การผลิตเส้นด้ายแต่ละครั้ง นอกจากจะได้วัตถุดิบหลักนำไปถักทอเสื้อผ้าแล้ว ระหว่างทางยังเกิดขยะจากเศษด้ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งขยะที่ได้มานั้นสามารถนำไปสร้างมูลค่า รวมถึงนำกลับไปทำเสื้อผ้าได้อีกครั้งจากการรีไซเคิล ผ่านกระบวนการย้อนกลับจากการนำเศษด้ายมาเปลี่ยนให้เป็นเส้นใยฝ้ายแทน
ทีม Urban Creature ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเส้นด้ายของ ‘กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์’ และทำความรู้จักเทคโนโลยี ‘Loopme’ ที่เป็นการนำเศษผ้าฝ้ายที่เหลือจากกระบวนการผลิตมารีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ผลิตเป็นผ้าใหม่อีกครั้ง นับเป็นวิธีการลดขยะจากอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วย
เปลี่ยนขยะให้กลับมาเป็นเส้นใย
Loopme เริ่มต้นจากโครงการที่ทางบริษัทสนับสนุนให้พนักงานสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเอง โดย ‘อี๋-พิชัย สุวรรณทอง’ Technical Center Division Manager ‘หนึ่ง-ภัคพงศ์ ท้าวเพชร’ Technical Center Department Manager และทีม Technical Center ได้ร่วมกันคิดค้นเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาจากการเห็น Yarn Waste หรือเศษด้ายที่เกิดจากการผลิตเส้นด้าย ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้ของเหลือทิ้งเหล่านี้กลับมาเป็นเส้นใยฝ้ายเพื่อนำไปใช้ใหม่ได้



ในเส้นทางการผลิตเส้นด้าย วัตถุดิบที่ใช้คือฝ้ายดิบที่จะผ่านกระบวนการปั่นด้ายประมาณ 8 – 13 ขั้นตอน กว่าจะได้เป็นเส้นด้ายที่ส่งต่อไปยังกระบวนการทอผ้าต่อไป ซึ่งในกระบวนการทำเส้นด้ายที่มีความซับซ้อนแบบนี้ย่อมตามมาด้วยการเกิดของเสียจากกระบวนการผลิตอยู่แล้ว
เหตุผลเพราะกว่าจะได้ด้ายแต่ละหลอดที่จะนำไปใช้งานจริงนั้น ต้องผ่านกระบวนการตัดต่อจากเทคโนโลยีที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพเส้นด้ายในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งหากเจอส่วนของเส้นด้ายที่ไม่ได้คุณภาพก็จะตัดส่วนเหล่านั้นออก เพื่อให้ได้เส้นด้ายคุณภาพดีที่สุด และแม้ว่าในการตัดทิ้งแต่ละครั้งจะได้เศษด้ายความยาวเพียงหนึ่งคืบ ทว่าเมื่อรวมกันก็ทำให้เกิดเป็นขยะปริมาณมหาศาล

นวัตกรรมที่ทำให้ขยะน้อยลง และเพิ่มวัตถุดิบทำด้ายให้มากขึ้น
พี่อี๋เล่าให้เราฟังว่า ก่อนหน้าที่จะพบว่าเส้นด้ายสามารถกลายสภาพกลับไปเป็นเส้นใยได้อีกครั้งนั้น ขยะเศษด้ายเหล่านี้จะถูกรวบรวมและส่งต่อไปขายให้ธุรกิจที่ทำไส้ตุ๊กตา แต่เมื่อสมาชิกของทีมค้นพบวิธีการที่จะเปลี่ยนเส้นด้ายให้กลับมาเป็นเส้นใยเพื่อนำกลับไปใช้งานภายในอุตสาหกรรมเอง ทำให้ทางทีมเริ่มศึกษาและพัฒนานวัตกรรม Loopme ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนข้อดีของการนำเศษด้ายมาแปรรูปคืนนั้นคือ ทำให้มั่นใจได้ว่าเส้นใยรีไซเคิลที่ได้กลับมาเป็นฝ้ายทั้งหมดจริงๆ ไม่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบอื่นๆ นอกจากนี้ พี่อี๋ยังเสริมว่า กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ผลิตเส้นด้ายคิดเป็นปีละประมาณ 200 ตัน หากนำของเสียที่เกิดจากการผลิตจำนวนนี้กลับมาทำเสื้อรีไซเคิลจะลดขยะสิ่งทอได้เป็นจำนวนมาก คิดคร่าวๆ แล้ว ปริมาณเส้นใยฝ้าย 1 กิโลกรัมที่ได้คืนมานั้นทำเสื้อได้ถึง 4 ตัวเลยทีเดียว
จากเศษด้ายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน สู่ส่วนผสมของเสื้อผ้ารีไซเคิล
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น พี่หนึ่งพาเราไปดูกระบวนการปั่นด้ายตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่เริ่มจากการคัดฝ้ายที่ใช้งานได้จากฝ้ายอัดก้อน ก่อนส่งไปยังขั้นตอนต่อๆ ไป จนถึงกระบวนการสุดท้ายอย่างการตรวจสอบคุณภาพด้ายและคัดเศษด้ายที่ไม่ได้มาตรฐานทิ้ง
เสร็จสิ้นแล้วจึงนำเศษด้ายเหล่านั้นกลับไปเข้ากระบวนการเปลี่ยนเศษด้ายให้กลับมาเป็นเส้นใยฝ้าย ก่อนจะนำเส้นใยรีไซเคิลที่ได้ไปอัดก้อนแล้วกลับเข้าสู่กระบวนการปั่นด้าย และนำไปผสมกับฝ้ายใหม่ในการผลิตเส้นด้ายอีกครั้งเพื่อทำให้เส้นด้ายแข็งแรง เมื่อนำไปผลิตเป็นเสื้อก็จะได้เสื้อที่มีคุณภาพ ใส่สบาย ไม่ร้อน พร้อมทุกการใช้งาน
นวัตกรรม Loopme ไม่เพียงช่วยให้บริษัทลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มมูลค่าให้กับเศษด้ายเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสิ่งแวดล้อมจากการลดขยะ ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้น้ำในการปลูกฝ้าย เนื่องจากฝ้ายเป็นพืชที่ใช้น้ำเยอะ รวมถึงยังเป็นการลดการใช้ยาฆ่าแมลงจากการปลูกฝ้ายอีกด้วย





