หากใครที่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท Dyson บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษอย่างเครื่องดูดฝุ่นหรือไดร์เป่าผมแล้วล่ะก็ วันนี้คุณอาจจะตกตะลึงกับสินค้าในยุคโควิด-19 ชิ้นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ 30 มีนาคมที่ผ่านมา
นั่นก็คือหูฟังตัดเสียงรบกวนที่เสริมฟังก์ชันด้วยหน้ากากกรองฝุ่นที่ชื่อ ‘Zone’ นั่นเอง
Dyson เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่นี้ไป และได้รับเสียงตอบรับกลับมาเป็นความงุนงงเรื่องดีไซน์ที่แสนจะแหวกแนว จากนักเขียน-นักข่าวสายเทคโนโลยี แต่เรามาดูแนวคิดและเป้าหมายของผลิตภัณฑ์สไตล์ Dyson นี้กันดีกว่าว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ลองจินตนาการว่าเราใส่หูฟังแบบครอบหูอยู่ แล้วมีเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เราฟังเพลงหรือได้ยินเสียงจากหูฟังไม่ชัด และในยุคโควิดที่เราต้องใส่หน้ากากไปมาหาสู่กันเพื่อป้องกันโรค แม้กระทั่งต้องใส่หน้ากากเพื่อรักษาตัวเองจากมลพิษในอากาศอย่างฝุ่นละออง อาจจะเรียกได้ว่าปัญหา 2 เรื่องใหญ่ๆ นี่แหละคือเบื้องหลังของการผลิตหูฟัง ‘Zone’ ออกมาเพื่อช่วยผู้สวมใส่เอนจอยกับการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวลอะไรมากขึ้น
กลไกการทำงานของชุดหูฟัง Zone คือการใส่ระบบกรองอากาศไว้ในชุดหูฟังทั้งสองข้างซึ่งข้างในก็มีระบบการตัดเสียงรบกวนภายนอก และเมื่อระบบดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาผ่านชั้นกรองบริเวณครอบหูฟังก็จะส่งอากาศที่ฟอกสะอาดแล้วผ่านไปยังหน้ากากครอบปากและจมูกที่ทาง Dyson เรียกว่า ‘Visor’
แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากหน้ากากอนามัยคือ ‘Visor’ จะไม่สัมผัสกับใบหน้าโดยตรง แต่จะเว้นช่องว่างไว้เพื่อสูดอากาศที่ปล่อยออกมาได้อย่างไม่อึดอัด ทางผู้ผลิตยังให้เหตุผลอีกว่า เพื่อช่วยลดการสัมผัสกับหน้ากากที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อีกต่อหนึ่ง และถ้าใครอยากจะใช้หูฟังเฉยๆ เจ้าตัว ‘Visor’ นี้ก็ยังถอดออกหรือยกขึ้นลงได้อีกเหมือนกัน
และถ้าใครอยากจะป้องกันโควิด-19 เพิ่มอาจจะต้องซื้อตัวกรองไปติดเพิ่มที่ตัว Visor ด้วยนะ
ถึงแม้นักรีวิวอย่าง Chaim Gartenberg จากนิตยสาร The Verge ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้ทดสอบเจ้า ‘Zone’ ไปแล้ว ซึ่งเขาพบว่ามันมีน้ำหนักและใหญ่กว่าหูฟังแบบครอบที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ส่วนเรื่องการทำงานของระบบฟอกอากาศนั้น เมื่อเปิดเครื่องที่อยู่ในครอบหูฟังไปแล้ว แม้จะมีระบบตัดเสียงรบกวนก็ยังได้ยินการทำงานของเครื่องกรองอยู่ดี
จะอย่างไรก็ตาม นี่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องไปกับยุคสมัยและสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ส่วนราคา ช่องทางจัดจำหน่าย หรือรายละเอียดอื่นๆ นั้น ยังต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ร่วง หรือปลายปี 2565 ที่จะวางขายอย่างเป็นทางการอีกทีหนึ่งเลย
Sources
The Verge | https://bit.ly/3tU5JwD
The Guardian | https://bit.ly/3qRthQC