“ไม่มีที่ใดในแผ่นดินไทย ที่พระองค์เสด็จไปไม่ถึง” รวม 7 ที่เที่ยวตามรอยพ่อ ที่ควรไปให้ได้สักครั้งในชีวิต - Urban Creature

ร”ไม่มีที่ใดในแผ่นดินไทย ที่พระองค์เสด็จไปไม่ถึง” ในป่า บนดอย พื้นที่ธุรกันดาร หนทางลำบากเพียงไหน พระองค์เสด็จไปทุกที่ นี่คือความโชคดีของคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักเพื่อความสุขของประชาชน วันนี้เราได้รวบรวมสถานที่ที่ให้เราได้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา

ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) – เชียงใหม่


หนึ่งในไฮไลท์ของหน้าหนาวบ้านเราก็คงจะหนีไม่พ้นดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ที่จะออกดอกมาให้เราได้ชื่นชมกันในช่วงเดือนมกราถึงกุมภาของทุกปี  และอีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้สำหรับการไปล่าดอกพญาเสือโคร่งนั่นก็คือ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ขุนวาง

เมื่อปีพ.ศ. 2525 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จไปยังบ้านขุนวางเป็นครั้งแรก และทรงทอดพระเนตรเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ยังมีการปลูกฝิ่น และพืชเสพติดอื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก จึงเห็นควรส่งเสริมให้มีการปลูกพืชชนิดอื่นๆ ที่มีรายได้ดีกว่าปลูกฝิ่น ทำให้ที่นี่กลายมาเป็นศูนย์วิจัยพืชพรรณและไม้ผลเมืองหนาว และยังเป็นสถานท่ีท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยว


ที่ขุนวางจะมีการปลูกต้นพญาเสือโคร่งขนานไปกับถนน ทำให้เมื่อถึงช่วงที่พญาเสือโคร่งพร้อมใจกันบานถนนสายนี้ก็จะกลายเป็นถนนสีชมพูที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป และด้วยพื้นที่ที่สูงถึง 1,100 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ในหน้าหนาวนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับอากาศหนาวอย่างเต็มที่ ใครอยากจะมาพักแรมที่นี่ก็มากันได้ เพราะมีทั้งบ้านพักรับรอง และจุดกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ฤดูท่องเที่ยว : ตุลาคม-กุมภาพันธ์
ระยะทางจากกทม. 690 กม.
3 วัน 2 คืน

ภูหินร่องกล้า – พิษณุโลก

ใครที่อยากสัมผัสอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาว แต่ไม่อยากไปไกลถึงภาคเหนือ ภูหินร่องกล้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการในพระราชดำริ ที่จัดทำขึ้นเพื่อฟื้นฟูป่าไม้ เพาะชำกล้าไม้  ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของพื้นที่บริเวณนี้อีกด้วย


สำหรับใครที่ชื่นชอบธรรมชาติไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีจุดชมวิวถึง 6 จุด ส่วนใครที่ตั้งใจมาดูพระอาทิตย์ตกก็ไปที่ผาชูธงได้เลย  นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณสองกิโลครึ่งให้ได้เดินชมธรรมชาติกันเพลินๆ ส่วนไฮไลท์ของหน้าหนาวก็คือ ดอกพญาเสือโคร่ง ทุ่งดอกกระดาษ และใบเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงที่โรงเรียนการเมือง รับรองว่าคนรักการถ่ายรูปจะได้รัวชัตเตอร์กันไม่หยุดอย่างแน่นอน



ฤดูท่องเที่ยว : พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
ระยะทางจากกทม. 452 กม.
3 วัน 2 คืน

โครงการหลวงปังค่า – พะเยา

จังหวัดพะเยาอาจไม่ใช่จังหวัดยอดฮิตที่คนจะมาท่องเที่ยวกันสักเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่าที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ นั่นคือ โครงการหลวงปังค่า หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ที่นี่เป็นหนึ่งในโครงการหลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าเย้าและม้ง


บ้านปังค่าตั้งอยู่ในวนอุทยานแห่งชาติภูลังกาที่ได้ฉายาว่ากุ้ยหลินเมืองไทย (อีกหนึ่งกุ้ยหลินเมืองไทยคือ เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์) ขอบอกเลยว่ามาที่นี่ที่เดียวได้ทั้งเยี่ยมชมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวม้งที่หมู่บ้านสิบสองพัฒนา เดินชมทุ่งดอกเยอบีร่า และกุหลาบหลายสายพันธุ์ เดินดูแปลงผักเมืองเหนือที่แปลงสาธิตการปลูกผักในโรงเรือน  ตอนกลางคืนนอนเต็นท์นับดาว ตื่นเช้ามาเจอทะเลหมอก พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น บอกได้คำเดียวว่าคุ้ม


ฤดูท่องเที่ยว : กันยายน-กุมภาพันธ์
ระยะทางจากกทม. 726 กม.
3 วัน 2 คืน

ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน

ทริปยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวคงจะหนีไม่พ้นการที่ได้ไปยืนชมหมอกเหนือผิวน้ำริมปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าที่จริงแล้ว ที่เราเรียกๆ กันว่าปางอุ๋งนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ที่เป็นโครงการในพระราชดำริ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จมาประทับแรมที่พระตำหนักปางตองครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2524 และทรงเห็นว่า บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าเป็นเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ จึงทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ปรับปรุงสภาพป่าบริเวณนั้นใหม่

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อไปเยือนที่นี่ก็คือการกางเต็นท์พักแรมริมทะเลสาบ ตื่นเช้ามาดูหมอก และยังมีพระตำหนักปางตองที่สามารถเดินไปชมได้ นอกจากนี้ก็มีสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ที่มีสัตว์หายากนานาชนิด เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างแท้จริง

ฤดูท่องเที่ยว : พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
ระยะทางจากกทม. 768 กม.
3 วัน 2 คืน


ภูเรือ เลย

ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่บนที่สูง ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นอีกหนึ่งที่ที่ท่องเที่ยวนิยมมาฟอกปอดกันตลอดทั้งปี

ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย หรือ ภูเรือ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ที่เป็นแหล่งศึกษาวิจัย และทดลองปลูกไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักผลไม้เมืองหนาว และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้อีกด้วย


ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ แปลงดอกไม้เมืองหนาว ที่เหมาะสุดๆ ที่จะพาคุณแม่ไปเซลฟี่กับดอกไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีทุ่งคริสมาสต์ที่ปลูกบนพื้นที่ถึง 5 ไร่ อย่าว่าแต่คุณแม่เลย เราเองก็อยากจะไปถ่ายรูปชิคๆ ด้วยเหมือนกัน

ใครกำลังหาที่เที่ยวหน้าหนาวที่จะถึงนี้ ลองพิจารณาที่นี่ดูนะ เพราะเขามีบ้านพักรับรองที่รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 300 คน และยังมีลานกางเต๊นท์ที่ให้เราได้ไปนอนรับลมหนาวอย่างใกล้ชิดด้วย

ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดปี
ระยะทางจากกทม. 719 กม.
3 วัน 2 คืน

หมู่เกาะชุมพร – ชุมพร


เอาใจคนรักทะเลกันบ้างกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ถึง 40 เกาะ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากจะมาทำกิจกรรมทางทะเล และยังได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด


นอกจากการดำน้ำดูปะการัง ชมความงามของท้องทะเลอ่าวไทยแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ที่มีกิจกรรมมากมายให้ทำ ทั้งการเดินศึกษาธรรมชาติชมป่าชายเลนไปตามสะพานไม้ที่ทอดยาว หรือจะพายเรือคายัคไปชื่นชมป่าชายเลนอย่างใกล้ชิดก็ทำได้

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดนั่นคือการแวะไปเยี่ยมชมโครงการตามพระราชดำริพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ที่เป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำ ที่มีกิจกรรมมากมายให้เราได้ไปเรียนรู้กัน เหมาะกับคนที่สนใจในเรื่องวิถีพอเพียงสุดๆ

ฤดูท่องเที่ยว : มีนาคม-ตุลาคม
ระยะทางจากกทม. 488 กม.
3 วัน 2 คืน

อ่าวคุ้งกระเบน – จันทบุรี

สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ แต่มีเวลาน้อย อ่าวคุ้งกระเบนเป็นถือเป็นทางเลือกที่ดี ด้วยระยะทางเพียงสองร้อยกว่าโลจากกรุงเทพฯ เราก็จะได้พบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะที่ไปพักใจในวันหยุดสุดสัปดาห์สุดๆ

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจาก พระราชดาริ ก่อต้ังขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เพื่อทำการศึกษา วิจัย เพาะพันธ์ุสัตว์น้ำชายฝั่งทะเล อนุรักษ์พันธุ์ไม้ป่าชายเลน รวมถึงช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน


มาที่นี่แล้วนอกจากจะได้พักผ่อนแล้ว ยังได้ความรู้กลับไปอีกด้วยเพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็นเดินไปตามสะพานไม้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้บริเวณป่าชายเลน เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมง และยังได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติทั้งพืชพันธุ์นานาชนิด รวมถึงสัตว์น้ำน้อยใหญ่ที่รอให้เราไปทำความรู้จัก


ฤดูท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
ระยะทางจากกทม. 231 กม.
2 วัน 1 คืน

Credit
https://www.fotoinfomag.com/
http://pe561150016.blogspot.com
https://www.thetrippacker.com/
https://www.thairath.co.th/

HOME


https://thai.tourismthailand.org
https://www.thetrippacker.com/th\
http://dmiceplanner.businesseventsthailand.com/
http://thailandscanme.com
https://th.wikipedia.org/

Writer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.