ถ้าจะมีที่ไหนเปิดโอกาสให้เราใช้เวลาทั้งวันได้อย่างไม่มีเบื่อ ด้วยพื้นที่ที่คิดมาแล้วว่าตอบโจทย์คนเมืองทุกกิจกรรม ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกจังหวะชีวิต
คำตอบของเราคือ ‘One Bangkok’ อย่างไม่ต้องสงสัย เรายกให้ที่นี่เป็น One Leisure Destination ที่เรียกว่าเป็น One Place Fit All ไม่ว่าจะมีความต้องการแบบไหน One Bangkok ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งนั้น ตั้งแต่การเดินชอปปิงแบรนด์ชั้นนำ แวะกินร้านอาหารหลากสัญชาติ นั่งพักในคาเฟ่บรรยากาศดี ไปจนถึงปล่อยใจผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง เติมสมดุลให้ทั้งกายและใจ
คล้ายเป็น ‘เมืองขนาดย่อม’ ที่ช่วยผสมผสานทั้งการทำงาน การพักผ่อน และการใช้ชีวิตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตไปอีกขั้น
ว่าแต่จะมีส่วนไหนน่าสนใจ เข้ากับคนที่รักเมืองแบบเราบ้าง ตามคอลัมน์ Urban Guide ไปสำรวจ One Bangkok เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีพร้อมๆ กันเลย
เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น

ด้วยความที่โครงการ One Bangkok ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 108 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนพระรามที่ 4 และถนนวิทยุ ส่งผลให้เข้าถึงง่าย เชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัวก็ตาม
ยิ่งเมื่อเชื่อมพื้นที่สีเขียวภายใน One Bangkok เข้ากับสวนสาธารณะ 2 แห่งใกล้เคียงอย่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ก็ยิ่งส่งเสริมให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นปอดสีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ เดินเล่น ออกกำลังกาย สูดอากาศสดชื่นได้อย่างเพลิดเพลิน
และข้อดีส่วนนี้เองที่เปิดโอกาสให้เราเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่นด้วยการออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ก่อนมาคูลดาวน์ที่พื้นที่สีเขียวภายใน One Bangkok ที่มีให้เลือกหลายส่วนตามความชอบ
ตั้งแต่สวนขนาดใหญ่ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง และเส้นทางเดินเท้าที่ร่มรื่น ซึ่งได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Walkable Neighborhood ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเดินเชื่อมต่อระหว่างจุดต่าง ๆ ในโครงการได้ภายในเวลา 15 นาที คล้ายคอนเซปต์เมือง 15 นาทีที่หลายเมืองชั้นนำทั่วโลกทำกัน
พื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับทั้งคนและสัตว์

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ง่าย เข้าถึงโครงการสะดวก และสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาวะที่ดี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ ไปจนถึงการออกกำลังกายแบบเบาๆ ด้วยพื้นที่ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลงตัว
แถมยังมีโซนที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ให้เราพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาใช้เวลาร่วมกันได้อย่างอิสระ ทำให้ One Bangkok ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตของคนเมืองในทุกแง่มุมอย่างแท้จริง
4 สวน 4 สไตล์ เลือกได้ตามความชอบ

อย่างที่บอกว่าที่โครงการมีพื้นที่สีเขียวให้เลือกสรรตามใจชอบ เราจึงอยากชวนทุกคนไปสำรวจกัน เริ่มที่ ‘Parade Park’ สวนสีเขียวติดถนนพระรามที่ 4 บริเวณโซน Parade ต่อมาคือ ‘The Wireless Park’ สวนที่ตั้งขนานไปกับถนนวิทยุ ติดกับโซน The Storeys และ ‘One Bangkok Boulevard’ ที่ออกแบบให้เป็น Linear Park ลาดยาว เมื่อเดินตามทางขึ้นไปเรื่อยๆ จะพบกับพื้นที่สีเขียวไฮไลต์อย่าง ‘One Bangkok Park’ สวนสีเขียวใจกลาง One Bangkok ที่ตั้งของน้ำพุสุดฮิต ที่ตอนนี้หลายคนแวะเวียนมารับพลังงานดีๆ ของธรรมชาติกัน

แม้จะเป็นสวนกลางโครงการที่อาจไม่ได้เขียวเท่าสวนอื่นๆ แต่ก็มีต้นไม้และธรรมชาติแทรกอยู่ พร้อมที่นั่งให้ซึมซับท้องฟ้ากว้าง เสียงน้ำ และพื้นที่เปิดโล่ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรอบข้าง แถมยังถือเป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิตที่ล้อมรอบไปด้วยโซน Parade, The Storeys และ Post 1928 มี Sculpture และ Installation Arts วางประดับ

เรามองว่าพื้นที่ตรงนี้มีฟังก์ชันที่หลากหลาย เดินทางมาง่าย แค่ข้ามจากสวนลุมฯ เดินมานิดเดียวก็ถึงแล้ว ซึ่งไม่ว่าจะมาใช้เวลาพักคูลดาวน์หลังออกกำลังกาย ออกจากออฟฟิศมาพักผ่อนระหว่างวัน หามุมถ่ายรูปสุดเก๋กับเพื่อนๆ หรือจะเข้าร่วมหลากหลายกิจกรรมที่จัดขึ้นในบริเวณนี้บ่อยๆ ก็ทำได้ คล้ายเป็นจัตุรัสของเมือง ที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนบทสนทนาและปฏิสัมพันธ์ของผู้คนกัน
นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ One Bangkok ครองใจใครหลายคน เนื่องจากการให้ความสำคัญกับพื้นที่ ‘Wellness Space’ ที่ออกแบบมาเพื่อคนเมืองที่กำลังมองหาพื้นที่ช่วยเยียวยาจิตใจ
% Arabica บูสต์พลังยามเช้า

พ้นไปจากเรื่องการออกแบบพื้นที่ ความพิเศษของ One Bangkok ที่ทำให้ที่นี่เรียกตัวเองว่าเป็น ‘The Heart of Bangkok’ ได้อย่างเต็มปากคือ ต่อให้เป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบ Morning Person แค่ไหน โครงการนี้ก็มีร้านรวงเปิดให้บริการตั้งแต่ตอน 7 โมงเช้าอยู่ไม่น้อยเลย
หนึ่งในนั้นคือ ร้านกาแฟร้านโปรดของเราที่แค่ยืนจาก One Bangkok Park หันหน้าเข้าหาโซน The Storeys ก็จะเจอ ‘% Arabica’ ร้านกาแฟ Specialty ขนาดสองชั้นครึ่งตั้งตระหง่านรอต้อนรับนกที่ตื่นเช้าอยู่

ไม่ใช่แค่คนชอบดื่มกาแฟที่จะชอบที่นี่ เพราะคนที่รักงานดีไซน์ก็น่าจะเอนจอยกับการออกแบบพื้นที่ข้างในร้านที่มองแล้วสบายตา เหมาะกับการเริ่มต้นวันเหมือนกัน
บริเวณชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่บาร์กาแฟที่เปิดให้เราเห็นบาริสต้าชงกาแฟให้ดูกันสดๆ ก่อนแวะไปรับเครื่องดื่มและขนมปังร้อนๆ มองหาที่นั่งภายในร้าน ที่มีให้เลือกตั้งแต่เคาน์เตอร์บาร์บริเวณชั้น 1 พื้นที่ชั้นลอยหรือ Mezzanine ที่อยู่ระหว่างชั้นหลักของร้าน และชั้น 2 ที่มีที่นั่งบาร์เดี่ยวติดกระจกตลอดแนวชมวิว One Bangkok Park หรือโต๊ะด้านในที่เป็นสัดเป็นส่วนขึ้นมาหน่อย เพื่อพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนหรือหยิบโน้ตบุ๊กคู่ใจออกมาเคลียร์งานก็แล้วแต่ตามใจชอบ
โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ อาหารเช้าแบบคลาสสิก

ไม่เพียงเท่านั้น หากลงไปที่ชั้น G ในโซน The Storeys เดียวกัน จะได้พบกับจุดหมายที่ใครหลายคนแวะมาฝากท้องกันเป็นประจำหลังวิ่งออกกำลังกายยามเช้าเสร็จ
เพราะนอกจากได้เติมโปรตีนกับรสชาติอาหารที่อร่อย ‘โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่’ ร้านอาหารเช้าในตำนานจากเสาชิงช้า ที่มาเปิดที่ One Bangkok ยังเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าลากยาวไปถึง 4 ทุ่ม แถมพื้นที่ในร้านก็กว้างขวาง ไม่ต้องกลัวว่ามาแล้วจะไม่ได้นั่งแน่นอน

มาถึงแล้วก็อย่าลืมสั่งเมนูห้ามพลาด ‘ไข่กระทะ’ ซิกเนเจอร์ประจำร้าน ยิ่งถ้าได้กินคู่ ‘กาแฟโบราณ’ ที่โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่คัดสรรเมล็ดกาแฟและใช้วิธีชงแบบดั้งเดิมผสมกับกลิ่นอายคลาสสิกแล้ว รับรองว่าอิ่มอร่อย หายเหนื่อยจนอยากเบิลอีกเซตเชียวล่ะ

ท้องอิ่มแล้ว ถ้าไม่ได้มีธุระไปไหนต่อไปเดินเล่นใน The Storeys ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่หยอก เพราะโซนรีเทลนี้ให้ความสำคัญกับแฟชั่นดีไซน์ ที่เน้นการสร้างเรื่องราวให้กับผู้มาเยือนผ่านดีไซน์ที่โดดเด่น แหล่งรวมร้านอาหารดัง ร้านกาแฟ คาเฟ่ และคอนเซปต์สโตร์ เหมาะกับคนที่ชอบแฟชั่นแบบเฉพาะตัว ชอบสไตล์ร้านที่ไม่เหมือนใคร อยากได้บรรยากาศชิกๆ มากกว่าแค่มาเดินซื้อของแล้วกลับไป เพราะโซนนี้ดีไซน์พื้นที่มาให้ใช้เวลาได้อย่างเพลิดเพลิน แล้วแต่ว่าจะอยากนั่งชิล ทำงาน หรือรอพบปะเพื่อนๆ ต่อในช่วงเย็น
ใกล้ๆ กันยังมีโซน Parade อีกหนึ่งโซนรีเทลที่เน้นความหลากหลายของร้านค้า กิจกรรม ไลฟ์สไตล์ แบบครบจบทั้ง Shop, Eat, Play และ Work เพราะเป็นที่ตั้งของร้านค้าแบรนด์ใหญ่ติดตลาด แบรนด์ใหม่มาแรง รวมถึงโรงภาพยนตร์ One Ultra Screens และ Parade Square พื้นที่จัดงาน แสดงดนตรี ออกร้าน และจัดบูทต่างๆ ที่เปิดกว้างสำหรับทุกความสนใจ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทุกวัน
ONE bOwl Vegan by CANES เติมพลังด้วยวีแกนแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ภายในโซน Parade ยังเป็นที่ตั้งของ ‘Mitsukoshi Depachika’ ซูเปอร์มาร์เก็ตแหล่งรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 10,000 รายการ ทั้งจากในไทย ญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ภายใต้คอนเซปต์ Grocerant ที่ผสมผสานประสบการณ์การรับประทานอาหารและการเลือกซื้อสินค้าต่างๆ อย่างลงตัว
ในพื้นที่เดียวกันนี้ยังเป็น Food Destination ที่เปิดโอกาสให้เราเพลิดเพลินกับของกินและร้านอาหารระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘Yokocho’ ตรอกร้านอาหารในญี่ปุ่น ครอบคลุมตั้งแต่ขนมหวานญี่ปุ่นยอดนิยมไปจนถึงอาหารนานาชาติ ที่ตอบทุกความชื่นชอบของคนไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องอาหารการกินเป็นที่สุด
‘ONE bOwl Vegan by CANES’ เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราไม่อยากให้สายวีแกนพลาด เพราะถึงแม้จะมาในรูปแบบ One Bowl แต่ทุกจานล้วนรังสรรค์ขึ้นจากเชฟไฟน์ไดน์แบบที่ไม่เสียชื่อ CANES ที่นำเสนออาหารวีแกน 100 เปอร์เซ็นต์แบบ Fine Dining ผ่านคอนเซปต์ ‘Lab to Table’ ที่นักวิทยาศาสตร์และเชฟร่วมกันพัฒนาเมนูจากพืชอย่างแน่นอน
The Wireless Club เย็นบาร์ เช้าคาเฟ่

ส่วนใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์ ชื่นชอบเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่ One Bangkok มีโครงการอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง หรือ The Wireless House One Bangkok ซึ่งจัดแสดงอยู่ในอาคารสีเขียวขาว จำลองสถานีวิทยุโทรเลขแห่งประเทศไทยที่ครั้งหนึ่งเคยใช้งานเมื่อ 111 ปีก่อน
เมื่อเดินชมภายในอาคารแล้ว ทางจะพาเราเดินเข้าสู่ภายใน One Bangkok ในส่วนของร้าน ‘The Wireless Club’ คอมมูนิตี้ใจกลางเมืองสำหรับผู้คนหลากหลายความชอบ ไม่ว่าจะเป็น คอกาแฟที่หลงใหลในเครื่องดื่ม Specialty ระดับพรีเมียม ผู้คนที่สนใจเสียงดนตรีแบบคลาสสิก และเหล่านักท่องกาลเวลาที่หลงใหลในประวัติศาสตร์

ถ้าเข้ามาแล้ว เราอยากชวนทุกคนนั่งพักภายในร้านต่ออีกหน่อย เพราะ The Wireless Club มาพร้อมกับคอนเซปต์ Daily Rhythm ที่ในแต่ละช่วงเวลาจะให้ไวบ์ที่แตกต่างกันออกไป
เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้ากับ Specialty Coffee ดีๆ สักแก้ว ก่อนจะไปสู่ช่วงบ่ายถึงเย็นเวลา 14.00 – 16.00 น. ที่เป็นเวลาของ Vinyl Experience เราสามารถเลือกอัลบั้มโดนใจของศิลปินที่ชอบเพื่อให้ดีเจช่วยเปิดให้ได้ แถมหลังจาก 17.00 น. เป็นต้นไป จากคาเฟ่ไวนิลสุดชิกจะถูกเปลี่ยนให้เป็น Listening Bar ที่ไม่ว่าจะเป็นสายคราฟต์เบียร์หรือค็อกเทลก็มาจอยน์กันได้
สมเป็นเมืองที่ Morning Person หรือ Nightlife Seeker ต่างรัก เพราะตอบโจทย์ทุกจังหวะชีวิตแบบไม่มีสะดุด
แวะออกกำลังกายในร่มก่อนกลับบ้าน

เรารู้ว่าการตื่นมาออกกำลังกายและใช้ชีวิตยามเช้าเป็นไลฟ์สไตล์ที่ดี แต่ใช่ว่าทุกคนจะตื่นได้หรือตื่นไหว ดังนั้นหนุ่มสาวชาวออฟฟิศคนไหนที่ทำงานหนักมาทั้งวัน แล้วอยากใช้เวลาช่วงหลังเลิกงานพักผ่อนหย่อนใจ One Bangkok ก็ยังมีอีกหลายมุมให้แวะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการเติมพลังด้วยของหวานรสเลิศ ฟังเพลงเบาๆ อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อค่ำ เดินเล่นในสวนใจกลางเมือง หรือจะแวะออกกำลังกายในร่มให้นอนหลับสนิท พร้อมตื่นมาใช้ชีวิตในวันต่อไปอย่างมีพลัง
ที่ One Bangkok มี ‘Jetts Black’ ฟิตเนสระดับพรีเมียมที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะมากสำหรับคนทำงานในย่าน CBD ที่ต้องการความยืดหยุ่นด้านเวลา ช่วยรีเซตความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เติมความสดชื่นให้กับตัวเองในวันจันทร์ถึงศุกร์
พื้นที่ใจกลางเมืองที่ออกแบบมาโอบรับทุกจังหวะชีวิต

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนรักสุขภาพที่อยากเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกกำลังกายในพื้นที่สีเขียว เป็นมนุษย์ครอบครัวที่อยากใช้เวลาร่วมกับคนที่รัก เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศที่มองหามุมพักผ่อนหลังเลิกงาน หรือกลุ่มเพื่อนที่มองหาพื้นที่แฮงเอาต์ ทุกกิจกรรมที่จะสร้างช่วงเวลาที่ดีให้ทุกคนล้วนเกิดขึ้นได้ที่ One Bangkok
เพราะพื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของโครงสร้าง การใช้งาน และความสะดวกสบาย เพื่อโอบรับทุกวิถี ทุกความชอบ และทุกจังหวะชีวิต ให้เราใช้ชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เพราะ One Bangkok เปิดโอกาสให้เราได้ใช้เวลาของทุกวันอย่างมีความสุข บนพื้นที่ที่เติมเต็มทุกการพักผ่อน และตอบโจทย์ทุกความต้องการ สมเป็น One Place Fit All ที่มาเติมพื้นที่คุณภาพให้กับกรุงเทพมหานคร