สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี (JFK) กำลังจะมีอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ (New Terminal One หรือ NTO) ซึ่งจะมีแผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในนครนิวยอร์กและในบรรดาอาคารผู้โดยสารของสนามบินทุกแห่งในสหรัฐอเมริกา
ด้วยแผงโซลาร์เซลล์จำนวนกว่า 13,000 แผงที่มีชื่อว่า ‘ไมโครกริด (Microgrid)’
เมื่อโครงการเสร็จสิ้นลง NTO จะเป็นศูนย์กลางการขนส่งสนามบินแห่งแรกในภูมิภาคนิวยอร์กที่ดำเนินการได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้า และสามารถดำเนินการได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่ไฟฟ้าดับผ่านการทำงานของไมโครกริด
โดยพลังงานของไมโครกริดเกิดจากแหล่งพลังงานหลายประเภทรวมกัน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้า ที่เก็บพลังงานแบตเตอรี่ เซลล์เชื้อเพลิง และความร้อน ซึ่งไมโครกริดจะประกอบไปด้วย 4 เกาะพลังงาน โดยแต่ละเกาะจะทำหน้าที่เป็น ‘ระบบพลังงานท้องถิ่นแบบผสมผสาน’ ที่ทั้งผลิตและกักเก็บพลังงาน แถมยังมาพร้อมกับระบบอัตโนมัติและระบบควบคุมขั้นสูงด้วย
แม้ว่าพลังงานที่คาดว่าไมโครกริดจะผลิตได้อาจเพียงพอสำหรับจ่ายไฟให้กับบ้านเรือนราว 3,570 หลังเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ดูเหมือนว่าเทอร์มินอลนี้จะยังไม่สามารถจ่ายพลังงานให้กับพื้นที่อื่นๆ ของเมืองในวงกว้างได้ ด้วยกฎหมายท้องถิ่นที่ยังไม่อนุญาตให้ไมโครกริดของสนามบินจ่ายไฟไปยังพื้นที่โดยรอบ เพราะฉะนั้นพลังงานที่ผลิตจากไมโครกริดจะถูกใช้ภายในสนามบิน JFK เป็นหลัก
โดยโครงการได้เปิดเผยว่า เทอร์มินอลนี้จะมอบพลังงานที่ยั่งยืน ยืดหยุ่น ซึ่งทั้งหมดจะผลิตจากท้องถิ่นและคาดการณ์ต้นทุนได้ ที่สำคัญ พลังงานจากไมโครกริดจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทันทีมากถึง 38 เปอร์เซ็นต์ และจะช่วยให้ชุมชนรอบสนามบิน JFK มีอากาศที่สะอาดขึ้นด้วย
Juan Macias ซีอีโอของ AlphaStruxure บริษัทโซลูชันด้านพลังงานทางเลือกที่ได้รับมอบหมายงานให้ติดตั้งไมโครกริดทั้ง 4 ส่วนในสนามบิน JFK มองว่า โครงการนี้จะทำให้เห็นถึงแนวทางใหม่ในการลดคาร์บอนจากการขนส่งทางอากาศ เช่นเดียวกันกับที่ Gerrard Bushell หัวหน้าฝ่ายพัฒนา NTO ที่เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ในนิวยอร์กและในภาคการขนส่งทางอากาศทั้งหมด
โครงการคาดการณ์ว่า 3 ส่วนแรกของไมโครกริดจะใช้งานได้เมื่อเทอร์มินอลเปิดให้บริการในปี 2026 สำหรับส่วนที่เหลือคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2030
Sources :
AlphaStruxure | bit.ly/3wLczoN
DesignTAXI | bit.ly/3HjlItG
Gothamist | bit.ly/3wIYSGY