เมืองที่มีเกาะลอยอยู่ในทะเล
เมืองท่าที่จะพาคุณไปเกาะสีชัง
เมืองที่มีหอนาฬิกา 2 แห่ง
เมืองที่ความมั่งคั่งและวุ่นวายกำลังหลั่งไหลเข้ามา
ผมเกิดและโตที่นี่ แม้ว่าจะเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในบางกอกอยู่หลายปี แต่ตอนนี้ผมกลับมาฝังรากลึกอยู่ที่นี่อีกครา ที่นี่คือบ้านของผม ในมุมมองของผมศรีราชาคือเมืองที่น่าอยู่ แต่กลับปะปนไปด้วยของเสียแห่งเงินตราและอำนาจมืด “ของเสีย” ในที่นี้ก็คือพวกยาเสพติด พวกขี่มอไซค์ป่วนเมือง พวกแก๊งค์นักเลงอันธพาล หรือพวกกระบะซิ่งควันดำที่มีให้เห็นอยู่กลาดเกลื่อนไปหมด ผับเทคที่มีการค้ายาเสพติดจำพวกยาเคก็มีให้เห็นมากับตาตัวเอง
ผมไม่เข้าใจว่าการซิ่งรถให้เกิดควันดำนั้นมันมีประโยชน์อะไร? เท่เหรอ? ก็ไม่นะ บางจังหวัดก็มีทัศนคติและความรับผิดชอบต่อสังคมที่ดี ส่วนบางจังหวัดมันก็เละเทะเหมือนบ้านผมนี่แหละ ส่วน “เงินตราและอำนาจมืด” นั้น เราต่างรู้ว่าทุกที่มีสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้อยู่ มีคนประเภทแตะต้องไม่ได้อยู่ ที่นี่ก็เช่นกัน
เค้าบอกว่าที่นี่คือ ‘ลิตเติ้ลโอซาก้า’ เนื่องจากคนญี่ปุ่นมาอยู่อาศัยเยอะมาก เอาจริงๆ ก็มีหลายเชื้อชาตินะที่มาอยู่ที่นี่ ทั้งชาวญี่ปุ่นเอง ทั้งชาวกัมพูชาและพม่าที่เข้ามาทำงานตามร้านอาหารและตลาดสดหรือที่อื่นๆ ทั้งฝรั่งมังค่าที่มาทำงานหรือมาเที่ยว หรือใช้เป็นทางผ่านไปเกาะสีชังก็เยอะแยะเต็มไปหมด
ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คนไทยน่าจะสัก 80% ญี่ปุ่น 10% ที่เหลือก็เชื้อชาติอื่นๆ ปะปนกันไป ที่ญี่ปุ่นมาอยู่เมืองไทยเพราะอะไร? เพราะที่นี่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ศรีราชามีโรงงานอุตสาหกรรมมากมายเหลือเกิน และทำไมญี่ปุ่นถึงมา? “ก็มาเป็นเจ้านายพวกเราไง” บริษัทเค้าก็ใช้บุคลากรเค้ามาบริหารมันก็ถูกต้องแล้วแหละเนอะ
ทีนี้พอมีญี่ปุ่นอยู่เยอะ ร้านรวงต่างๆ ก็คึกคักกันใหญ่ บาร์ญี่ปุ่นเปิดกันให้พรึ่บพรั่บเต็มศรีราชานครไปหมดอย่างกะดอกเห็ด โดยใช้คำลงท้ายชื่อร้านเก๋ๆ ว่า “บาร์แอนด์สแน็ก” อะไรทำนองนี้ ถ้าจะให้ผมนับบาร์ญี่ปุ่นในศรีราชาจริงๆ เนี่ย ผมว่าผมนับไม่หมดหรอก ไม่หวาดไม่ไหวเยอะแยะจริงๆ
ตามหน้าร้านจะมีสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยที่ชุดพวกนี้หาซื้อได้ตามรถซาเล้งที่มาจอดหน้าร้าน คอยยั่วยวนนั่งรอแขกรอลูกค้ากันเต็มไปหมด โดยแต่ละร้านจะมีคนตะโกนว่า “อิรัชชัยมาเสะๆๆ” หมายถึงยินดีต้อนรับนั่นเอง
เคยมีอยู่เคสนึง ตอนนั้นผมเป็นผู้จัดการร้านเหล้าอยู่ มีน้องๆ เด็กเสริฟที่แต่งตัวปกตินะไม่ได้วาบหวามอะไรนั่งอยู่หน้าร้าน ญี่ปุ่นเดินผ่านเข้ามาถามว่า “ฮาวมัชๆ มายโฮเท็ล” ประมาณว่าไปโรงแรมกะมันน่ะคิดเท่าไหร่ ! เคสนั้นผมเกือบได้ฟาดปากญี่ปุ่นจริงๆ แล้วนะ
คนศรีราชาดั้งเดิมในเมือง ที่เป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ขนาดย่อมไปจนถึงขนาดกลางๆ ส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายจีนที่บรรพบุรุษโล้สำเภาเข้ามาแล้วตั้งรกรากทำมาหากินจนมั่งมี เช่น พวกเจ้าของกิจการร้านทอง ส่วนใหญ่เชื้อสายจีนทั้งนั้น หากมองอีกด้านเมืองนี้ก็มีอะไรมากมายให้น่าค้นหานะ จะว่าอันตรายไหมมันก็ไม่หรอก คือขาวเทาดำมันผสมผสานกันไปแล้วสำหรับเมืองเล็กๆ แห่งนี้
เอาเป็นว่า ถ้ามีโอกาส พวกคุณลองมาสัมผัสเมืองศรีราชาที่คนพื้นที่จะเรียกสั้นๆ ว่า “ศรีชา” กันดูเองดีกว่า คุณจะได้เห็นตึกเก่าๆ ผสมกับตึกยุคกึ่งเก่ากึ่งใหม่และตึกทรงทันสมัยควบคู่กันเต็มไปหมด ในตัวเมืองศรีราชาแห่งนี้ ผมว่าการผสมผสานนี้มันมีเสน่ห์มากๆ เลยนะ มันเหมือนเป็นซิกเนเจอร์ที่บ่งบอกว่า นี่แหละ “ศรีชาแท้ๆ” ไม่แน่ พวกคุณอาจจะหลงรักมันก็ได้นะ…