The Bilbao Effect จากพิพิธภัณฑ์ ผลงานของ Frank Gehry เปลี่ยนเมืองยากจนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวใน 3 ปี

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินแนวคิดในการสร้างสถาปัตยกรรมหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าเมือง โดยวิธีคิดนี้เรียกว่า ‘Bilbao Effect’ ซึ่งเริ่มต้นจากการสร้าง Guggenheim Museum Bilbao พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในสเปนที่มีคนไปเยือนมากที่สุดในโลก จากเมืองเศรษฐกิจซบเซา สู่เป้าหมายใหม่ของการท่องเที่ยว ย้อนกลับไปก่อนปี 2540 เมืองบิลเบา (Bilbao) ไม่ใช่เมืองที่ใครๆ อยากไปเยือน เพราะในเวลานั้นบิลเบาเป็นเพียงเมืองท่าอุตสาหกรรมที่เสื่อมโทรม เต็มไปด้วยปัญหาการว่างงานและความยากจน ทางการจึงตัดสินใจใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างพิพิธภัณฑ์ Guggenheim Museum Bilbao โดยฝีมือของสถาปนิกชื่อดัง Frank Gehry ผู้ล่วงลับไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เขาออกแบบให้ที่นี่ไม่ใช่แค่ตึกธรรมดาๆ แต่เป็นงานสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำ Nervión แรงบันดาลใจในการออกแบบนี้เกิดขึ้นจากที่ตัว Gehry เองหลงใหลในวิธีการเคลื่อนไหวของปลา ส่งผลให้เขาออกแบบอาคารให้มีเส้นสายโค้งมน พลิ้วไหว ดูราวกับปลากระโดดหรือเรือที่กำลังแล่นบนสายน้ำ โดยโครงสร้างภายนอกของตึกหุ้มด้วยแผ่นไทเทเนียมที่ส่องประกายระยิบระยับ ตัดกับหินทรายและกระจก พร้อมด้วยการใช้วัสดุอย่างหินปูนและทรายเพื่อให้ดูกลมกลืนกับอาคารอื่นๆ ในเมือง ปรากฏการณ์บิลเบา ทันทีที่ Guggenheim Museum Bilbao เปิดตัวในปี 2540 ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการออกแบบและเศรษฐศาสตร์ ด้วยสามเหตุผล […]

จาก ‘ม้าที่ควรค่าแมว’ สู่ ‘แมวเมือง เมืองแมว’ กลุ่ม Research Playground, 2024 ว่าด้วยเรื่องเมืองและแมว ที่เพิ่งคว้ารางวัล Good Design Award จากญี่ปุ่น

‘ม้าที่ควรค่าแมว’ ผวนมาจาก แมวที่ควรค่าม้า นี่คือชื่อนิทรรศการที่ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการชวนผู้ชมไปสำรวจแมวที่ชุมชนควรค่าม้าสามัคคี ในซอยหลังวัดควรค่าม้า ย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ ว่าไปมันคือส่วนผสมระหว่างความน่าเอ็นดู ความจริงจัง และความเนิร์ด เมื่อสองอาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มิก-ชมพูนุท ชมภูรัตน์ และ เต๊ะ-พิชญ์วุฒิ วิรุตมวงศ์ ในนามกลุ่ม Research Playground, 2024 ลงพื้นที่ศึกษาชีวิตเหล่าแมวในย่านอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประชากร ชื่อเสียงเรียงนาม พฤติกรรม และความสัมพันธ์ระหว่างผังอาคาร ผู้คน และวิถีชีวิตแมวในชุมชนดั้งเดิมกลางเมืองเชียงใหม่ เราเห็นนิทรรศการนี้ครั้งแรกใน Chiang Mai Design Week 2024 ที่ตึกมัทนา ถนนช้างม่อย ซึ่งนำเสนอผ่านแบบจำลองอาคาร เส้นทางสัญจรของแมว สำมะโนประชากรแมวในย่าน รูปถ่ายแมวจรที่ชวนผู้ชมตั้งชื่อแมว ภาพวาดแมวน่ารักๆ ไปจนถึงข้อมูลจากงานวิจัยที่มีทั้งน้ำหนักทางวิชาการและความอบอุ่นไปพร้อมกัน หนึ่งปีต่อมา ใน Chiang Mai Design Week 2025 (วันที่ 6 – 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568) […]

เติมชีวิตชีวาให้ ‘ย่านพาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง’ ด้วยพลังของสีสันผ่านงานศิลปะ ถ่ายทอดเรื่องราวสะท้อนชีวิตชาวไทย-อินเดีย เตรียมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในกรุงเทพฯ

‘ความสร้างสรรค์’ นับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาเมืองให้แข็งแรงและยั่งยืน หน่วยงานและองค์กรด้านเมืองจึงเริ่มให้ความสำคัญกับการสนับสนุนงานเทศกาลต่างๆ เพราะนอกจากจะสร้างความคึกคักให้เมืองแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งระดับประเทศและชุมชนในอีกทางหนึ่ง และในปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ร่วมมือกันจัดงาน ‘Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025’ ในย่านพาหุรัดและริมคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองแสงแห่งศรัทธาที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความสุข และมิตรภาพระหว่างสองวัฒนธรรมไทย-อินเดีย ความพิเศษของปีนี้คือ ความตั้งใจในการยกระดับและพัฒนาพื้นที่ให้ดึงดูดคนนอกพื้นที่มากขึ้น ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วย ‘พลังแห่งสี’ ถึง 8 จุดภายในย่านพาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง โดยมี ‘Nippon Paint’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนวัตกรรมและยั่งยืนยอดขายอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก จากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้สนับสนุนให้ไอเดียงานศิลปะเหล่านี้จับต้องได้ และกลายเป็นผลงานที่จะฟื้นฟูย่านเก่าแห่งนี้ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งด้วยแนวคิด วิสัยทัศน์ และพันธกิจของแบรนด์ ที่เชื่อว่า “สี” มีพลังที่พร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและเมืองได้ ไม่เพียงแต่สร้างสีสันในช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่โปรเจกต์นี้จะช่วยให้ย่านพาหุรัดและริมคลองโอ่งอ่างกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่แห่งวัฒนธรรมไทย-อินเดียในกรุงเทพฯ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกชนชาติมาเยี่ยมเยียนและเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมวิถีชีวิตที่รุ่มรวยไปด้วยศิลปวัฒนธรรม  ว่าแต่งานนี้มีกระบวนการอย่างไร และผลงานแสดงที่จุดไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย! พาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง พื้นที่แห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรม ‘พาหุรัด’ เป็นย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ […]

Holding The Door Open โดย BICT Fest เวิร์กช็อปที่จะช่วยเปิดประตูความเป็นไปได้ ในการสร้างพื้นที่การแสดงสำหรับคนทุกกลุ่ม

เรามักได้ยินว่า ‘ศิลปะไม่มีพรมแดน’ แต่บ่อยครั้งศิลปะในไทยก็ดูมีเขตแดนบางอย่างที่กางกั้นคนบางกลุ่มอยู่ หลายคนรู้สึกว่า ‘ละครเวที’ เป็นสื่อบันเทิงที่ไกลตัว ทั้งบัตรราคาสูง เนื้อหาเข้าถึงยาก จนกลายเป็นศิลปะที่เหมือนสงวนไว้ให้คนเฉพาะกลุ่ม แต่ความจริงแล้วงานศิลปะการแสดงนั้นไม่ได้จำกัดเอาไว้สำหรับใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หลายคนที่อยู่ในวงการนี้อยากช่วยกันพลิกภาพจำใหม่ ให้ละครเวทีเป็นพื้นที่ที่ทุกคนตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หรือกระทั่งคนที่มีข้อจำกัดทางร่างกายสามารถก้าวเข้ามามีส่วนร่วมได้ หนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญคือ ‘อัจจิมา ณ พัทลุง’ ผู้อำนวยการ Bangkok International Children’s Theatre Festival (BICT Fest) ผู้ที่ไม่เพียงแค่อยากให้คนทั่วไปเข้าถึงละครเวทีได้เท่านั้น แต่ยังอยากสร้างพื้นที่ส่วนรวมที่เอื้อต่อคนทุกกลุ่ม รวมไปถึงการปลูกฝังความคิดของเด็กๆ ถึงเรื่องของความเท่าเทียมด้านร่างกาย ผ่านงานศิลปะที่จะแทรกซึมผ่านจินตนาการของเด็ก แทนที่จะใช้วิธีการสอนเพื่อให้เกิดการจดจำแทนการสร้างความเข้าใจ จากความตั้งใจนี้เอง ทำให้ BICT Fest ได้รับทุน ‘Connections Through Culture’ จาก British Council ในการสร้างสรรค์โปรเจกต์ ‘Holding the Door Open’ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Inclusive Horizon’ เพื่อเปิดประตูสู่โลกละครที่เท่าเทียมและหลากหลาย ทั้งในฐานะผู้สร้างและผู้ชม ‘BICT […]

‘HATAI’ โครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ในย่านสีลม ที่ได้แรงบันดาลใจจากโคมไฟแบบดั้งเดิม แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองที่ใครๆ ก็อยากมาชม

ปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นโครงการที่ต้องการพัฒนาเมือง ฟื้นฟูพื้นที่ และไม่ลืมคำนึงถึงคนในย่านที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ได้ด้วย โครงการที่จะเป็นแลนด์มาร์กด้านการออกแบบให้เมือง ‘HATAI’ (หทัย) คือโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ที่ตั้งใจคืนชีวิตชีวาให้กับย่านสีลม โดยใช้การออกแบบสร้างความโดดเด่นและสะดุดตา จนยกให้เป็นว่าที่แลนด์มาร์กด้านการออกแบบแห่งใหม่ที่จะช่วยสร้างสีสันให้กรุงเทพฯ ได้ ความพิเศษของโครงการนี้คือ เป็นผลงานการออกแบบในประเทศไทยครั้งแรกของ ‘Heatherwick Studio’ สตูดิโอออกแบบจากลอนดอนที่มีชื่อเสียงด้านแนวคิดการออกแบบ วิธีการใช้วัสดุ และวิธีการก่อสร้างที่ล้ำสมัย โดยโปรเจกต์นี้ทางสตูดิโอได้แรงบันดาลใจจากความประณีตของโคมไฟไทยแบบดั้งเดิม อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองในวัฒนธรรมไทย ผสมรวมเข้ากับละครโขน ทำให้การออกแบบมีลักษณะเป็นการนำโคมไฟเหล่านั้นวางซ้อนกันขึ้นคล้ายกับหัวโขน และโคมแต่ละลูกก็จะมีรูปแบบเฉพาะตัว ทำให้ภาพรวมของตึกไม่แข็งกระด้าง การออกแบบที่สะท้อนความเป็นไทยและย่านสีลม ด้วยลักษณะของโคมไฟไทยที่มีการเจาะหรือฉลุให้เป็นลวดลายสวยงามพร้อมกับเป็นการสร้างแสงและเงาให้กับตัวโคม ทางสตูดิโอก็ไม่ลืมที่จะนำรายละเอียดเหล่านี้มาใส่เอาไว้ในการดีไซน์ด้วยช่องกระจกบนตัวอาคาร เพื่อให้มุมมองในการมองวิวจากด้านใน รวมไปถึงการมองภาพรวมของโครงการจากด้านนอกนั้นมีความแตกต่างจากตึกอื่นๆ นอกจากความสวยงามของโคมไฟแล้ว Heatherwick Studio ตั้งใจที่จะนำเอาองค์ประกอบธรรมชาติอย่างสายน้ำ ผิวสัมผัส และพื้นที่สาธารณะ กลับคืนมาสู่พื้นที่ภายในโครงการ เพื่อให้ผู้คนที่เข้ามาใช้บริการได้สัมผัสเอกลักษณ์ความเป็นย่านสีลมด้วยตัวเอง พื้นที่พักผ่อนที่ส่งเสริมทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของผู้คน ภายในพื้นที่ของโครงการประกอบไปด้วยส่วนของโรงแรม Six Senses Bangkok และโรงแรมนารายณ์ แหล่งชอปปิง ความบันเทิง ร้านอาหาร พื้นที่สาธารณะ รวมไปถึงเทวสถาน ที่พร้อมต้อนรับผู้คนทั้งในย่านและนอกย่านให้เข้ามาใช้เวลาพักผ่อนกันที่โครงการ HATAI แห่งนี้ อีกจุดเด่นที่น่าสนใจคือ การออกแบบพื้นที่นี้ยึดแนวคิดการเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมทั้งสุขภาพของผู้คนและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม […]

‘ร้านชำศึกษา’ ธีสิสว่าด้วยการวิเคราะห์ร้านขายของชำ ที่อยากชวนให้คนมาสนับสนุนร้านค้าเหล่านี้มากขึ้น

หากพูดถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ร้านขายของชำคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีและเป็นที่คุ้นเคยของใครหลายคน แต่หลายครั้งเราก็แค่แวะไปซื้อของหรือพูดคุยกับเจ้าของร้านนิดหน่อยก่อนจากไป ทั้งที่ความจริงแล้วร้านขายของชำยังมีแง่มุมอื่นๆ ให้สังเกตอีกมาก  Urban Creature อยากชวนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของร้านขายของชำที่เป็นมากกว่าแค่สถานที่ขายของผ่าน ‘ร้านชำศึกษา’ ธีสิสจากนิสิตสาขานิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ‘นาย-ลลิตา นาคสุ่น’ เจ้าของผลงานบอกกับเราว่า ด้วยความที่บ้านเป็นร้านขายของชำ ทำให้คลุกคลีอยู่ในสถานที่นี้ตั้งแต่เกิด ได้เห็นทั้งความเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และความน่าสนใจทั้งในแง่ของอาชีพและวิถีชีวิต จึงอยากหยิบเอาความเป็นร้านชำนี้มานำเสนอและส่งต่อเรื่องราวให้คนอื่นๆ ได้รู้ผ่านสิ่งพิมพ์เล่มนี้ จุดประสงค์หลักๆ คือ ลลิตาอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันมาสนับสนุนร้านขายของชำ โดยเธอเลือกใช้วิธีการนำเสนอวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของร้านขายของชำ เพื่อให้ค่อยๆ เข้าถึงผู้อ่านแบบที่ไม่สุดโต่งจนเกินไป และสร้างความเข้าใจว่า ร้านขายของชำเป็นส่วนหนึ่งของความโลคอลที่มีความสำคัญและสร้างชีวิตชีวาให้เมือง ภายในหนังสือร้านชำศึกษาเล่มนี้ มีเนื้อหาที่ประกอบด้วยวิถีชีวิตของชาวร้านชำ การวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ในร้านชำ ความยากและการปรับตัวที่เจ้าของร้านชำต้องเจอ หรือแม้แต่บริบทของร้านขายของชำในรูปแบบต่างๆ โดยทั้งหมดถูกนำเสนอผ่านการวิเคราะห์ในหลักการตลาด 5 Ps (Place, Product, Promotion, Price และ People)  นอกจากข้อมูลเชิงวิเคราะห์แล้ว ร้านชำศึกษายังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะทำให้เราสนิทกับโลกของร้านชำมากขึ้น ยกตัวอย่าง แผ่นพับหน้า-หลังที่เล่าเรื่องลักษณะของพื้นที่ร้านซึ่งมีกิมมิกที่ขูดได้ โดยเจ้าของผลงานเสริมว่า ไอเดียสติกเกอร์ขูดนี้ชวนให้นึกถึงการ์ดชิงโชคสมัยก่อน จึงนำมาใช้บดบังองค์ประกอบบางส่วน แล้วให้คนที่มาดูงานมีส่วนร่วมด้วยการขูดเพื่อให้เห็นส่วนต่างๆ […]

‘ให้ซีนกับความสงสัย’ ส่อง 5 สิ่งพิมพ์ที่ชวนตั้งคำถามต่อรายละเอียดเล็กๆ ในเมือง โดยกลุ่ม inw collective

เมืองคือการรวมตัวของหลากหลายองค์ประกอบ ทั้งสิ่งไร้ชีวิตอย่างอาคาร สิ่งก่อสร้าง ยานพาหนะ หรือสิ่งมีชีวิตอย่างผู้คน วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เราได้เห็นชิ้นส่วนหรือการออกแบบแปลกๆ ที่เกิดจากการดัดแปลงแก้ไขปรับเปลี่ยน นำมาสู่การตั้งคำถามต่องานดีไซน์เฉพาะกิจเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความสงสัยที่มีต่อสิ่งของบนท้องถนน ท่อฟ้า เหล็กดัด ป้ายหมูกระทะ ไปจนถึงฟันเฟืองเล็กๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนเมือง อย่างที่กลุ่ม inw collective สนใจและเฝ้ามองมาเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นซีน 5 เล่ม 5 รูปแบบที่จัดแสดงในนิทรรศการ IT’S NICE TO WONDER แม้วันนี้ (13 กรกฎาคม 2568) จะเป็นวันสุดท้ายของนิทรรศการแล้ว แต่ซีนทั้งหมดของเหล่าเทพจะยังคงวางจำหน่ายที่ร้าน Neighbourmart อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก แวะไปเปิดดูสร้างความเอ๊ะๆ ให้สายตา หรืออุดหนุนพวกเขาก็ได้ ที่นี่เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.00 น. ความสงสัยต่อสิ่งของบนท้องถนนกรุงเทพฯ : 10101 – 101 pieces of 1 […]

‘บ้านบรรทัดทอง’ จุดพักใจกลางเมือง พื้นที่พบปะสำหรับคนรักงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากการชุบชีวิตบ้านเก่าอายุ 60 ปี

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘บรรทัดทอง’ กลายเป็นย่านตัวแทนความสดใหม่และทันกระแสของยุคสมัยปัจจุบัน แต่ท่ามกลางร้านรวงสมัยใหม่ที่ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีบ้านเก่าอายุ 60 ปี ที่นำเสนอกลิ่นอายบรรยากาศอบอุ่นของอดีตในชุมชนบรรทัดทอง ผ่านคอมมูนิตี้ที่สร้างพื้นที่ให้เหล่าคนรักงานคราฟต์และงานศิลปะได้มารวมตัวกัน ‘บ้านบรรทัดทอง’ คือคอมมูนิตี้เปิดใหม่บริเวณซอยจุฬาฯ 18 ภายใต้คอนเซปต์ชุบชีวิตบ้านเก่าสามชั้น เป็นสถานที่รวบรวมงาน Art & Craft ของศิลปินคนไทย และความต้องการที่อยากทำให้บรรทัดทองมีพื้นที่นั่งชิล เป็นเหมือนจุดพักใจกลางเมืองครบจบในที่เดียว Community Space แห่งนี้ประกอบด้วยตลาดอาหารบริเวณชั้น 1 ที่รวบรวมร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้มากมาย อีกทั้งยังมี ‘ไอศกรีมสโมสร’ ไอศกรีมโฮมเมดเจ้าดังประจำบรรทัดทองไป Pop up อยู่บริเวณบ้านบรรทัดทองอีกด้วย พอขึ้นไปชั้น 2 จะเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นไปยังการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินไทยหน้าใหม่ได้มาโชว์ฝีมือ นำเสนองานคราฟต์ของตัวเองผ่านสินค้าและเวิร์กช็อป รวมถึงประติมากรรมและภาพวาดต่างๆ ส่วนชั้น 3 มี Live DJ มาเปิดแผ่นให้ผู้มาเยือนได้เสพสุนทรีย์ไปกับลมช่วงเย็นบริเวณดาดฟ้าท่ามกลางบรรยากาศความคึกคักของย่านบรรทัดทอง ตอนนี้บ้านบรรทัดทองมีกิจกรรม BTT House Market ซึ่งเป็นการกลับมาจัดครั้งที่ 2 ภายใต้คอนเซปต์ Art & Craft Night Market […]

‘ลีลาดอกไม้ ตอน ดอกไม้ม(า)หานคร’ นิทรรศการที่จะพาไปรู้จัก 4 ดอกไม้ประจำจังหวัด ผ่านความสวยงามของงานศิลปะรูปแบบต่างๆ

หากพูดชื่อดอกทองกวาว ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ และชบาขึ้นมา หลายคนคงคุ้นเคยกับดอกไม้เหล่านี้ในฐานะสัญลักษณ์ประจำจังหวัด แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ดอกไม้เหล่านี้มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจอีกบ้าง มาทำความรู้จักกับดอกไม้ประจำ 4 จังหวัด ได้แก่ ดอกทองกวาว (เชียงใหม่), ดอกราชพฤกษ์ (ขอนแก่น), ดอกกัลปพฤกษ์ (ราชบุรี) และดอกชบา (ปัตตานี) ให้มากขึ้น ผ่านงานศิลปะที่เข้าถึงง่าย สนุก และมีพลังในการเล่าเรื่อง ที่นิทรรศการ ‘ลีลาดอกไม้ ตอน ดอกไม้ม(า)หานคร (Petals of Identity : Cities in Bloom)’ ภายในนิทรรศการประกอบไปด้วย 4 โซนหลัก ที่จะพาไปสัมผัสความสวยงามของดอกไม้ที่เชื่อมโยงกับชุมชน วัฒนธรรม และผู้คนในเมืองอย่างมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังเพลิดเพลินกับจินตนาการที่ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมได้ โซนที่ 1 Interactive and Immersive Art Installation โดย 27June Studio  งานศิลปะที่นำเสนอลีลาของดอกไม้ผ่าน Projection Mapping และ […]

‘Book & Host’ โครงการการออกแบบเพื่อสังคม สนับสนุนการเรียนรู้และการปรับตัวสำหรับแรงงานต่างชาติ พร้อมอยู่เคียงข้างตลอดการใช้ชีวิตต่างแดน

แน่นอนว่าเหล่าผู้ใช้ชีวิตไกลบ้านในต่างแดนนั้นมีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ รับมือ และปรับตัว ทั้งกำแพงของภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ปัญหาในที่ทำงาน หรือประเด็นการเลือกปฏิบัติในสังคม ปัจจุบันหลากหลายประเทศต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติจำนวนมาก เนื่องจากปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไต้หวันเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน จึงเกิดเป็นโครงการ ‘Book & Host’ ที่ ‘One-Forty’ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรตั้งใจออกแบบสื่อเพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ และลดปัญหาที่แรงงานข้ามชาติต้องเผชิญ Book & Host เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ออกแบบเนื้อหาด้วยแนวคิด ‘ผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง’ จากประสบการณ์ตรงของแรงงานต่างชาติ โดยเลือกใช้ภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาหลัก เนื่องจากมีอัตราการใช้มากที่สุดในกลุ่มแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไต้หวัน วัตถุประสงค์ของ Book & Host คือ ต้องการให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ สามารถปรับตัวและสร้างความคุ้นชินกับการใช้ชีวิตไกลถิ่นได้ โดยเริ่มจากการเรียนรู้ภาษาจีน เพราะภาษาไม่ได้เป็นเครื่องมือการสื่อสารเพียงเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิตทางสังคม และธรรมชาติของเจ้าของภาษานั้นๆ ด้วย เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย 35 หน่วยการเรียนรู้ เช่น การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ การซื้ออาหารที่ร้านของชำ การพบแพทย์ และสถานการณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงส่งเสริมให้รู้จักกับวัฒนธรรมไต้หวัน พร้อมด้วยความพิเศษอย่างแพ็กเกจที่มีโปสต์การ์ดข้าวห่อขมิ้น ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงถึงการอวยพรในวัฒนธรรมอินโดนีเซีย และใช้กระดาษสีขมิ้นทำเป็นที่คั่นหนังสือ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของบ้านเกิด […]

‘A Week at the Knees’ ประติมากรรมซุ้มอิฐในสวนที่ลอนดอน ดูเหมือนผนังบ้านกำลังนั่งชันเข่าพักผ่อน

‘Alex Chinneck’ ศิลปินชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างผลงานศิลปะที่มักสร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็น ‘From the Knees of my Nose to the Belly of my Toes’ (2013) ผลงานที่ดูราวกับว่าผนังหน้าบ้านเลื่อนลงมาอยู่ด้านล่าง หรือ ‘Take my Lightning but Don’t Steal my Thunder’ (2014) อาคารที่ยังคงตั้งอยู่ได้แม้ว่าเสาที่ยึดอยู่นั้นจะลอยฟ้าก็ตาม และผลงานล่าสุดที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Clerkenwell Design Week 2025 ที่จัตุรัส Charterhouse ก็ยังคงสร้างความสนใจให้ผู้พบเห็นกับ ‘A Week at the Knees’ ซุ้มอิฐความสูง 5.5 เมตร ยาว 13.5 เมตร ที่มีลักษณะคล้ายผนังบ้านที่ประกอบไปด้วยประตูและหน้าต่าง มีท่าทางเหมือนกำลังนั่งชันเข่า เมื่อนำไปตั้งไว้ในสวนสาธารณะจึงอาจเปรียบได้ว่าเป็นตัวแทนของคนที่เข้ามานั่งพักผ่อนอยู่ในสวนแห่งนี้ก็ได้ ถึงแม้ว่าผลงานนี้จะดูเหมือนใช้วัสดุน้ำหนักเบา สามารถโค้งงอได้ตามต้องการ แต่ความจริงแล้วซุ้มนี้ใช้อิฐถึง 7,000 […]

‘La Libreria’ ห้องสมุดโปร่งแสงใน Venice Architecture Biennale ถอดออกประกอบ เคลื่อนย้ายได้ สร้างบรรยากาศให้ผู้คนอยากเข้ามาอ่านหนังสือ

ลืมภาพห้องสมุดทึบๆ ที่มีหน้าต่างให้แสงลอดผ่านแค่บางส่วนไปได้เลย เพราะ ‘La Libreria’ คือห้องสมุดที่จะสร้างภาพจำใหม่ เคลื่อนย้ายไปตั้งที่ไหนก็ได้ ขนาดกะทัดรัด แถมรูปแบบของผนังยังเป็นแบบโปร่งแสงใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบนอก La Libreria เป็นผลงานของสตูดิโอจากนิวยอร์ก ‘Diller Scofidio + Renfro’ และเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล ‘Venice Architecture Biennale’ ตั้งอยู่ใน ‘Giardini della Biennale’ สวนสาธารณะในเวนิส ที่เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลศิลปะ Venice Biennale โครงสร้างห้องสมุดนี้ทำขึ้นจาก Structural Transparent Fluorinated Envelope (STFE) สิ่งทอทางสถาปัตยกรรมคุณภาพสูง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับพื้นที่กว้างด้วยวัสดุที่น้อยที่สุด ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและไม่ได้ยึดกับพื้นเอาไว้ แต่ด้วยน้ำหนักของหนังสือที่วางเรียงอยู่บนชั้นตลอดความยาว 24 เมตรของพื้นที่ ทำให้โครงสร้างแห่งนี้มีความมั่นคง รวมไปถึงตัวโครงสร้างเองยังถอดออกเพื่อประกอบขึ้นใหม่ได้ และด้วยความที่ผนังเป็นวัสดุโปร่งแสง จึงเป็นการสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้ผู้ใช้งาน เช่น ในช่วงกลางวันจะทำให้คนที่อยู่ภายใน La Libreria รู้สึกราวกับว่ากำลังอ่านหนังสืออยู่ภายใต้ธรรมชาติและต้นไม้ที่ล้อมรอบอยู่ด้านนอก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางคืน La Libreria จะทำหน้าที่เสมือนว่าเป็นโคมไฟในสวน ที่จะดึงดูดให้ผู้คนเดินเข้ามาเลือกชมหนังสือภายในห้องสมุด Venice […]

1 2 3 59

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.