เยอรมนีลดราคาบริการขนส่งสาธารณะเหลือเพียง 9 ยูโรต่อเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และลดการใช้เชื้อเพลิงของประเทศ ซึ่งบัตรผ่านรายเดือนนี้จะใช้ได้เป็นเวลาทั้งหมดสามเดือนนับตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป ตามนโยบายที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีของ Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ซึ่งอัตราค่าโดยสารปกติสำหรับเครือข่ายสาธารณะทั้งหมดจะสูงถึง 107 ยูโร
ที่ผ่านมา แดนอินทรีเหล็กต้องพึ่งพาน้ำมันและก๊าซของรัสเซียสูงมาก เมื่อเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้สถานการณ์ด้านพลังงานของเยอรมนีน่าเป็นห่วงตามไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียหยุดส่งก๊าซให้โปแลนด์และบัลแกเรียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ราคาก๊าซในยุโรปทะยานขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ และจะมีผลกระทบที่ใหญ่กว่านี้ตามมาแน่นอน
ด้าน Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจได้ออกมาเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เยอรมนีได้ลดการพึ่งพาน้ำมันของรัสเซียแล้วเพื่อให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรโดยสมบูรณ์ ซึ่งอาจเป็นมาตรฐานสำหรับทั้งยุโรปสำหรับวิกฤตด้านพลังงานที่กำลังจะมาถึง
บัตรโดยสาร 9 ยูโรของเยอรมนีมีเป้าหมายสำคัญในการลดการใช้เชื้อเพลิงในฤดูท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง โดยผู้ที่ถือบัตรดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ทั้งระบบขนส่งในท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ครอบคลุมทั้งการใช้รถประจำทางและรถไฟ นอกจากการหั่นอัตราค่าโดยสารสาธารณะแล้ว คณะรัฐมนตรียังให้เงินอุดหนุน 100 ยูโรต่อเด็กหนึ่งคน เพื่อชดเชยค่าพลังงานที่สูงขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ เยอรมนีเคยลดราคาตั๋วโดยสารรถไฟทางไกลลง 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงลดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟจาก 19 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศผ่านบริการขนส่งสาธารณะมาแล้ว
Source : Bloomberg
RELATED POSTS
ส่งหนังสือที่อ่านจบแล้วกลับขึ้นชั้นวางอีกครั้ง ‘Reshelf’ เว็บไซต์ซื้อขายหนังสือมือสอง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางแบ่งปันเล่มโปรดให้เหล่านักอ่าน
เรื่อง
Urban Creature
มีหนังสือมือสองอยากส่งต่อ แต่ไม่รู้จะขายที่ไหน ลองเอาไปขายที่เว็บไซต์ ‘Reshelf’ ดูสิ Reshelf คือแพลตฟอร์มตัวกลางซื้อขายหนังสือมือสองน้องใหม่ แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ได้รับผลตอบรับจากเหล่านักอ่านเป็นอย่างดี ด้วยฝีมือของ ‘จีน่า-จิระชญา เศวตวาณิชกุล’ และทีม จีน่าเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการทำเว็บไซต์ Reshelf มาจากการที่เธอพบว่าการขายหนังสือในกองดองเพื่อซื้อหนังสือใหม่เป็นเรื่องยาก และการซื้อหนังสือมือหนึ่งโดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ครั้นจะให้ซื้อหนังสือมือสองผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็ไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกไหม สุดท้ายจีน่าเลยออกแบบเว็บไซต์ตัวกลางในการซื้อขายหนังสือด้วยตัวเอง ผ่านการหยิบเอาเพนพอยต์ที่ตัวเองเจอ ผสมรวมกับความคิดเห็นและฟีเจอร์อื่นๆ ที่เหล่าหนอนหนังสือที่รู้จักกันอยากให้มีภายในเว็บไซต์ เกิดเป็นเว็บไซต์หน้าตาสะอาดสะอ้านที่ให้เราสวมบทเป็นนักอ่านขุดคุ้ยกองดองของผู้อื่น พร้อมทั้งโละกองดองของตัวเองไปพร้อมๆ กัน แถมในหน้าเว็บยังกรองฟิลเตอร์ตามประเภทหนังสือและภาษาที่ต้องการ จากนั้นก็ซื้อขายระหว่างกันได้แล้ว ในช่วงแรกนี้ ตัวเว็บไซต์เปิดให้คนเข้ามาซื้อขายหนังสือกันได้ฟรีๆ แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่หลังจากนี้ถ้ามีอะไรอัปเดตเกี่ยวกับเว็บไซต์ เธอจะมาสอบถามความเห็นของเหล่าหนอนหนังสือก่อนแน่นอน “เพราะ Reshelf เกิดขึ้นได้เพราะคอมมูนิตี้ ทุกอย่างที่ดีไซน์เกิดจากสิ่งที่ทุกคนอยากเห็น” จีน่าบอกกับเรา นอกจากนี้ เธอมองว่าในอนาคต Reshelf อาจจะไม่ใช่แค่ชั้นวางสำหรับซื้อขายหนังสือมือสองเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่เธอและทีมอยากทำ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ให้คนที่สนใจในหนังสือประเภทเดียวกันได้มาจอยน์คอมมูนิตี้กัน หรือแม้กระทั่ง Book Blind Date แบบออนไลน์เองก็ตาม ใครมีหนังสืออยากปล่อยหรือมองหาหนังสือมือสองเล่มไหนอยู่ ลองเข้าไปดู และหยิบน้องออกจากชั้นวางกลับบ้านได้ที่ www.reshelf.xyz
เดินไปดูทางเท้าใหม่ ซอยเย็นอากาศ ต่อยอดจากทางเท้ารัชดาฯ 19 เดินได้ วิ่งดี สะดวก และปลอดภัย
เรื่อง
Urban Creature
ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยเห็นโครงการทางเท้าเส้นเลือดฝอยที่ปรับซอยวิภาวดี 16 หรือตรงรัชดาฯ 19 ให้มีสัดส่วนของทางเท้าที่ชัดเจน ทาสีกำหนดขอบเขตทั้งทางม้าลายและทางเดินให้เห็นเด่น และไม่มีร่องระบายน้ำแบบรางวีขัดขวางการเดินเท้า ตอนนี้ทางโครงการได้ขยายมายังทางเท้าใหม่บริเวณซอยเย็นอากาศ 1 ย่านสาทรแล้ว เพราะปกติพื้นที่ตรงนี้ไม่มีทางเท้าชัดเจน แต่มีผู้อยู่อาศัยเดินไปเดินมาเยอะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กๆ ซึ่งนอกจากทำให้การเดินสัญจรในซอยเป็นไปได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้นแล้ว การแบ่งสัดส่วนด้วยเส้นสีแบบนี้ยังทำให้ภาพที่ออกมาดูเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าใช้งานขึ้นด้วย กทม.มีเป้าหมายที่จะปรับปรุงทางเดินในย่านอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนสามารถทั้งเดินและวิ่งออกกำลังกายในซอยและเส้นทางต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็คงดีไม่น้อยเลยถ้าเราจะใช้เส้นทางเหล่านี้เดินเที่ยวและสำรวจเมืองได้ด้วย
‘ARTALE Asoke-Rama 9’ ใช้ชีวิตแบบไพรเวตเอ็กซ์คลูซีฟใน Penthouse On Ground ยกระดับชีวิตเหนือระดับกับโครงการบ้านเดี่ยวแรร์ไอเทมที่หาได้ยากในใจกลางเมือง
เรื่อง
Urban Creature
บ้านพร้อมอยู่ที่มีความเป็นส่วนตัวและครบครันไปด้วยความสะดวกสบายรอบด้าน บนทำเลที่ช่วยสนับสนุนการใช้ชีวิตให้เดินทางสะดวก รายล้อมไปด้วยสถานที่ที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ถือว่ามีความสำคัญในฐานะการเป็นรากฐานที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยให้มีความสุนทรีย์ในการดำเนินชีวิต โครงการ ‘ARTALE’ Flagship แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับ Luxury จากบ้านอนันดาเล็งเห็นความสำคัญของทำเลศักยภาพใจกลางเมืองซึ่งเป็นจุดแข็งของอนันดามาโดยตลอด พร้อมทั้งเข้าใจความต้องการของลูกบ้านที่อยากให้ ‘บ้าน’ เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนและรีชาร์จพลัง ภายใต้ความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว จากความตั้งใจนั้นนำมาสู่ความไพรเวตแบบแรร์ไอเทมที่หาไม่ได้แล้วในย่าน “อโศก – พระราม 9” โครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ‘ARTALE Asoke-Rama 9’ กับบ้านไทป์ Villa Apex ที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟในบ้านเดี่ยวที่เงียบสงบรื่นรมย์ในย่านที่สะดวกสบาย เชื่อมต่อย่านเมืองอื่นๆ และเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนเมือง อย่างที่ทราบกันดีว่า พระราม 9 คือหนึ่งในย่าน CBD ที่เต็มไปด้วยศักยภาพในการพัฒนาเชิงธุรกิจและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ส่งผลให้ที่นี่เป็นหนึ่งหมุดหมายของคนเมือง มากไปกว่านั้น ความสะดวกสบายที่ว่ายังครอบคลุมไปถึงการเป็นทำเลที่เอื้อต่อการเดินทางเข้าพื้นที่ใจกลางเมืองแห่งอื่นๆ เพื่อขยายอาณาเขตการใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินได้มากขึ้น เพราะใช้เวลาเพียง 7 นาทีก็เข้าถึงใจกลางสุขุมวิท แหล่งรวมไลฟ์สไตล์กลางเมืองอย่างโซนทองหล่อ พร้อมพงษ์ เอกมัยได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะออกมาพักผ่อน ชอปปิง ออกกำลังกาย หรือหาแรงบันดาลใจก็ตาม หรือหากไม่เข้าไปยังโซนสุขุมวิท ในย่านนี้ก็มีตั้งแต่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลายและสะดวก ไหนจะความมีชีวิตชีวาของย่านที่มาจากความพลุกพล่านของคนทำงานและธุรกิจน้อยใหญ่ ไปจนถึงสถานที่ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ […]
หนึ่งวันในพิพิธภัณฑ์ใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ‘ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย’ ท่องโลกเงินตราในอาคารที่ครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสถานที่พิมพ์ธนบัตรจริง
เรื่อง
มณิสร วรรณศิริกุล
‘ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย’ อาจเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะพื้นที่ห้องสมุดสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่อีกหนึ่งสิ่งที่คนอาจไม่เคยสังเกตคือ ภายในพื้นที่เดียวกันนี้ยังมี ‘พิพิธภัณฑ์’ คอยให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับเงินตราซ่อนตัวอยู่ด้วย แถมที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ‘พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย’ แห่งนี้จัดแสดงอยู่ใน ‘ห้องมั่นคง’ ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาธนบัตรเดิมเมื่อครั้งที่อาคารหลังนี้เคยเป็นโรงพิมพ์ธนบัตรทั้งหมด ตั้งแต่ชั้น 2 ไปถึงชั้น B2 ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้แม่น้ำเจ้าพระยากว่า 6 เมตร ใครที่อยากรู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะสื่อสารเรื่องการเงินให้น่าสนใจผ่านพิพิธภัณฑ์ที่มีส่วนหนึ่งในการจัดแสดงอยู่ใต้แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างไร ตาม Urban Creature ไปคุยกับทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทีมงานนำชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ในซีรีส์คอนเทนต์ ‘MUSEUM-IN-SIGHT เพ่งพิศพิพิธภัณฑ์’ ตอนที่ 9 พร้อมๆ กัน เปิดประตูบ้านแบงก์ชาติ ย้อนกลับไปที่จุดประสงค์ของการก่อตั้ง ‘ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย’ พื้นที่ 12,900 ตารางเมตรที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาคารโรงพิมพ์ธนบัตรแห่งแรกของประเทศนี้ ‘พี่บี-โสภี สงวนดีกุล’ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างและบริหารอาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกกับเราว่า หัวใจสำคัญคือการที่ธนาคารฯ ต้องการแสดงบทบาทหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยให้สาธารณชนได้รู้จัก “แรกเดิมทีธนาคารแห่งประเทศไทยมีอาคารสำนักงานอยู่ที่สุรวงศ์ จึงได้มีการเปิดพิพิธภัณฑ์ขึ้นที่นั่นในปี 2512 โดยใช้ชื่อว่า ‘พิพิธภัณฑ์เงินตรา’ เพื่อจัดแสดงประวัติของเงินตราต่างๆ ที่มีในประเทศไทย ก่อนจะปิดไปในช่วงปี 2520 แล้วมาเปิดใหม่อีกครั้งที่วังบางขุนพรหมในชื่อ ‘พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย’ เมื่อปี […]