Writer
benz
Social Addict ที่สนใจสไตล์จากตัวตนมากกว่าแฟชั่นตามกระแส อินสไปเรชั่นส่วนใหญ่ได้จากหนัง เพลง และงานศิลปะ ชอบชีวิตในเมืองพอๆกับเที่ยวธรรมชาติ
ในยุคที่ใครๆ บ่นว่าการ์ตูนแพง อยากอ่าน Sakamoto Days ก็ปาไปเล่มละ 300 บาท จะซื้อเล่มเดียวก็พาจะขาดตอน แถมร้านเช่าการ์ตูนก็ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา House of Bean Book Cafe เป็นหนึ่งในร้านเช่าการ์ตูนเก่าที่ปรับตัวมาเป็นคาเฟ่แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของหนังสือการ์ตูน ที่ทางร้านได้เก็บสะสมมังงะเก่าๆ กว่า 80,000 เล่มเอาไว้อย่างดี ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในซอยเสนานิคม 42 ย่านลาดพร้าว บรรยากาศภายในร้านอบอุ่นและเป็นกันเอง สองข้างของร้านขนาบด้วยชั้นหนังสือไม้ที่มีหนังสือการ์ตูนหลากหลายสไตล์วางไว้ พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และของตกแต่งน่ารักๆ ที่เข้ากับเหล่าการ์ตูน นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเมล็ดกาแฟดีๆ ที่ได้รับรางวัล 2 ปี จากทั้งออสเตรเลียและเยอรมนีให้เลือกสรร ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและรสชาติไม่ซับซ้อนจนเกินไป หรือใครไม่ใช่คอกาแฟก็มีเมนูอื่นๆ อย่างมัตฉะให้ชิมกันด้วยนะ ใครอยากจิบกาแฟอร่อยๆ และตามหาการ์ตูนที่อยากอ่านหรือมังงะเก่าๆ ที่อาจลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเคยชอบเรื่องนี้มากๆ ไปกันได้ที่ House of Bean Book Cafe ซอยเสนานิคม 42 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.30 – 18.00 น. […]
เชื่อว่าหลายๆ คนรวมไปถึงศิลปินแขนงต่างๆ ล้วนมีไอเดียมากมายที่อยากพัฒนาพื้นที่ หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลักดันให้คนทั่วไปค้นพบความน่าสนใจในย่านต่างๆ ทว่าติดตรงที่ต้องมีทุนต่อยอดให้ภาพในหัวเกิดขึ้นจริงให้ได้ British Council คือหนึ่งในองค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทางศิลปะหรือความคิดสร้างสรรค์ จึงก่อตั้งทุนความร่วมมือทางวัฒนธรรมหรือ Connections Through Culture เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทักษะ ความรู้ หรือการร่วมผลิตผลงาน โดยทุนนี้มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ระหว่างเอเชีย-แปซิฟิก และสหราชอาณาจักร ซึ่งทางองค์กรเชื่อว่า ความร่วมมือข้ามพรมแดนในสาขาศิลปะต่างๆ จะนำไปสู่ความคิดและแนวทางใหม่ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลก ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือที่เกิดขึ้นยังเป็นส่วนช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างศิลปิน นักปฏิบัติด้านสร้างสรรค์ และองค์กรทางศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ จากสหราชอาณาจักรและประเทศไทย ในปีนี้เอง เราจะได้ชมและเข้าร่วมกิจกรรมสนุกๆ ของโปรเจกต์ Street Wise ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับทุน Connections Through Culture 2024 และจัดแสดงในเทศกาล Bangkok Design Week 2025 ที่งาน ‘Bangkok Flower Market Festival’ ย่านปากคลองตลาด และย่านบางลำพูกับงาน ‘Bang Lamphu Festival’ ที่ New World […]
งานวัดที่มีแสงสีสวยงามเป็นมากกว่ากิจกรรมบันเทิง เนื่องจากสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม ศาสนา และวิถีชีวิตของคนในชุมชน ยามค่ำคืนที่สว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสีไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการเฉลิมฉลองชีวิต แสงไฟจากโคมและเครื่องเล่นต่างๆ เป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง และความปรารถนาที่จะนำความสว่างเข้ามาสู่ชีวิต แม้ในยามที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย ในขณะเดียวกัน งานวัดยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงมิติทางศาสนาและวัฒนธรรม การทำบุญ ไหว้พระ และพิธีกรรมทางศาสนาที่เกิดขึ้นภายในงาน คือการสานต่อความศรัทธาและประเพณีที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน การผสมผสานระหว่างความเชื่อทางจิตวิญญาณกับความบันเทิงทางโลกร่วมสร้างสมดุลที่ลงตัว ซึ่งบ่งบอกถึงความลึกซึ้งของชีวิตที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ แสงสีจากงานวัดจึงไม่ได้เป็นเพียงการตกแต่งเพื่อความงดงาม แต่ยังเป็นเครื่องหมายของการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็นที่ที่คนในชุมชนมารวมตัวกัน แลกเปลี่ยนความสุข ความหวัง และการสะท้อนถึงความหมายของชีวิต ติดตามผลงานของ ภาสกร บรรดาศักดิ์ ต่อได้ที่ Facebook : Phatsakorn Bundasak Instagram : @dave_street_photo หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ชาว Urban Creature ได้มีโอกาสร่วม ‘Trip มองแมวจรในโลกเมือง’ หนึ่งในกิจกรรมจาก ‘มิวเซียมสยาม’ ใน Activity Series ‘ส่องสรรพในประวัติศาสตร์ ว่าด้วยนานาสัตว์’ เรื่อง แมวในมุมมอง กิจกรรมนี้ต้องการบอกเล่าเรื่องของน้องเหมียว สัตว์เลี้ยงที่ครองใจมนุษย์มาแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน จากเดิมที่แมวเคยได้รับการสักการะในฐานะเทพเจ้า กลายมาเป็นแมวจรในสังคมเมืองปัจจุบัน ซึ่งในกรุงเทพฯ แมวยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม และเพิ่มจำนวนขึ้นมากจนก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา ทำให้เกิดแคมเปญรณรงค์ ‘คิดก่อนเลี้ยง ดูแลจนตาย’ ซึ่งมิวเซียมสยามมองว่าการให้ความรู้ในแง่ประวัติศาสตร์แมวในสังคมไทย ความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของแมว และปลูกฝังความรับผิดชอบของผู้เลี้ยง อาจช่วยลดปัญหาเรื่องแมวจรจากสังคมไทยในอนาคตได้ ใน Trip มองแมวจรในโลกเมือง เราได้ ‘พระมหานรินทร์’ ผู้ดูแลระบบจัดการแมวในวัดพระเชตุพนฯ มาเป็นวิทยากรบอกเล่าถึงระบบการจัดการแมวจรที่มาอาศัยอยู่ในวัด ให้พื้นที่ธรรมเป็นพื้นที่ปลอดภัย มนุษย์และแมวอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข พร้อมชี้ชวนให้ดูแมวที่อาศัยอยู่ภายในวัดไปตลอดทาง พระมหานรินทร์เล่าว่า ในอดีตทางวัดเองก็มีความพยายามจัดการแมวโดยเรียกให้เจ้าหน้าที่เทศบาลของกรุงเทพฯ มาจับไปอยู่เหมือนกัน แต่ต่อให้จับไปเท่าไหร่สุดท้ายแมวก็กลับมาอยู่ดี อีกทั้งกระบวนการจับยังเป็นที่น่าหดหู่ใจสำหรับท่าน ด้วยเหตุนี้ ในช่วงปี 2557 – 2558 พระมหานรินทร์จึงตั้งใจดูแลแมวภายในวัดเอง ด้วยการควักเงินส่วนตัวในการดูแล ตั้งแต่ซื้ออาหาร จัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็น ดูแลพยาบาล […]