ทุกครั้งที่นั่ง BTS ผ่านสถานีสะพานควาย เรามีคำถามในใจอยู่หลายครั้งว่า ย่านนี้เขามีอะไรบ้างนะ แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสแวะไปสำรวจสักที เมื่อมีเวลา เราก็ไม่พลาดไปเข้านอกออกในย่านสะพานควาย จนเจอกับ Window Gallery and Café สถานที่ที่เป็นจุดนัดพบศูนย์รวมไอเดียของ Window Magazine แมกกาซีนที่ชวนไปเคาะประตูบ้านศิลปิน ซึ่งเรามีโอกาสพูดคุยกับคนต้นคิดไปก่อนหน้านี้
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาภายในแกลเลอรี เรารู้สึกว่าที่นี่เป็นจุดศูนย์รวมของประสาทสัมผัสหลายรูปแบบ เมื่อไล่สายตากวาดมองไปรอบๆ ภาพถ่ายทำหน้าที่แทนประสาทสัมผัสทางการมองเห็น เครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นส่งกลิ่นหอมอบอวลก็รับรู้จากการดมกลิ่นและลองชิมรสด้วยลิ้น หรือแม้กระทั่งการฟัง ที่นี่ก็ช่วยเปิดความคิดเราให้ไหลไปพร้อมกับการเสพผลงานภาพถ่ายราวกับเสพงานศิลปะชิ้นหนึ่ง และในช่วงเวลานั้น เราอาจได้ค้นพบความเงียบสงบ เพื่อฟังเสียงที่สะท้อนก้องในความคิดตัวเอง
เราเลยอยากแนะนำคนที่รักการถ่ายภาพทั้งมือใหม่มือเก่า หรือใครที่ชื่นชอบเสพงานภาพถ่ายจนกลายเป็นลมหายใจเข้าออกให้ลองแวะมาที่ Window Gallery and Café ดูสักครั้ง รับรองว่าต้องชอบที่นี่แน่นอน
เมื่อมีโอกาสก้าวเท้าแวะเวียนไปเยี่ยมเยียน Window Gallery and Café ได้ชื่นชมภาพถ่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ‘พี่เอ็กซ์-กึกก้อง ถิรธํารงเกียรติ’ สถาปนิกที่เอาจริงเอาจังกับสิ่งที่รักอย่างการถ่ายภาพ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างพื้นที่แห่งนี้ พี่เอ็กซ์บอกกับเราว่า “พอโตมาถึงจุดหนึ่ง ศิลปะมีความหมายกับชีวิตพี่นะ คือทุกคนก็คงมีอะไรที่มีความหมายกับชีวิตเหมือนกัน แต่สำหรับพี่การถ่ายภาพมันพาเราเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลย ซึ่งภาพแต่ละภาพกลายเป็นกระจกที่สะท้อนกลับมาให้เราเห็นว่าชีวิตเราผ่านอะไรมาบ้าง เราเรียนรู้และใช้ชีวิตมายังไง” เราคิดตามสิ่งที่พี่เอ็กซ์พูด เพราะเราเองก็เป็นคนชอบถ่ายภาพเหมือนกัน ซึ่งทุกครั้งที่ย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆ เรื่องราวในวันนั้นก็แฟลชแบ็กกลับมาอีกครั้ง
ระหว่างที่พูดคุยกัน เราไล่สายตามองกรอบรูปขนาดน้อยใหญ่ ก่อนพี่เอ็กซ์พูดเสริมขึ้นมาว่า
“อย่างภาพส่วนใหญ่ในหนังสือ Window Magazine ประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์พี่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มนะ เกรนหนักมากเลยใช่ไหม (ยิ้ม) ซึ่งในแกลเลอรีก็มีภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มเหมือนกัน เพราะพี่รู้สึกว่าฟิล์มมันมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล อาจจะเห็นเกรนบ้างแต่มันคือความไม่สมบูรณ์บางอย่างที่ส่งผลต่อความรู้สึก มันอาจจะไม่ได้สวยคมชัดเท่าภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิทัล แต่ไอ้จุดบกพร่องเราไม่ได้มองเป็นปัญหาเลย มันเป็นเสน่ห์มากกว่า” เราพยักหน้ารับอย่างเข้าใจด้วยความรู้สึกหลงรักภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มไม่ต่างจากพี่เอ็กซ์
รู้มาว่าที่ Window Gallery and Café มีวันพิเศษที่จะเปลี่ยนเป็นร้านขายหนังสือ Window Bookstore ซึ่งมีคอนเซปต์คูลๆ ว่า “ร้านหนังสือที่เปิดวันเดียว ขายหนังสือปกเดียว และเปลี่ยนปกใหม่ทุก 11 สัปดาห์” อัปเดตว่าตอนนี้มีสมาชิกใหม่เข้ามา กลายเป็นร้านหนังสือที่มี 2 ปกแล้วนะ ‘พี่ย้วย-นภษร ศรีวิลาศ’ เจ้าของแนวคิดนี้เล่าให้เราฟังอย่างตื่นเต้นว่า
“มันเป็นเรื่องที่เราประทับใจมากๆ ที่ร้านนี้เชื่อมโยงผู้คนให้เข้ามาหาเราได้ แถมยังสร้างมิตรภาพในแบบที่เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ จริงๆ จะเลือกสั่งหนังสือทางออนไลน์ก็ได้นะง่ายกว่าด้วย แต่ลูกค้าก็ตั้งใจมาให้กำลังใจ บอกเราว่าทำต่อไปนะมันดีจริงๆ บางคนแค่คิดว่าแวะมาทักทายแป๊บเดียวแต่ดันอยู่ถึงเย็นก็มี คือทุกวันเสาร์บรรยากาศที่นี่จะเป็นแบบนั้นแหละ (ยิ้ม)”
เราคิดว่าภาพถ่าย หนังสือ และเรื่องเล่าของ Window Gallery and Café เป็นอีกจุดหนึ่งพักใจในวันที่เหนื่อยล้า หากใครไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองแวะมาทักทายเพื่อนบ้านหลังนี้ที่ชื่อว่า Window Gallery and Café พร้อมเดินดูรูปภาพให้สบายใจแล้วลองนั่งจิบกาแฟอุ่นๆ หรือกินน้ำหวานเย็นฉ่ำสักแก้ว วันนั้นก็คงกลายเป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่งแล้วล่ะ
ป.ล. วันเสาร์ที่ 30 มกราคมนี้ Window Gallery and Café มีงานเปิดตัวหนังสือ Window Magazine เล่มที่ 2 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะได้สัมผัสเล่มนี้แบบใกล้ชิด ถ้าใครสนใจอย่าลืมแวะไปนะ
| Window Gallery and Café
เวลาเปิด-ปิด : อังคาร-เสาร์ 10:00 – 19:00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/windowgalleryandcafe/
| Window Bookstore
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์วันเดียวเท่านั้น 12:00 – 19:00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/windowbookstorebangkok/
ที่ตั้ง : 109 ซอยอินทามระ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 (สำหรับช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจจะมีปรับเปลี่ยนเวลาการเปิด-ปิด)