“ช่วงนี้เป็นไงบ้าง สบายดีไหม?”
“อืม ก็ดีนะ”
ข้อความจากเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันมานานเด้งขึ้นมาหน้าแชต คำทักทายทั่วไปที่ฉันมักตอบสั้นๆ แต่วันนี้ฉันกลับมานั่งคุยกับใจตัวเองอย่างจริงจัง
“สับสน กังวล ซึมเศร้า จิตใจไม่มั่นคง”
สารพัดถ้อยคำที่บ่งบอกความรู้สึกของฉันในตอนนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเกิดอาการเหล่านี้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะการระบาดของโควิด-19 ไม่เพียงแพร่ไวรัสให้ป่วยกาย แต่ยังพานป่วยใจ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราต้องมีนอกจากแมสก์และเจลล้างมือ นั่นคือ ‘สติ’ ที่จะช่วยเราเอาชนะอุปสรรคและความว้าวุ่นใจ แม้สุดท้ายมันอาจไม่ช่วยให้โควิดหายไป แต่อย่างน้อยๆ การฝึกจิตก็ดีกับใจตัวเองและคนรอบข้าง
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันไปเจอซีรีส์เรื่องหนึ่งชื่อ ‘Headspace Guide to Meditation’ ความน่าสนใจของมันเป็นซีรีส์ที่สอนการฝึกสมาธิออนไลน์ ผ่านแอนิเมชันน่ารักๆ และการยกตัวอย่างให้เราเข้าใจง่าย
ในซีรีส์นี้จะชวนผู้ชมสำรวจจิตใจ ทบทวนความรู้สึกนึกคิด รวมถึงอธิบายว่าสมาธิทำงานกับสมอง อารมณ์ และพฤติกรรมของเราอย่างไร โดยมีการอ้างอิงจากงานวิจัย ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการฝึกสมาธิไปพร้อมกับภาพประกอบหลากหลาย ทั้งลายเส้น สีสัน รูปทรง รูปร่าง และการเคลื่อนไหวที่ดูแล้วผ่อนคลาย
ผู้รับหน้าที่เล่าเรื่องคือ Andy Puddicombe ชายผู้เคยบวชเป็นพระในทิเบตมากว่า 10 ปี และเคยร่วมกับเพื่อนทำแอปพลิเคชันฝึกสมาธิชื่อ Headspace จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ครั้งนี้เขาจับมือกับ Netflix ทำซีรีส์ออกมา 8 ตอน ตอนละประมาณ 20 นาที เป็นมิติใหม่ของการฝึกสมาธิที่เข้าใจง่ายและทำตามได้ที่บ้าน
หากมองไปรอบตัว โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งกวนใจมากมาย แค่เราไม่จับมือถือสักครึ่งชั่วโมงก็รู้สึกร้อนรนแล้วใช่ไหม นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้หยุดนิ่งอยู่เฉยๆ ลองมาใช้ชีวิตให้ช้าลงและหาพื้นที่สงบในใจ เริ่มจากการนั่งหรือนอนในท่าสบายๆ จะหลับตาหรือลืมตาก็ได้ รับรู้เสียงที่เกิดขึ้นรอบตัว นึกถึงลมหายใจเข้าออกโดยไม่ต้องบังคับหรือพยายาม แล้วสังเกตความเคลื่อนไหวของร่างกาย และความรู้สึกของเราในขณะนั้น
ฉันไม่เคยรู้แง่มุมนี้มาก่อนว่า การทำสมาธิจะนำพาความคิดของเราไปปลดล็อกบางอย่างในจิตใจ ทั้งการปล่อยวาง การพึงพอใจกับชีวิต การจัดการความเครียด การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น การรับมือกับความเจ็บปวดทางกาย การระงับความโกรธ หรือแม้กระทั่งการเป็นคนที่เก่งขึ้น ฉันจึงขอหยิบสัก 5 เทคนิคจากทั้งหมด 8 ตอนมาเล่าสู่กันฟัง คุณอาจยังไม่ได้ใช้มันวันนี้ แต่วันใดวันหนึ่งมันน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณ
01 ปล่อยวางแล้วใจจะเป็นสุข
ตัวคุณในตอนนี้มีสัมภาระอะไรที่ต้องแบกไว้บ้าง ความเครียด ความกดดัน ความโกรธเกลียด ความโศกเศร้า หรือความถวิลหา ถ้าเปรียบใจของเราเป็นท้องฟ้าสดใส ความคิดเหล่านี้ก็เป็นเหมือนเมฆสีดำในวันฟ้าหม่น บางครั้งเราออกเดินทางเพราะอยากลืมเรื่องราวแย่ๆ หรือขอเพียงได้หยุดคิดถึงมันชั่วขณะ แต่หากความคิดนั้นมันไม่ยอมออกไปจากหัวล่ะ
ใน EP.2 How to Let Go ได้บอกวิธีการปล่อยวางด้วย ‘เทคนิคการนึกภาพ’ ในขณะที่ทำสมาธิเราอาจนึกถึงสถานที่ที่เรารู้สึกดี อาจเป็นสี รูปร่าง เสียง หรือกลิ่น ไม่จำเป็นต้องสนใจรายละเอียด แต่ขอให้รู้สึกถึงมันมากพอ แล้วจินตนาการถึงแสงแดดอ่อนๆ ที่ค่อยๆ ซึมซาบเข้ามาเติมเต็มร่างกายให้อ่อนนุ่ม อบอุ่น และว่างเปล่า เราจะสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายโดยไม่ต้องลุกออกไปไหน เพราะเรามีท้องฟ้าที่สดใสอยู่ในใจทุกที่ทุกเวลา
02 ตกหลุมรักชีวิตอีกครั้ง
ชีวิตคนเรามักหมดเวลาไปกับการตามหาสิ่งที่อยากมี อยากเป็น หรืออยากทำ จนลืมสิ่งที่อยู่ตรงหน้า EP.3 How to Fall in Love with Life ย้ำเตือนให้เราไม่ลืมที่จะขอบคุณและชื่นชมยินดีกับชีวิตด้วย ‘เทคนิคสะท้อนความคิด’ เมื่อใจเราสงบถามตัวเองว่า ชีวิตที่เป็นอยู่เราพอใจกับอะไรมากที่สุด มันอาจเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง หรือเป็นแค่กาแฟหนึ่งแก้วในตอนเช้า
ไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันแค่ตอนทำสมาธิ เราสามารถหาโอกาสให้ตัวเองได้อมยิ้มในทุกช่วงเวลาของวัน ก่อนลุกออกจากเตียงให้ขอบคุณที่เราตื่นขึ้นมาในเช้านี้ ก่อนอาหารทุกมื้อลองนึกถึงที่มาของมัน และขอบคุณที่เราได้กินของอร่อย เมื่ออยู่กับคนที่เรารักให้ขอบคุณเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน เพื่อเรียนรู้ที่จะตกหลุมรักชีวิตตัวเองอีกครั้ง
03 รักตัวเองก่อนจะไปรักใคร
ลองนับความสัมพันธ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรามีรูปแบบไหนบ้าง บางคนเป็นเพื่อนที่รักและไว้ใจ เป็นเจ้านายที่ดีและเข้าอกเข้าใจ หรือเป็นคนในครอบครัวที่เรารู้สึกผูกพัน แต่บางความสัมพันธ์เราอาจพลั้งเผลอมีบทสนทนาที่ขัดแย้ง เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความคับข้องใจ หรือแม้แต่คับแค้นใจ
คงจะดีถ้าเราไม่ผูกใจเจ็บและมีแต่ความห่วงใยแก่กัน EP.5 How to be Kind พาเราไปรู้จัก ‘เทคนิคแผ่เมตตา’ จดจ่ออยู่กับสมาธิแล้วค่อยๆ นึกถึงจุดเล็กๆ ของแสงแดดที่หน้าอก แผ่ออกไปจนเห็นตัวเองผ่อนคลายและยิ้มออกมา จากนั้นลองนึกภาพคนที่เรารักอยู่ที่ไหนสักแห่งที่เขาชอบ มองดูประกายแดดเดียวกันบนอกของเขาขยายออกจนเติมเต็มร่างกายนั้น เมื่อเห็นเขายิ้มแย้มมีความสุข ต่อไปลองแทนภาพด้วยคนอื่นที่มีความสัมพันธ์ต่างออกไป อาจเป็นคนใกล้ชิด คนรู้จัก คนไม่รู้จัก และถ้าเป็นไปได้ลองนึกถึงคนที่เกลียดขึ้นมาในใจ ทำวิธีเดียวกันนี้เพื่อรู้จักความรักโดยปราศจากเงื่อนไข
04 ความโกรธคือศัตรูหัวใจ
คุณเคยรู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้าไหม หรือยังโกรธใครไม่หายแม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายปี บางครั้งความโกรธทำให้เราคิดถึงแต่ตัวเอง จนลืมคิดไปว่าเขาอาจไม่ได้ตั้งใจหรือมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำแบบนั้น การมองจากมุมมุมเดียวทำให้ใจเราหดแคบลง แต่ถ้าเรามองในมุมอื่นบ้างใจเราจะเปิดกว้าง มุมมองต่อโลกก็จะกว้างขึ้นด้วย
มาเรียนรู้การระงับความโกรธใน EP.7 How to Deal with Anger ที่เผย ‘เทคนิคเมตตากรุณา’ ทำใจให้สบายแล้วนึกถึงคนที่ทำให้เราหงุดหงิดนั่งอยู่ตรงหน้า เราอาจรู้สึกตึงเครียดเมื่อนึกถึงสถานการณ์นั้น ปล่อยความคิดให้มันผ่านมาแล้วผ่านไป จากนั้นหายใจเข้าเอาความรู้สึกลำบากของเขาเข้าไปในใจเรา แล้วหายใจออกเปลี่ยนเป็นสิ่งดีๆ ที่เราเคยได้รับในชีวิตแบ่งปันกับคนนั้น แค่เราพลิกอีกด้าน ใส่ความสุขของคนอื่นก่อนที่จะเป็นของเรา หรือใส่ลงไปพอๆ กัน จะพบว่าใจเรามีความสุขขึ้นเยอะเลย
05 เป็นคนที่เก่งกว่าเมื่อวาน
งานที่ทำอยู่ตอนนี้ใช่สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด หรืออยากทำมันมากที่สุดหรือเปล่า อะไรกันที่ขวางเราไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า ใช่อายุ ใช่สุขภาพ ใช่เงินในบัญชี ใช่สิ่งแวดล้อมที่คุณอยู่ไหม แท้จริงปัจจัยเหล่านี้มันอาจเป็นข้ออ้างของความรู้สึกกลัวที่จะผิดหวัง ไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ มีเพียงความคิดเราเท่านั้นที่ปิดกั้นเราจากโอกาส
ทุกคนเป็นได้มากกว่าที่เป็น EP.8 How to Achieve Your Limitless Potential จะช่วยคุณบรรลุศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดด้วย ‘เทคนิคพักการรับรู้’ ปล่อยวางเสียงเซ็งแซ่ในหัวแล้วไม่ต้องจดจ่อกับอะไรเลย สมาธิจะช่วยลดความเครียด ความกระวนกระวาย ความฉุนเฉียวที่คอยบั่นทอนจิตใจ จิตที่เป็นอิสระจะพาเราก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนด้วยใจที่เปิดกว้าง สงสัยใคร่รู้ และพร้อมเสี่ยง คุณอาจรู้สึกถึงความไม่มั่นคง แต่มันจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และนำไปสู่ความเป็นไปได้อีกมากมาย
ความสงบของชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับทุกอย่างอยู่ถูกที่ถูกทาง มันเกิดขึ้นได้แม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย คุณไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิหลังขดหลังแข็ง แค่อยู่ในท่าสบายๆ จะนั่ง จะนอนบนโซฟานิ่มๆ ที่บ้าน หรือจำวิธีเหล่านี้ไปแอบทำช่วงพักเบรกที่ออฟฟิศก็ย่อมได้ หากตั้งใจฝึกฝนเป็นประจำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คุณจะค้นพบเส้นทางที่เต็มไปด้วยความสุข