เมื่อฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้อนเริ่มมาเยือน ผู้คนในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก มักจะเห็นฝูงแกะและแพะกระจายตัวอยู่ตามลานหญ้า สวนสาธารณะ และพื้นที่ธรรมชาติต่างๆ ทั่วเมือง แต่รู้หรือไม่ว่า ฝูงสัตว์เหล่านี้ไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อให้ถ่ายรูป หรือแจกความน่ารักให้ชาวเมืองได้ชื่นชมเท่านั้น พวกมันยังเป็นฮีโร่ดูแลธรรมชาติและสร้างระบบนิเวศอย่างยั่งยืนเลยทีเดียว
วิธีแบบนี้เป็นวิธีดั้งเดิมในการดูแลทุ่งหญ้าและสวนผลไม้ในสาธารณรัฐเช็กตั้งแต่อดีต แต่ได้หยุดชะงักช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2543 กรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของศาลาว่าการปรากได้ปัดฝุ่นโครงการ และเริ่มระบบการจัดการนี้อีกครั้ง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับการดูแลจากฝูงสัตว์เหล่านี้ จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษของกรุงปรากหรือพื้นที่อนุรักษ์นั่นเอง
“เมื่อเหล่าฮีโร่สัตว์สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน”
ในทุกๆ ปีจะมีการส่งฝูงแกะและแพะรวมกันประมาณ 70 ตัว ไปยังพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ และมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ โดยฝูงแกะจะถูกจัดสรรมาให้กินหญ้าเป็นหน้าที่หลัก ในขณะที่แพะมีหน้าที่แทะเล็มใบไม้ตามต้นไม้หลากหลายชนิด จำนวนสัตว์และระยะเวลาในการกินหญ้าจะถูกปรับตามความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่และสภาพอากาศ
พอถึงช่วงเดือนตุลาคมหรือฤดูหนาวเริ่มมาเยือน ฝูงสัตว์เหล่านี้จะถูกส่งกลับไปยังพื้นที่ธรรมชาติหรือแหล่งที่อยู่อาศัยเดิมเพื่อได้้รับการดูแลอย่างดีต่อไป ถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับการดูแลทุ่งหญ้าโดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องตัดหญ้าและแรงงานคน แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมไม่ต่างกัน
จุดประสงค์หลักของโครงการนี้ คือการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ด้วยการตัดหญ้าให้เรียบ ประกอบกับการกระตุ้นให้ต้นหญ้าถูกใช้งานตลอดเวลา เพื่อให้พันธุ์ไม้หายากเจริญเติบโตได้และเอื้อต่อการใช้ชีวิตของแมลงหลายชนิดที่ทำรังอยู่บนดิน นอกจากนี้ในมูลของฝูงสัตว์ ยังมีแมลงตัวจิ๋วอีกหลายชนิด ที่เป็นอาหารชั้นเลิศของนกบางประเภทอีกด้วย ดังนั้นการปล่อยฝูงแกะและแพะให้ออกมากินหญ้าในพื้นที่อนุรักษ์ จึงช่วยเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ในท้องถิ่น นอกจากนี้ผู้คนและเด็กๆ ยังได้มีโอกาสใกล้ชิดและเข้าใจระบบนิเวศมากขึ้นอีกด้วย
“คน สัตว์ สิ่งแวดล้อม”
ระบบการจัดการดูแลพื้นที่อย่างชาญฉลาด ภายใต้แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ ถือเป็นการดูแลที่ครบวงจรและเกิดประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่ทำให้พื้นที่ธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ขึ้น เหล่าฝูงแกะและแพะยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามธรรมชาติ เรียกว่าแฮปปี้อิ่มท้องกันทั่วหน้า ไม่ต้องง้อเครื่องตัดหญ้าที่มักสร้างเสียงดังรบกวนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่อีกต่อไป แถมยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศชั้นดีให้ผู้คนในชุมชนอีกด้วย