‘เด็กมือบอน’ คำสบประมาทในวัยเด็กผลักดันให้เขาเป็นศิลปิน เบื้องหลังงานปกอัลบั้มของ ‘Skegss’ วงร็อกขวัญใจวัยรุ่นชาวออสซี่ที่มีฐานแฟนเพลงทั่วโลก
ชื่อของเขาคือ ‘Jack Irvine’ เจ้าของลายเส้นยึกยือ สีสันสนุกสนาน และความยียวนกวนประสาท เด็กหนุ่มผู้เติบโตในเมืองเล็กๆ Cronulla ชายฝั่งซิดนีย์ที่ทุกคนคลั่งไคล้การเล่นเซิร์ฟ จุดประกายการเป็นศิลปินจากรายการ MTV และเคยประกวดระบายสีกับร้านเช่าวิดีโอแถวบ้าน Video Ezy เขาในวัย 28 ปี ยังคงสนุกกับการทำงานศิลปะที่เราสัมผัสถึงได้พลังบวกในผลงานของเขา
หากคุณเป็นแฟนวง Skegss คงคุ้นเคยกับปกอัลบั้ม โปสเตอร์ ไปจนถึงเสื้อวงและไอเท็มเท่ๆ หรือใครแค่รู้สึกสะดุดตากับสีสันสนุกๆ ลองมาทำความรู้จักกับ Jack Irvine ก่อนจะไปเสพงานศิลป์ใน ‘Pink Cloud Festival 2019’ เทศกาลดนตรีและศิลปะ ซึ่งเขาจะมาสาดสีสันบนกำแพงสตรีทอาร์ต และออกแบบสเก็ตบอร์ดสุดลิมิเต็ดให้กับงานนี้ด้วย !
| จุดเริ่มต้นงานศิลปะ
Jack Irvine : “ผมระบายสีให้พ่อเป็นของขวัญวันเกิด พ่อเป็นคนรักศิลปะและผมอยากให้เขากลับมาวาดรูปอีกครั้ง พอพ่อเห็นของขวัญจากผมเขาก็หัวเราะ ซึ่งมันทำให้พ่อกลับมาวาดรูป และไม่คิดจะหยุดทำมันจนกระทั่งวันสุดท้ายในชีวิตของเขา สมุดเล่มนั้นคือเหตุผลที่ผมยังคงทำงานศิลปะจนถึงทุกวันนี้ ผมกับพ่อจะวาดรูปด้วยกันและช่วยกันทำงานจนเสร็จ ผมรู้สึกโชคดีที่มีช่วงเวลาเหล่านั้น”
| อย่ากลัวที่จะฝัน
Jack Irvine : “ตอนที่ผมยังเด็ก ผมเคยอยากเพนต์ลายไฟบนรถเหมือนในรายการ ‘Pimp My Ride’ ในช่อง MTV แต่ครูที่โรงเรียนบอกว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมก็เลยลงมือเพนต์ลายไฟบนรถสองสามคัน แถมยังได้ค่าจ้างด้วย ผมเดาว่า ผมได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าครูคนนั้นคิดผิด”
ผมมักจะทำในสิ่งที่อยากทำเสมอ และผมรู้สึกว่าทั้งหมดนี้อาจหายไป ผมก็เลยทำงานหนักทุกวัน เพื่อรักษาความฝันนี้ให้ยังโลดแล่น
| สาดสีสันลงผืนผ้าใบ
Jack Irvine : “สิ่งที่ผมพยายามทำก็คือให้พลังดีๆ กับคนดู ปลดปล่อยสีสันให้ระเบิดออกมา ผมเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงปิดกั้นการเติมสีสันให้ชีวิต ไม่ใช่ทุกคนที่จะสวมเสื้อผ้าสีสดแบบนั้นได้ ไม่ใช่ทุกคนที่มีความบ้าอยู่ในตัวเอง แต่พวกเขาเข้ามาในโลกที่สดใสได้ผ่านภาพวาด ผมชอบพื้นที่ที่สามารถเชื่อมคนเข้ากับความรู้สึกเหล่านั้น ในโลกปัจจุบันที่เรากังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรจนเกินไป”
| ศิลปะต้องเข้าถึงทุกคน
Jack Irvine : “ตั้งแต่ทำงานศิลปะมา ผมไม่เคยสนว่าต้องเอาใจคนที่เข้าใจศิลปะเท่านั้น ผมอยากให้มันเข้าถึงง่ายและกระทบความรู้สึกทันทีที่ดู ผมมักจะได้แรงบันดาลใจจากดนตรีพังก์และการาจร็อกด้วยเหตุผลนี้ เพราะเมื่อผมได้ฟังดนตรีที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา ก็จะมีปฏิกิริยาทางอารมณ์ขึ้นมาทันทีเลย มันผลักให้ผมก้าวไปข้างหน้าและทำสิ่งต่างๆ ผมจึงหยิบมันมาใช้ในงานศิลปะ โดยทำให้มันเรียบง่ายที่สุด แต่ก็ยังมีความหลากหลายในเรื่องของไอเดียหรือเรื่องราวของมัน”
ผมอยากให้ศิลปะเข้าถึงทุกคน ไม่จำเป็นต้องโตมากับศิลปะ หรือสามารถวิเคราะห์ตามสิ่งที่คนอื่นบอกว่า งานศิลปะควรเป็นอย่างไร
| ก่อนจะเป็นเพื่อนซี้วง ‘Skegss’
Jack Irvine : “ตอนอายุ 18 ผมมีแกลเลอรีชื่อ Space 44 ที่ทำกับ Aaron Girgis ซึ่งตอนนี้เป็นผู้จัดการวง Skegss เราเปิดแกลเลอรีขึ้นมาเพื่อดึงคนที่มีความสนใจเหมือนกัน และเป็นพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มาแสดงผลงาน มันถูกใช้เป็นสถานที่จัดปาร์ตี้หรือคอนเสิร์ตอยู่บ่อยๆ พอปี 2014 วง Skegss ก็ได้มาเล่นที่นี่ ผมออกแบบโปสเตอร์ให้กับโชว์นี้ด้วย มันเป็นโชว์ที่โครตบ้า คืนนั้นมันส์สุดๆ ไปเลย แกลเลอรี่เรารับได้แค่ 50 คน แต่คืนนั้นคนแน่นมากเกือบ 80 คนแน่ะ
นั่นเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน แฮงค์เอาท์ด้วยกัน และพวกเขาก็ค้างคืนที่นั่นด้วย วันต่อมาเราไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพวกเขาก็พูดขึ้นมาประมาณว่า ใครจะทำอาร์ตเวิร์คให้กับวง มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้มาทำงานให้กับวง Skegss”
| เบื้องหลังปกอัลบั้มวง Skegss
Jack Irvine : “ผมมีความสุขที่ได้ทำงานกับ Skegss พวกเขาให้อิสระผมในการทำงานศิลปะได้ตามที่ผมต้องการ ซึ่งการออกแบบปกอัลบั้มส่วนใหญ่ไม่ได้มีคอนเซปต์ที่ชัดเจน ผมแค่ฟังเพลงของพวกเขาและวาดมันออกมาตามความรู้สึก แล้วผมก็จะครีเอทหลายๆ เวอร์ชันให้พวกเขาเลือกอีกที”
| แรงบันดาลหาได้จาก ‘เพื่อน’
Jack Irvine : “หาอะไรใหม่ๆ ดนตรีใหม่ๆ ศิลปินใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว ไปปาร์ตี้และออกไปเที่ยวกับเพื่อน ทำอะไรประหลาดๆ หรือเรื่องบ้าบอที่จะสร้างเสียงหัวเราะ”
| โตมากับการเล่นเซิร์ฟ
Jack Irvine : “Cronulla เป็นเมืองชายฝั่งที่สนุกมาก ที่นั่นมีคลื่นดีๆ แทบทุกคนใน Cronulla จะเล่นเซิร์ฟ บรรยากาศจึงคึกคักมากทีเดียว และพวกเขาก็เล่นเซิร์ฟกันจริงจังมาก ผมรักการเล่นเซิร์ฟ ผมชอบอะดรีนาลีนในตัวผม ที่ Surfing Shark Island คุณจะได้เจอคลื่นลูกใหญ่ ตอนผมอายุประมาณ 4-5 ขวบ มีเด็กรุ่นเดียวกับผมไม่กี่คนที่จะกล้าโต้คลื่นลูกใหญ่แบบนั้น ผมจึงมักออกไปโต้คลื่นคนเดียว ผมไม่สนหรอกว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบสิ่งที่ผมทำ เพราะผมทำแล้วมีความสุข”
| ทำอะไรแล้วต้องไปให้สุด
Jack Irvine : “ผมไม่ได้วางเส้นทางชีวิตไว้ชัดเจน ทุกสิ่งใหม่สำหรับผม ผมจะไม่เอาจริงเอาจังกับตัวเองมากเกินไป และอยากสนุกกับมันเท่าที่จะทำได้ ผมจะใช้ชีวิตเละเทะยังไงก็ได้ แต่ผมให้เกียรติการทำงานงานศิลปะของผมนะ ผมไม่รู้ว่าอนาคตผมจะกลายเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ หรือจะค่อยๆ เงียบหายไป”
ดังนั้นถ้าผมมีไอเดีย ผมจะลงมือทำมัน ถึงแม้จะไม่มีคนสนใจ โดนมองว่าตลกหรือยังไม่ดีพอ แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ทำ
| เจอกันที่งาน Pink Cloud Festival !
Jack Irvine : “มันต้องสนุกแน่ ได้มาดูวงดนตรีดีๆ เจอคนใหม่ๆ ที่ผมคงไม่มีทางได้เจอในออสเตรเลีย ได้เอนจอยของอร่อย หรือแฮงค์เอาท์ชิลล์ๆ แล้วอย่าลืมเดินมาทักทาย หรือมาดื่มเบียร์ด้วยกันล่ะ”
เตรียมตัวมาเจอ Jack Irvine ได้ที่งาน ‘Pink Cloud Festival 2019’ เทศกาลดนตรีและศิลปะ ที่จะขนขบวนอาร์ทติสต์ตัวเป็นๆ มาร่วมสาดสีสันบนกำแพงสตรีทอาร์ต และออกแบบสเก็ตบอร์ดสุดลิมิเต็ด ซึ่งนอกจาก Jack Irvine ยังมีศิลปินไทยร่วม 10 ชีวิต อย่าง juli baker and summer, TRYSTAND, ERTH ใครไม่อยากพลาดประสบการณ์ดีๆ ต้องมา 25 พฤษภาคมนี้ !
ซื้อบัตรผ่านทาง Eventpop : http://bit.ly/PICF2019
หรือทาง www.pinkcloudfestival.com
Writer
