งที่ตัวเองชอบ และมีครูจากโลกออนไลน์
| ห้องเรียนขนมปังและกาแฟจากโลกออนไลน์ และหนังสือที่ถูกเปิดอ่าน
ย้อนกลับไปในช่วงก่อร่างปั้นแป้งคั่วกาแฟช่วงแรกๆ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองคนมีพื้นฐานคือความฝันที่คิดกันอยู่เสมอว่า “อยากทำอะไรทำเลย” ประตูการเรียนรู้คือห้องเรียนโลกออนไลน์และเหล่าหนังสือที่กองเป็นตั้ง
“อย่างทำขนมปังไม่เคยเข้าคลาสเรียน แต่ไม่เคยปิดกั้นตัวเอง เพียงแค่ห้องเรียนเปลี่ยนมาอยู่ในโลกออนไลน์ เข้าไปศึกษาและมาปรับปรุงด้วยตัวเอง โชคดีมากที่มีคนทำขนมเก่งๆ สงสัยตรงไหนส่งข้อความหาเขา อะไรที่เคยติดอยู่หลายๆ อย่างเราก็หลุดจากตรงนั้นมาได้”
ส่วนการคั่วกาแฟของพี่ไผ่ วิธีการนั้นไม่ได้หนีจากพี่เอซแม้แต่น้อย เอาเป็นว่าช่วงนั้นต้องดื่มกาแฟเช้า กลางวัน เย็นเลยล่ะ แถมอยู่ในห้องคั่วจนค่ำ
| ขนมปังกับศิลปะ วิชาที่เรียนรู้อยู่เสมอ
นอกจากเรื่องรสชาติที่ต้องค่อยๆ รังสรรค์ขึ้นมาแล้ว หน้าตาของขนมปังก็เป็นจุดเด่นในการเรียกลูกค้า พี่ไผ่บอกว่าขนมปังจริงๆ แล้วไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ มีเพียงแป้ง น้ำ ยีสต์เท่านั้นเอง เทคนิคของแต่ละคนต่างกันไป แต่ที่พี่ไผ่บอกเราว่า “ขนมปังมีชีวิต” นั้นเรื่องจริง เพราะต้องคอยสังเกตยีสต์ ดูเวลา อากาศที่เปลี่ยนแปลงเสมอ และนี่คือเรื่องสนุก
ความพิเศษของตัวขนมปังและกาแฟที่นี่จึงเป็นทั้งงานศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ผสานกันอย่างลงตัว ผ่านการทดลองผลงานศิลปะกินได้ออกมา โดยไม่ยึดติดกับอะไรเดิมๆ เน้นทดลองอยู่ร่ำไป
| ความพยายามและไม่หยุดพัฒนา คือจุดเด่นของขนมปังแฮนด์คราฟต์
การทำขนมปังนั้นต้องมีรอลุ้นบ้างแหละว่าวันนี้จะออกมาเป็นแบบไหน และต้องใช้ความพยายามจนทุกอย่างคงเส้นคงวา แต่ขนมปังทุกชิ้นยังมีการพัฒนาเรื่อยๆ หากถามถึงจุดเด่นของขนมปังร้านนี้ ทั้งสองคนก็ตอบได้แค่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้นึกถึงเลย
“เพียงแค่อยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ชอบกินแบบนี้ก็ทำแบบนี้ ถ้าไม่ชอบกินก็แค่ไม่ได้ทำ”
| ยีสต์ธรรมชาติที่ใครว่ายาก หากเข้าใจไม่ใช่ศาสตร์ที่ซับซ้อน
ขนมปังที่โดดเด่นคงหนีไม่พ้นจำพวก Artisan หรือแม้แต่ Sourdough ซึ่งใช้ยีสต์ที่หาซื้อไม่ได้ต้องหมักและพัฒนาเอง พี่เอซอาจไม่ได้ทะนุถนอมเหมือนลูก แต่คอยเช็กอยู่เสมอว่ามันแข็งแรงดีไหม ถ้ามันอ่อนแอเอาไปทำขนมปังโดว์จะไม่เด้ง ถ้าอยากให้แข็งแรงต้องให้อาหารมันอิ่มๆ อาจใช้ยีสต์ตัวตั้งต้นน้อย ให้แป้งกับน้ำมากขึ้น ยีสต์ตัวน้อยๆ ก็จะอิ่มและโตเอง
Sourdough บางคนมองว่าเป็นศาสตร์ที่ลึกลับ สำหรับพี่เอซไม่ได้คิดแบบนั้น ทุกคนสามารถศึกษาได้ อาจเริ่มจากการทำขนมปังเบสิก แล้วค่อยมาทำ Sourdough โดยหารูปแบบจากออนไลน์ที่เราเข้าใจ จากนั้นค่อยๆ พัฒนาการเลี้ยง ละเอียดกับมันมากขึ้น หากดูสูตรของต่างประเทศก็อย่าลืมปรับให้เข้ากับอากาศของบ้านเราด้วย การทำขนมปังจะสนุกขึ้นในแบบของเรา ซึ่งยีสต์ของพี่เอซเริ่มมาจาก 0 ที่มีแต่น้ำกับแป้งเช่นกัน จนตอนนี้ยีสต์ที่ใช้อยู่มีอายุ 2 ปีแล้ว
| ขนมปังที่ทำให้เห็นตัวเองชัดขึ้น
การทำขนมในทุกวันๆ พี่เอซยอมรับว่ามันเพลิดเพลิน กลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องตื่นมาทำ จึงรู้สึกว่าได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ เหมือนได้ฝึกสมาธิจนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไร
“มันมีความสุขไหมบางทีไม่ได้คิดด้วยซ้ำ คิดว่าตอนที่ไม่ได้คิดอะไรนั่นแหละมันคงเป็นความสุข”
| ปล่อยให้กาแฟได้เป็นตัวเองโดยไม่ต้องแต่งเติม
กาแฟที่ร้านคั่วเองและคัดเมล็ดพันธุ์ที่ดีให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอยู่เสมอ จนลูกค้าถามว่า ไม่น่าเชื่อว่านี่คือกาแฟกับนมสดเท่านั้นเอง ทางร้านจะไม่ใส่นมข้นหรือครีมเข้าไปเป็นตัวเสริม เพราะจะทำให้รสชาติของกาแฟถูกกลบได้ ความหวานที่ได้นั้นมาจากกาแฟและนม เนื่องจากมีน้ำตาลอยู่ในตัวเอง จากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่กับกาแฟ พี่ไผ่จึงมีวิธีดึงรสชาติกาแฟให้เป็นตัวของมันเองมากที่สุด
ดังนั้น เวลาทำกาแฟพี่ไผ่คงได้เห็นตัวเองไม่ต่างจากพี่เอซสักเท่าไหร่ เมื่อก้าวขาเข้าไปอยู่ในห้องคั่วกาแฟรู้สึกสงบกว่าที่เคย เสมือนได้บำบัดจิตใจตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งเป็นการทำสมาธิได้ดีอย่างหนึ่ง
“คั่วกาแฟต้องใช้สมาธิ ต้องคอยเช็กอยู่เรื่อยทั้งอุณหภูมิและเวลา หากเผลอไปคุยแค่แป๊บเดียวมันอาจจะไหม้หรือเสียไปแล้วก็ได้”
| ความลงตัวของบรรยากาศร้าน ขนมปัง กาแฟเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้
หากเปิดประตูเข้าไปในร้าน ความรู้สึกที่ได้รับมันทำให้เราสลัดคราบคนเมืองทิ้งไปอย่างไม่รู้ตัว ทั้งการตกแต่งที่ดูเหมือนบ้านหลังเล็ก และพนักงานที่ทักทายอย่างเป็นกันเอง ทำให้เรารู้สึกไม่เกร็งหรือต้องรีบออกไปจากร้านแต่อย่างใด แต่กลับนั่งทำงานได้อย่างสบายใจ กาแฟแก้วแรกผ่านไป พร้อมขนมชิ้นที่หนึ่งต้องมาควบคู่ ทุกอย่างผสานกันลงตัวแบบแยกจากกันไม่ได้
ตลอดการนั่งพูดคุยนั้น หากมีลูกค้ามาร้านหรือออกจากร้าน ทั้งพี่ไผ่และพี่เอซจะทักทายลูกค้าเสมอด้วยตัวเอง “ขอบคุณนะครับ ขอบคุณนะคะ”
ส่วนใครมีโอกาสได้ไปที่ร้านและอยากชิมขนมปังดูสักครั้ง พนักงานจะแนะนำได้เสมอว่าขนมปังแบบนี้คืออะไร มีรสสัมผัสแบบไหน มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และนี่คงทำให้เรารู้สึกแฮปปี้กับร้าน Sunny Bear Coffee Roasters
Source : คุณเอซ นิลบล และคุณไผ่-กอไผ่ ปาณินท์ เจ้าของร้าน Sunny Bear Coffee Roasters
Writer
