เคยแทงโวยวายกันไหม อ่านแล้วหลายคนอาจกำลังขมวดคิ้วว่าคืออะไร เราจะเฉลยให้รู้ว่า ‘การแทงโวยวาย’ คือการจับหมึกสาย หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘ตัวโวยวาย’ ซึ่งเป็นรูปแบบการทำประมงชายฝั่งของชาวบ้านในตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่ส่งต่อภูมิปัญญากันมาอย่างยาวนาน
ช่วงที่เรากำลัง Work from Home อยู่บ้านเกิด เลยพาตัวเองไปเปิดประสบการณ์การแทงโวยวาย หลังจากสอบถามข้อมูลจากญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน ก็คว้ากล้องแล้วตรงดิ่งไปยังอาณาจักรของเจ้าโวยวายอย่าง แหลมปะการัง ทันที เมื่อไปถึงก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินก้มๆ มองๆ พื้นทราย เราไม่รอช้ารีบทักทายตามประสาคนพื้นที่ด้วยกัน
“พี่บ่าวทำไร”
“แทงโวยวายครับ”
หลังจากทักก็ได้รู้ว่าเขาชื่อ ‘พี่สมจิตร’ เสียงโต้ตอบดังลั่นถิ่นของเจ้าโวยวายเงียบลง ก็ถึงเวลาที่เขาพาเราไปลอง “แทงโวยวาย” ท่ามกลางฟ้าสวย และน้ำใส
พี่สมจิตรทำอาชีพประมงพื้นบ้าน โดยปกติจะออกหาปลาเป็นหลัก แต่เมื่อใดที่น้ำทะเลลด ก็ไม่พลาดมาแทงโวยวายอยู่เสมอ ซึ่งโวยวายที่หาได้พี่สมจิตรจะนำกลับไปทำเมนูเด็ดกินที่บ้าน หาได้มาเยอะหน่อยก็นำไปขาย แต่ถ้าได้มาน้อยก็เอาทำเหยื่อตกปลาต่อ
เปิดปากถุงที่เต็มไปด้วยโวยวายซึ่งแทงได้ 3 – 4 ตัวก่อนที่เราจะมาถึง เราเลยไม่รอช้า ขอตามพี่สมจิตรไปดูการแทงโวยวายด้วยคน
ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการแทงโวยวาย พี่สมจิตรแนะนำให้รู้จักอุปกรณ์คู่ใจในการทำงาน ซึ่งมีแท่งเหล็กแหลม ถุงอวน และเหยื่อ โดยเหยื่อจะใช้เป็นปูเปี้ยวเสียบก้านไม้หวาย
“รูปลากับรูโวยวายมันต่างกันนะ” พี่สมจิตรว่า ก่อนชี้ให้ดูที่รูปลาซึ่งจะมีแค่ทรายอยู่รอบๆ ปากรู แต่รูโวยวายจะมีเศษหินเศษปะการังต่างๆ ปิดปากรูไว้ ซึ่งการแยกรูโวยวายนั้นถือเป็นเรื่องปราบเซียนเลยก็ว่าได้ เขายังบอกอีกว่าโวยวายเป็นสัตว์ที่เรื่องเยอะพอสมควร เพราะมันจะไม่ออกมาตอนแดดร้อนๆ ที่ทำให้น้ำทะเลเริ่มร้อน เลยต้องพากันมาแทงช่วงที่น้ำทะเลลงต่ำสุด
เมื่อคลาสบรรยายจบลง ก็ถึงเวลาลงมือปฏิบัติ พี่สมจิตรเดินนำหน้าเพื่อจะพาไปดูการแทงโวยวายของจริง เดินได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันมาให้สัญญาณว่า เจอรูโวยวายแล้ว! เราไม่รอช้ารีบเดินตามไปยืนดูอย่างเงียบและนิ่งที่สุด
นำเหยื่อแหย่ลงไปในรูของเจ้าโวยวาย และระหว่างรอให้มันจับเหยื่อ พี่สมจิตรกระซิบว่าขั้นตอนนี้ต้องใช้ความอดทนรอเป็นอย่างมาก เมื่อโวยวายตะครุบเหยื่อแล้ว ต้องค่อยๆ ดึงเหยื่อเพื่อล่อให้โวยวายโผล่มาจากรูจนเห็นตา ถึงจะแทงไปที่บริเวณใต้ตาของโวยวาย ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ทำให้ถึงตาย แต่ถ้าแทงโดนบริเวณอื่นโวยวายจะขาด ก็จะได้แค่หนวดของโวยวายเท่านั้น
ระหว่างเล่าเจ้าถิ่นก็เริ่มออกจากรูแล้วใช้หนวดจับเหยื่อ พี่สมจิตรจึงเริ่มดึงเหยื่อขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนแทงเจ้าโวยวาย พร้อมใช้มืออีกข้างช่วยจับและดึงมันขึ้นมา ซึ่งต้องยกนิ้วให้ในความเก่ง แค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้เลยว่ายากจริงๆ เพราะตัวโวยวายค่อนข้างกลมกลืนกับทรายมากทีเดียว
จับเจ้าโวยวายได้แล้ว! พี่สมจิตรบอกว่า “วันนี้ได้แต่ตัวเล็กๆ คงต้องรออีกสัก 2 – 3 ชั่วโมง น่าจะมีโวยวายตัวใหญ่กว่านี้ เดี๋ยวหาอีกสัก 1 – 2 ตัว ก็คงพอ เพราะแดดเริ่มร้อนแล้ว”
เดินหารูโวยวายกันต่อ ไม่นาน…พี่สมจิตรก็เจอ นักแทงมือเซียนเลยไม่รอช้า ทำการล่อเจ้าโวยวายจนแทงได้เพิ่มอีกหนึ่งตัว แล้วเดินมุ่งไปตามหาเจ้าโวยวายอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความเป็นมืออาชีพและมากประสบการณ์ พี่สมจิตรจึงแทงเจ้าโวยวายได้เพิ่มอีกหนึ่งตัว เขารีบนำเจ้าโวยวายใส่ถุงอวนอย่างพอใจ ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายสำหรับวันนี้
ขณะกำลังตื่นเต้นกับโวยวายของพี่สมจิตร ก็มีเสียงตะโกนถามพี่สมจิตรว่าแทงได้เยอะไหม ซึ่งเป็นเสียงพี่บ่าวอีกคนที่เพิ่งจะมาลงสนามนักแทงในวันนี้
จบทริปการล่าเจ้าโวยวาย เรากล่าวขอบคุณพี่สมจิตรที่พาออกหาดเรียนรู้การแทงโวยวาย ที่เป็นวิถีชีวิตอย่างหนึ่งซึ่งคนพื้นที่อย่างเราเคยแค่ได้ยินจากญาติผู้ใหญ่ วันนี้ถึงจะไม่มีโอกาสได้ลองแทงโวยวายด้วยตัวเอง แต่เราก็ได้เก็บภาพและเรื่องราวไว้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า วิถีชีวิตชาวประมงที่ตะกั่วป่าบ้านเกิดเรานั้นสนุก และน่าประทับใจมากแค่ไหน