ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว บางครั้งก็ทำให้เราหวนคิดถึงช่วงเวลาอันหอมหวานในอดีต การอัดเพลงมิกซ์เทปลงคาสเซ็ตต์ส่งให้คนที่แอบรัก คงเป็นโมเมนต์ที่เด็ก 90s หลายคนคิดถึง หรือหากย้อนกลับไปอีก เราคงนึกถึงห้วงเวลาของการบรรจงวางเข็มลงบนแผ่นเสียง แล้วนั่งละเมียดไปกับโมงยามแห่งความโรแมนติก
ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วแค่ไหน เพลงก็ยังเป็นภาษาสากล และคลาสสิคเหนือกาลเวลา ทั้งยังเชื่อมความสัมพันธ์ของคนต่างวัยต่างเจเนอเรชัน อย่างสองพ่อลูกหัวใจ 70s ที่คั่นจังหวะเพลงด้วยบทสนทนาที่ต่อยอดได้ไม่รู้จบ แล้วบอกรักกันด้วยบทเพลงที่มีความหมายลึกซึ้ง
เราแวะเวียนไปหา “พี่พลอย” เจ้าของร้านแผ่นเสียง “Track Addict Records” กันที่ย่านพระโขนง ซึ่งเรารู้มาว่าพี่พลอยเพิ่งเปิดบาร์แจ๊สแห่งใหม่บนดาดฟ้าย่านสะพานควายชื่อ “Dumbo” เราชวนพี่พลอยมานั่งคุยกับคุณพ่อ ย้อนรำลึกความหลังกลับไปในวัยเด็ก ที่พี่พลอยฟังเพลงกับคุณพ่อมาตั้งแต่จำความได้ และยังคงแชร์โมเมนต์ รวมถึงความทรงจำดีๆ ผ่านการนั่งฟังแผ่นเสียงด้วยกันทุกวัน
| ดนตรีในยุคของพ่อ
คุณพ่อ : ตอนนั้นพ่อเรียนวิทยาลัยการโรงแรม ก็รวมตัวกับเพื่อนๆ ตั้งเป็นวงขึ้นมา พ่อเป็นมือกลอง ก็รับจ๊อบเล่นตามปาร์ตี้หรืองานของโรงเรียน สมัยก่อนวงเฮฟวี่เมทัล มีบทบาทกับวัยรุ่นในยุคนั้นมาก พ่อก็จะเล่นแนวดนตรีหนักๆ หรือถ้าแนวที่พอเต้นรำได้ พ่อก็เลือกเพลงของ Creedence Clearwater Revival หรือ CCR บรรยากาศของวัยรุ่นในยุคพ่อ ประมาณปี 2517 – 2527 ก็จะได้อิทธิพลเพลงร็อคจากฝั่งอเมริกันมาก ต่อมาก็มีวง The Impossible วัยรุ่นจึงเริ่มหันมาฟังเพลงไทย หลังจากนั้นก็เป็นวง Grand Ex’ แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ฟังเพลงสากลยุค 60s – 70s อยู่
| เพลงแรกที่เปิดให้ลูกสาวฟัง
คุณพ่อ : เมื่อก่อนพ่ออยู่เกาะสมุย เวลามาอยู่กับลูกเราก็จะเปิดเพลงอเมริกัน เขาก็ซึมซับจากเสียงเพลงที่พ่อเปิด ไปไหนกับลูกพ่อก็เปิดเพลงสากลพวกนี้ ตอนนั้นที่บ้านก็มีพวกเทปม้วน เป็นเทปตลับเหมือนคาสเซ็ตต์แต่มันจะใหญ่ คล้ายๆ เทปวิดีโอ
พี่พลอย : ส่วนมากพ่อจะเปิดแนวร็อค เท่าที่จำความได้ก็มี Have You Ever Seen The Rain ของ CCR
คุณพ่อ : ไม่ก็พวก Grand Funk Railroad กับ Uriah Heep
พี่พลอย : จะมีเบาๆ บ้าง พวก Ray Charles – Hit The Road Jack พลอยชอบ Ray Charles มาก ฟังเพลงนี้ครั้งแรกจากพ่อก็ชอบศิลปินตาบอดคนนี้มาตลอด มีรูปติดที่ร้านเลย ชอบมาก
คุณพ่อ : Ray Charles เป็นศิลปินตาบอดที่อัจฉริยะทางดนตรี มีภาพยนตร์อยู่เรื่องหนึ่ง ชื่อ The Blue Brothers มี John Belushi กับ Dan Aykroyd เล่น เขาจะรวบรวมศิลปินดีๆ ลองไปหาดูได้ น่าดูมาก
| ความทรงจำวัยเด็กที่ประทับใจ
พี่พลอย : นั่งรถไปด้วยกัน พ่อเปิดเพลงให้ฟังก็มีความสุขแล้ว เด็กๆ ก็จะชอบถามพ่อว่า เพลงนี้เพลงอะไร ของ LOBO ชื่อเพลงอะไรนะ
คุณพ่อ : I’d Love You To Want Me
พี่พลอย : คือเพลงมันเพราะมาก พี่เลยซึมซับความเป็น 70s มาตั้งแต่เด็ก โตมาถึงปัจจุบัน พี่ก็ไม่ฟังเพลงยุคใหม่ เราไม่ได้ปิดกั้นนะ แต่เราพอใจกับสิ่งที่เราฟังอยู่แล้ว
“ความเป็น ’70 มันอยู่ในสายเลือด พี่คิดว่าเป็นเพลงที่ดีที่สุด ถ้าพี่มีลูกมีหลาน พี่ก็จะให้เขาฟังเพลงพวกนี้เหมือนกัน”
| หลงใหลในโลกเพลงยุคเก่า
พี่พลอย : ตอนที่อยู่นิวยอร์ก เพื่อนพาพี่ไปบาร์แจ๊สครั้งแรกแล้วชอบเลย เราก็ไปหาแผ่นฟังและก็เก็บแผ่นเพลงแจ๊สมาเรื่อยๆ ปกติพี่จะฟังเพลงป๊อปยุค 70s พวก ABBA, The Carpenter อยู่แล้ว พอมาฟังแจ๊ส ปีมันก็จะลึกลงไปอีก กลายเป็นคนชอบฟังเพลงแจ๊สยุคเก่าๆ 20s – 30s อย่าง Benny Goodman
คุณพ่อ : จริงๆ พ่อก็ฟังทุกแนว สมัยก่อนพ่อเล่นเพลงหนักๆ แต่เวลาอยากฟังอะไรเย็นๆ ก็ฟังพวก Helen Reddy หรือคันทรีเบาๆ อย่าง John Denver, Alabama
ศิลปินยุคใหม่จะสู้ศิลปินยุคเก่าๆ ไม่ได้ สมัยนี้ความสามารถเฉพาะตัวของนักดนตรีแบบ 100% เลยจะมีน้อย จะมีแบ็คอัพหรือโปรดิวเซอร์ช่วย สมัยก่อนไม่ใช่นะ เขาเก่งด้วยตัวของเขาเอง ถามว่าศิลปินยุคเก่าทำไมถึงเป็นอมตะ Jimi Hendrix, Ritchie Blackmore, Pink Floyd เราหาอัจฉริยะทางดนตรีแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว
“สมัยนี้ก็มีวงดีๆ เยอะ แต่วงทุกวันนี้ก็ต้องลอกเลียนมาจากยุค ’70 อยากเล่นกีต้าร์ก็ต้องไปหาแผ่นของ Jimi Hendrix หรือ Jeff Beck”
พี่พลอย : ทุกวันนี้พี่ก็ฟัง 70s ตั้งแต่เด็กจนโต พี่ไม่มีแผ่น 90s ขายในร้านเลย ร้านพี่ขายแต่มือสอง แล้วก็เป็นยุค 70s ลงมา 80s ยังแทบไม่มีเลย พี่เกิด 1984 นะ แต่ในยุค 80s พี่ยังเด็ก พอโตมามันเป็นยุค 90s ก็ฟังพวก Backstreet Boy แต่มันมาแล้วก็ไป ไม่ได้อยู่ในความทรงจำเหมือนเพลงที่พ่อเปิดให้ฟัง
| เสน่ห์ของแผ่นเสียง
พี่พลอย : กลิ่นของซองเก่าๆ และเสียงที่มีนอยส์นิดๆ เพราะแผ่นเสียงมันเป็นอะนาล็อก เพลงยุคใหม่ด้วยความเป็นดิจิทัล ทุกอย่างมันสำเร็จมาหมดแล้ว แต่ในยุค 70s มันต้องมีความพยายามในการแยกเสียงดนตรี เวลาเราฟังมันจะฟิน
เราโตมากับอะนาล็อก โตมากับแผ่นเสียงตั้งแต่เด็ก เทป ซีดี แล้วกลับมาหาแผ่นเสียงอีก มันเหมือนวัฎจักร ทุกวันนี้ทุกคนย้อนหาอดีต สมัยนี้คนฟังเพลงง่ายมากเลย แค่เปิดโทรศัพท์ก็ฟังได้ แต่สำหรับพี่ เราชอบที่จะต้องมากดสต็อป ยกเข็ม แล้วก็วางเข็มใหม่เวลาหมดหน้า
“เราชอบให้มันเว้นช่วงเดดแอร์แป๊บนึง แล้วมันต้องเป็นมือคนที่มาลงแทร็ก การวางเข็ม หรือการได้สัมผัสมันมีเสน่ห์”
| ดนตรีสานสัมพันธ์ใกล้ชิด
คุณพ่อ : เพลงมันมีความหมายในตัว เราอยากให้พลอยสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ก็ให้ฟังเพลงสากลบ่อยๆ แล้วก็ให้ลูกพยายามเข้าใจความหมาย เข้าใจในเนื้อเพลง
พี่พลอย : พี่จะรู้สึกฟินมาก เวลาได้แผ่นเสียงมาแล้วพ่อบอกว่า เฮ้ย แผ่นนี้เคยฟังกับพลอยตอนเด็กๆ เราก็เปิดฟังด้วยกัน มันเป็นเพลงจากตอนเราเด็กๆ ที่เราฟังกับพ่อ พลอยมีแผ่นฟังกับพ่อแล้วนะ
“มันฟีลกู้ดมากเลย ยิ่งเวลาเจอหลายๆ แผ่นพ่อก็จะ โห มีแผ่นนี้ด้วยหรอ เราก็จริงหรอพ่อไหนเปิดซิ อ๋อ เพลงนี้เองที่ฟังตอนเด็กๆ”
คุณพ่อ : พอเปิดร้านแล้วก็เริ่มได้แผ่นมา พ่อมานั่งไล่ดูทุกแผ่นเลยนะ พอเลือกแผ่นนี้มาเปิดความทรงจำก็ย้อนกลับมา เอ้อ เราเคยฟังหนิ พอได้กลับมาฟังอีกทีมันห่างมาตั้ง 10-15 ปีเลยนะ
| โมเมนต์พ่อลูกที่ทำร่วมกันบ่อยที่สุด
พี่พลอย : พี่อยู่ร้านมากกว่าการนอนอยู่ที่บ้านอีก (หัวเราะ) อยู่ร้านตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น แล้วไปร้าน Dumbo ต่อ พ่อเข้ามาที่ร้าน 10 โมงก็ฟังเพลงกับพ่อแล้ว ชีวิตก็จะมีอยู่แค่นี้ทุกวัน
คุณพ่อ : พ่อก็จะทำงานข้างบนชั้นสองบ้าง ส่วนมาก ว่างๆ ก็ลงมาอยู่กับลูกข้างล่าง
พี่พลอย : จริงๆ ก็ไม่ค่อยไปไหนกันนะ ส่วนมากก็จะอยู่ที่ร้านนี่แหละ นานๆ ก็ไปกินข้าวกัน ปกติเสาร์ – อาทิตย์ พี่ไม่ว่าง พ่อก็จะเข้าร้านให้เลย บอกพี่ไม่ต้องเข้า เขาก็ดูร้านให้ ก็แฮปปี้เนอะ คนแก่ได้ฟังเพลงทั้งวัน
| มองคุณพ่อเป็นไอดอล
พี่พลอย : ก็เป็นเรื่องทัศนคติของพ่อ พ่อจะสอนให้พลอยคิดบวกเสมอ จะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ พ่อจะบอกว่าใจเย็นลูก เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ ทุกปัญหามีทางออก พี่เลยเป็นคนคิดบวก พ่อจะไม่มีทัศนคติที่ลบ หรือทำให้เราท้อแท้ เราเลยคิดว่าถ้าวันนึงเป็นพ่อเป็นแม่คน ก็จะเอาตัวอย่างจากพ่อมาใช้
พอเราคิดดีมันก็ไม่ค่อยมีอะไรแย่ๆ เข้ามาหาเรา ถึงแม้วันนึงเราเจอปัญหา อย่างแผ่นเสียงมันติดค้างอยู่ในคัสตอมนานมาก ประมาณ 3 เดือน ไม่มีแผ่นขายจะทำยังไงดี ถ้าเรามัวแต่คิดว่าแย่แน่ๆ ร้านมันก็ไปต่อไม่ได้ เราเลยลองไปหาพวกพี่ๆ ในวงการแผ่นเสียงซึ่งใจดีทุกคน เพราะเราอยู่ในวงการเดียวกัน อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็ช่วย พี่คิดแบบนี้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเริ่มต้นหนึ่งได้เสมอ มันไม่ใช่การถอยหลังกลับ
แม้กระทั่งการทำธุรกิจ พ่อบอกเสมอว่าอย่าเอาเปรียบผู้บริโภค แผ่นทุกแผ่นที่ซื้อมา ต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้า ต้องบอกลูกค้าว่า แผ่นนี้สะดุดตรงนี้นะคะ พ่อพี่จะฟังทุกแผ่นแล้วจะเขียนให้เลยว่าแผ่นนี้สะดุด พลอยอย่าโกหกลูกค้านะ จะได้เงินมามากแค่ไหน แต่การโกหกลูกค้า เราจะไม่ลูกค้าคนนั้นกลับมาอีกเลย พอเรามีความจริงใจให้ลูกค้า เราก็จะได้ความจริงใจตอบกลับมา แม้จะบอกว่าแผ่นนี้เป็นรอยนะ บางคนก็ซื้อกลับไป เพราะเขาเห็นคุณค่าของมัน มันมานานมากแล้วเนอะ 40-50 ปี ออรินัลทั้งนั้น อายุมากกว่าพ่อพี่ด้วยซ้ำ
| อะไรในตัวลูกสาวที่คุณพ่อภูมิใจที่สุด
คุณพ่อ : เขาเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง เป็นคนที่ทำอะไรด้วยตัวเขาเอง ตัดสินใจได้แน่วแน่ เป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ มีความคิดตลอดในการที่จะทำอะไรออกมา พ่อก็เลยภูมิใจในส่วนนี้ของลูก เขาเป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่ง พ่อก็พยายามให้กำลังใจลูกเสมอ มีอะไรที่มันบกพร่อง ผิดพลาด เราก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร เราเริ่มต้นกันใหม่ ทำในสิ่งที่ดี สอนเขาตลอดว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจเนี่ย เราต้องให้เยอะๆ แล้วเราจะได้ตอบรับมาในทางที่ดี เราทำแบบนี้ ไม่ต้องไปจ้างโฆษณาเลย มันเป็นการบอกกันแบบปากต่อปาก
พี่พลอย : Dumbo นี่ถือว่าประสบความสำเร็จมากเลยนะ สายป่านส่วนหนึ่งก็มาจาก Track Addict ด้วยเพราะพี่เปิดบาร์แจ๊ส ลูกค้าที่ซื้อแผ่นแจ๊สกับพี่ก็ไปกันทุกคน พี่รู้สึกภูมิใจมากเลยนะ เราแฮปปี้กับทั้งร้านนี้และร้านใหม่ ทำอะไรก็รู้สึกดี มันเลยมีแรงในการทำงาน ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่า อ๋อ วันนี้เราจะไปฟังแผ่นเสียง แล้วตอนเย็นเดี๋ยวไปฟังแจ๊สเล่นสดทุกวัน เพราะเราชอบเพลงแจ๊สก็เลยหาวงมาฟังเอง ชอบเพลงไหนก็ขอ บอกว่าเจ้าของร้านขอ (หัวเราะ)
| หนึ่งเพลงให้กันและกัน
พี่พลอย : Close To You ของ The Carpenter ให้พ่อแล้วกัน อะพ่อให้หนูซักเพลงนึงซิ
คุณพ่อ : Can’t I Help Falling In Love ของ Elvis Presley