หลังจากมีข่าวว่าคณะกรรมาธิการยุโรปเห็นด้วยกับการกำหนดให้ USB Type-C เป็นมาตรฐานสายชาร์จสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดทางรัฐสภายุโรปก็ได้อนุมัติกฎหมายฉบับใหม่แล้ว โดยกำหนดให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และกล้อง ที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป ต้องเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จประเภท Type-C ทั้งหมดภายในปี 2024 ส่วนแล็ปท็อปเองก็จะต้องเปลี่ยนมาใช้หัวชาร์จประเภทเดียวกันภายในปี 2026 ด้วย
ข้อบังคับนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคและประหยัดค่าใช้จ่ายกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พวกเขาจะไม่ต้องซื้อสายชาร์จใหม่ทุกครั้งที่ซื้ออุปกรณ์ เพราะสายชาร์จเส้นเดียวสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้ทุกชนิดและทุกแบรนด์ แถมยังช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่จำเป็น เพราะการบังคับใช้สายชาร์จ Type-C เป็นมาตรฐานเดียวกันนี้จะช่วยลดกระบวนการผลิตสายชาร์จลงอีกด้วย
แต่หลังจากกฎหมายนี้ผ่านการลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ทาง Apple และบริษัทที่ยังไม่เปลี่ยนมาใช้สายชาร์จ Type-C ก็ดูจะได้รับผลกระทบจากกำหนดนี้ไม่น้อย เพราะหากยังต้องการจะขายสินค้าในสหภาพยุโรป บริษัทก็จำเป็นต้องเปลี่ยนสายชาร์จตามข้อบังคับด้วย โดยเฉพาะ Apple ที่ถือลิขสิทธิ์สายชาร์จประเภท Lightning สำหรับ iPhone แต่ในขณะเดียวกันอุปกรณ์อื่นๆ ของแบรนด์อย่าง iPad และ MacBook กลับเปลี่ยนมาใช้พอร์ตสำหรับ Type-C แล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ Apple เองก็โดนประเทศบราซิลสั่งห้ามขาย iPhone เนื่องจากไม่มีอแดปเตอร์สำหรับชาร์จมาให้ในกล่องด้วย โดยทาง Apple อ้างว่าเป็นการลดขยะและช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนมาใช้สายชาร์จมาตรฐานทั่วไปจะช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากกว่า ก็ต้องรอดูกันว่า Apple จะเปลี่ยนมาใช้สายชาร์จ Type-C เมื่อไร หลังจากที่วางขาย iPhone 14 ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ถึงจะเริ่มต้นบังคับในฝั่งทวีปยุโรป แต่คาดว่าหลังจากที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มเปลี่ยนมาใช้สาย Type-C เป็นมาตรฐานเดียวกันได้แล้ว สินค้าที่จำหน่ายในทวีปอื่นๆ ก็คงจะต้องใช้สายชาร์จประเภทนี้เช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้น ผู้บริโภคก็คงจะสะดวกสบายขึ้นกับการพกพาสายชาร์จเพียงเส้นเดียว แต่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ
Sources :
CNBC I cnb.cx/3ry4TDx
Engadget I engt.co/3SIlrVp
Writer
