“จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” คือประโยคอมตะของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่เราคุ้นเคยกันดี
แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าประโยคถัดไปของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังคืออะไร
“ความรู้มีข้อจำกัด แต่จินตนาการเป็นสิ่งที่หมุนโลก” เป็นสิ่งที่เขามักกล่าวเสริมเสมอ
ในฐานะคนรุ่นใหม่ การได้ออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์รอบตัว จึงเป็นเหมือนการเติมเต็มแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเพื่อขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า
หากจินตนาการคือสิ่งที่พา อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ไปสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลของโลกในศตวรรษที่ 20 รถยนต์ New Honda City e:HEV ก็คงเป็นเหมือนยานพาหนะที่พาเราไปเปิดโลกใบใหม่ ในแบบที่พร้อมพิชิตทุกจุดหมายปลายทาง เราจึงอยากชวนทุกคนมาขับเคลื่อนอนาคตไปกับ New Honda City e:HEV เพื่อจะได้รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกได้อย่างไร
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราในหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ตื่นนอน เดินทาง รับประทานอาหาร จนกระทั่งยามว่าง กิจกรรมทั้งหมดล้วนเกี่ยวพันกับเทคโนโลยีอย่างแยกไม่ออก หลายคนอาจมองว่า วิทยาศาสตร์กับศิลปะเป็นศาสตร์ที่วิ่งอยู่บนเส้นขนาน ไม่มีทางมาบรรจบกัน แต่ในความจริงแล้วทั้งสองศาสตร์ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
เพื่อยืนยันแนวคิดที่ว่าวิทยาศาสตร์กับศิลปะสามารถเติบโตคู่ไปด้วยกันได้ เราจึงเริ่มต้นการออกเดินทางเพื่อเสพศิลป์ (Art) โดยมีจุดหมายอยู่ที่ FAAMAI Digital Arts Hub สถานที่ ที่ทั้งสองศาสตร์มาบรรจบกัน และแต่งแต้มจินตนาการของเราให้กว้างขึ้นอย่างไม่รู้จบ
| FAAMAI Digital Arts Hub
FAAMAI ศูนย์ศิลปกรรมดิจิทัลเพื่อส่งเสริมงานศิลป์ คือพื้นที่สร้างสรรค์แห่งใหม่ในโดมขนาดยักษ์ใจกลางสามย่าน ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการจัดแสดงภาพและเสียง ผสมผสานเข้ากับ Visual Art ฉายภาพด้วยเทคนิค Immersive ซึ่งช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเสพงานศิลปะสามมิติ 360 องศารอบตัวผู้ชม และเมื่อได้นั่งอยู่ท่ามกลางงานศิลปะที่โอบกอดเราอย่างมีชีวิตชีวา ก็ช่วยให้เราเข้าถึงและเข้าใจข้อความที่สื่อออกมาและใกล้ชิดกับงานศิลปะขึ้นกว่าเดิม
สำหรับท่านที่สนใจ หาข้อมูลรอบการจัดแสดงเพิ่มเติมได้ที่ : https://faamai.wpcomstaging.com/home/
การออกเดินทางไป FAAMAI ทำให้เราเห็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับศิลปะ ที่สอดแทรกความสร้างสรรค์จนเกิดเป็นงานศิลปะแขนงใหม่ที่เต็มไปด้วยความลงตัว
เฉกเช่นเดียวกับ New Honda City e:HEV ยนตรกรรมล้ำสมัยมาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ระบบ Full Hybrid เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งมอบสมรรถนะในการขับขี่ที่ทรงพลัง แรงเร้าใจ แถมยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราประหยัดน้ำมัน 27.8 กม./ลิตร มาพร้อมฟังก์ชันด้านความปลอดภัย ที่ทำให้เราออกไปสนุกได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวล
ในแง่ของสุนทรียะ ภายนอกของ New Honda City e:HEV ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวด้วยดีไซน์ปราดเปรียวล้ำสมัยด้วยกระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black เงางาม มาพร้อมกระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และอีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ คือสีพิเศษอย่างน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) ที่ชวนทุกสายตาให้หันมาจับจ้อง
อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คือโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (Blue H-mark) แสดงความเป็น Full Hybrid ซึ่งมาพร้อมกับสัญลักษณ์ e:HEV ตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในรถยนต์ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตไม่ซ้ำใคร
New Honda City e:HEV ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังที่ผ่านการผสมผสานอย่างลงตัว
โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid i-MMD ระบบ Full Hybrid ที่เกิดจากการผสานสองนวัตกรรม เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน จนก่อให้เกิดขุมพลังที่ทรงพลังกว่าเดิมด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 253 นิวตัน-เมตร
ในรุ่นนี้มีหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงมาตรวัด สถานะเครื่องยนต์ รวมถึงแสดงสถานะการขับขี่ การจ่ายไฟ และชาร์จไฟ ซึ่งหน้าจอ TFT ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันเพื่อควบคุมการทำงานของรถอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว
| Emilia Ristorante Italiano
หลังจากในช่วงเช้าเติมเต็มแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเสพงานศิลป์ (Art) พอนาฬิกาหมุนไปสู่ช่วงเที่ยง คงไม่มีกิจกรรมไหนเหมาะไปกว่าการกิน (Eat) เพื่อเติมพลังให้พร้อมออกไปใช้ชีวิต
เราจึงออกเดินทางเพื่อไปพบเรื่องราวใหม่ๆ ผ่านประสบการณ์การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใคร ณ ร้าน Emilia Ristorante Italiano ร้านอาหารที่เปลี่ยน Fine dining ซึ่งเดิมทีเป็นรูปแบบร้านอาหารที่เป็นทางการ ให้กลายเป็น Casual Fine dining ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผ่านการลดขั้นตอนที่หลากหลาย รวมถึงการปรับบรรยากาศภายในให้เป็นกันเองมากขึ้น แต่ยังคงคุณภาพอาหารไว้คงเดิม พร้อมกับแนวคิดที่อยากรวบรวมอาหารอร่อยๆ ทั่วโลกให้มาอยู่ในที่เดียว
เมื่อย่างก้าวเข้ามาภายในร้าน Emilia Ristorante Italiano เรารู้สึกเหมือนกับหลุดเข้าไปยังยุคกลาง ภายในร้านโดดเด่นด้วยการตกแต่งจากซุ้มโค้งและเส้นสายของสถาปัตยกรรม โทนสีครีมที่เลือกใช้เข้ากันได้ดีกับแสงแดดอ่อนๆ ที่เล็ดลอดผ่านหน้าต่าง ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น
นอกจากความพิถีพิถันในการออกแบบ สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างอาหารก็ผ่านกระบวนการปรุงมาอย่างประณีตทุกขั้นตอน ประสบการณ์การกินจึงออกมาเหมือนการได้ทานร้านอาหาร Fine dining ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ แถมยังช่วยเปิดโลกความอร่อยของเราให้กว้างขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
หลังมื้อกลางวันเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาของจุดหมายถัดไป ระหว่างการเดินทางเราได้เรียนรู้ว่า New Honda City e:HEV ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นกว่าเดิมผ่านห้องโดยสารที่กว้างขวาง ที่ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็เอนกายได้อย่างสบายไม่อึดอัด
รถคันนี้ยังมาพร้อมกับ Rear Air Vent ระบบช่องปรับอากาศด้านหลัง และช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะมีเพื่อนร่วมทางเพิ่มขึ้นในทริปไหนๆ ก็สะดวกสบาย พร้อมออกไปสนุกกันได้เต็มที่
ในการขับรถยนต์ สิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงคือเรื่องของมุมอับสายตาด้านข้างรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเข้ามาลดความเสี่ยงก็คือ Honda LaneWatch ที่ถูกออกแบบมาจากการใช้งานจริง มีหลักการทำงานง่ายๆ คือเมื่อเราเปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงภาพมุมอับสายตาบริเวณด้านซ้ายของกระจกมองข้าง ซึ่งเป็นมุมที่คนขับมักมองไม่เห็น ผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว ซึ่งช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
แถมรุ่นนี้ยังมี Electric Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้า ใช้งานง่าย เพียงใช้นิ้วดึงสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่ที่คอนโซลกลาง เมื่อต้องการใช้เบรกมือ โดยระบบจะคลายเบรกอัตโนมัติเมื่อเราเหยียบคันเร่ง ซึ่งระบบจะคลายเบรกในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เท่านั้น
New Honda City e:HEV ทำให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่าย แถมมาพร้อมความสนุกผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay ที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการเปิดเพลย์ลิสต์โปรดได้อย่างง่ายดาย พร้อมนำทางคุณด้วย Google Maps ให้เราเดินทางได้อย่างสะดวกสบายไร้กังวล คำนวณระยะเวลาที่จะใช้บนท้องถนนได้ดีขึ้น
ยานพาหนะเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทาง เพราะฉะนั้น คงดีไม่น้อยหากเรามีเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้อย่าง New Honda City e:HEV ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะอย่าง Honda SENSING ซึ่งทำให้การขับรถในเมืองหลวงเป็นเรื่องง่ายผ่านฟังก์ชันที่มีให้อย่างครบครัน
Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งระบบจะช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ตั้งค่าไว้และปรับความเร็วอัตโนมัติตามรถคันข้างหน้า เพื่อรักษาระยะห่างได้อย่างเหมาะสม
Collision Mitigation Braking System (CMBS) ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก ช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถจักรยาน หรือคนเดินถนนอยู่ในระยะไม่ปลอดภัย พร้อมระบบช่วยเบรก เพื่อหลีกเลี่ยงการชน หรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
Lane Keeping Assist System (LKAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning (RDM with LDW) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ผ่านการส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าช่องทางเดินรถปกติ
และ Auto High-Beam (AHB) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทาง หรือรถยนต์ด้านหน้า
กิจกรรม (Activity) สุดท้ายของการออกไปหาแรงบันดาลใจ คือการถ่ายภาพ Cityscape ยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร เพื่อไปดูแสงสีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
New Honda City e:HEV มีที่ว่างให้เราเก็บสัมภาระได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะพกกล้องไปกี่ตัวหรือมีกระเป๋าใบใหญ่แค่ไหน เมื่อพื้นที่เก็บของกว้างขึ้นก็ส่งผลให้เราได้ออกไปทำอะไรสนุกๆ มากขึ้นเช่นเดียวกัน
Honda CONNECT อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่น่าสนใจจนเราอยากบอกต่อ เป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับสมาร์ตโฟน ตรวจสอบสถานะรถยนต์ได้หลากหลาย อาทิ ระดับน้ำมัน ปั๊มน้ำมันใกล้เคียง บันทึกข้อมูลการขับขี่ รวมถึงการสั่งสตาร์ทรถยนต์ และที่สำคัญ ยังมีฟังก์ชัน Find My Car แสดงจุดจอดรถ ชนิดที่ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมเพื่อนคู่ใจไว้ตรงไหน
แม้จะออกเดินทางช่วงกลางคืนก็มั่นใจได้กับไฟส่องสว่างของ New Honda City e:HEV ที่แสดงให้เห็นความทันสมัยโฉบเฉี่ยวตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้าย แบบ LED พร้อมทั้ง Daytime Running Light ที่ช่วยให้เราขับขี่ได้อย่างมั่นใจในเวลากลางคืน นอกจากนั้น ยังมีระบบ Auto High-Beam เทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Honda SENSING ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติเมื่อวิ่งในที่มืด และจะปรับเป็นปกติเมื่อมีรถวิ่งสวน ทำให้เห็นชัดทุกสถานการณ์
เมื่อพลบค่ำ แสงสว่างของกรุงเทพฯ ก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เราจึงออกไปตามล่าหาแสงสีของกรุงเทพฯ ในมุมใหม่ๆ ให้เห็นสีสันและชีวิตของผู้คนที่ไม่เคยหยุดนิ่งในเมืองแห่งนี้
กิจกรรมทั้งสามอย่างที่เราได้ออกไปสัมผัส ทั้ง Art, Eat และ Activity ล้วนแสดงให้เราเห็นคุณค่าของการเดินทาง เห็นคุณค่าของการออกไปหาแรงบันดาลใจเพื่อเติมเชื้อไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมสุดท้ายเราจึงอยากทดลองใช้เวลาหยุดมองเมืองให้นานขึ้น เสมือน Speed Shutter ของกล้องที่ถูกตั้งทิ้งไว้นานกว่าปกติ เพื่อดื่มด่ำความงดงามของสิ่งที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากจินตนาการและเทคโนโลยีล้ำสมัยของมนุษย์
หลังจากได้ออกไปใช้ชีวิต ทำให้เรารู้ว่าไม่ว่ากิจกรรมไหนๆ New Honda City e:HEV รถยนต์สปอร์ตไฮบริด แรงล้ำ ประหยัดเกินใคร ปลอดภัยทุกการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยีความปลอดภัย ที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคนเมืองเป็นอย่างยิ่ง สัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
ลองมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองที่ : https://bit.ly/2QLyMBd
Writer
