ในการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ท่ามกลางประเด็นการเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า ก็ได้มีเสียงเรียกร้องจาก C40 Cities กลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขับเคลื่อนประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเมือง ที่ออกรายงานฉบับใหม่ซึ่งเรียกร้องให้มีการลงทุนกับระบบขนส่งมวลชนเป็นจำนวนเงิน 208,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยลดและกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการขนส่ง
“หากรัฐบาลนานาชาติไม่สนับสนุนการลงทุนเพื่อปกป้องและขยายบริการขนส่งสาธารณะ พวกเขาก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนได้” Mark Watts ผู้อำนวยการบริหารของ C40 Cities กล่าวเน้นย้ำจากรายงานของกลุ่มที่จัดทำร่วมกับสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ที่ระบุว่าการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทั่วโลกต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 หากต้องการควบคุมอุณหภูมิให้ไม่เกิน 1.5 องศาฯ
รายงานดังกล่าวบอกว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล การขยายโครงสร้างพื้นฐานของรถประจำทางและรถไฟ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงแต่จะลดการปล่อยมลพิษแต่ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งมีการประมาณว่าการลงทุนดังกล่าวจะสร้างงานใหม่ได้ 4,600,000 ตำแหน่ง
“เวลากำลังจะหมดลง” Anies Baswedan ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา สมาชิกของ C40 Cities บอกว่าหากไม่มีการปฏิวัติระบบขนส่งมวลชนโลกจะตกขบวนในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแน่นอน
ข้อเรียกร้องในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะถึงจะมีเงินทุนหลายล้านเหรียญแต่ประเทศร่ำรวยยังเฟื่องฟูด้วยวัฒนธรรมรถยนต์ และการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศที่กำลังพัฒนา Sebastian Castellanos หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ New Urban Mobility Alliance ที่ World Resources Institute ยกตัวอย่างสหรัฐอเมริกาในฐานะอดีตประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดว่าการลงทุนอย่างต่อเนื่องในถนนและทางหลวง ทำให้การขนส่งสาธารณะเป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจนักในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างแดนลุงแซม
Castellanos มองว่าหากต้องการดึงประชาชนออกมาจากรถยนต์ส่วนตัว ขนส่งสาธารณะต้องน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ซึ่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยมองว่าภารกิจนี้จำเป็นต้องมีการปฏิรูปนโยบายการใช้งานที่ดินที่ส่งเสริมการใช้งานรถยนต์จากเมืองต่างๆ ทั่วโลก สวัสดิการอย่างที่จอดรถฟรีต้องหมดไป และยุติการมอบเงินอุดหนุนรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการใช้รถบุคคลอย่างเด็ดขาด