นอกจากหมูย่างชื่อดังและวิวทะเลสวยสะกดสายตา ‘ตรัง’ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์เหลือล้นและของดีหลายอย่างที่รอให้เราไปเจอ หนึ่งในนั้นคือ ‘ผ้าทอนาหมื่นศรี’ ภูมิปัญญาอายุกว่า 200 ปีจากชาวบ้านตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง ที่ถูกสืบสานและส่งต่อมาถึงปัจจุบัน
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือหลายปีที่ผ่านมา ผ้าทอนาหมื่นศรีคือของดีเมืองตรังที่สร้างรายได้กระจายสู่คนในชุมชนมากกว่า 56 ล้านบาทใน 155 ครัวเรือน โดยมีแรงผลักดันสำคัญคือกลุ่มเซ็นทรัลและโครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ’ ที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งนอกจากจะช่วยออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรีให้มีดีไซน์ที่เข้าถึงคนได้มากขึ้น นอกจากนี้ เซ็นทรัล ทำ ยังริเริ่ม ‘โครงการท่องเที่ยวชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี’ เพื่อเชิญชวนให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวไปรู้จักกับประวัติศาสตร์ เรียนรู้คุณค่าของวัฒนธรรมที่คนในชุมชนส่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่โครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ’ ผลักดันชุมชนนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง และชาวบ้านด้วยการลงพื้นที่ไปสร้างอาชีพ และส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องที่ให้ยั่งยืน โดยหนึ่งในโครงการที่เซ็นทรัล ทำ ได้ลงมือผลักดันอย่างจริงจังคือ ‘โครงการศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี’ โปรเจกต์ที่เห็นความสำคัญในการสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่มีมากว่า 200 ปีของชาวบ้านนาหมื่นศรี
นอกจากเปิดศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเพื่อส่งต่อวิถีเกษตรหัตถกรรมผ้าทอมือโบราณไปสู่คนรุ่นหลัง เซ็นทรัล ทำ ยังริเริ่ม ‘โครงการท่องเที่ยวชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี’ ที่จะเปลี่ยนศูนย์การเรียนรู้แบบเดิมๆ ในภาพจำของทุกคนให้เข้าถึงได้ง่าย ผ่านกิจกรรมอย่างการจัดทำเส้นทางจักรยานท่องเที่ยวชุมชน, จัดอบรมมัคคุเทศก์ให้คนในท้องถิ่น รวมไปถึงการช่วยออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรีให้ป็อปและเข้าถึงคนหมู่มาก จนสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนกว่า 56 ล้านบาทใน 155 ครัวเรือนเลยทีเดียว
โครงการท่องเที่ยวชุมชน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ 4 อย่าง อย่างแรกคือตัวอาคารศูนย์การเรียนรู้ที่จะเป็นศูนย์กลางในการบันทึกเรื่องราวของผ้าทอในตำนานของชาวบ้านชุมชนนาหมื่นศรีไว้ โดยออกแบบภายใต้แนวคิด ‘อยู่กับผ้า’ อาคารที่เรามองเห็นนี้จึงมีโครงสร้างที่เปิดโล่ง เรียบง่าย และไม่ทำลายทัศนียภาพของชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุไม้เป็นหลักและใช้ผ้าทอนาหมื่นศรีมาตกแต่งรอบๆ อาคารด้วย
จุดเช็กอินที่ 2 ของเราคือ ‘พิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี’ ซึ่งรีโนเวตมาจากโรงผ้าเดิมในปี 2557 และถูกปรับปรุงอีกครั้งในปี 2561 ที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด ‘สืบโยด สาวย่าน (การสืบสาวเรื่องราวผ้าทอ)’ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใช้รวบรวมลายผ้าและผ้าทอโบราณไม่ให้สูญหาย ทั้งลายดั้งเดิมอย่างลายลูกแก้ว ลายราชวัตร และลายแก้วชิงดวง พูดง่ายๆ คือเป็นแลนด์มาร์กที่เอื้อให้ลูกหลานของคนในชุมชนได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และคุณค่าของมรดกที่บรรพบุรุษริเริ่มมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั่นเอง
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังสนับสนุนให้เยาวชนในชุมชนได้มีส่วนร่วมด้วยการเป็นมัคคุเทศก์ ผู้พานักท่องเที่ยวไปสำรวจเรื่องราวของลายผ้าต่างๆ และการแต่งกายของคนยุคปู่ย่า-ตายายอีกด้วย
จุดต่อมาคือ ‘ร้านค้าวิสาหกิจชุมชนนาหมื่นศรี’ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของอาคารพิพิธภัณฑ์ และมีการออกแบบร้านค้าให้เชื่อมโยงต่อเนื่องกัน ข้างในร้านจำหน่ายสินค้างานฝีมือที่ชาวบ้านกับกลุ่มเซ็นทรัลได้ออกแบบและพัฒนาร่วมกัน อย่างผ้าทอ กระเป๋า เสื้อ หมวก ผ้าคลุมไหล่ ฯลฯ ภายใต้แบรนด์ชื่อ Good Goods มากกว่านั้น ยังให้ความรู้เรื่องการจัดการสต็อก การจัดหน้าร้าน การออกแบบผลิตภัณฑ์ บัญชี การคิดต้นทุน และการขายออนไลน์ให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
และโครงการท่องเที่ยวชุมชนแห่งนี้จะเรียกตัวเองว่าโครงการท่องเที่ยวไม่ได้เลย หากขาด ‘เส้นทางจักรยานท่องเที่ยวชุมชน’ ที่เซ็นทรัล ทำ ได้ช่วยออกแบบเส้นทาง ทำป้ายข้อมูล พร้อมจัดจักรยานให้นักท่องเที่ยวเช่าบริการด้วย
พ้นไปจากโมเดลพัฒนาชุมชนที่ทำกับชาวบ้านนาหมื่นศรี กลุ่มเซ็นทรัลยังได้สนับสนุนและผลักดันการศึกษาของเด็กๆ และสร้างงานสร้างอาชีพให้ชาวบ้านจังหวัดตรัง เช่น การเข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนากับกระทรวงศึกษาธิการ มอบทุนการศึกษาให้สถานศึกษาในโครงการ, ส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาเส้นใยผ้าให้วิสาหกิจชุมชน หรือจะเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพให้กับคนพิการในจังหวัดตรังกับโครงการ ‘เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่เพื่อการจำหน่าย’ ให้คนพิการสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้
โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะสะท้อนความตั้งใจในการสืบสานวัฒนธรรมของกลุ่มเซ็นทรัล แต่ยังสะท้อนให้เห็นการผลักดันการพัฒนาท้องถิ่นด้วยการมอบความรู้และโอกาส สิ่งนี้แหละคือคีย์สำคัญของการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างเศรษฐกิจระดับประเทศที่แข็งแรงต่อไป